ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,765 รายการ
วันพุธที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “Bridge of Colors” สะพานแห่งสีสัน เนื่องในโอกาสครบรอบ ๗๗ ปี วันชาติของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีนายระห์หมัด บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร และนางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เข้าร่วมในพิธี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ
กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย จัดนิทรรศการ “Bridge of Colors” สะพานแห่งสีสัน เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบวันชาติของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ครบรอบ ๗๗ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และเป็นสะพานเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินโดนีเซียเข้าไว้ด้วยกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านความร่วมมือทางด้านศิลปวัฒนธรรม โดยนิทรรศการในครั้งนี้ถ่ายทอดความหมายของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ผ่านภาพวาดที่หลากหลายทั้งทางด้านสุนทรียศาสตร์ การใช้สีสัน แนวความคิดการถ่ายทอดภาพและเทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างกันของศิลปินชาวอินโดนีเซีย ๑๑ ท่าน
ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ นับตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา ๗๒ ปีแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ได้มีการแลกเปลี่ยน การส่งเสริม และการสานสัมพันธ์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรมนั้น ทั้งสองประเทศต่างมีวัฒนธรรมร่วมกัน ดังจะเห็นได้จากศิลปะ วรรณกรรม นาฏยศิลป์ แตกต่างเพียงบริบทแวดล้อมทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศเท่านั้น การสร้างความรับรู้และเข้าใจในความหลากหลายผ่านผลงานศิลปะ นับเป็นวิธีการสื่อสารทางการทูตรูปแบบหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาใช้เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของชาติ โลกศิลปะที่ไร้พรมแดนสามารถหล่อหลอมให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกรับรู้ร่วมกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์ และตกผลึกกลายเป็นความตระหนักรู้ถึงคุณค่า และ “อัตลักษณ์” แห่งวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละท้องที่ สร้างพลังแห่งศรัทธาและสายสัมพันธ์ที่เชื่อมผู้คนเข้าไว้ด้วยกันผ่านงานศิลปะ
นิทรรศการพิเศษ “Bridge of Colors” จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕ - ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ๖ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา ๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. หยุดวันจันทร์และอังคาร ค่าเข้าชม ชาวไทย ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท
นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักทั่วประเทศจึงได้สั่งการให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน และรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๕ ว่าจากอิทธิพลของพายุโนรูทำให้เกิดฝนตกหนัก เขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักระบายน้ำในปริมาณสูงขึ้นจนทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นมากกว่า ๑ เมตร และทางกรมชลประทานยังแจ้งเตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณพื้นที่อุทยานฯ จะสูงขึ้นอีกประมาณ ๓๐ - ๖๐ เซนติเมตร จึงเตรียมการรับมือดังนี้
๑. ในพื้นที่เกาะเมืองขณะนี้ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาได้ทำคันป้องกันน้ำ ซึ่งจะสามารถ
ป้องกันโบราณสถานในเกาะเมืองได้เกือบทั้งหมด จะมีเพียงป้อมเพชรและรหัสวิดน้ำในพระราชวังโบราณเท่านั้นที่ถูกน้ำท่วม
๒. พื้นที่นอกเกาะเมือง
- วัดไชยวัฒนารามระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ ๓๕ เซนติเมตร อุทยานฯ จึงได้ทำการต่อแผงกันน้ำและเสริมกระสอบทรายบนกำแพงด้านทิศใต้ของวัดซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก ๔๐ เซนติเมตร รวมแล้วสามารถป้องกันน้ำได้อีก ๗๕ เซนติเมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ.๒๕๕๔
- วัดธรรมาราม ระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ ๓๐ เซนติเมตร อุทยานฯ จึงทำการเสริมกระสอบทรายบนแผงกันน้ำซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก ๓๐ เซนติเมตร รวมแล้วสามารถป้องกันน้ำได้อีก ๖๐ เซนติเมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เท่ากับระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ. ๒๕๕๔
- โบราณสถานสำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะโบราณสถานที่เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาและวัดที่อยู่กลาง
ชุมชม อุทยานฯ ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว ซึ่งจะมีการเสริมความสูงของแนวป้องกันน้ำตามระดับน้ำที่สูงขึ้น
๓. ขณะนี้ภายในพื้นที่อุทยานฯ มีโบราณสถานที่ได้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า ๔๐ แห่ง ส่วนใหญ่อยู่นอกเกาะเมืองด้านที่เหนือซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่โบราณสถานเหล่านั้นส่วนใหญ่จะได้รับการบูรณะเสริมความมั่นคงแล้ว ซึ่งจะไม่ได้รับความเสียหายมาก ส่วนโบราณสถานที่ยังไม่ได้มีการบูรณะเสริมความมั่นคง อุทยานฯ ได้มีการตั้งนั่งร้านค้ำยันเสริมความมั่นคงไว้แล้ว
ทั้งนี้ ได้เตรียมความพร้อมสูงสุดในการรับมือ โดยในพื้นที่เกาะเมืองได้ประสานกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาทำคันดินป้องกันน้ำเข้าเกาะเมือง ซึ่งจะสามารถป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถานได้เกือบทั้งหมด ส่วนพื้นที่นอกเกาะเมือง ในส่วนของวัดไชยวัฒนารามและวัดธรรมาราม ได้เสริมแนวป้องกันให้สามารถรับน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมใน พ.ศ. ๒๕๕๔ ส่วนโบราณสถานอื่นๆ ได้ประสานความร่วมมือกับทางวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันโบราณสถานแล้ว
วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ ทีมนักวิทยาศาสตร์จากกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และทีมภัณฑารักษ์ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ ร่วมกันดำเนินการจัดทำทะเบียน อนุรักษ์สภาพโบราณวัตถุ และทำการตรวจองค์ประกอบของธาตุภายในเนื้อโลหะ (XRF) ของโบราณวัตถุเพื่อจำแนกประเภท อายุสมัยของโบราณวัตถุ และกำหนดแนวทางอนุรักษ์ในเชิงลึก
การดำเนินการในวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สามารถเปิดองค์เจดีย์จำลองโลหะที่เคยมีการค้นพบมาก่อนหน้านี้ได้ พบว่าภายในส่วนองค์ระฆัง บรรจุวัตถุชิ้นสำคัญ ประกอบด้วย พระแกะจากหินแก้ว เม็ดพระธาตุ เม็ดหินแก้ว และแผ่นจารึกลานเงิน ปะปนร่วมกับอินทรีย์วัตถุ
ในส่วนของแผ่นจารึกลานเงิน นักวิทยาศาสตร์ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนอนุรักษ์เพื่อรักษาสภาพและเผยให้เห็นพื้นผิวดั้งเดิมของวัตถุ ซึ่งจะส่งต่อให้นักอ่านจารึกและนักอักษรโบราณร่วมกันอ่านและวิเคราะห์แปลความเพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับวัดศรีสุพรรณในลำดับต่อไป
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมนิทรรศการ ระหว่างวันที่ ๒๘ กันยายน ถึง ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ มีผู้เข้าชมทั้งสิ้น ๔๖ คน โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ อย่างเคร่งครัด
รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือนกันยายน ๒๕๖๕พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์
นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยถึงแนวทางในการอนุรักษ์และฟื้นฟูเจดีย์ วัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่ กรมศิลปากรจะบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ โดยจะมอบหมายวิศวกรให้เข้ามาทำการประเมินสภาพและความปลอดภัยของพื้นที่บริเวณองค์เจดีย์ก่อนจะมอบหมายให้ทีมนักโบราณคดีเข้าทำการศึกษาและคัดแยกหลักฐานทางโบราณคดีร่วมกับจิตอาสาและอาสาสมัครจากสถาบันการศึกษา โดยระหว่างการดำเนินการจะมอบหมายให้ภัณฑารักษ์และนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ เข้ามาจัดทำทะเบียนและอนุรักษ์โบราณวัตถุไปพร้อมกัน นอกจากนี้ กรมศิลปากรยังมอบหมายให้นักจดหมายเหตุบันทึกเหตุการณ์ทุกขั้นตอน เพื่อจัดทำจดหมายเหตุเป็นองค์ความรู้เรื่องของการบูรณะองค์เจดีย์ในอนาคต ซึ่งภายหลังจากกระบวนการศึกษาทางโบราณคดีแล้วเสร็จ จะนำไปสู่การร่วมกันหาแนวทางการบูรณะหรือฟื้นฟูเจดีย์วัดศรีสุพรรณในลำดับต่อไป ทั้งนี้ ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความคืบหน้าการบูรณะพระธาตุเจดีย์วัดศรีสุพรรณแล้ว
วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. นางรักชนก โคจรานนท์ รองอธิบดีกรมศิลปากร ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โต๊ะข่าวไลฟ์ (Life) ในประเด็นการจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การจัดนิทรรศการ การคัดเลือกชิ้นงานจัดแสดง และการแนะนำชิ้นงานที่น่าสนใจ ฯลฯ ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รวมทั้งยังได้มอบหนังสือประกอบนิทรรศการให้แก่ผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการเขียนบทความเพิ่มเติมอีกด้วย