ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรื่อง ปาจิตฺติยบาลี มหาวิภฺงคปาลิ (ปาลิปาจิตฺตีย์)ลบ.บ. 365/3ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 52 หน้า กว้าง 4.3 ซม. ยาว 56.5 ซม.หัวเรื่อง พระไตรปิฎกบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ธรรมอีสาน ฉบับล่องชาด ไม่มีไม้ประกับ
ททท.ชวนคนไทยทั้งประเทศ เตรียมแสดงความยินดี กับ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก UNESCO World Heritage แห่งล่าสุดของไทย
มาร่วมเปิดความมหัศจรรย์ ย้อนกาลเวลาอันรุ่งเรืองของเมืองโบราณ ณ ดินแดนที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ผ่าน แสง สี แห่งความศรัทธา ในงาน “มหัศจรรย์แสงสี ณ ศรีเทพ สู่มรดกโลก” The Magical Si Thep to World Heritage พลังความเชื่อจากอดีต สู่แสงแห่งศรัทธาของคนไทย ที่นำพาความภาคภูมิใจให้คนทั้งโลก ในวันที่ 29 สิงหาคม - 3 กันยายน นี้ เวลา 16.00 – 21.00 น. ณ เขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
* (ข้อมูลจาก Facebook : ททท.สำนักงานพิษณุโลก https://www.facebook.com/TAT.Phitsanulok)
รายงานผลการสำรวจโบราณสถานที่ประกาศขึ้นทะเบียน
ในเขตพื้นที่รับผิดชอบสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา
พื้นที่จังหวัดมหาสารคาม
ชื่อเรื่อง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2518 (ฉบับใหม่)ผู้แต่ง ประหยัด กงตาลประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ รัฐประศาสนศาสตร์ การบริหารรัฐกิจ กองทัพเลขหมู่ 352.63 ป424พสถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์อักษรสารการพิมพ์ปีที่พิมพ์ 2518ลักษณะวัสดุ 54 หน้าหัวเรื่อง กฎหมาย ข้าราชการพลเรือน – กฎหมายภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน กล่าวถึงลักษณะ 8 ลักษณะ และข้อแตกต่างระหว่างกฎหมายใหม่กับกฎหมายเก่า บัญชีอัตราเงินเดือน
หน้ากาลประดับซุ้มประตู
ศิลปะชวา พุทธศตวรรษที่ ๑๔
ได้มาจากพุทธสถานบูโรพุทโธ เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย
ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้อง ศรีวิชัย-ชวา อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ศิลาจำหลักรูปหน้ากาล เป็นส่วนหนึ่งของงานประดับซุ้มประตูพุทธสถานบูโรพุทโธ หรือ บโรบูดูร์ (Borobudur) ณ เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย หน้ากาลมีลักษณะดวงตากลม เบิกโพลง จมูกใหญ่ ปรากฏเฉพาะส่วนริมฝีปากบน (เช่นเดียวกับหน้ากาลในศิลปะอินเดีย)* ด้านบนและด้านข้างเป็นลวดลายกระหนกพันธุ์พฤกษา ซึ่งเป็นรูปแบบหน้ากาลของศิลปะชวาภาคกลางที่ต่างไปจากหน้ากาลในศิลปะชวาภาคตะวันออกที่มีดวงตาถลน มีริมฝีปากบนและล่าง มีมือสองข้าง และมีเขา
หน้ากาลใช้ประดับตกแต่งองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ทั้งในเทวสถานและพุทธสถาน ที่นิยมใน ศิลปะอินเดีย และเอเชีย โดยมักประดับหน้ากาลอยู่กึ่งกลางยอดซุ้ม ส่วนปลายของซุ้มเป็นรูปมกร สำหรับที่พุทธสถานบูโรพุทโธ ซุ้มประตูหน้ากาลจะอยู่บริเวณลานชั้นบนสุด** ตำนานของหน้ากาลปรากฏในคัมภีร์ปุราณะ กล่าวว่าอสูรตนหนึ่งเกิดระหว่างพระขนงของพระศิวะมีความหิวโหยจนกลืนกินทุกสรรพสิ่งแม้กระทั่งร่างตนเองเหลือเพียงใบหน้าเท่านั้น พระศิวะประทานนามว่า เกียรติมุข (แปลว่า หน้าซึ่งมีเกียรติ) มอบหน้าที่ให้เฝ้าประตูวิมานของพระองค์ และถือว่าหากผู้ใดไม่เคารพเกียรติมุขย่อมถือว่าผู้นั้นจะไม่ได้รับพรจากพระศิวะ ดังนั้นหน้ากาลจึงมีหน้าที่เป็นผู้ปกป้องดูแลรักษามิให้สิ่งชั่วร้ายเข้าไปภายในศาสนสถาน รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเกียรติ และความเป็นมงคล จึงมักประดับอยู่บนหน้าบันกึ่งกลางทางเข้าอาคาร
นอกจากนี้คติชาวอินเดียตะวันออกเรียกอมนุษย์ตนนี้ว่า ราหูมุข (rahumukha) ตามเนื้อเรื่องพระราหู อสูรที่ถูกพระนารายณ์ตัดร่างกายไปครึ่งหนึ่งเนื่องจากลอบดื่มน้ำอมฤต ขณะที่ชาวอินเดียตะวันตกเรียกอสูรตนนี้ว่า คราสมุข (grasamukha) นับถือเป็นเจ้าแห่งทะเล ในทางพุทธศาสนามีชาดก เรื่อง “มูลปริยายชาดก” ชาดกจากพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก กล่าวถึง “เวลา” กลืนกินทุกสรรพสิ่งกล่าวคือ ความเสื่อมถอยของอายุขัย ร่างกาย สุขภาพ ยกเว้น “ขีณาสพ” หรือผู้ที่สิ้นกิเลสแล้วเท่านั้นที่ยังคงดำรงอยู่ได้ไม่ถูกเวลากลืนกินไป ดังข้อความว่า “กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา” แปลความว่า กาลย่อมกินสัตว์ทั้งปวงกับทั้งตัวเองด้วย ก็ผู้ใดกินกาล ผู้นั้นเผาตัณหาที่เผาสัตว์ได้แล้ว.
ศิลาจำหลักรูปหน้ากาลชิ้นนี้มีประวัติว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสชวา ใน พ.ศ. ๒๔๓๙ ครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพุทธสถานบูโรพุทโธ และทรงเลือกประติมากรรมกลับมาเป็นที่ระลึก ดังข้อความในพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ.๒๔๓๙) ความตอนหนึ่งกล่าวว่า
“...กลับลงมาเลือกลายต่าง ๆ ที่ตกอยู่ข้างล่าง คือนาคะหรือช้าง ลายหลังซุ้มพระเจดีย์ ๑ รากษสเล็กตัว ๑ สิงโตขาหัก ๒ ตัว ท่อน้ำอัน ๑...”
ภายหลังเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพิธีสมโภชพระพุทธรูปและเทวรูปที่ทรงได้มาจากชวา โดยเทวรูปและพระพุทธรูปประดิษฐาน ณ โรงพิธีที่หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๙ โปรดฯ ให้พระสงฆ์และพระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จพระราชดำเนิน ดูสิ่งของที่ได้จากชวา พร้อมทั้งมีการแสดงทางวัฒนธรรมของทางชวา ทั้งการรำและการดนตรีอย่างชวา
หน้ากาลมีความหมายถึง ผู้ที่กลืนกินทุกสรรพสิ่ง แม้กระทั่งปากล่างของตน ทำให้เหลือแค่เพียงริมฝีปากบน
นัยหนึ่งการปรากฏทั้ง “หน้ากาล” ซึ่งหมายถึงการกลืนกินสรรพสิ่งต่าง ๆ เปรียบเสมือนเป็นความเสื่อมถอย และ “มกร” ซึ่งหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เปรียบเสมือนเป็นความเจริญนั้น ก็เป็นสิ่งเตือนใจให้กับมนุษย์ว่าบนโลกมีทั้งความเจริญและความเสื่อมถอยเป็นสิ่งคู่กัน
อ้างอิง
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. ระยะทางเที่ยวชวากว่าสองเดือน. พระนคร: โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๖๘ (ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานในงารพระศพ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธกรมหลวงนครราชสีมา ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พ.ศ. ๒๔๖๘).
เชษฐ์ ติงสัญชลี. ประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รูปแบบ พัฒนาการ ความหมาย. พิมพ์ครั้งที่ ๒. นนทบุรี: มิวเซียมเพรส, ๒๕๕๘.
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมศัพท์ศิลปะ อังกฤษ-ไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๔๑.
อรุณศักดิ์ กิ่งมณี. ทิพยนิยายจากปราสาทหิน. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๕๕.
อรรถกถา มูลปริยายชาดก ว่าด้วย กาลเวลากินสัตว์พร้อมทั้งตัวเอง. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖, จาก: https://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=270340
องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านตั๋วเมืองน่ารู้...ร่วมอนุรักษ์และสืบสานอักษรธรรมล้านนาตอน..."วัดหลวงกลางเวียง"วัดหลวงกลางเวียง เป็นชื่อเดิมของวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ใจกลางเมืองน่าน ด้านหน้าหอคำคุ้มหลวงเจ้าผู้ครองนครน่าน หรืออาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้คงสร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกับการสร้างเมืองน่าน ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เนื่องจากปรากฎเจดีย์ช้างล้อม ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คงได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ประวัติการสร้างวัดไม่สามารถระบุเวลาได้แน่ชัด แต่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจสร้างขึ้นในสมัยของพญาภูเข่ง (ภูเข็ง) เจ้าเมืองน่านองค์ที่ ๖๓ (ครองเมืองน่านระหว่างปีพุทธศักราช ๑๙๕๐ - ๑๙๖๐)#องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน #อักษรธรรมล้านนา #วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารอ่านเพิ่มเติมใน: องค์ความรู้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน เรื่อง "จารึกหลักที่ ๗๔ จารึกการซ่อมสร้างวัดหลวงกลางเวียงน่าน" >> https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3968635596598518&id=1116844555110984&mibextid=Nif5oz
ภูมิปัญญาไทยในงานศิลป์ถิ่นเมืองกรุง
ผู้แต่ง : กรมศิลปากร
ต้นฉบับอยู่ที่ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี (ห้องกรมศิลปากร)
โรงพิมพ์ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ปีที่พิมพ์ : 2543
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ไทย
เลขทะเบียน : น 30 ร
เลขหมู่ : 745.5 ศ528ภ
ชื่อเรื่อง ชุมนุมบทความสั้นๆ (ภาค 1 รวม 15 เรื่อง)ผู้แต่ง สุชีโว ภิกขุประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ศาสนาเลขหมู่ 294.31891 ส783ชสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์รุ่งเเรืองธรรมปีที่พิมพ์ 2494ลักษณะวัสดุ 208 หน้า หัวเรื่อง พุทธศาสนา – รวมเรื่องภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกเป็นการยกเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาขึ้นมาแสดงเป็นข้อๆ แต่อธิบายด้วยสำนวนง่ายๆ
ชื่อเรื่อง : โสฬสปัญหา ภาคที่ ๒ผู้แต่ง : สมเด็จพระสังฆราช วัดราชประดิษฐ์ปีที่พิมพ์ : ๒๔๖๑สถานที่พิมพ์ : ม.ป.ท. สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทยจำนวนหน้า : ๕๒ หน้าเนื้อหา : หนังสือ โสฬสปัญหา ภาคที่ ๒ พระนิพนธ์ของ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชประดิษฐ์ พิมพ์ครั้งที่ ๑ หุ้ม แพร หลวงนนทพรรคพลานุสิษฐ์ (ซ่วน เอกะโรหิต) ครูใหญ่ โรงเรียนพรานหลวง พิมพ์แจกในงานปลงศพ สนองคุณ นายแดง เอกะโรหิต ผู้เป็นบิดา เมื่อปีมะมีย พ.ศ.๒๔๖๑ เนื้อหาใน โสฬสปัญหา ภาคที่ ๒ มาจากพระสุตันตปฏก ขุททกนิกาย จูฬนิเทศ ปารายนวรรค ดังนี้ ๑. ปุณณกมาณวปัญหา ๒. เมตตคูมาณวปัญหา และ ๓. โธตกมาณวปัญหาเลขทะเบียนหนังสือหายาก : ๑๖๓๙เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ : E-book_๑๖๓๙_๐๐๑๐หมายเหตุ : โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครอยุธยา เตรียมจัดกิจกรรม “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ พบกับกิจกรรมมากมาย “เมื่อครั้งต้นกรุงศรีฯ ประชาชีมีการละเล่นอะไร...” พร้อมเปิดให้เที่ยวชมโบราณสถานยามค่ำคืนเมืองมรดกโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2567นี้ ติดตามรายละเอียดได้ทาง เพจ Facebook : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park