ค้นหา


รายการที่พบทั้งหมด 34,643 รายการ



          เมื่อครั้งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๗ และในคราวนั้นทรงปลูก ต้นเสลา เป็นที่ระลึกขึ้นต้นหนึ่งซึ่งยังคงแผ่กิ่งก้านสาขาคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้นับเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี          เสลา เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบมีความสูงเฉลี่ย ๑๐ – ๒๐ เมตร ชอบแสงแดดและทนแล้งได้ดีเปลือกลำต้นมีสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นร่องยาวตื้น ๆ ปลายกิ่งย้อยห้อยลง ใบค่อนข้างหนา มีขนนุ่มทั้งสองด้าน ออกดอกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง มีหลายสี เช่น สีม่วง สีม่วงอมแดง สีม่วงกับขาว มักออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม           ต้นเสลาเป็นไม้ที่มีประโยชน์มากเพราะนอกจากจะเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันทั่วไปแล้ว เนื้อไม้ยังค่อนข้างแข็งแรง สามารถนำมาทำเครื่องไม้เครื่องมือ พื้น ตง (ไม้เครื่องเรือนที่วางบนหลังคานสำหรับรองพื้นกระดานหรือฟาก) หรือรอด (ไม้ที่สอดรูเสาทั้งคู่สำหรับรับกระดานพื้นเรือน) ได้ ส่วนเปลือกนำไปใช้สมานแผล แก้ท้องเสีย เป็นต้น และเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะทำให้มีฐานะสูงขึ้น มั่นคง แข็งแรง ดังนั้นต้นเสลาทรงปลูกต้นนี้จึงเปรียบเสมือนคำอวยพรซึ่งพระราชทานไว้ให้ภารกิจของกรมศิลปากรดำเนินไปได้อย่างมั่นคงเช่นเดียวกับต้นเสลา ---------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก


ชื่อเรื่อง                                สัททาสังคหะ (สัททาสังคหสูตร) สพ.บ.                                  372/1ขประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           48 หน้า กว้าง 4 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           เทศน์มหาชาติ                                           คาถาพัน                                           ชาดก บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี เส้นจาร ฉบับลานดิบ  ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี



พระพุทธรูป สำริด ศิลปะล้านนา  พุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑--ชิ้นส่วนพระพุทธรูป ขนาดกว้าง ๓๕ ซม. สูง ๔๓ ซม.  ย้ายมาจากวัดพระธาตุหริภุญชัยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูป พระเกตุมาลาและพระอุษณีษะ พระกรรณด้านขวา หายไปเหลือเพียงส่วนพระเศียรด้านหน้า พระพักตร์ เรื่อยมาจนถึงพระอังสาและพระอุระ ขมวดพระเกศาและไรพระศกขนาดเล็ก  พระพักตร์รูปไข่ค่อนข้างกลม พระขนงโค้ง พระเนตรเรียวปลายตวัดขึ้นเล็กน้อย พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์ยิ้ม พระกรรณยาวปลายโค้งงอนออก ทรงครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิเป็นริ้วซ้อนทับกัน --ชิ้นส่วนพระพุทธรูปองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปในศิลปะล้านนาที่มีความคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปในศิลปะสุโขทัย โดยเฉพาะการครองจีวรที่มีชายสังฆาฏิพับทบกันเป็นริ้วซ้อนกัน คล้ายกับพระพุทธรูปในศิลปะสุโขทัย เช่น พระพุทธรูปลีลาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย  และในศิลปะล้านนาเองก็มีการสร้างพระพุทธรูปที่มีชายสังฆาฏิในลักษณะนี้คือ พระเจ้าดวงดี พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่วัดดวงดี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ การกำหนดอายุพระพุทธรูปนี้กำหนดไว้อย่างน้อยช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เป็นช่วงที่พระยากือนาได้อาราธนาพระสุมนเถระจากสุโขทัยขึ้นมา ทำให้เกิดการนำรูปแบบทางศิลปะมาปรากฏในงานศิลปกรรมล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐ -๒๑ หรือราว ๖๐๐ ปีมาแล้ว เอกสารอ้างอิง ณัฏฐภัทร จันทวิช (บรรณาธิการ). โบราณวัตถุและศิลปวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย. กรุงเทพฯ: ส.พิจิตรการพิมพ์, ๒๕๔๘. ศักดิ์ชัย สายสิงห์. รายงานการวิจัย เมืองลำพูนจากหลักฐานโบราณคดี ศิลปะและเอกสารทางประวัติศาสตร์ เสนอต่อ สำนักศิลปากรที่ ๘ เชียงใหม่ กรมศิลปากร. (ม.ป.ท.: ม.ป.พ.), ๒๕๕๒.


เลขทะเบียน : นพ.บ.178/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  52 หน้า ; 4 x 51.5 ซ.ม. : ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 101 (80-85) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


สมฺโพชฺฌงฺค (สติ-อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺค)  ชบ.บ.52/1-7  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                สลากริวิชาสุตฺต (สลากวิชาสูตร) สพ.บ.                                  319/1ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           54 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 57.8 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


เลขทะเบียน : นพ.บ.270/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 34 หน้า ; 4 x 52 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 117  (232-239) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : สีลสารสุตฺต(สีลสารสูตร)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อผู้แต่ง         :   มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ ชื่อเรื่อง          :   พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร ครั้งที่พิมพ์      :   พิมพ์ครั้งที่ ๑ สถานที่พิมพ์    :   กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์      :   โรงพิมพ์คุรุสภา ปีที่พิมพ์         :   ๒๕๐๗ จำนวนหน้า     :   ๙๔ หน้า หมายเหตุ       :  พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระชนนีศรีสังวาลย์ โปรดให้พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศล งานพระราชทานเพลิงศพ จอมพลฤกษดิ์  ธนะรัชต์ ณ เมรุ หน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาศ                    พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เรื่อง “พระพุทธเจ้าตรัสรู้” พระธรรมของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ท่านทรงสอนด้วยเหตุผลอย่างแท้จริง พระราชนิพนธ์นี้ได้ทรงใช้ภาษาง่าย ๆ เกือบจะไม่มีศัพท์เทคนิคเจอปนอยู่เลย                     



วันศุกร์ที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ประชุมคณะกรรมการและตรวจการจ้างงาน ประจำงวดงานที่ ๕ ในโครงการงานจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา นายสมพจน์ สุขาบูลย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พร้อมด้วยคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมและตรวจงานจ้าง



         ย้อนหลังไปเมื่อ วันที่ 22 ตุลาคม 2499 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ทรงผนวชในพระบวรพุทธศาสนาตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงได้พระสมณนามว่า “ภูมิพโลภิกขุ” และเสด็จไปประทับ ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร และทรงลาผนวชเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2499          ผลงาน: ภูมิพโลภิกขุ          ศิลปิน: ศักย  ขุนพลพิทักษ์          เทคนิค: สีน้ำมันบนผ้าใบ          ขนาด: 180 x 150 เซนติเมตร          ปีที่สร้าง: 2563          ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ ศักย ที่ยังเขียนไม่แล้วเสร็จ ศิลปินก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลงในเดือนพฤศจิกายน 2563โดยส่วนประธานของภาพนั้นมีการขึ้นรูป ลงสีไว้เกือบสมบูรณ์แล้ว และบริบทของภาพ ส่วนของเทวดาราย และกนกลายไทยลงร่างไว้บางส่วน เป็นผลงานที่ผนวกรวมทักษะอันโดดเด่นทั้ง 2 อย่างของศักย ทั้งการเขียนภาพเหมือน และการเขียนลายไทย เข้าไว้ร่วมกัน จึงเป็นผลงานที่ไม่แล้วเสร็จ แต่มีความน่าสนใจมากชิ้นนึงของศักย          ผลงานชิ้นนี้จัดแสดงในนิทรรศการเชิดชูเกียรติศิลปินอาวุโส พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป "ศักย  ขุนพลพิทักษ์" ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2564 เป็นต้นมา และขยายการจัดแสดงนิทรรศการไปถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2564