ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “ตามรอยฝรั่ง เล่าความหลังเมืองพริบพรี (เพชรบุรี)” วิทยากร นางสาวนันทพร บรรลือสินธุ์ ผู้อำนวยการกลุ่มแปลและเรียบเรียง สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์, นางสาวปภัชกร ศรีบุญเรือง นักอักษรศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ และนายเชิดพงศ์ สุทธิวงษ์ นักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ - ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร รายการ “ไขความรู้จากครูกรมศิลป์” มีรูปแบบเนื้อหาของรายการเกี่ยวกับประวัติความเป็นไทย เกร็ดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญ ประเพณี วัฒนธรรม วีถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านการบอกเล่า ถ่ายทอดความรู้ แนวความคิด เนื้อหาวิชาการ จากประสบการณ์ของผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากร กำหนดถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ (facebook live) ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๑.๐๐ น. ตลอดปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ - กันยายน ๒๕๖๗
ชื่อเรื่อง ตายเกิด ตายสูญผู้แต่ง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ศาสนาเลขหมู่ 294.3123 ต344สถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัยปีที่พิมพ์ 2492ลักษณะวัสดุ 48 หน้า หัวเรื่อง ความตายภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกเรื่องตายแล้วเกิด หรือตายแล้วสูญ เป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว ดูก่อนจะพุทธกาลอีก ในบัดนี้ก็มีอยู่ และคงจะมีต่อไปอีกในอนาคต เรียกว่าเป็นปัญหาประจำโลกก็ได้ หมายความว่าตายแล้วสูญ บางคนเห็นว่าส่วนรูปกาย คือ ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม หรือเติมอากาศเข้าด้วยเท่านั้น เป็นสำคัญเป็นใหญ่ ถ้าธาตุเหล่านั้นประชุมกันถูกต้องได้ส่วนก็เกิดวิญญาณ เวทนา สัญญา สังขาร รวมเป็นนามแลรูป เป็นกายอันนี้ เมื่อธาตุเหล่านั้นสลายแยกจากกันไป วิญญาณ เวทนา สัญญา สังขารก็ดับไป
ภาพปูนปั้นเล่าเรื่องบุคคล
- ทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๔)
- ปูนปั้น และดินเผา
- ขนาด กว้าง ๙๓ ซม. ยาว ๘๕ ซม. หนา ๕ ซม.
เดิมประดับที่ฐานลานประทักษิณด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเจดีย์จุลประโทน อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑
ด้านขวาของภาพเป็นรูปบุคคลทำด้วยปูนปั้น นั่งในท่ามหาราชลีลา ส่วนของศีรษะหักหายไป ด้านซ้ายของภาพเป็นรูปบุคคล ๒ คน ทำด้วยดินเผา ยืนชิดกัน คนที่อยู่ด้านขวาของภาพไว้ผมยาวถึงต้นคอ มือขวาถือสิ่งของคล้ายภาชนะทรงกลม ตอนบนเป็นรูปกรวยคว่ำ คนที่ยืนถัดมากอดอาวุธคล้ายดาบแนบกับอกด้
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=40123
ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th
พระปรางค์จำลอง
ลักษณะ : พระปรางค์จำลอง ลักษณะเนื้อแกร่ง ผิวสีส้มอมเหลือง ไม่เคลือบ สันนิษฐานว่าผลิตจากแหล่งเตาริมฝั่งแม่น้ำน้อย อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี (กรมศิลปากร, 2552, 126) รูปแบบของโบราณวัตถุชิ้นนี้สามารถนำไปเปรียบเทียบได้กับรูปแบบของเจดีย์ทรงปรางค์สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยนิยมย้อนกลับไปใช้ลักษณะบางประการของศิลปะอยุธยาตอนต้น ทั้งนี้ พระปรางค์จำลองชิ้นนี้มีรูปแบบส่วนเรือนธาตุเช่นเดียวกับกลุ่มเจดีย์ทรงปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่มักทำเป็นย่อมุม โดยที่มีรูปแบบที่มุมทุกมุมมีขนาดเท่ากันหมด และมีจำนวนมุมมากขึ้นกว่าสมัยอยุธยาตอนกลาง ซึ่งพระปรางค์ชิ้นนี้ก็มีเรือนธาตุอยู่ในผังย่อมุมไม้ยี่สิบ ตัวเรือนธาตุเตี้ย ผนังเรือนธาตุสอบเข้าหากันเป็นเอกลักษณ์ของสมัยอยุธยาตอนปลาย เรือนธาตุประดับจระนำซุ้มทั้งสี่ด้าน มีลักษณะเป็นซุ้มเรือนแก้วอย่างอยุธยา ประดับลวดลายบริเวณตำแหน่งลายกรุยเชิงด้วยลายกระจังรูปใบโพธิ์กลับหัวลงอย่างอยุธยาปลาย
ส่วนยอดเป็นชั้นซ้อนกันในระบบคอดล่างผายบนซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และเป็นระเบียบที่นิยมในเจดีย์ทรงปรางค์สมัยอยุธยาตอนปลาย เรือนชั้นซ้อนลดหลั่นกัน 4 ชั้น โดยไม่มีช่องวิมานและซุ้มวิมาน ขณะที่บรรพแถลงเริ่มเล็กลงเป็นแผ่น (ศักดิ์ชัย สายสิงห์, 2560, 561 – 564)
ข้อสังเกตประการหนึ่งคือพระปรางค์จำลองนี้เริ่มจากส่วนเรือนธาตุขึ้นไปจนถึงส่วนยอด อาจสันนิษฐานว่าแต่เดิมอาจมีส่วนฐานรองรับตัวเรือนธาตุที่สามารถถอดประกอบกันก็เป็นได้ เชื่อว่าคติในการสร้างพระปรางค์จำลองนี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ขนาด : สูง 41 เซนติเมตร
ชนิด : ดินเผา
อายุ/สมัย : อยุธยาตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 22 – 23
ประวัติ/ตำนาน : พบจากบริเวณวัดเชิงท่า (ร้าง) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2506
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=53013ท
ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th
ชื่อเรื่อง : เรื่องพระปฐมเจดีย์ผู้แต่ง : เจ้าพระยาทิพากรวงษ์ปีที่พิมพ์ : ร.ศ.๑๒๘สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ไทยจำนวนหน้า : ๖๘ หน้าเนื้อหา : หนังสือ เรื่องพระปฐมเจดีย์ ผู้เรียบเรียงคือ เจ้าพระยาทิพากรวงษ์ ฉบับหอสมุดวชิรญาณ พิมพ์ครั้งแรก สำหรับจำหน่ายที่พระปฐมเจดีย์ ร.ศ.๑๒๙ หน้าปกประกอบด้วยคาถาเยธมฺมาฯ อักษรคฤนห์ เนื้อหาประกอบด้วย เรื่องพระปฐมเจดีย์ / ตำนานพระปฐมเจดีย์ ฉบับพระยามหาอรรคนิกร แลฉบับนายทอง / ตำนานพระปฐมเจดีย์ ฉบับพระยาราชสัมภารากรแลฉบับตาปะขาวรอด เลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๒๑๖๗เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๒๕๖๗_๐๐๑๓หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ (ไฟล์ดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์เท่านั้น)
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา ขอเชิญร่วมกิจกรรมพิเศษเนื่องในประเพณีวันสารทเดือน 10 “ภาพที่ใช่ คอมเมนต์โดนใจ” ชิงรางวัลเป็นหนังสือคอลเลคชันพิเศษ ผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมได้ที่ เฟซบุ๊ก เพจ The National Archives of Thailand, Songkhla หอจดหมายเหตุเเห่งชาติฯ สงขลา โดยมีกติกา ดังนี้
1. กดติดตามเฟซบุ๊ก เพจ The National Archives of Thailand, Songkhla หอจดหมายเหตุเเห่งชาติฯ สงขลา
2. กดถูกใจและกดแชร์โพสต์นี้ (ตั้งค่าเป็นสาธารณะ) https://www.facebook.com/NatAtSongkhla/posts/pfbid02zffYPy5niJ4sCzMASbk6yiFeXztSDzA1GvbQRc1Sw6eDCXv8vzj7gkHKiZUKJ2kpl
3. โพสต์ภาพเก่า หรือภาพปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับประเพณีวันสารทเดือน 10 ใต้คอมเมนต์ของโพสต์นี้ https://www.facebook.com/NatAtSongkhla/posts/pfbid02zffYPy5niJ4sCzMASbk6yiFeXztSDzA1GvbQRc1Sw6eDCXv8vzj7gkHKiZUKJ2kpl พร้อมระบุสถานที่ และบอกเล่าความรู้สึกเกี่ยวกับประเพณีวันสารทเดือน 10
4. ร่วมสนุกกับกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 4 ตุลาคม 2567 เท่านั้น !!!
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 17.30 น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ 68 “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ณ สังคีตศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีผู้บริหารกรมศิลปากร และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมการแสดงจำนวนมาก
รายการดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา เป็นรายการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อนำเสนอการบรรเลง ขับร้อง และการแสดงที่หลากหลาย ซึ่งล้วนแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่มีคุณค่าอันควรแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของชาติ สำหรับปีนี้ กำหนดจัดการแสดงทุกวันอาทิตย์ รวม 7 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 – 19.30 น. โดยในวันเปิดโครงการฯ ได้จัดการแสดงชุดพิเศษต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประกอบด้วย การแสดงชุดมะเส็งหรรษา เริงร่าเภรี ปีใหม่ไทยจีน การแสดงละคร เรื่องเอียฮู ผู้กตัญญู และละคร เรื่องสามก๊ก ตอน จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า ส่วนการแสดงในครั้งต่อๆ ไปยังได้เตรียมรายการแสดงที่หลากหลาย ทั้งการแสดงโขน ละคร ระบำ รำ ฟ้อน การบรรเลงดนตรีไทย และดนตรีสากล สลับสับเปลี่ยนกันไป ดังนี้
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลงดนตรีไทย “ชุดร้อยเรียงเสียงดนตรี”
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 การแสดงวิพิธทัศนา ประกอบด้วย การบรรเลงดนตรีไทย ระบำสวัสดิรักษา ระบำอัศวลีลา การแสดงชุดจับม้ามังกร (แนวตลก) และการแสดงละคร เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนหึงนางลาวทอง – ลักพานางวันทอง ซึ่งเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ดำเนินเรื่องตามบทพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติกรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่ทรงมีคุณูปการต่อศิลปวัฒนธรรมของชาติ
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลง – ขับร้องวงดุริยางค์สากล “ลิเกออร์เคสตรา”
วันที่ 2 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย และการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ร่มโพธิสมภารมารซื่อ
วันที่ 9 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย การแสดงระบำนาฏดุริยะแห่งภูพระบาท รำฉุยฉายนางวิฬาร์แสนรู้ การแสดงสร้างสรรค์ ชุดสกุณกินรีศรีสำอาง และละครนอก เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก
วันที่ 16 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีสากล ฟ้อนลาวคำหอม ออกฟ้อนแพน ละคร เรื่อง
พระลอ ตอนตามไก่ และละคร เรื่องสุวรรณหงส์ ตอนกุมภณฑ์ถวายม้า
ขอเชิญผู้สนใจชมการแสดงรายการ “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ค่าเข้าชมการแสดงคนละ 20 บาท (จำหน่ายบัตรหน้างานก่อนการแสดง 1 ชั่วโมง) นำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์ของชาติ ให้คงอยู่และแพร่หลายอย่างกว้างขวางสืบไป
ชื่อผู้แต่ง / ผู้คัดลอก -
ชื่อเรื่อง ยันต์ คาถา และการดูนิมิตฤกษ์ยาม
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ -
สำนักพิมพ์ -
ปีที่แต่ง / คัดลอก -
จำนวนหน้า ๖๒ หน้า
ทะเบียนเอกสารโบราณ สข.บข.๐๒๕
หมายเหตุ หนังสือบุดขาว อักษรขอม อักษรไทย ภาษาบาลี ภาษไทย เส้นหมึก
ความเชื่อเกี่ยวกับไสยศาสตร์ในการใช้อักขระเลขยันต์ เช่น ยันต์กับหนูกัดกินต้นข้าวในนา ยันต์ใช้ในการกันโจรขโมยเข้าบ้าน ยันต์หัวใจแม่โพสพซึ่งใช้เกี่ยวกับการทำนาปลูกข้าว ยันต์ปลาตะเพียนใช้เกี่ยวกับการทำมาค้าขาย การดูฤกษ์ยามจากพญานาคเกี่ยวกับการทำนาปลูกข้าวน้ำน้อยหรือน้ำดี เป็นต้น
สากเหมิ่ง เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตำข้าวเม่าของชาวโคราช โดยเฉพาะอำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต ประเพณีท้องถิ่น และวัฒนธรรมพื้นบ้านของคนสมัยก่อน โดยการตำข้าวเม่านั้นมีขั้นตอนที่ละเอียดและพิถีพิถัน ตั้งแต่กระบวนการเลือกเมล็ดข้าวจนกระทั่งวิธีการตำข้าวให้อร่อยเพื่อบริโภค รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะจัดทำโดย นางสาวกุลริศา รัชตะวุฒิ นักภาษาโบราณ
ชื่อผู้แต่ง ปุ่น จงประเสริฐ
ชื่อเรื่อง ท่านปัญญาปลุกเสกพระสงฆ์
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ สมชายการพิมพ์
ปีที่พิมพ์ ๒๕๒๒
จำนวนหน้า ๑๔ หน้า
รายละเอียด
ท่านปัญญาปลุกเสกพระสงฆ์ นี้ ปุ่น จงประเสริฐ ย่อและเรียบเรียงขึ้น จากการถอดข้อความ การอัดเสียงปาฐกถาธรรมของท่านปัญญานันทะภิกขุ ที่บรรยายไว้เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๒๒ณ วัดชลประทานฯ เพื่อจัดพิมพ์ขึ้น เป็นการเผยแพร่ธรรมะ คำสอน