ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,777 รายการ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)
อย.บ. 128/6
หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 26 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 58.5 ซม.
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สลากรีวิชาสุตฺต (สลากรีวิชาสูตร)เลขทะเบียน 24/1ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 24 หน้า : กว้าง 5.5 ซม. ยาว 59 ซม.หัวเรื่อง พระธรรมเทศนาภาษา บาลี/ไทยอีสานบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ไม่มีไม้ประกับ ได้รับมอบมาจากนางสุดา วงษ์พันธุ์
เลขทะเบียน : นพ.บ.652/ก/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 32 หน้า ; 3.5 x 51 ซ.ม. : ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 207 (106-114) ผูก ก1 (2568)หัวเรื่อง : กจฺจายมูล--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อแบบฉบับ : ธมฺมปทโปราณคาถา (ผูก 5)
ชื่อเรื่อง : โปราณคาถาธัมมปท (ผูก 5)
เลขทะเบียน : ชม.บ.616/5
ผู้แต่ง : ไม่ปรากฏ ผู้สร้าง : เจ้ามหาสุรหงษ์ ปีที่สร้าง : จ.ศ.958 (พ.ศ. 2139)
จำนวน : 1 คัมภีร์ 3 ผูก (หอสมุดแห่งชาติฯ เชียงใหม่ มีผูก 1, 2,5)
จำนวนบรรทัด : 6 บรรทัด จำนวนหน้า : 54 หน้า
อักษร : ธรรมล้านนา ภาษา : บาลี-ไทยล้านนา เส้น : จาร
ฉบับ : ชาดทึบ ไม้ประกับ : ไม่มี ประเภทเอกสารโบราณ : คัมภีร์ใบลาน
ประวัติ : จ.ศ.958 (พ.ศ.2139 สมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ได้มาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2531
โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568
เลขทะเบียน : นพ.บ.782/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 46 หน้า ; 4 x 56 ซ.ม. : ชาดทึบ-รักทึบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 241 (452-462) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : เทวทูตสูตร--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สาระอีสาน นำเสนอและเผยแพร่เกร็ดความรู้ต่าง ๆ จากข้อมูลท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน และหนังสืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีให้บริการอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ขอนำเสนอคำต้องห้ามในอดีตที่ไม่ควรพูดกับคนโคราช นั่นก็คือ คำว่า "หมูโคราช" เรียบเรียงโดย นางสาวกุลริศา รัชตะวุฒิ นักภาษาโบราณ เนื้อหามีดังนี้
ในปัจจุบัน คำว่า หมูโคราช หากเราค้นหาบนอินเทอร์เน็ต ก็จะปรากฏรูปหมูตัวเล็กตัวใหญ่ แหล่งพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายหมู แหล่งอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ แต่ใครจะรู้เล่าว่า คำว่า หมูโคราช ในอดีตเป็นคำที่ไม่สุภาพสำหรับชาวโคราช
ในอดีตเมืองโคราชเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายเนื่องจากเป็นเมืองที่เชื่อมระหว่างภาคอีสานกับกรุงเทพฯ โคราชจึงมีตลาดที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าก็คือ ตลาดกลางศาลาโนนดินทราย (ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณที่ตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา) โดยมีพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วทุกจังหวัดในภาคอีสานจะเดินทางมาค้าขายที่ตลาดแห่งนี้ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม ต่างนำสินค้ามาค้าขายเช่นกัน โดยสินค้าที่นำมาค้าขายก็จะมีพวกสัตว์ต่าง ๆ เช่น วัว ควาย สุกร ฯลฯ พืชผักผลไม้ต่าง ๆ ฯลฯ นอกจากจะเป็นตลาดแล้วยังเสมือนเป็นจุดพักสินค้าเพื่อรอขนส่งไปยังกรุงเทพฯ โดยมีพ่อค้าจากกรุงเทพฯ รับซื้อสินค้าจากเมืองโคราชโดยทางรถไฟ
จุดเริ่มต้นของคำว่าหมูโคราชได้เริ่มขึ้นเมื่อพ่อค้าที่นำหมูจากโคราชมาถึงกรุงเทพฯ พ่อค้าหมูกรุงเทพฯ ก็จะพูดว่า “หมูโคราชมาแล้ว” จึงเป็นที่มาของคำว่า หมูโคราช แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่พ่อค้าหมูจากโคราชถูกพ่อค้ากรุงเทพฯหลอกโดยโกงตาชั่ง และกดราคา ความหมายของคำว่า หมูโคราช จึงเปลี่ยนไป จากที่หมายถึงสัตว์ก็กลายเป็นคน เมื่อพ่อค้ากรุงเทพฯ เห็นพ่อค้าที่นำหมูมาจากโคราช ก็จะพูดว่า “หมูมาแล้ว” หรือ “หมูโคราชมาแล้ว” โดยพูดเป็นเชิงทำนองว่า หวานหมู
ต่อมาคนกรุงเทพฯ เรียกคนโคราชที่เดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ ว่า หมูโคราช ซึ่งคนโคราชไม่ชอบที่ถูกเรียกแบบนี้ เพราะมีความหมายในเชิงดูถูกดูแคลนว่าเซ่อซ่าโดนหลอกง่ายดังที่กล่าวมาข้างต้น พอถูกเรียกว่าหมูโคราชก็มักจะตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงมีปากเสียงหรือทะเลาะเบาะแว้งจนไม่มีใครกล้าเรียกคนโคราชว่าหมูโคราชอีก คำว่าหมูโคราชจึงหายไป
บรรณานุกรม
เมตต์ เมตต์การุณ์จิต. ย้อนเรื่องเมืองโคราช : โคราชในความทรงจำ. นครราชสีมา: ยืดหยัดชัดเจน, 2562
หมูโคราชในอดีต. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 26 มิถุนายน 2567, จาก: https://www.facebook.com/korat.in.the.past/posts/pfbid02JZ9spUtRGmfktRHwqqYrx5hY6npmQzQzeXNhLXoD1kqag32zxX6Y8N2ZdZMBbEYil
ผู้แต่ง : สุรศักดิ์ ศรีสำอางปีที่พิมพ์ : 2546สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ม.ป.พ.
รายงานการดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี ในพื้นที่แหล่งโบราณคดีบ้านวังหาด
ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย
สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย โดยมีนายธีรศักดิ์ ธนูศิลป์ เป็นนักโบราณคดีผู้ดำเนินการขุดค้น พบโครงกระดูก 2 โครงในแหล่งโบราณคดีบ้านวังหาด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งขุดบริเวณที่ราบเชิงเขาใกล้อ่างเก็บน้ำแม่กองค่าย กำหนดอายุเบื้องต้นราว 2,500 ปี พบเครื่องใช้สอยในชีวิตประจำวัน อาทิ ภาชนะดินเผา เครื่องมือโลหะแบบต่างๆ รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ในการทอผ้า ตลอดจนพบเครื่องประดับที่ทำจากหินกึ่งอัญมณี และ ลูกปัดแก้วสีต่างๆ อุทิศให้กับศพ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการขุดค้น และวิเคราะห์ตีความ โดยผู้เชี่ยวชาญในลำดับต่อไป
นายธีรศักดิ์ ธนูศิลป์ ได้ดำเนินการทางโบราณคดีภายใต้โครการโบราณคดีภาคเหนือตอนล่าง : แหล่งโบราณคดีบ้านวังหาด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้ดำเนินงานสำรวจและขุดค้นทางโบราณคดีแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการวิเคราะห์ตีความ จึงรายงานผลการดำเนินงานเบื้องต้น
การดำเนินงานขุดค้นทางโบราณคดีในครั้งนี้ ได้เลือกพื้นที่การขุดค้นบริเวณที่ราบเชิงเขา ใกล้คลองแม่กองค่าย ติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่ายมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแบ่งพื้นที่การขุดค้นเป็น 7 หลุม (PITI - PIT7) เริ่มดำเนินการขุดค้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 พบหลักฐานที่สำคัญดังนี้
1. หลุมฝังศพที่ 1 พบจากการขุดค้นในหลุมขุดค้น PIT 2ที่ระดับสมมติที่ 6:70-80 cm.dt.ความลึกจากพื้นผิวดิน (Surface) ประมาณ 50-60 เซนติเมตร ยังไม่พบโครงกระดูก สันนิษฐานว่าอยู่ในผนังด้านทิศเหนือ พบภาชนะดินเผา 3 ใบ แต่สภาพไม่สมบูรณ์ พร้อมทั้งเครื่องมือโลหะ (ใบหอก)
2.หลุมฝังศพที่ 2 พบในหลุมขุดค้น PIT 3-5 ที่ระดับชั้นดินสมมติที่ 5 :80-90 cm.dt. ลึกลงไปจากพื้นผิวดิน(Surface) ประมาณ 70-80 เซนติเมตรจัดอยู่ในชั้นดินที่3 ลักษณะดินบริเวณที่พบหลักฐานเป็นดินปนทราย อัดแน่นและแข็งมาก
โครงกระดูกที่พบมีลักษณะโครงที่เปื่อยยุ่ย จนแทบไม่เหลือสภาพเดิม แต่ยังคงเหลือกระดูกยาว เช่น Humerus ,Radius , Ulna .ให้เห็นอยู่บ้าง จึงไม่สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเพศ อายุ และสาเหตุการตายได้ แต่สามารถศึกษาทิศทางและรูปแบบการฝังได้ ว่าฝังแบบนอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางทิศตะวันออก มีการฝังภาชนะดินเผาอุทิศวางไว้บริเวณปลายเท้าให้กับศพ พบแวดินเผา จำนวน 3 อัน ภายในภาชนะดินเผาที่วางติดกับปลายเท้าของศพ
นอกจากภาชนะดินเผา ยังพบว่ามีการฝังข้าวของอื่นๆอุทิศให้ศพด้วย พบสร้อยลูกปัดหินเรียงอยู่บริเวณส่วนคอของศพ ซึ่งมีร่องรอยกระดูกส่วน Clavicle ซ้อนกันอยู่ จึงทำให้สร้อยลูกปัดมีการพับทบกัน ซึ่งสังเกตได้จากการขุดค้น ลูกปัดมีจำนวน 23 ลูก ทำมาจากหินคาร์เนเลี่ยน 21 ลูก และหินควอตซ์ 2 ลูก ทั้งยังมีลูกปัดแก้วสีดำและสีน้ำตาล ขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.3-0.4 เซนติเมตร คั่นอยู่ในสร้อยเส้นเดียวกัน บริเวณส่วนข้อมือมีลูกปัดแก้วสีเขียวอมฟ้าจำนวนมาก และส่วนข้อเท้ามีลูกปัดแก้วสีแดงทึบจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งสันนิษฐานว่าร้อยอยู่ที่ข้อมูลและข้อเท้าของศพ และยังมีเครื่องมือเหล็กแบบต่างๆ วางไว้บนตัวศพและด้านข้างศพเพื่อเป็นการอุทิศ
3.หลุมฝังศพที่ 3 พบในหลุมขุดค้น PIT 6-7ที่ระดับชั้นดินสมมติที่ 7: 110-120 cm.dt. ลึกลงไปจากผิวดิน (Surface) ประมาณ 1.10 เมตรจัดอยู่ในชั้นดินที่4 ลักษณะดินบริเวณที่พบหลักฐานเป็นดินปนทราย อัดแน่นและแข็งมาก
โครงกระดูกที่พบยังดำเนินการขุดค้นไม่แล้วเสร็จ ขุดแต่งเพียงส่วนกะโหลกศีรษะและพบเครื่องประดับอยู่ในตำแหน่งของหูด้านซ้าย มีการฝังศพในท่านอนหงายเหยียดยาว มีภาชนะดินเผาสภาพสมบูรณ์วางอยู่ทิศ และเป็นที่น่าสนใจว่า หลุมฝังศพนี้มีการขุดหลุมเป็นรูปสี่เหลี่ยม ก่อนนำดินเหนียวหรือดินที่มีการเตรียมไว้มาเทราดก่อนวางศพและวางภาชนะดินเผาลงไป เพราะดินที่รองศพนั้นแตกต่างจากดินที่ขุดค้นโดยรอบ และจากการวัดค่าสีดินและลักษณะของดินอย่างต่อเนื่อง จึงสรุปได้ว่าไม่ใช่ดินที่พบจากชั้นดินที่ขุดมา
บริเวณปลายเท้า 4 ใบ มีขนาดลดหลั่นกัน จากเล็กไปใหญ่ นับจากปลายเท้าออกไปตามลำดับ เนื่องจากสภาพดินค่อนข้างแข็งและสภาพพื้นที่ไม่เหมาะสมจึงทำการขุดแต่งและยกแท่นขึ้น มายังสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เพื่อขุดค้นตามกระบวนการอย่างมัดมัดระวังเนื่องจากหลักฐานมีความเสี่ยงที่จะเสียหายได้ง่าย ซึ่งการดำเนินการจะอยู่ภายใต้การดูและและวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญต่อไป
รายงานการดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี ในพื้นที่แหล่งโบราณคดีบ้านวังหาด (ข้อมูล พร้อมภาพประกอบ)
ราชกิจจานุเบกษา
ประกาศกรมศิลปากร
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง
เล่มที่
ตอนที่
หน้า
วันที่ประกาศ
ประกาศพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้นายอีมันเฟรดีแต่งเครื่องยศกรมศิลปากรชั้นเสวกตรี
34
๐ ง
868
๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๐
ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
52
๐ ง
3679
๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๘
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
53
๐ ง
901
๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง แก้ไขกำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
53
๐ ง
906
๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
53
๐ ง
1526
๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
54
๐ ง
2285
๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๐
แก้คำผิด ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕
54
๐ ง
458
๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๐
แก้คำผิด ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ หน้า ๓๖๘๒
54
๐ ง
497
๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๐
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
55
๐ ง
4005
๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
57
๐ ง
806
๑๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
57
๐ ง
2527
๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง หลักสูตรและวิธีการสอบวิชาช่างตรี ศิลปินตรี
60
๖๐ ง
3534
๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๘๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดบัญชีโบราณวัตถุสถาน
66
๖๔ ง
5280
๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ
67
๑๕ ง
1064
๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนและขอบเขตโบราณสถานสำหรับชาติ
69
๖๐ ง
3281
๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
70
๖๓ ง
3697
๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๖
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนและขอบเขตโบราณสถานสำหรับชาติ
71
๓ ง
14
๕ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๗
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนและขอบเขตโบราณสถานสำหรับชาติ
72
๒ ง
21
๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๘
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสำหรับชาติ
72
๑๔ ง
381
๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๘
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
72
๙๑ ง
2853
๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๘
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
73
๒๕ ง
1060
๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นบัญชีโบราณวัตถุในถ้ำผาปู่ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เป็นโบราณวัตถุสำหรับชาติ
73
๔๘ ง
1676
๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
73
๕๗ ง
2058
๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
73
๖๘ ง
2411
๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๙
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
74
๓๐ ง
784
๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๐
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนและขึ้นบัญชีโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
74
๘๘ ง
2490
๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๐
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนและขอบเขตโบราณสถานสำหรับชาติ
74
๙๖ ง
2670
๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๐
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
75
๑๒ ง
352
๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
75
๒๒ ง
838
๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
75
๓๔ ง
1411
๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
75
๔๕ ง
1700
๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถานสำหรับชาติ
75
๔๕ ง
1701
๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
75
๙๐ ง
2888
๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสำหรับชาติ
75
๑๐๙ ง
3127
๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๑
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
76
๓ ง
26
๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
76
๙๐ ง
2241
๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสถานสำหรับชาติ
76
๙๘ ง
2426
๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
76
๑๐๘ ง
2530
๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
76
๑๑๗ ง
2714
๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๒
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
77
๑๘ ง
781
๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณวัตถุสำหรับชาติ
77
๓๒ ง
1304
๑๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
77
๖๐ ง
1785
๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ (จังหวัดเชียงราย)
77
๘๑ ง
2131
๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ (จังหวัดอุตรดิตถ์)
77
๘๑ ง
2133
๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๓
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
78
๕๒ ง
1529
๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้กระทำแทนอธิบดีกรมศิลปากรในการออกใบอนุญาต
78
๗๗ ง ฉบับพิเศษ
2
๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๔
แก้คำผิด ระเบียบกรมศิลปากร ฉบับที่ ๒ ฉบับที่ ๓ และ ฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๐๔ เล่ม ๗๘ ตอนที่ ๗๗
78
๘๒ ง
22149
๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานสำหรับชาติ
78
๙๔ ง
2351
๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๔
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
79
๕๘ ง
1468
๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
79
๕๘ ง
1469
๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถาน
79
๗๑ ง
1712
๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
79
๘๔ ง
1966
๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง เพิกถอนโบราณสถาน
79
๙๓ ง
2182
๑๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
79
๙๗ ง
2279
๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ
79
๙๙ ง
2331
๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
79
๑๐๐ ง
2387
๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๕
ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
80
๒๙ ง
859
๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๐๖
วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2559 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม จัดอบรมการซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์ ปี 2559 วันที่ 23-24 มิถุนายน 2559 ณ ห้องอบรมคอมพิวเตอร์ ตึกธนาลงกรณ์ ชั้น 8 ในการนี้นายต่อพงศ์ เหลืองชัยวัฒนา นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ รับหน้าที่เป็นวิทยากร