ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาที่ ๖ โรงเรียนบ้านโคกยาง(บุญรอด-บอนอุทิศ) ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๐๐ คน คุณครูจำนวน ๑๕ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยแบ่งการบรรยายนำชมออกเป็น ๒ กลุ่มย่อย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนางสาวอาภาภรณ์ เปล่งปลั่งศรี นักวิชาการวัฒนธรรม และนายแก่นแก้ว หอมนวล พนักงานประจำห้อง ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นมัธยมศึกษาที่ ๓ โรงเรียนบ้านแพงพวย(สังฆคุรุราษฎร์บำรุง) ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๒๐๙ คน คุณครูจำนวน ๑๕ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยแบ่งการบรรยายนำชมออกเป็น ๓ กลุ่มย่อย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ นางสาวอาภาภรณ์ เปล่งปลั่งศรี นักวิชาการวัฒนธรรม และนางถนอม หลวงกลาง พนักงานประจำห้อง ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒-๓ โรงเรียนบ้านเมืองแก ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๒๕ คน คุณครูจำนวน ๑๕ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยปฏิบัติตามกฎเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนางศรีสุดา ศรีสด พนักงานประจำห้อง ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
จากสถานการณ์น้ำในคลองบางกอกน้อยที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา กรมศิลปากร ได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยระหว่างวันที่ 5 - 13 ตุลาคมนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูง ประกอบกับมีมรสุม และการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นสูง ส่งผลกระทบต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย จึงเตรียมมาตรการรับมือเพื่อปกป้องเรือพระราชพิธีและวัตถุจัดแสดง ตามแผนบริหารความเสี่ยงจากเหตุอุทกภัยที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและกรมอู่ทหารเรือร่วมกันจัดทำไว้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากประสานอู่ทหารเรือธนบุรี เข้าร่วมตรวจสอบสภาพหมอนรองรับเรือพระราชพิธีทุกคานทุกลำและดำเนินการแก้ไขให้มีความมั่นคงแข็งแรง จากนั้นยกคานเรือพระราชพิธีขึ้นในระดับสูงสุด ผูกรัดเรือพระราชพิธีทุกลำ และเปิดวาล์วเรือพระที่นั่งเพื่อลดผลกระทบจากน้ำต่อโครงสร้างของเรือ แล้วจัดเก็บวัตถุจัดแสดงให้อยู่ในพื้นที่สูง เสริมความมั่นคงแข็งแรงให้กับโบราณวัตถุที่มีความเปราะบาง และจัดทำสะพานทางเดินชั่วคราวสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานระหว่างน้ำขึ้นท่วมทางเดิน สำหรับระดับน้ำล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ระดับน้ำท่วมในช่วงน้ำขึ้นสูงสุด 74 เซนติเมตรจากทางเดินปกติ
ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้ปิดการให้บริการเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ชั่วคราวระหว่างวันที่ 4-16 ตุลาคม 2565 ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมเรือพระราชพิธี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0 2424 0004
วันเสาร์ที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๒.๐๐ น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ให้การต้อนรับคณะคุณครูและนักเรียน จากโรงเรียนสอนศาสนาดารุลฮิกมะห์ศึกษา ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จำนวน ๑๑๘ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป บุคลากรหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาทำความสะอาดโบราณสถานวัดเจดีย์เหลี่ยมและเวียงกุมกาม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๕๐ น. นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สมาชิกผู้แทนราษฎร ร่วมเป็นประธานในพิธีบวงสรวงโบราณสถานเมืองไผ่ ในการนี้มี ผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ตัวแทนส่วนราชการจังหวัดสระแก้วและประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีดังกล่าว ณ โบราณสถานเมืองไผ่ จังหวัดสระแก้ว
สำหรับโบราณสถานเมืองไผ่ เป็นเมืองโบราณสำคัญอีกแห่งในภาคตะวันออก ที่มีพัฒนาการทางด้านประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดี และมีพัฒนาการต่อเนื่องมาจนถึงในสมัยที่วัฒนธรรมเขมรโบราณ เข้ามามีบทบาทอยู่ในดินแดนแถบนี้ ซึ่งมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๘ อีกทั้งจากผลการสำรวจในปัจจุบัน เมืองไผ่ ยังถือได้ว่า เป็นเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดีที่ตั้งอยู่ชายขอบสุดของภาคตะวันออกอีกด้วย
นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากร ได้สำรวจโบราณสถานทั่วประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนมากและน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งเป็นปัญหาอุทกภัย และรายงานสรุปสถานการณ์ ณ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ ว่ามีโบราณสถาน จำนวน ๘๒ แห่ง อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แบ่งได้เป็น ๓ ประเภท คือ
๑. เสี่ยงมาก จำนวน ๘ แห่ง ที่โบราณสถานมีน้ำท่วมขังในระดับสูงและมีแนวโน้มว่าจะท่วมเป็นเวลานาน แต่โบราณสถานเหล่านี้ได้รับการบูรณะเสริมความมั่นคงโดยกรมศิลปากรแล้ว เช่น เมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ และปราสาทตามอญ จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและต่อเนื่องคือ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ป้อมเพชร จ.พระนครศรีอยุธยานายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากรวัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยาวัดเจ้าย่า จ.พระนครศรีอยุธยาวัดเชิงท่า จ.พระนครศรีอยุธยาเวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่เวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่เวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่
๒. เสี่ยงปานกลาง จำนวน ๓๗ แห่ง ที่โบราณสถานเริ่มมีน้ำท่วมขังแต่ยังอยู่ในระดับต่ำและยังไม่มีแนวโน้มจะท่วมมากขึ้น อีกทั้งเป็นโบราณสถานที่ได้รับการบูรณะเสริมความมั่นคงแล้ว เช่น ปราสาท (อิฐ) บ้านไผ่ จังหวัดสระแก้ว กู่โพนระฆัง จังหวัดร้อยเอ็ด และ กู่ประภาชัย จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ซึ่งมีน้ำฝนและน้ำใต้ดินมาจากแม่น้ำมูลที่กำลังเฝ้าระวังเช่นกันกู่ประภาชัย จ.ขอนแก่น
๓. เสี่ยงน้อย จำนวน ๓๗ แห่ง ที่โบราณสถานที่มีน้ำท่วมขังเฉพาะตอนฝนตกและสามารถระบายออกได้อย่างรวดเร็ว เช่น วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี วัดโขลงสุวรรณคีรี (คูบัว) จังหวัดราชบุรี ปราสาทกังแอน จังหวัดสุรินทร์ กู่แก้วสี่ทิศ จังหวัดศรีสะเกษ ปรางค์กู่ จังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โบราณสถานในเวียงท่ากาน จังหวัดเชียงใหม่ และโบราณสถานในเมืองโบราณเชียงแสน จังหวัดเชียงราย วัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนมากและน้ำล้นตลิ่งซึ่งเป็นปัญหาอุทกภัย กรมศิลปากร จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติการเฝ้าระวังโบราณสถานอย่างต่อเนื่อง ส่วนโบราณสถานที่อยู่ในการดูแลของวัด/เอกชน ได้ทำการประสานเครือข่ายภาคประชาชนของกรมศิลปากรเพื่อร่วมกันเฝ้าระวังและจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะต่อไป
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ เรื่อง “จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี" ณ หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
“จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี” นิทรรศการพิเศษในวาระครบรอบ ๑,๐๐๐ ปี ศักราชที่บันทึกเรื่องราวไว้บนจารึกศาลสูง ซึ่งถือเป็นจารึกหลักสำคัญที่พบ ณ ศาลสูง หรือ ศาลพระกาฬ โบราณสถานคู่บ้านของชาวลพบุรี โดยจารึกมีเนื้อความที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้คนเมื่อ ๑,๐๐๐ ปีที่แล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จึงจัดนิทรรศการพิเศษเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านภาษาศาสตร์ ประวัติ และโบราณคดีให้กับผู้ที่สนใจได้รับรู้และตระหนักถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของเมืองลพบุรี
ปัจจุบันจารึกศาลสูงหลักนี้จัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในโอกาสพิเศษครั้งนี้จึงได้ทำการจำลองจารึกศาลสูงขนาดเท่าจริง โดยใช้เทคโนโลยีการสแกนแบบ ๓ มิติ และพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ ๓ มิติ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร ในการดำเนินการจำลองจารึกศาลสูง เพื่อนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ
นอกจากองค์ความรู้เกี่ยวกับจารึกศาลสูงในด้านต่าง ๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้ทดลองทำสำเนาจารึกศาลสูงอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามกำหนดการของกิจกรรมได้ทางเพจเฟสบุ๊ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ : King Narai National Museumศาสตร์
สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมการเสวนาวิชาการ เรื่อง “จารึกศาลสูง : บันทึก ๑,๐๐๐ ปี เมืองลพบุรี” ซึ่งได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๕ สามารถรับชมย้อนหลังได้ตามที่ลิงก์ : https://fb.watch/f_eoSIiKMN/
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ให้การต้อนรับคณะครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านชาคลี อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จำนวน ๕๗ คน โดยมีพนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและนำชม
วันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๓๐ น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ให้การต้อนรับคณะครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านบางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง จำนวน ๕๓ คนโดยมีพนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและนำชม
วันพุธที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. และเวลา ๑๔.๐๐ น. นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ หลักสูตรสาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จำนวน ๕๕ คน อาจารย์จำนวน ๑ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยปฏิบัติตามกฎเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ และนางสาวอาภาภรณ์ เปล่งปลั่งศรี นักวิชาการวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม