ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,794 รายการ

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ขอเผยแพร่ องค์ความรู้ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ เรื่อง "ตุ๊กตาสังคโลก : ผลิตภัณฑ์สังคโลกเมืองศรีสัชนาลัย"     ราวพุทธศตวรรษที่ 19 การผลิตภาชนะดินเผาประเภทเครื่องเคลือบได้เกิดขึ้นแล้วที่เมืองศรีสัชนาลัย โดยมีพัฒนาการสืบทอดมาจากการผลิตเครื่องถ้วยเชลียงที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 17 บริเวณแหล่งเตาบ้านเกาะน้อย เมืองศรีสัชนาลัย     ต้นพุทธศตวรรษที่ 20 สมัยราชวงศ์หมิงของจีน ได้มีการควบคุมการค้าอย่างเข้มงวด จึงลดปริมาณการส่งออกเครื่องปั้นดินเผาจีน ทำให้เครื่องสังคโลกจากแหล่งเตาเมืองศรีสัชนาลัยกลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ สามารถครองตลาดการค้าแทนประเทศจีนช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 20-21 โดยมีอยุธยาเป็นศูนย์กลางการค้าเพื่อการส่งออกไปยังดินแดนต่าง ๆ ซึ่งพบเครื่องสังคโลกจำนวนมากมายตามแหล่งเรืออับปางในอ่าวไทย เช่น แหล่งเรือคราม เรือพัทยา เรือประแสร์ เรือสัตหีบ เรือเกาะกระดาด โดยช่วงระยะเวลาดังกล่าว สังคโลกได้แพร่กระจายไปยังเมืองใหญ่ และเมืองท่าที่สำคัญในแหลมมลายู และพบกระจายไปสู่ดินแดนในเอเชียอาคเนย์ เช่น เมืองซานตา อานา (Santa Ana) , เมืองกาลาตากัน (Calatagan) ประเทศฟิลิปปินส์ และเมืองจัมบิ (Jambi) ประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น    ความนิยมจากตลาดการค้าทำให้อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสังคโลกเมืองศรีสัชนาลัย มีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีการพัฒนาทางเทคโนโลยี วิธีการผลิต และรูปทรงของผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ซึ่งไม่จำกัดเพียงแค่ภาชนะใช้สอยเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการผลิตเพื่อตอบสนองการใช้งานประเภทอื่น ๆ เช่น ผลิตเพื่อเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม และผลิตเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึง การผลิตตุ๊กตาสำหรับการละเล่น ซึ่งเป็นตุ๊กตาขนาดเล็กเป็นรูปบุคคลในกิริยาต่าง ๆ แต่เดิมเชื่อว่า เป็นตุ๊กตาเสียกบาลที่ใช้ในพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากส่วนหัวมักหักหายไป แต่จากการศึกษาทางโบราณคดีสันนิษฐานว่า เป็นของเล่น หรือตุ๊กตาของคนโบราณ ซึ่งเทคนิคการผลิต หรือลักษณะของตุ๊กตามีขนาดเล็ก และเปราะ จึงทำให้ส่วนคอแตกหักได้ง่าย      ลักษณะโดยทั่วไปของตุ๊กตาสังคโลกที่พบ จะทำด้วยดินเผาเคลือบสีเขียว และสีน้ำตาล มีทั้งรูปผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก และรูปสัตว์นานาชนิด โดยตุ๊กตาถ้าเป็นรูปผู้หญิงจะไว้ผมมวยค่อนไปเบื้องหลัง ไม่ใส่เสื้อ หรือห่มผ้า อยู่ในท่าทางนั่งพับเพียบ หรือนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง และอยู่ในกิริยาต่าง ๆ เช่น ตุ๊กตาแม่อุ้มลูกที่กำลังนอนกินนมบนตัก หรือลูกกำลังยืนกินนม ส่วนตุ๊กตารูปผู้ชายจะเกล้าผมไว้บนหัว อยู่ในกิริยาหลากหลายรูปแบบ เช่น นั่งถือขลุ่ย นั่งอุ้มไก่ ส่วนตุ๊กตารูปสัตว์ที่พบเช่น ตุ๊กตารูปวัว ควาย และไก่ เป็นต้น ทั้งนี้ ตุ๊กตาเหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมของผู้คนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี เอกสารอ้างอิงปริวรรต ธรรมาปรีชากร. เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ เครื่องปั้นดินเผาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาการ แรงบันดาลใจ และการตรวจพิสูจน์. ม.ป.ท. ๒๕๕๘.



         ภาพปูนปั้นรูปกลุ่มอัศวิน หรือนักรบ          - ทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ๑๔)          - ปูนปั้น          - ขนาด กว้าง ๗๘.๕ ซม. ยาว ๙๒.๕ ซม. หนา ๕ ซม.          เดิมประดับที่ฐานลานประทักษิณด้านทิศใต้ ของเจดีย์จุลประโทน อ.เมืองนครปฐ จ.นครปฐม ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ ภาพปูนปั้นภาพกลุ่มบุคคล ๕ – ๖ คน นั่งจับเข่าเรียงแถวกัน ๒ แถว บุคคลในภาพทั้งหมดแต่งกายคล้ายๆกัน ไว้ผมลอนยาวประบ่า แสกกลาง สวมตุ้มหู และพกอาวุธซึ่งมีลักษณะคล้ายมีดดาบยาวปลายตัด ลักษณะการแต่งกายนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการแต่งกายของอัศวิน หรือนักรบในสมัยทวารวดี   แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ https://smartmuseum-v2.finearts.go.th/3d_object/?obj=40052   ที่มา: https://smartmuseum.finearts.go.th


            พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี เชิญชมนิทรรศการหมุนเวียน "Object of the Month" วัตถุจากคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี ประจำเดือน "มิถุนายน" เชิญพบกับ "กล้องยาสูบ" พืชพันธ์ุ และ ควันไฟ พาย้อนไปรู้จักกับประวัติศาสตร์การสูบบุหรี่ในอดีต             โบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ได้แก่ "กล้องยาสูบ" แบบศิลปะล้านนา วัสดุทำจากดินเผา ขนาดยาว ๑๐.๕ เซนติเมตร ปากกว้าง ๓ เซนติเมตร มีลักษณะการตกแต่งลวดลายเป็นรูปหัวช้างอ้าปาก ชูงวง ลำตัว/ฐาน และก้านส่วนที่ ๑ เป็นลายขีดเส้นตรง ก้านส่วนที่ ๒ เป็นเส้นขีดแนวขวางและเส้นไข่ปลา มีห่วงสำหรับร้อยเชือก ซึ่งได้มาจากการรับมอบบริจาค เมื่อพุทธศักราช ๒๕๓๓ นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการสูบ กล้องยาสูบที่พบในพื้นที่ใกล้เคียงประเทศไทย กล้องยาสูบที่พบในประเทศไทย กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวัฒนธรรมการใช้กล้องยาสูบ และวัฒนธรรมการสูบในปัจจุบัน             ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ กับ "กล้องยาสูบ" พืชพันธ์ุ และ ควันไฟ ได้ในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร  ณ ห้องโถงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๕๕๓ ๕๓๓๐ หรือเฟสบุ๊ก: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี Suphanburi National Museum


             สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช เปิดหอพระสิหิงค์ให้ประชาชนเข้าสักการบูชาพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. โดยไม่เว้นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗               หอพระสิหิงค์ เป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองนครศรีธรรมราช กำหนดอายุในสมัยอยุธยา (ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑) หอพระสิหิงค์ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมเป็นหอพระตั้งอยู่บริเวณจวนเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช “พระพุทธสิหิงค์” ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของบ้านเมือง ซึ่งในประเทศไทยปรากฏพระพุทธสิหิงค์เพียง ๓ องค์ องค์แรกประดิษฐานในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร องค์ที่ ๒ ประดิษฐานในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และองค์ที่ ๓ ประดิษฐานในหอพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดพระนครศรีธรรมราช                ผู้สนใจสามารถเข้าสักการบูชาพระพุทธสิหิงค์ ณ หอพระสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดทุกวัน โดยเริ่มให้บริการในวันหยุดตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๗ เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช โทร. ๐ ๗๕๓๕ ๖๔๕๘


เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงวางศิลาฤกษ์เขื่อนคลองท่าด่าน โครงการเขื่อนคลองท่าด่านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกรหัสเอกสาร ภ หจภ (๓) กษ ๑.๑/๗๐



            หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง ขอเชิญน้องๆ ที่มีอายุระหว่าง 6 - 12 ปี เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ "ฝึกสมาธิ สร้างจินตนาการไปกับศิลปะผ้ามัดย้อมและการพับกระดาษ" พบกับกิจกรรม  การทำผ้ามัดย้อม  เล่านิทานจากเล่มโปรด และพับกระดาษจากนิทานที่ชอบ ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 - 15.00 น. ณ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง สามารถร่วมกิจกรรมได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 06 4229 2540 (พี่เชฟ) หรือ 08 5474 5150 (พี่ปุ๋ย)


แบบฟอร์มคําขอรับใบอนุญาตซ่อมแซมเอกสารจดหมายเหตุนอกสังกัดกรมศิลปากร


ชื่อเรื่อง : คู่มือสนทนาภาษาเยอรมัน โดย R.S.F.หัวเรื่อง : ภาษาเยอรมัน -- บทสนทนาและวลี คำค้น : ภาษาเยอรมัน รายละเอียด : - ผู้แต่ง : R.S.Fแหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรีหน่วยงานที่รับผิดชอบ : สำนักส่งเสริมภาษาและศิลปกรรมปีที่พิมพ์ : 2483วันที่เผยแพร่ : 4 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ : - รูปแบบ : PDFภาษา : ภาษาไทยประเภททรัพยากร : หนังสือหายากตัวบ่งชี้ : -รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้อยู่ในตำราชุดภาษาเยอรมันเรียนด้วยตนเอง ซึ่งจัดสอนตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน แผนกภาษาเยอรมัน สำหรับชาวต่างประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาด้วยตนเองเบื้องต้น มีภาษาไทยกำกับทั้งอ่าน และแปล เนื้อหาประกอบด้วย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาเยอรมัน เช่น ตัวอักษร สระ พยัญชนะคู่ การนับเลข และประโยคสนทนาที่ควรเรียนรู้เลขทะเบียน : -เลขหมู่ : 438.3495911           อ585ค



องค์ความรู้เรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า ผู้เรียบเรียง : นางภควรรณ คุณากรวงศ์ บรรณารักษ์ชำนาญการ



ชื่อเรื่อง                    สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี, ธาตุกถา-มหาปฏฐาน) อย.บ.                       100/7กหมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               32 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 55 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก                   เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด  ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ.                       130/3ประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               46 หน้า กว้าง 5.2 ซม. ยาว 54.5 ซม..หัวเรื่อง                     พระอภิธรรมปิฎก                              พระธาตุกถาบทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน  ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


black ribbon.