ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,685 รายการ

หมวดหมู่                        นิทานพื้นเมืองภาษา                            บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง                          นิทานพื้นเมือง                                    นิทาน -- ไทยประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ                    24 หน้า : กว้าง 6.5 ซม. ยาว 60 ซม. บทคัดย่อ                      เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม  ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534



เลขทะเบียน : นพ.บ.27/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  52 หน้า  ; 4.7 x 53 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 14 (152-160) ผูก 5หัวเรื่อง : ธมฺมปาลชาตก (ธรรมบาล) --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


          “นาฏเจียระไน” สู่เอกลักษณ์ไทยสังคีต เป็นการรวบรวมรายการศิลปะการแสดง ทางด้านนาฏศิลป์และดนตรีที่ได้ประดิษฐ์ และสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น รำ ระบำ และการแสดงเป็นชุดเป็นตอน โดยผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทย นาฏศิลปิน ดุริยางคศิลปิน ของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ให้สอดรับกับพันธกิจและยุทธศาสตร์ด้านการสร้างสรรค์ ต่อยอดเพิ่มคุณค่ามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งกระบวนการสร้างสรรค์การแสดงเหล่านี้ ได้รับจารีตขนบธรรมเนียมและแบบแผนการแสดง มาจากบรมครู อาจารย์ ด้านนาฏศิลปินและดุริยางคศิลปินในอดีต อันเป็นมรดกทางด้านองค์ความรู้ให้แก่ลูกศิษย์ นาฏศิลปิน ได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน           การสร้างสรรค์การแสดงต้องเริ่มจากผู้สร้างสรรค์มีความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะการแสดง วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นของประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง โดยยึดหลักการจัดสร้างการแสดงให้มีเอกลักษณ์ ความเป็นไทยและไม่เคยมีการประดิษฐ์การแสดงมาก่อน และนำมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ทั้งรูปแบบการแสดง กระบวนท่ารำ กระบวนแถว การใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดง รูปแบบ และสีสัน เครื่องแต่งกาย ท่วงทำนองจังหวะดนตรี เพลงร้อง เทคนิคการใช้แสง สี เสียง ฉาก และอุปกรณ์ประกอบฉาก เพื่อเพิ่มอรรถรสในการแสดงให้ผู้ชมเกิดความประทับใจ สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์การแสดง มีหลายประการ อาทิเช่น ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ความสำคัญของประเพณี ความเชื่อ ความศรัทธา กระแสความนิยมในสังคม ความเป็นศิลปินด้านนาฏดุริยางคศิลป์ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม บุคลิกลักษณะของตัวละครในวรรณกรรมในเรื่องต่างๆ ความรัก ความซื่อสัตย์ในอาชีพการแสดง และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตาของสาธารณชนให้ตระหนักถึงความสำคัญ และรักในสิ่งที่คิดสร้างสรรค์ เช่น ความเป็นธรรมชาติของสัตว์ เรื่องราวในวรรณคดีต่างๆ เพื่อต้องการให้การแสดง สร้างสรรค์นี้ได้สื่อสารให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น           สำหรับครั้งนี้ขอนำเสนอการแสดงสร้างสรรค์ ชุด “ระบำจตุรทิศวิจิตรไทยอาภรณ์” หรือระบำผ้าไทย ๔ ภาค เป็นระบำที่มีความสวยงามชุดหนึ่ง ได้สร้างสรรค์ขึ้นใหม่จากพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดแสดงครั้งแรกเมื่อครั้งโปรดเกล้า ฯ ให้คณะนาฏศิลป์ ดนตรีไทย ของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตามเสด็จพระราชดำเนิน เนื่องในงานเฉลิมฉลอง ๑๕๐ ปี พระราชสมภพสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๒ - ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ และได้มีโอกาสเผยแพร่ต่อมาอีกหลายครั้ง อาทิเช่น การจัดการแสดงเนื่องในงาน “120th Anniversary World’s Columbian Exposition A Siamese Queen-Chicago” ณ The Chicago History Museum สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ การจัดการแสดงเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ การจัดการแสดงเนื่องในงานอนุรักษ์มรดกไทยใต้ร่มพระบารมี โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร และการจัดการแสดงเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนชมในรายการศรีสุขนาฏกรรม รวมถึงการบันทึกองค์ความรู้ของศิลปินสำนักการสังคีต ณ โรงละครแห่งชาติ เป็นต้น           ประพันธ์บทร้องและประดิษฐ์ท่ารำโดย นางสาววันทนีย์ ม่วงบุญ ผู้ชำนาญการด้านศิลปะการแสดง สำนักการสังคีต กรมศิลปากร บรรจุเพลงโดย ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ ศิลปินแห่งชาติ รูปแบบ และเนื้อหาของการแสดงจะสมมติให้ผู้แสดง เป็นหญิงชาวไทย ทั้ง ๔ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ แต่งกายประจำภาค ร่ายรำตามท่วงทำนอง จังหวะเพลง และบทขับร้อง ซึ่งมีเนื้อหาแสดงถึงที่มา ความงามของสี ตลอดจนลวดลายต่างๆ ของผ้าไทยที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น ถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมและเป็นงานศิลปหัตถกรรมมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสร้างสรรค์ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน อันบ่งบอกถึงความรัก ความสมัครสมานสามัคคีในหมู่ชนชาวไทย จึงนับว่าเป็นชุดการแสดงที่มีความโดดเด่นชุดหนึ่ง สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมและผู้แสดง           ขั้นตอนการสร้างสรรค์การแสดง ประกอบด้วย           ๑. ศึกษา ค้นคว้า ประวัติและที่มาเกี่ยวกับผ้าไทย ๔ ภาค พร้อมหาตัวอย่างผ้า และบันทึกภาพ           ๒. นำผ้าไทย ๔ ภาคที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตร           ๓. เมื่อพระองค์ท่านทรงเห็นเหมาะสม จึงจัดหาซื้อผ้าดังกล่าว เพื่อออกแบบ และกำหนดสี ลวดลาย รูปแบบ และตัดเย็บตามเอกลักษณ์ของภาคเหนือ ใต้ กลาง อีสาน พร้อมทั้งเครื่องประดับ รูปแบบทรงผม ให้เหมาะสมกับชุดที่สวมใส่ โดยนางสุพรทิพย์ ศุภรกุล นาฏศิลปินอาวุโส สำนักการสังคีต กรมศิลปากร              ๔. ประพันธ์บทขับร้อง ให้มีเนื้อหาบอกถึงที่มา ชื่อของลายผ้า ความงาม ความโดดเด่น และคุณค่าของผ้าที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน           ๕. นำบทขับร้องให้ครูทางด้านดุริยางค์ไทยบรรจุเพลง ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของทั้ง ๔ ภาค          ๖. ออกแบบการแสดง โดยให้ผู้แสดงถือผ้าไทยในแต่ละภาค เพื่อนำเสนอความงดงามของผ้า แล้วจึงนำไปพาดที่ราวแขวนผ้ากลางเวที และตอนจบจึงนำผ้ามาถืออีกครั้ง แล้วผู้แสดงรำเข้าโรง               ๗. ประดิษฐ์ท่ารำให้มีความสัมพันธ์กับบทเพลง ท่วงทำนองจังหวะเพลง เครื่องแต่งกาย           ๘. ถ่ายทอดกระบวนท่ารำให้ผู้แสดง           ๙. ฝึกซ้อมการแสดง และแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมกับเวลา ก่อนแสดงจริง และนำเผยแพร่ สู่สาธารณชน           การสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์และดนตรี โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร จัดทำขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์และดนตรี และนำไปเผยแพร่สู่ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และประชาชนทั่วไป อย่างกว้างขวาง เพื่อการพัฒนากลวิธีและองค์ประกอบการแสดงด้านเทคนิค แสง สี เสียง และสร้างอรรถรสในการแสดง ทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน สำหรับ “นาฏเจียระไน” สู่เอกลักษณ์ไทยสังคีตในครั้งต่อไปจะขอนำเสนอการแสดงชุด “ระบำเสียมกุก - ละโว้” ผู้เขียนบทความ : นายรัฐศาสตร์ จั่นเจริญ นักวิชาการละครและดนตรีชำนาญการ สำนักการสังคีต



ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระมหากษัตริย์จะพระราชทาน " พระปฐมบรมราชโองการ " หลังจากพราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวาย เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และเครื่องราชูปโภคแล้วพระปฐมบรมราชโองการ นับตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จนถึงรัชกาลที่ ๙ มีเนื้อความเปลี่ยนแปลงมาตามยุคสมัยซึ่งล้วนแต่แสดงพระราชปณิธาน ในฐานะทรงเป็นผู้รับพระราชภาระแห่งบ้านเมือง    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พุทธศักราช ๒๓๒๘ “...พรรณพฤกษ ชลธี แลสิ่งของในแผ่นดิน ทั่วเขตพระนคร ซึ่งหาผู้หวงแหนมิได้นั้น ตามแต่สมณชีพราหมณาจารย์ราษฎรปรารถนาเถิด...”    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย วันที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๕๒ “ แต่บรรดาพฤกษาและแม่น้ำใหญ่ น้อย และสิ่งของทั้งปวง ซึ่งมีในแผ่นดิน ทั่วขอบเขตแดนพระนคร ซึ่งหาเจ้าของหวงแหนมิได้ให้พระราชทานแก่ สมณะ พราหมณ อณาประชาราษฎร์ทั้งปวง ตามแต่ปรารถนาเถิด ”    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๓๖๗ “ เจ้าพระยา และพระยา ของซึ่งถวายทั้งนี้ จงจัดแจงบำรุงไว้ให้ดี จะได้รักษาแผ่นดิน ”ในการพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่พบหลักฐานพระปฐมบรมราชโองการหลังจากพิธีถวายสิริราชสมบัติและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ที่พระที่นั่งภัทรบิฐพบแต่ “ พระราชโองการปฏิสันถาร ” ในการเสด็จมหาสมาคม ซึ่งโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนเข้าเฝ้าเพื่อรับการถวายราชสมบัติจากนั้นจึงมีพระราชโองการตรัสปฏิสันถารกับเจ้าพระยา และพระยาทั้งปวง ซึ่งมีข้อความเดียวกันทุกรัชกาลต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ยกเลิกพิธีส่วนนี้ มีแต่เพียงการถวายพระพรชัยมงคลจากขุนนางฝ่ายหน้าและข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายในเท่านั้น    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๓๙๔ “ พรรณพฤกษ ชลธี แลสิ่งของในแผ่นดิน ทั่วเขตพระนคร ซึ่งหาผู้หวงแหนมิได้นั้น ตามแต่สมณชีพราหมณาจารย์ราษฎรจะปรารถนาเถิด ”    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๑ “ แต่บรรดาที่ไม่มีเจ้าของผลไม้ทั้งน้ำในห้วยละหารตรท่าก็ดี ตามแต่สมณพราหมณาจารยอาณาประชาราษฎรจะมาแต่จตุระทิศต่างๆ ตามแต่จะปรารถนา ” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๖ คำภาษามคธ “ อิทานหํ สพฺเพสํ อนุมติยา ราชา มุทฺธาวสิตฺโต สฺยาเมสุ อิสฺสราธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรมิธ ธฺมมิกราชปเวณิยา อนุชานามิ ยนฺติ สฺยามวิชิเตอปรปริคฺคหิตํ ติณกฏฺโจทกํ สมณพฺราหฺมณาทโย สพฺเพสฺยามรฏฺฐิกา ยถาสุขํ ปริภุญฺชนุตุฯ ” คำแปล “ ครั้งนี้ท่านทั้งปวงพร้อมใจกัน ยอมให้เราเปนเจ้าครองราชสมบัติได้รับมุรธาภิเษกเปนใหญ่ในสยามราษฎร์วราณาจักรนี้แล้ว เราขออนุญาตยอมให้ โดยธรรมิกราชประเพณี พรรณพฤกษชลธีในสยามราษฎร์วราณาจักรนี้ ซึ่งไม่มีเจ้าของหวงแหนนั้น ตามแต่สมณพราหมณาจารย์ ประชาราษฎรทั้งปวงจะปรารถนาใช้สอยเทอญ ฯ ”    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๓ คำภาษามคธ “อิทานาหํ พฺราหฺมณา ราชภารํ วหนฺโต พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรมิ ตุมฺหากํ สปริคฺคหิตานํอุปริ ราชกํ อาณํ ปสาเรตฺวา นาโถ หุตฺวา ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตี สํวิทหามิ วิสฺสฏฺฐา หุตฺวา ยถาสุขํ วิหรถ ฯ” คำแปล “ ดูกรพราหมณ์ บัดนี้เราทรงราชภาระครองแผ่นดินโดยธรรมสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและสุขแห่งมหาชนเราแผ่ราชอาณาเหนือท่านทั้งหลายกับโภคสมบัติ เปนที่พึ่ง จัดการปกครองรักษาป้องกัน อันเปนธรรมสืบไป ท่านทั้งหลายจงวางใจอยู่ตามสบาย เทอญ ฯ ”    พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๘ คำภาษามคธ “อิทานาหํ พฺราหฺมณา ราชภารํ วหนฺโต พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรมิ ตุมฺหากํ สปริคฺคหิตานํอุปริ ราชกํ อาณํ ปสาเรตฺวา นาโถ หุตฺวา ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตี สํวิทหามิ วิสฺสฏฺฐา หุตฺวา ยถาสุขํ วิหรถ ฯ” คำแปล “ ดูกรพราหมณ์ บัดนี้เราทรงราชภาระครองแผ่นดินโดยธรรมสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและสุขแห่งมหาชนเราแผ่ราชอาณาเหนือท่านทั้งหลายกับโภคสมบัติ เปนที่พึ่ง จัดการปกครองรักษาป้องกัน อันเปนธรรมสืบไป ท่านทั้งหลายจงวางใจอยู่ตามสบาย เทอญ ฯ ”    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จสวรรคตก่อนทรงรับพระราชพิธีบรมราชภิเษก    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ”


พิธีอัญเชิญพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช.  ขวัญเรือน.  48,(1079) : 25-29;พฤศจิกายน  2559.                 ภายในเล่ม กล่าวถึงว่า  เมื่อเวลา 18.53 น.  วันที่ 13 ตุลาคม  2559  สำนักพระราชวังมีประกาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต   ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรี-นฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2559  ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะนั้น แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559  เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี  และใน เวลา 16.33 น. ของวันที่ 14 ตุลาคม  2559   เริ่มเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสม-เด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ออกจากโรงพยาบาลศิริราช สู่พระบรมมหาราชวัง  โดยรถตู้ทะเบียน -1ด 0929 ซึ่งเป็นรถของสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร นำขบวรอัญเชิญพระบรมศพ ตามด้วยขบวนรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์  


ตรวจรับงานโครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถานปรางค์บ้านปรางค์ (งวดที่๑) อ.คง จ.นครราชสีมา วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘



ชื่อเรื่อง                     คำกลอนบรรยายธรรมเทียบด้วยตัว ก ข และ มฤตยูวรรณาหรือมรณานุสรผู้แต่ง                       -ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   พระพุทธศาสนาเลขหมู่                      294.315 ค352ถสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์ธรรมบรรณาคารปีที่พิมพ์                    2505ลักษณะวัสดุ               92 หน้า หัวเรื่อง                     ความตาย -- แง่ศาสนา -- พุทธศาสนา                              วรรณคดีพุทธศาสนาภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกคำกลอนบรรยายธรรมเทียบด้วยตัว ก ข และ มฤตยูวรรณาหรือมรณานุสร สำนวนหนังสือว่าเป็นพระภิกษุ และแต่งปลายรัชกาลที่ 3 หรือต้นรัชกาลที่ 4 เป็นหนังสือสำหรับอ่านเนื่องกับหนังสือปถม ก กา ซึ่งเป็นแบบเรียนอักขรวิชาต่โบราณ เอาตัวพยัญชนะเป็นกระตู้ที่ละตัว แล้วเลือกธรรมที่ต้องกับตัวอักษรนั้นมาแต่งบรรยายเช่นเอาชาติธรรมคำว่า “เกิด” มาอธิบายในอักษร ก


นายขจร มุกมีค่า ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมาเข้าร่วมประชุมการกำกับติดตามเร่งรัดดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดให้บรรลุเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ ให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗


ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 16 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 27)ชื่อผู้แต่ง : -ปีที่พิมพ์ : 2507สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์คุรุสภาจำนวนหน้า : 332 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 16 ได้รวบรวมเอกสารทางประวัติศาสตร์เรื่องราวต่างๆอาทิ เรื่องไทยจัดการรับทูตฝรั่งเศส เรื่องสมเด็จพระนารายณ์เสด็จออกรับทูตฝรั่งเศส เรื่องโกศาปานราชทูตไทยไปถึงประเทศฝรั่งเศส เรื่องราชทูตไทยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เรื่องสมเด็จพระนารายณ์โปรดให้บาทหลวงตาชาร์ดเป็นราชทูตพิเศษไปประเทศฝรั่งเศสกับมองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ เรื่องฟอลคอนเตรียมตัวต่อสู้พระเพทราชา และเรื่องสงครามฝรั่งเศสกับฮอลันดา เป็นต้น


แบบเรียนกระทรวงศึกษาธิการ 2499 บทละเครเรื่อง สุวัณณปัญญา


องค์ความรู้ เรื่อง สิมวัดสระบัวแก้ว อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น จัดทำข้อมูลโดย สำนักศิลปากรที่ ๘ ขอนแก่น



black ribbon.