ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
ตึกถาวรวัตถุ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดขึ้นเนื่องในโอกาส 100 ปี แห่งการสวรรคตของพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ตึกถาวรวัตถุ ซึ่งตึกนี้สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงใช้เป็นพระที่นั่งทรงธรรมในการพระเมรุของพระองค์เอง ก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 จากนั้น พระราชทานเป็นที่ตั้งของหอสมุด วชิรญาณสำหรับพระนคร เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 7 คงให้ใช้เป็นที่เก็บหนังสือตัวพิมพ์ข่าว พระราชทานนามใหม่ว่า หอพระสมุดวชิราวุธ ปัจจุบันเป็นอาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กำเนิดอาคารถาวรวัตถุ
อาคารถาวรวัตถุ หรือตึกแดง ตั้งอยู่ฝั่งทิศตะวันตกของสนามหลวง ด้านหน้าวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้วยพระราชประสงค์ 2 ประการ
ประการแรก เพื่อให้เป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย หลังจากที่ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งมหาธาตุวิทยาลัยขึ้น ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2432 แต่ยังขาดสถานที่เรียนอันเหมาะสม จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์ขึ้น
ประการที่สอง ประจวบกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ.2437 โดยพระราชประเพณีจะต้องสร้างพระเมรุมาศขนาดใหญ่ ตามพระเกียรติยศขึ้นที่ท้องสนามหลวง พระองค์มีพระราชดำริว่า เป็นการสิ้นเปลืองพระราชทรัพย์ในการสร้างสิ่งที่ไม่ได้เป็นถาวรวัตถุ เพราะสร้างใช้งานชั่วคราว เสร็จงานแล้วก็รื้อทิ้ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้อำนวยการสร้างอาคารตึกถาวรวัตถุขึ้น ณ บริเวณกุฏิสงฆ์วัดมหาธาตุด้านทิศตะวันออก ลักษณะอาคารเป็นยอดปรางค์ 3 ยอด เพื่อเป็นที่อัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มาประดิษฐานบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศลนั้นแล้วจะได้ถวายอาคารนี้ให้เป็นสังฆิกเสนาสนะสำหรับมหาธาตุวิทยาลัยต่อไป
แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จในรัชกาลของพระองค์ (เพราะสวรรคตก่อน) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อจนเสร็จ แล้วพระราชทานให้เป็นที่ตั้งหอพระสมุดสำหรับพระนคร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2459
สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ตึกถาวรวัตถุนั้น ทรงให้ใช้เป็นที่เก็บหนังสือตัวพิมพ์ ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า หอพระสมุดวชิรญาณ ต่อมาและเป็นอาคารหอสมุดแห่งชาติ จนกระทั่งได้ย้ายหอสมุดแห่งชาติไปตั้งที่แห่งใหม่ที่ท่าวาสุกรี เมื่อ พ.ศ. 2508 ตึกถาวรวัตถุยังเป็นที่ตั้งสำนักงานราชบัณฑิตยสถานต่อ จนกระทั่งสำนักงานย้ายไปอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ตึกนี้ไม่มีการใช้งานอื่นใด กรมศิลปากร สมัยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต เป็นอธิบดี ได้ปรับปรุงเพื่อเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นที่องค์ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนเอกสารในการปฏิรูปประเทศของรัชกาลที่ 5 เป็นมรดกโลกภาพนิทรรศการ:
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภัณฑ์ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ โดยความร่วมมือระหว่างบรรดาลูกศิษย์และผู้ใกล้ชิดศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เพื่อรำลึกถึงเกียรติคุณของท่านในฐานะผู้ให้กำเนิดการศึกษาศิลปะสมัยใหม่ ศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย และผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2527 ซึ่งตรงกับวาระวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 92 ปี ของศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี โดยฯพณฯ ชวน หลีกภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้นให้เกียรติมาเป็นประธาน จากนั้นจึงมอบหมายให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบและบริหารจัดการ จนกระทั่งได้รับการจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ เมื่อพ.ศ.2530 ปัจจุบัน สังกัดสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ในเครือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
ภายในจัดแสดงนิทรรศการถาวร โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ห้องชั้นนอก (บริเวณประตูทางเข้า) จัดแสดงผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ของบรรดาลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด เช่น นายเฟื้อ หริพิทักษ์ นายประยูร อุลุชาฎะ นายชลูด นิ่มเสมอ นายจำรัส เกียรติก้อง นายเขียน ยิ้มศิริ นายสวัสดิ์ ตันติสุข นายทวี นันทขว้าง เป็นต้น ผลงานส่วนใหญ่เป็นงานศิลปกรรมในยุคเริ่มแรกของศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย ซึ่งดำเนินรอยตามแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะตามหลักวิชาการที่ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้วางรากฐาน
ส่วนที่สอง ห้องชั้นใน จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งประกอบไปด้วย โต๊ะทำงาน เก้าอี้ เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องมือปั้น ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว โดยจำลองบรรยากาศโต๊ะทำงานดั้งเดิมเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ยังมีชีวิตอยู่ ตลอดจนแบบร่างอนุสาวรีย์และประติมากรรมชิ้นสำคัญ เช่น แบบร่างพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 แบบร่างพระศรีศากยทศพลญาณ พระประธานพุทธมณฑล และต้นแบบพระเศียรรัชกาลที่ 8 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหนังสือหายากซึ่งเป็นหนังสือที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ใช้สำหรับค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะตะวันตก ให้บริการแก่ผู้มาเยี่ยมชมภายในห้องจัดแสดงภาพนิทรรศการ:
ขอเชิญชมการแสดงโขนชุด ขับพิเภก-สวามิภักดิ์-ยกรบ ในงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกรมศิลปากร ณ วัดมหาธาตุ ยโสธร
กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต จะจัดการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ปีที่ ๕๙เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมด้านการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ถึง เดือนเมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
การจัดแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ได้มีการดำเนินงานมานับแต่ปี ๒๔๙๑ สืบต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยจัดการแสดงที่หลากหลายจากศิลปินของกรมศิลปากรและศิลปินรับเชิญ ได้แก่ การบรรเลงดนตรีสากล(วงดนตรีลูกทุ่ง วงสตริง วงหัสดนตรี วงสังคีตประยุกต์วงดุริยางค์สากล วงโยวาทิต)การแสดงนาฏศิลป์ โขน การแสดงนาฏศิลป์ละคร ละครนอก ละครใน ละครพันทาง ละครเสภา ละครชาตรี ละครดึกดำบรรพ์)การแสดงหุ่นกระบอก การแสดงโขนสด การแสดงหุ่นละครเล็ก การแสดงพื้นเมือง(ลำตัด เพลงอีแซว ลิเก)การบรรเลงดนตรีไทย (วงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงมโหรี วงเครื่องสายปี่ชวา วงปี่พาทย์มอญ วงอังกะลุง วงปี่พาทย์ชวา)สักวาออกตัว การบรรเลงและการแสดงนาฏศิลป์จากต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานรายการดนตรีสำหรับประชาชน เป็นการเผยแพร่ความรู้ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป
โดยเก็บค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๕ ๙๐๙๗ เริ่มเปิดสังคีตศาลาวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
นิทรรศการศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑๒
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี เปิดให้บริการภาพถ่าย
งานพิธีสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 ดังนี้
1. พิธีบวงสรวงและสดุดีวีรกรรมพระปทุมวรราชสุริยวงษ์
2. พิธีทำบุญสืบชะตาเมืองอุบลราชธานี
3. พิธีสดุดีความดีชาวอุบลราชธานีในสงครามมหาเอเชียบูรพา
4. พิธีลงนามกรมศิลปากรส่งมอบอาคารร.ร.เบ็ญฯหลังเก่าให้ม.อุบลราชธานี
(สามารถคลิกเพื่อดูภาพงานพิธีบางส่วนได้)
โดยมีนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธาน
ในงานพิธีดังกล่าวทุกงาน
สัมมนาการสื่อสารแผนและสร้างพลังใจให้บุคลากรในการพัฒนาภาพลักษณ์กรมศิลปากร
วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ณ โรงเแรมร้อยเอ็ดซิตี้ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
โดยมีบุคลากรหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ อุบลราชธานี จำนวน ๖ คน เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ด้วย