ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,825 รายการ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.10/1-4
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 28 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 46 (ต่อ)-48) ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2511 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว จำนวนหน้า : 324 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดารขององค์การค้าคุรุสภาจัดพิมพ์ขึ้น โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงรวบรวม มีรายละเอียด ดังนี้ ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 46 (ต่อ) เรื่องจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาค 6 (ต่อจากภาค 5 ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 44) อีกทั้งมีประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 47 ภาค 7 ตอนที่ 1 เรื่องเรื่องจดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ต่อจากภาค 6 ประชุมพงศาวดารภาคที่ 46) จดหมายเหตุของมองซิเออร์เซเบเรต์ ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส ไปเจริญทางพระราชไมตรีกับพระเจ้ากรุงสยาม เมื่อปี ค.ศ. 1687-1688 (พ.ศ.2230-2231) และประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 48 เรื่องจดหมายเหตุของมองซิเออร์เซเบเรต์ ราชทูตฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรีในกรุงสยามครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภาค 7 ตอนที่ 2 ต่อจากประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 47)
ชื่อผู้แต่ง วสารคาม ,นามแฝง
ชื่อเรื่อง พระราชประวัติพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์และอภินิหารของพระองค์
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ศึกษาธรรมดา
ปีที่พิมพ์ ๒๔๗๕
จำนวนหน้า ๗๑ หน้า
หมายเหตุ พิมพ์ในงานฉลองพระนคร ๑๕๐ ปี และฉลองสะพาน พ.ศ.๒๔๗๕
เป็นเรื่องพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งปริวรรตจากสมุดข่อยปกดำและพงษาวดารบางตอนมีพระราชประวัติพระเจ้าตากสินส่วนหนึ่งด้วย
ชื่อผู้แต่ง คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล
ชื่อเรื่อง วันมหาวิปโยคกับศิริราช
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ไทยเขษม
ปีที่พิมพ์ ๒๕๑๗
จำนวนหน้า ๑๐๒ หน้า
หนังสือ วันมหาวิปโยคกับศิริราช เป็นหนังสือที่บันทึกเหตุการณ์เรื่องราวเกี่ยวกับบทบาทของโรงพยาบาลศิริราชที่เกิดขึ้นจริงๆ ในวันมหาวิปโยค ๑๔-๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๖ และเป็นความรู้สึกจริงๆ ของผู้เขียนที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น พร้อมกับภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือนี้เพื่อสมทบทุนในการตีพิมพ์สารศิริราช ซึ่งเป็นหนังสือวารสารทางการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
แผ่นดินเผารูปพระสงฆ์สามองค์อุ้มบาตร พบจากการดำเนินงานทางโบราณคดีที่เมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี อาจเป็นหลักฐานที่เก่าที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการประดิษฐานพระพุทธศาสนาในดินแดนไทย เนื่องจากรูปแบบการครองจีวรของภาพพระภิกษุบนแผ่นดินเผา เป็นแบบห่มคลุม ริ้วจีวรมีขนาดใหญ่ คล้ายกับการครองจีวรของพระพุทธรูปศิลปะอินเดียแบบอมราวดี ซึ่งกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๙ – ๑๐ (ประมาณ ๑,๖๐๐ – ๑,๗๐๐ ปีมาแล้ว) สันนิษฐานว่าเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นในท้องถิ่น มิได้เป็นการนำเข้ามาจากภายนอก เนื่องจากทำด้วยดินเผาที่มีส่วนผสมของดินดิบ และแกลบค่อนข้างหยาบ ประกอบกับประติมากรรมนี้มีแผ่นหลังซึ่งน่าจะใช้ประดับติดเข้ากับผนังของศาสนสถาน
อนึ่ง ภายในเมืองโบราณอู่ทองยังพบชิ้นส่วนประติมากรรมปูนปั้นประดับศาสนสถานแสดงภาพระพุทธรูปประทับ นั่งขัดสมาธิอย่างหลวมๆ เหนือขนดนาค ซึ่งนักวิชาการบางท่านกำหนดอายุจากรูปแบบศิลปกรรมว่าได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดีเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการค้นพบโบราณสถานหรือโบราณวัตถุที่สร้างขึ้นในท้องถิ่น และมีรูปแบบศิลปกรรมร่วมสมัยกันกับแผ่นดินเผารูปพระภิกษุสามองค์อุ้มบาตร และพระพุทธรูปเหนือขนดนาคปูนปั้นที่กล่าวไป ทำให้นักวิชาการบางท่านมีความเห็นเรื่องอายุสมัยของโบราณวัตถุดังกล่าวแตกต่างกันออกไป โดยหากเชื่อว่าโบราณวัตถุนี้ มีอายุสมัยใกล้เคียงกับศิลปะอินเดียแบบอมราวดี ก็จะนับเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ชุมชนแถบนี้ได้เปลี่ยนจากความเชื่อท้องถิ่นดั้งเดิม หันมานับถือพระพุทธศาสนา มีการสร้างรูปเคารพ รวมทั้งศาสนสถาน แสดงให้เห็นว่าระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๙ – ๑๑ พระพุทธศาสนาได้หยั่งรากลง ณ บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย และเป็นที่ยอมรับในหมู่ชนพื้นเมืองแล้ว โดยมีเมืองโบราณอู่ทองเป็นศูนย์กลางสำคัญของการประดิษฐานพระพุทธศาสนาในระยะแรกเริ่ม
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. ศิลปะทวารวดี ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด, ๒๕๕๒.
ผาสุข อินทราวุธ. ทวารวดี : การศึกษาเชิงวิเคราะห์จากหลักฐานทางโบราณคดี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อักษรสมัย,๒๕๔๒.
พนมบุตร จันทรโชติ และคณะ. นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง และเรื่องราวสุวรรณภูมิ. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ๒๕๕๐.
พระพุทธรูปปางโปรดมหิสสรเทพบุตร
รัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕ หรือประมาณ ๑๐๐ ปีมาแล้ว
ทองเหลืองปิดทองคำเปลว
ขนาด สูง ๓๘.๕ เซนติเมตร ฐานกว้าง ๑๖.๕ เซนติเมตร
พระพุทธรูปประทับยืนบนเศียรมหิสสรเทวะทรงโคนนทิ สร้างขึ้นตามเรื่องราวครั้งพระพุทธเจ้าโปรดสั่งสอนมหิสสรเทพบุตร หรือมหิสสรเทวะ ครั้งนั้นมหิสสรเทพบุตรได้ท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธองค์เนื่องจากไม่พอใจเหล่าเทวดาที่ไปเคารพพระพุทธเจ้า โดยจำแลงซ่อนกายไว้ทว่าพระพุทธองค์ทรงทราบได้ทันทีว่ามหิสสรเทพบุตรอยู่ที่ใด และเมื่อถึงคราวพระพุทธองค์ซ่อนกาย ปรากฏว่ามหิสสรเทพบุตรไม่ทราบว่าพระพุทธเจ้าซ่อนกายพระองค์อยู่ใกล้กับพระนลาฏ (หน้าผาก) ของตน และเมื่อมหิสสรเทพบุตรหาไม่พบจึงจำนน จากนั้นพระพุทธเจ้าตรัสเทศนาธรรมโปรดมหิสสรเทพบุตรจนบรรลุธรรมและตั้งปณิธานขอเป็นพระสัพพัญญู เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มหิสสรเทพบุตรได้เนรมิตรพุทธปฏิมา แล้วอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วิหารบนเขาไกรลาส โดยมีหมู่ลิงเป็นผู้ดูแลมหาวิหาร ในขณะอัญเชิญพระปฏิมานั้น มหิสสรเทพบุตรได้อัญเชิญโดยยกเทินไว้เหนือเศียร
เรื่องราวของมหิสสรเทพบุตรได้รับการกล่าวถึงใน คัมภีร์หมวดโลกศาสตร์ โดยเฉพาะฝ่ายเถรวาทที่ปรากฏในประเทศไทย เช่น คัมภีร์โลกบัญญัติ โลกสัณฐานโชตรคัณฐี ไตรภูมิโลกวินิจฉยกถา ฯลฯ โดยพรรณนาลักษณะของมหิสสรเทพบุตร หรือมหิสสรเทวะให้คล้ายคลึงกับพระอิศวร (พระศิวะ) ในศาสนาพราหมณ์ฮินดู ว่า มีมเหสีชื่ออุมาเทวี มีบุตรชื่อขันธกุมาร ทรงโคชื่อนนทิ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากพระพุทธรูปปางโปรดมหิสสรเทพบุตรนี้ ว่าทรงโคนนทิอยู่ โคนนทินั้นคือพาหนะประจำองค์ของพระศิวะ
ปัจจุบันพระพุทธรูปปางโปรดมหิสสรเทพบุตร จัดแสดงในห้องประวัติศาสตร์ธนบุรี – รัตนโกสินทร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ค้นคว้าโดย นายภานุพันธ์ ศิริสอน
นักศึกษาฝึกงาน สาขาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
ขอเชิญชม
นิทรรศการออนไลน์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงกับพระราชกรณียกิจด้านการสาธารณสุขและสังคมสงเคราะห์”
https://virtual-ex.web.app/
ตลอดเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔
ผ่านทาง facebook หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช https://www.facebook.com/narama9 และที่ เว็บไซต์ http://www.finearts.go.th/narama9
โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญร่วมกิจกรรม "๑๑๑ ปี ปิยมหาราชรำลึก" เพื่อน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ อาคารถาวรวัตถุ (ตึกแดง) ถนนหน้าพระธาตุ กรุงเทพฯ เนื่องในวันปิยมหาราช ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ กำหนด จัดกิจกรรม "๑๑๑ ปี ปิยมหาราชรำลึก" ณ อาคารถาวรวัตถุ (ตึกแดง) ประกอบด้วย การจัดแสดงชุดเครื่องโต๊ะ พร้อมทั้งการบรรยายให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องลายคราม ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ การเสวนา เรื่อง “แนวคิดในการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษตู้ลายทอง เหรียญที่ระลึกในรัชกาลสมเด็จพระปิยมหาราช และชุดเครื่องโต๊ะ” (จำกัดผู้เข้าร่วมจำนวน ๔๐ ท่านที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า) ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. และการแสดงดนตรีจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook Live และ YouTube Live ของสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร National Library of Thailand พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้สร้างอาคารถาวรวัตถุขึ้น เพื่อใช้เป็น อาคารประกอบเนื่องในการพระเมรุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้เป็นสถานที่ตั้งหอพระสมุดสำหรับพระนคร ซึ่งพัฒนามาเป็นหอสมุดแห่งชาติ กระทั่งพุทธศักราช ๒๕๔๐ ได้ปรับปรุงอาคารถาวรวัตถุเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงสถาปนาถาวรวัตถุสถานแห่งนี้ ปัจจุบันจัดแสดง นิทรรศการ เรื่อง “ตู้ลายทอง” และ “เหรียญที่ระลึกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระปิยมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้พระราชทานความสุขและความเจริญ ก้าวหน้าแก่ชาติไทยอเนกประการ อีกทั้งส่งเสริมให้ตระหนักถึงคุณค่าในการอนุรักษ์ เผยแพร่ภูมิปัญญางานช่างไทย รวมถึงศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองจากเหรียญที่ระลึกอันเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์สำคัญในอดีต นอกจากนี้ กรมศิลปากรได้อัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลอง พระองค์เต็มยศจอมพล ขนาดเท่าพระองค์จริง พิมพ์จำลองจากพระบรมรูปหล่อสำริดในปราสาทพระเทพบิดร มาประดิษฐานให้สักการะ โดยพระบรมรูปองค์นี้เคยประดิษฐานในบุษบกมุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทสำหรับ ให้ราษฎรสดับปกรณ์อุทิศถวายพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณในงานพระบรมศพ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม "๑๑๑ ปี ปิยมหาราชรำลึก" และชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง “ตู้ลายทอง” และ “เหรียญที่ระลึกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ อาคารถาวรวัตถุ (ตึกแดง) ถนนหน้าพระธาตุ กรุงเทพฯ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยอีกพระองค์หนึ่ง ที่คนไทยเคารพศรัทธาต่อเนื่องมายาวนานหลายศตวรรต โดยเฉพาะจันทบุรี หัวเมืองชายทะเลตะวันออก ซึ่งตามพงศาวดารได้บันทึกว่าเป็นเมืองที่พระองค์ทรงเลือกที่มาสะสมเสบียงพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ เรือรบ 100 ลำ และเหล่าทหารกล้า เพื่อออกไปกอบกู้อยุธยา จนมีชัยชนะเหนือพม่าในที่สุด จากที่กล่าวมา จังหวัดจันทบุรีจึงได้มีแนวทางก่อสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ บริเวณทุ่งนาเชย แต่ด้วยงบประมาณมีจำกัด คณะกรรมการดำเนินการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงมีดำริที่จะสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นที่ระลึก อีกทั้งเพื่อนำเงินรายได้นี้นำไปสมทบเป็นค่าก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ได้ดำเนินการมาหลายปียังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นใน พ.ศ.2517 จึงได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้น ในส่วนของเอกสารจดหมายเหตุไม่ได้ระบุว่าจำนวนเท่าไร ในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใด้จัดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2517 ณ พระอุโบสถวัดพลับ ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายบุญช่วย ศรีสารคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และในพิธีอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนั้น มีพระเถราจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องพุทธคุณทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัดมากมาย มาร่วมนั่งปรก โดยเฉพาะในส่วนของภาคตะวันออก ได้แก่ -หลวงพ่อทอง วัดเกาะแก้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา -หลวงพ่อเหมือน วัดกำแพง จังหวัดชลบุรี -หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก จังหวัดระยอง -หลวงพ่อกี๋ วัดแหลมมะขาม จังหวัดตราด -หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน จังหวัดตราด -พระพิศาลธรรมคุณ วัดบูรพาพิทยาราม จังหวัดจันทบุรี -หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จังหวัดจันทบุรี -หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี และต่อมาในวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2524พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผสกนิกรในจังหวัดจันทบุรีและผู้ที่มาเยี่ยมเยือนสักการะ ส่วนเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นสร้างอนุสาวรีย์นั้น ผู้เขียนทราบมาว่าในขณะนี้เป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายาก และมีราคาสูงพอประมาณเลยทีเดียว-------------------------------------------------------ผู้เขียน : สุมลฑริกาญจณ์ มายะรังสี นักจดหมายเหตุชำนาญการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี-------------------------------------------------------/// อ้างอิง หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี. จบ1.1.1.6/49 เอกสารชุดจังหวัดจันทบุรี ส่วนแผนกมหาดไทย. เรื่องพิธีพุทธาภิเษกเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (13 – 28 ธันวาคม 2517)
ชื่อเรื่อง ธมฺมปทวณฺณา ธมฺมปทฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (ธมฺมปทฺธ)
สพ.บ. 376/9กประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 54 หน้า กว้าง 4 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง ธรรมเทศนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด-ลองรัก ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เลขทะเบียน : นพ.บ.159/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 56 หน้า ; 4.5 x 51.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 95 (22-26) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์(8หมื่น) --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.39/1-7
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)