ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,823 รายการ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน
ปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด
ไวรัส Covid-19 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 25 เมษายน 2563
วันพุธที่ 8 สิงหาคม 2561 หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติฯ กาญจนบุรี และบุคลากร ได้ร่วมใจกันทำความดีด้วยหัวใจ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และได้ร่วมกันปลูก"ต้นรวงผึ้ง" ต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10
ผู้แต่ง : กรมศิลปากรโรงพิมพ์ : อักษรสัมพันธ์ปีที่พิมพ์ : 2507ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.31บ. 12581จบ 656เลขหมู่ : 959.3 ป 247
ชื่อเรื่อง : หนังสือสอนอ่าน จิตกระวีนิพนธ์ เรื่องกาพย์ ห่อโคลง เห่เรือ
ผู้แต่ง : เสนาพิทักษ์, สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุน
ปีที่พิมพ์ : ร.ศ. ๑๒๓
สถานที่พิมพ์ : ม.ป.ท.
สำนักพิมพ์ : อักษรนิติ์
เลขทะเบียน : นพ.บ.25/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 4.5 x 50.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 12 (123-137) ผูก 6หัวเรื่อง : ธรรมบท --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ-อยุธยา เปิดบริการมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๙ เป็นเส้นทางรถไฟรุ่นแรกของสยาม อาคารสถานีรถไฟอยุธยา (เดิมชื่อสถานีกรุงเก่า) สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ เปิดใช้งานเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๙ ตัวอาคารเดิมสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นอาคารไม้ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ จึงเปลี่ยนเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ตามพระบรมราชวินิจฉัยในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ออกแบบก่อสร้างโดยสถาปนิกกรมรถไฟชาวอิตาเลียน นายอัลลิบาเล ริกาซซิ (A.Rigassi) สถานีรถไฟอยุธยาเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟต้นแบบของสถานีรถไฟทั่วไปรุ่นต่อมา โดยอาคารสถานีรถไฟที่มีความสำคัญมากจะได้รับการออกแบบให้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว เช่น อาคารสถานีรถไฟหลวงจิตรลดา, นครลำปาง, หัวหิน, กรุงเทพ (หัวลำโพง), กันตัง, อยุธยา, สงขลา และบ้านปิน เป็นต้น ส่วนอาคารสถานีรถไฟที่มีความสำคัญรองลงมาจะเป็นอาคารไม้หรือคอนกรีตแบบมาตรฐานชั้นเดียวขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานไปกับชานชาลาและทางรถไฟ อาคารสถานีรถไฟอยุธยา เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว มีโครงสร้างกำแพงรับน้ำหนักผสมเสาคานคอนกรีตเสริมเหล็กในรูปแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิค (Classicism) ที่มีการลดทอนรายละเอียดบางอย่าง แผนผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางขนานกับทางรถไฟ ผังอาคารแบ่งเป็น ๒ ส่วน คืออาคารสถานีและส่วนชานชาลา มีทางเข้า-ออกอยู่ทางด้านทิศตะวันตก (ด้านหน้า) โดยก่อระเบียงตลอดความยาวมีมุขยื่นออกมาเล็กน้อย โครงสร้างเป็นมุขหลังคาแบน รับด้วยเสาคอนกรีตเสาขนาดใหญ่ ส่วนด้านทิศตะวันออกของอาคารเป็นส่วนชานชาลาที่ติดกับรางรถไฟ มีหลังคายื่นออกไปจากอาคารสถานีเพื่อใช้เป็นที่พักผู้โดยสาร ภายในอาคารสถานีเป็นห้องโถง เพดานสูง แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นส่วนจำหน่ายตั๋วโดยสาร และที่พักผู้โดยสาร มีฝ้าเพดานทำจากไม้ ส่วนที่ต่อจากฝ้าเพดานลงมารับกับส่วนบนของผนังอาคาร ทำเป็นทรงโค้งปิดช่องว่าง มีไม้ยึดเป็นระยะ ๆ บรรยากาศภายในสถานีเน้นความโปร่งและเรียบง่าย โดยปราศจากเสาภายใน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของโครงสร้างหลังคาแบบโครงถัก (Truss) พื้นที่ภายในตัวอาคารด้านทิศเหนือใช้เป็นพื้นที่สำนักงานทั้งหมด ได้แก่ ห้องประชุม ห้องรับรอง ห้องนายสถานี ห้องผู้ช่วยนายสถานี และสถานีตำรวจรถไฟอยุธยา บริเวณที่เห็นโครงสร้างภายในได้ชัดเจนคือ ห้องประชุม โครงสร้างด้านนอกและด้านในมีลักษณะเป็นซุ้มโค้งทรงครึ่งวงกลม (arch) รองรับด้วยเสาทรงสี่เหลี่ยมขนาดกลางจำนวน ๒ ต้น และเสาติดผนังอีก ๒ ต้น สำหรับถ่ายเทน้ำหนักของอาคาร ส่วนหลังคาเป็นหลังคาปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องลอน จากการที่ส่วนอาคารสถานีและส่วนชานชาลามีหลังคาคลุมของตัวเอง อาคารนี้จึงมีหลังคาปั้นหยาแฝดและกลายเป็นเอกลักษณ์ร่วมของสถานีรถไฟต่างจังหวัดอื่น ๆ อีกด้วย เรียบเรียง: นางสาวอลิสา ขาวพลับ นักโบราณคดีปฏิบัติการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ที่มาข้อมูล: สมชาติ จึงสิริอารักษ์. สถาปัตยกรรมแบบตะวันตกในสยามสมัยรัชกาลที่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๘๐. กรุงเทพฯ : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๓. ภาพถ่ายเก่าจากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ , สมเด็จฯ กรมพระยาชื่อเรื่อง : เสด็จประพาสต้น ในรัชกาลที่ ๕ครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ยี่สิบห้าสถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ : ห้างหุ้นส่วนจำกัด พันนี่พับบลิชชิ่งปีที่พิมพ์ : ๒๕๒๗จำนวนหน้า : ๑๔๒ หน้าหมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางราชรัชดารักษ์ (อูบ รัชดารักษ์) ณ เมรุวัดหัวลำโพง วันที่ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๗ เรื่องเสด็จประพาสต้นนี้ มีความว่า ในการเสด็จประพาสหัวเมืองใหญ่น้อยในพระราชอาณษเขตนั้น บางคราวก็เสด็จไปเพื่อทรงตรวงจัดการปกครอง จัดการรับเสด็จเป็นทางราชการ บางคราวก็เสด็จไปเพื่อสำราญพระราชอิริยาบถไม่โปรดให้จัดการรับเสด็จเป็นทางราชการที่เรียกว่า “เสด็จประพาสต้น”
ชื่อเรื่อง : สังข์ศิลป์ชัย กลอนสวด
ชื่อผู้แต่ง : -
ปีที่พิมพ์ : 2512
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : คุรุสภาพระสุเมรุ
จำนวนหน้า : 478 หน้า
สาระสังเขป : กลอนสวดเรื่องสังข์ศิลป์ชัยเล่มนี้ พิมพ์แจกในงานกฐินพระราชทาน ณ วัดป่าโมก มีเนื้อหาประกอบด้วยประวัติวัดป่าโมก คำจารึกแผ่นศิลาในวิหารพระพุทธไสยาสน์ และกลอนสวดเรื่องสังข์ศิลป์ชัย ซึ่งเป็นกลอนสวดที่มีความใกล้ชิดกับคนไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในการหัดให้เด็กอ่านออกเขียนได้ และการชักจูงใจคนให้เลื่อมใสในหนังสือ และพุทธศาสนา
โบราณสถานเมืองเพนียด จังหวัดจันทบุรี.
จิราพร กิ่งทัพหลวง.โบราณสถานเมืองเพนียด จังหวัดจันทบุรี.จันท์ยิ้ม.(3):3;.กุมพาพันธ์-มีนาคม 2561
เมืองเพนียดหรือเมืองกาไว เป็นเมืองโบราณในจังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ ตําบลคลองนารายณ์ อําเภอเมืองจันทบุรี จังหวัด จันทบุรี เชิงเขาสระบาปติดลําน้ําสาขาซึ่งไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทย ลักษณะผังเมืองคล้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีคันดินล้อมรอบ พื้นที่ราว ๑,๖๐๐ ไร่ อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๘
พบหลักฐานสําคัญ อาทิ กลองมโหระทึก จารึก จํานวน ๓ หลัก คือ ๑. จารึกวัดทองทั่ว - ไชยชุมพล (อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒) ๒. จารึกเพนียด ๑ (อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕) และ ๓. จารึกเพนียด ๕๒ (อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕) และหลักฐานมากมาย เช่น พระหริหระ แบบพนมดา (อายุราว พ.ศ. ๑๐๘๐-๑๑๕๐) ทับหลังในสมัยต่างๆ โดยเฉพาะ แบบถาลาบริวัต (พ.ศ. ๑๑๕๐) ซึ่งเป็นลักษณะทางด้านศิลปกรรมของ วัฒนธรรมเขมรโบราณที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียอันเก่าแก่ที่สุด ในประเทศไทย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ แสดงให้เห็นว่า เมืองเพนียด เป็นเมืองท่าในวัฒนธรรมเขมรที่ใกล้ชิดกับอินเดีย และเป็นชัยภูมิสําคัญ ที่เชื่อม อารยธรรมจากต่างถิ่นเข้าสู่พื้นที่ตอนในแผ่นดิน
การสํารวจพบเมืองเพนียดโดยสํานักฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๔๖ ต่อมากรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. ๒๔๗๘
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒-๒๕๔๕ สํานักโบราณคดี และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๔ ปราจีนบุรี หรือสํานักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรีในปัจจุบัน ได้ดําเนินงานโบราณคดี และบูรณะโบราณสถาน ด้านทิศเหนือ หรือคเพนียด ลักษณะเป็นสระน้ํารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ๒ สระ แต่ละสระมีขนาด กว้าง ๖๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร กรุด้วยศิลาแลง มี บันไดทางขึ้น น่าจะสร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อายุ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘
ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ สํานักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี ดําเนินการสํารวจทําแผนผังและขุดค้นโบราณสถาน เมืองเพนียดบริเวณคันดิน เมืองโบราณเพนียด พบหลักฐานโบราณวัตถุชิ้นสําคัญ คือ พวยภาชนะ ดินเผา แบบทวารวดี ซึ่งการพบหลักฐานดังกล่าวถือเป็นข้อมูลใหม่ จากเดิมที่ส่วนใหญ่ปรากฏเพียงหลักฐานแบบ วัฒนธรรมเขมรโบราณ
ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ กรมศิลปากรได้อนุมัติงบประมาณบูรณะ โบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่ออนุรักษ์ และพัฒนาเมืองเพนียด รวมทั้ง ปรับสภาพภูมิทัศน์โดยเฉพาะบริเวณบารายโบราณสถานเพนียดอย่าง เร่งด่วน เพื่อเพิ่มข้อมูลทางวิชาการและรักษาโบราณสถานสําคัญให้มี ความมั่นคงแข็งแรง เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในภาคตะวันออก ของประเทศไทยเชื่อมโยงในระดับนานาชาติเพิ่มความสามารถในการดึงดูด ให้สาธารณชนเดินทางมาท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อไป
เอกรัฐ คำวิไล. วัคซีนไข้เลือดออก. จันท์ยิ้ม. 2,(3) :24 ; ก.พ. -มี.ค. 2560.
เนื้อหาภายในเล่มกล่าวถึง เรื่องไข้เลือดออกที่สร้างความสูญเสียต่อ เศรษฐกิจและสังคม อย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยมีสาเหตุมาจากยุงลาย และวันนี้ชาวจังหวัดจันทบุรีได้มีโอกาสรับวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้เลือดออก พร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ กับนวตกรรมที่ถูกคิดค้นจากความร่วมมือของหลายประเทศ โดยวัคซีนตัวนี้จะมี ไวรัสสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก ทั้ง 4 สายพันธุ์ คือ DENV ( Dengue Virus) 1. DENV2. DENV 3. และ DENV 4. ประกอบอยู่ในวัคซีนเพียงเข็มเดียว มีประสิทธิ์ภาพในการป้องกันโรคไข้เลือดออก 66.6 % ลดความรุนแรงของโรคได้ 93.2 % ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ 80.8 % สามารถฉีดวัคซีนได้ในกลุ่มอายุตั้งแต่ 9 ขวบ ไปจนถึง 45 ปี แต่เมื่อฉีดไปแล้ว อาจจะมีอาการข้างเคียงหลังการฉีดบ้าง ได้แก่ ปวดศรีษะ มีไข้ต่ำๆ ผิวหนังแดง เป็นต้น
เรื่องไม่ลืมวัดท่าโพธิ์. พระนคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2495.
เรื่องไม่ลืมวัดท่าโพธิ์ เรื่องราวเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตช่วงที่ผู้เขียนเป็นศิษย์วัดอยู่ที่วัดท่าโพธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช อธิบายถึงการปกครองเด็กที่เข้ามาอยู่ในวัดท่าโพธิ์ การกินอยู่ และด้านการศึกษาเล่าเรียน