ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช มาจากคำภาษาสันสกฤตว่า อนนฺตนาคราชะ มาจากคำ 3 คำ คือ อนนฺตะ (แปลว่า ไม่สิ้นสุด นิรันดร) นาคะ (แปลว่า นาค หรือ งู) ราชะ (แปลว่า เจ้านาย หรือพระราชา) ดังนั้นคำนี้จึงแปลได้ว่า อนันตะ ราชาแห่งนาค หรืองูทั้งหลาย
ชื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช มาจากคำภาษาสันสกฤตว่า อนนฺตนาคราชะ มาจากคำ 3 คำ คือ อนนฺตะ (แปลว่า ไม่สิ้นสุด นิรันดร) นาคะ (แปลว่า นาค หรือ งู) ราชะ (แปลว่า เจ้านาย หรือพระราชา) ดังนั้นคำนี้จึงแปลได้ว่า อนันตะ ราชาแห่งนาคหรืองู ทั้งหลาย ในฮินดูปกรณัมปรัมปรา อนันตะ หมายถึง งูเทพ หรือ งูทิพย์ ผู้มีพลังยิ่งใหญ่ รู้จักกันในชื่อ เศษะ หรือ อาทิเศษะ เป็นผู้ที่มีเศียรหนึ่งพัน และ (ประดับด้วย) อัญมณีหนึ่งพันที่ส่องประกายสว่างจ้าไปทุกหนแห่ง คัมภีร์ปุราณะของอินเดียกล่าวว่า อนันตะอาศัยอยู่ลึกลงไปกว่าโลกบาดาลทั้ง 7 ชั้น และแบกโลกทั้งหมดไว้บนเศียร คราใดที่อนันตะหาว โลกก็สั่นไหว บางคัมภีร์อธิบายว่า อนันตะมีชื่ออีกอย่างว่า วาสุกิ (ไทยเรียกวาสุกรี) ซึ่งมีเจ็ดเศียรและอยู่ในโลกบาดาลชั้นที่ 7 อนันตะปกครองนาคทั้งหลาย เรื่องราวจากคัมภีร์ข้างต้นให้อิทธิพลต่อความเชื่อของคนไทยที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ใต้โลกของเรามีปลาอานนท์ ซึ่งแบกโลกไว้ คราใดปลาอานนท์ขยับตัว โลกจะสั่นคลอนเกิดแผ่นดินไหว และยังมีความเชื่ออีกว่า พญานาคเจ็ดเศียรบันดาลให้เกิดฝน ความเชื่อที่ว่าพระเจ้าแผ่นดินของไทยเป็นอวตารของพระวิษณุลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ดังนั้นพระองค์จึงควรมีเรือพระที่นั่งเป็นพญาอนันตนาคราชซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวที่ว่า พระวิษณุประทับบรรทมบนพญาอนันตนาคราชในช่วงกาลดับสลายและเริ่มต้นการสร้างโลกและจักรวาลขึ้นใหม่
เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำแรกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 (พุทธศักราช 2367 - 2394) แต่เริ่มใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารคในสมัยรัชกาลที่ 4 (พุทธศักราช 2394 - 2411) ปรากฏชื่อว่า เรือพระที่นั่งบัลลังก์อนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 6 (พุทธศักราช 2453 - 2468)
และเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เมษายน พุทธศักราช 2457
หัวเรือจำหลักรูปพญานาคเจ็ดเศียร ลงรักปิดทองประดับกระจก ท้องเรือภายในทาสีแดง ภายนอกทาสีเขียว กลางลำเรือเป็นบุษบกประดิษฐานพระพุทธรูปหรือผ้าพระกฐิน เรือมีความยาว 44.85 เมตร กว้าง 2.58 เมตร ลึกถึงท้องเรือ 87 เซนติเมตร กินน้ำลึก 31 เซนติเมตร ใช้กำลังพลประกอบด้วย ฝีพาย 54 คน นายเรือ 2 คน นายท้าย 2 คน คนถือธงท้าย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนถือฉัตร 7 คน คนถือบังสูรย์-พัดโบก-พระกลด 3 คน และคนเห่เรือ 1 คน
ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/royalbarges
องค์ความรู้ เรื่อง มรดกวิจิตรศิลป์จรดจาร
ผู้เรียบเรียง :
นางสาวณัฐพร เพ็ชรกลับ บรรณารักษ์ชำนาญการ
หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
"ปรางค์น้อย" โบราณสถานปราสาทพนมวัน
เป็นอาคารหลังเดียวก่อสร้างด้วยหินทรายและอิฐบนฐานศิลาแลง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 9×9 เมตร มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ภายในประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองหินทรายที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 23-24
ดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้แต่ง : จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช)
ต้นฉบับอยู่ที่ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี (ห้องกรมศิลปากร)
สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด
ปีที่พิมพ์ : 2513
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ไทย
เลขทะเบียน: น. 32 บ. 3083 จบ.
เลขหมู่ : อ. 321.8 อ278ด
สาระสังเขป : หนังสือเรียบเรียงโดย จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช) จัดพิมพ์โดยหอสมุดแห่งชาติเนื่องในงานพระบรมราชานุสรณ์ ระหว่างวันที่ 10 - 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 เนื้อหาว่าด้วยเรื่องของเมืองดุสิตธานี เมืองประชาธิปไตยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ หลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ ข้อมูลจากการประชุมสัมมนาเรื่องเมืองดุสิตธานี จดหมายเหตุรายวันของ ม.ล. ปิ่น มาลากุล บันทึกของเจ้าคุณอนุชิตชาญชัย เรื่องที่เจ้าคุณสุนทรพิพิธเขียนไว้ในหนังสือวชิราวุธานุสรณ์ หนังสือพิมพ์รายวัน “ดุสิตสมัย” และเรื่องของเก่าที่ผู้เขียนได้เคยเขียนลงในหนังสือวชิราวุธานุสรณ์ เป็นต้น พร้อมภาพประกอบเนื้อหาที่สวยงามและหาชมได้ยาก
ชื่อเรื่อง พระอินทร์ (หนังสืออินตก)สพ.บ. 482/1หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี-ไทยอีสานหัวเรื่อง พุทธศาสนา ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 40 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56.7 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากวัดด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี (เวลา 13.00 น.) จำนวน 45 คนวันศุกร์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๓๐ น. คณะครูและบุคลากรในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน ๔๕ คน จาก โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุุรี เข้าศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีว่าที่ร้อยตรีรุ่งเรือง ชื่นชม ตำแหน่ง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ เป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้
โรงเรียนวัดหัวสำโรง จ.ลพบุรี (เวลา 09.30-10.30 น.) จำนวน 20 คน
ขอเชิญชมภาพยนตร์เพื่อการอนุรักษ์ “หนังดี 14 นาฬิกา” พบกับภาพยนตร์ “สมิงบ้านไร่” วันพุธที่ 25 ก.ย.นี้
หอสมุดแห่งชาติขอเชิญชมภาพยนตร์เพื่อการอนุรักษ์ “หนังดี14นาฬิกา” ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากหอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) ทุกวันพุธสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน ในวันพุธที่ 25 กันยายน 2567 จัดฉายภาพยนตร์ เรื่อง “สมิงบ้านไร่” เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2507 กำกับโดย พันคำ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ โมกขศักดิ์ ผู้มีอิทธิพลในตำบลบ้านไร่ และผู้จัดการโรงงานน้ำตาลที่กำลังจะทรุดตัวลง เขาจึงบังคับให้ชาวบ้านร่วมมือกันทำไร่อ้อยเพื่อส่งมาให้ยังโรงงานของตน หนึ่งในนั้นมี สมิง บ้านไร่ ชายหนุ่มที่ไม่คิดจะทำตามข้อบังคับ ทั้งยังเป็นคนที่สนิทสนมกับ นกเขียว ลูกสาวคนเดียวของโมกขศักดิ์ จึงเป็นเหตุให้เขาไม่กล้าที่จะเล่นงานสมิง เพราะกลัวว่าจะเป็นการทำร้ายหัวใจลูกสาวของตน กำกับโดย พันคำ นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา, เพชรา เชาวราษฎร์ ความยาว 132 นาที และอนุรักษ์ภาพยนตร์ โดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) กำหนดการฉายภาพยนตร์ เวลา 14.00 น. ณ ห้อง NLT mini theatre อาคาร 1 ชั้น 1 (จำกัดที่นั่ง 20 ท่าน) นอกจากนี้ยังสามารถติดตามชมภาพยนตร์ในครั้งต่อไป วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เรื่อง เงิน เงิน เงิน (2508), วันที่ 30 ตุลาคม 2567 เรื่อง ทรชนคนสวย (2510), วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง อีแตน (2511), วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง เกาะสวาทหาดสวรรค์ (2512), วันที่ 11 ธันวาคม 2567 เรื่อง ไอ้ทุย (2514), วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เรื่อง สาย สีมา นักสู้สามัญชน (2524), วันที่ 25 ธันวาคม 2567 เรื่อง Lumierel (2559) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2281 3634 และสามารถติดตามกิจกรรมอื่น ๆ ของหอสมุดแห่งชาติ ได้ทางเฟซบุ๊ก เพจ : National Library of Thailand
โครงการศึกษาวิจัย
การออกแบบกิจกรรมการศึกษา
ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สำหรับเยาวชน กรณีศึกษา โครงการพิพิธภัณฑ์บันดาลไทย :
การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากคุณค่าวัตถุทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ผู้เรียบเรียง นางพูลศรี จีบแก้ว
ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 66/7หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 82 หน้า : กว้าง 4.8 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อผู้แต่ง ธนิต อยู่โพธิ์
ชื่อเรื่อง อุดมคติอันแตกต่างกันระหว่างพระพุทธศาสนาฝ่ายหินยานกับฝ่ายมหายานกับพระโพธิสัตว์และตรีกาย
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ห้างหุ้นส่วนจำกัดศิวพร
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๔
จำนวนหน้า ๔๙ หน้า
รายละเอียด
อุดมคติอันแตกต่างกันระหว่างพระพุทธศาสนาฝ่ายหินยานกับฝ่ายมหายาน กับพระโพธิสัตว์ และตรีกาย พิมพ์เป็นบรรณาการ เนื่องในวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๑๑ พระพุทธศาสนาแบ่งออกเป็นนิกายหินยาน และนิกายมหายาน อุดมคติตามคำสอนของฝ่ายหินยานคือการบรรลุพระอรหันต์ บุคคลในอุดมคตินี้คือพระอรหันต์ ผู้พากเพียรดำรงตนอยู่ในศีลธรรมจนสิ้นกิเลส เป็นพระอรหันต์ แล้วนิพพาน ส่วนฝ่ายมหายานไม่ถือว่าการบำเพ็ญตบะเพื่อประโยชน์เฉพาะตัวเช่นนั้นเป็นการกระทำถูกต้องตามพุทธประสงค์ที่แท้จริง แต่มองว่าคุณธรรมที่สร้างสมมาควรเผื่อแผ่ให้สรรพสัตว์ มีคำสอนให้มุ่งเน้นช่วยเหลือสรรพสัตว์ ซึ่งบุคคลในอุดมคติของฝ่ายมหายาน คือพระโพธิสัตว์