ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,777 รายการ
หลักศิลาสลักรูปพระรัตนตรัยแบบมหายาน
วัสดุหินทราย
อายุสมัย พุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ (๘๐๐ - ๙๐๐ ปีมาแล้ว)
ประวัติ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประทาน เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๕
หลักศิลารูปทรงคล้ายใบกลีบบัว สลักภาพบุคคลทั้งสี่ด้าน โดยด้านหน้าสลักรูปพระพุทธรูปสมาธินาคปรก เบื้องล่างบริเวณขนดนาคมีเทพี ๒ กรทรงยืนอยู่บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย ด้านหลังหลักศิลาสลักรูปพระโพธิสัตว์ ๘ กร ตอนล่างสลักรูปพระนางปรัชญาปารมิตาภาค ๕ เศียร ๑๐ กร ด้านข้างหลักศิลาทางขวาของพระพุทธรูปสลักรูปพระโพธิ์สัตว์วัชรปาณี ตอนล่างสลักรูปเทพี ๔ กร (สันนิษฐานว่าเป็นพระนางสุชาดา) ด้านข้างหลักศิลาทางซ้ายของพระพุทธรูปสลักรูปพระอวโลกิเตศวร ๔ กร ตอนล่างเป็นรูปเทพี ๒ กร สันนิษฐานว่าเป็นรูปพระนางตารา
โบราณวัตถุชิ้นนี้ เป็นหนึ่งในวัตถุจัดแสดงในนิทรรศการพิเศษ “อารยธรรมวิวัฒน์ ลพบุรี – ศรีรามเทพนคร” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ซึ่งจัดแสดงจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยภาพสลักรูปบุคคลที่ปรากฏบนหลักศิลาแต่ละด้านนั้น เป็นการสื่อถึงรูปเคารพในศาสนาพุทธนิกายมหายานที่มีความหมายต่างกันออกไป รูปเคารพที่สำคัญ ได้แก่
*พระศากยมุนี ตามความเชื่อในพุทธศาสนามหายานนั้นเป็นพระพุทธเจ้าในร่างมนุษย์ (ภาคนิรมาณกาย) ที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ในห้วงเวลาปัจจุบันและดับขันธ์ไปแล้ว
*พระโพธิ์สัตว์อวโลกิเตศวร หรือพระโพธิสัตว์ปัทมปาณี เป็นโพธิสัตว์ที่ดูแลโลกมนุษย์ในห้วงเวลาปัจจุบัน (ยุคของพระพุทธเจ้าศากยมุนี) ถือกำเนิดจากพระอมิตาภะ ดังนั้นจึงพบรูปพระอมิตาภะประทับนั่งสมาธิอยู่บนมวยผมของพระอวโลกิเตศวรเสมอ ลักษณะสำคัญของพระองค์คือ การแสดงออกถึงการเป็นนักบวชด้วยการเกล้าพระเกศาขึ้นเป็นมวย พระกรถือดอกบัว ลูกประคำหรือหม้อน้ำ เป็นต้น
*พระนางปรัชญาปารมิตา เป็นเทพีแห่งความรู้และความเฉลียวฉลาด วัตถุสำคัญที่มักปรากฏในพระกรของนางปรัชญาปารมิตาคือดอกบัวและคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตร
*พระโพธิสัตว์วัชรปาณี เป็นโพธิสัตว์ที่มีบทบาทถึงการรบกับอสูร และเป็นเทพที่ควบคุมฝน เนื่องจากเครื่องหมายของพระองค์คือ วัชระ หรือ สายฟ้า ในงานประติมากรรมมักสร้างพระโพธิสัตว์วัชรปาณีที่แสดงอาการดุร้าย พระกรถืออาวุธต่าง ๆ โดยมีอาวุธสำคัญคือ วัชระและกระดิ่ง
-ด้านหน้าของหลักศิลาสลักรูปพระพุทธรูปสมาธินาคปรก ซึ่งเป็นรูปแทนของ “พระศากยมุนี” มีพุทธลักษณะคือ พระรัศมีทรงดอกบัวตูม อุษณีษะนูน เม็ดพระศกใหญ่ พระพักตร์สี่เหลี่ยม บริเวณพระนลาฎปรากฏเส้นขอบไรพระศก พระเนตรมองตรง พระนาสิกใหญ่ พระโอษฐ์แย้มพระสรวลเล็กน้อย ส่วนพระวรกายไม่ปรากฏการครองจีวร ประทับขัดสมาธิราบบนขนดนาคซ้อนกันสามชั้น เหนือพระเศียรพระพุทธรูปเป็นพังพานนาคเจ็ดเศียร และเศียรนาคประดับลายกนก พระนาคปรกองค์นี้ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนเบื้องล่างบริเวณกึ่งกลางขนดนาคสลักรูปเทพี ๒ กรประทับยืนบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย แต่รายละเอียดของส่วนพระพักตร์และวัตถุในพระกรนั้นลบเลือนไปมาก
-ด้านหลังของหลักศิลาสลักรูปพระโพธิสัตว์ ๘ กร ทรงยืนอยู่บนฐานบัวหงาย มีลักษณะสำคัญคือส่วนพระเศียรเกล้าพระเกศาขึ้นเป็นมวย แต่เดิมบริเวณด้านหน้ามวยผมคงจะสลักรูปพระอมิตาภะไว้แต่สภาพปัจจุบันชำรุดสึกกร่อน ส่วนพระกรสองข้างด้านหน้าหันฝ่าพระหัตถ์ออกนอกพระวรกาย อีกหกพระกรทรงถือวัตถุต่าง ๆ แม้สภาพปัจจุบันจะเลือนลางไปค่อนข้างมากแต่ยังพอสังเกตได้ เช่น หม้อน้ำ คัมภีร์ และดอกบัว เป็นต้น ถัดขึ้นไปด้านบนทั้งสองข้างเป็นรูปพระพุทธรูปแสดงอิริยาบถสมาธิอยู่ภายในซุ้ม สันนิษฐานว่าน่าจะสื่อถึงพระอมิตาภะที่แสดงธยานมุทรา (ปางสมาธิ) ส่วนด้านล่างเป็นรูปพระนางปรัชญาปารมิตาภาค ๕ เศียร ๑๐ กร ซึ่งคล้ายกับรูปพระนางปรัชญาปารมิตาบนหลักสถูปศิลาจาก กบาลสเร ยายยิน (Kbal Sre Yeay Yin) ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานกีเมต์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ว่ารูปพระนางปรัชญาปารมิตาที่ปรากฏส่วนของวัตถุในพระกรจะลบเลือนไปมากแล้ว แต่ยังคงเห็นวัตถุสำคัญในพระกร เช่น ดอกบัว เป็นต้น
-ด้านข้างหลักศิลาทางซ้ายของพระพุทธรูปสลักรูปพระอวโลกิเตศวร ๔ กร มีลักษณะสำคัญคือวัตถุในพระกรทั้งสี่ ได้แก่ พระกรขวาบนถือลูกประคำ พระกรขวาล่างรายละเอียดค่อนข้างเลือนแต่สันนิษฐานว่าเดิมน่าจะถือดอกบัว พระกรซ้ายบนถือคัมภีร์และพระกรซ้ายล่างถือหม้อน้ำ ส่วนตอนล่างเป็นรูปเทพี ๒ กร ทรงยืน พระกรขวายกขึ้นมาแสดงอภัยมุทรา (ปางประทานอภัย) พระกรซ้ายถือดอกบัว สันนิษฐานว่าเป็นรูปพระนางตาราซึ่งเป็นชายาของพระอวโลกิเตศวร
-ด้านข้างหลักศิลาทางขวาของพระพุทธรูปสลักรูปพระโพธิสัตว์วัชรปาณี มีลักษณะสำคัญคือสีพระพักตร์ดุร้าย ดวงตามองตรงเบิกโพลง ถือวัชระและกระดิ่ง นุ่งผ้าสั้นมีชายผ้าหน้านางซ้อนกันสองชั้น ตอนล่างสลักรูปสตรี ๔ กร สันนิษฐานว่าเป็นพระนางสุชาดา ชายาของพระโพธิ์สัตว์วัชรปาณี มีลักษณะสำคัญคือ พระกรขวาบนถือดอกบัว พระกรซ้ายบนถือคัมภีร์ ส่วนพระกรทั้งสองข้างด้านหน้าแสดงอภัยมุทรา (ปางประทานอภัย) สองพระหัตถ์
ค้นคว้าและเรียบเรียง : นายพนมกร นวเสลา
บรรณานุกรม
กรมศิลปากร. เทวสตรี คติพุทธ พราหมณ์ และความเชื่อในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๕๘.อรุณศักดิ์ กิ่งมณี. ทิพยนิยายจากปราสาทหิน. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๕๕.
ชื่อเรื่อง ชมฺพูปติสุตฺต (ชมพูบดี)
สพ.บ. 271/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 82 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง ธรรมเทศนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม-ธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทย-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดบ้านหมี่ ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
จังหวัดกำแพงเพชรมีแหล่งโบราณคดีซึ่งปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มชนและพัฒนาการทางวัฒนธรรมนับแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยกำหนดอายุราว ๖,๐๐๐ – ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีเหล่านี้ ได้แก่ แหล่งโบราณคดีเขากะล่อน บ้านหาดชะอม ตำบลพุทรา อำเภอขาณุวรลักษบุรี ตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำปิงไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๒ กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองโบราณดงแม่นางเมืองขึ้นมาทางเหนือประมาณ ๒๐ กิโลเมตร สำรวจพบเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ หลักฐานทางโบราณคดีในแหล่ง อาทิ ขวานหินขัด หินลับ ภาชนะดินเผา ลูกปัดหิน กำไลหิน ลูกกลิ้งดินเผา ลูกกระสุนดินเผา เป็นต้น แหล่งโบราณคดีเขากะล่อนนี้น่าจะมีอายุอยู่ในราวสมัยหินใหม่ กำหนดอายุประมาณ ๖,๐๐๐ – ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีมอเสือตบ บ้านคลองเมือง ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร ลักษณะของแหล่งโบราณคดีเป็นเนินดิน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง อยู่นอกเขตคูน้ำคันดินเมืองโบราณบ้านคลองเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๕๐๐ – ๘๐๐ เมตร โดยพบหลักฐานทางโบราณคดี อาทิ ขวานหินขัด ภาชนะดินเผา แวดินเผา ลูกกระสุนดินเผา ผนังเตาถลุงโลหะ เครื่องมือเหล็ก ลูกปัดหินคาร์เนเลียน ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบเศษตะกรันหรือขี้แร่เป็นจำนวนมาก สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า เป็นตะกรันของแร่ทองแดงและเหล็กซึ่งน่าจะมาจากภูเขาสูงทางด้านทิศตะวันตก มีอายุอยู่ในราวสมัยหินใหม่ กำหนดอายุประมาณ ๖,๐๐๐ – ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีบ้านโค้งวิไล อำเภอคลองขลุง เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยโลหะ หลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ได้แก่ ภาชนะดินเผา แวดินเผา เครื่องมือเหล็ก เป็นต้น อายุประมาณ ๒,๐๐๐ – ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีถ้ำเขียว อำเภอเมืองกำแพงเพชร จากการสำรวจพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ขวานหินขัด ลูกปัดหิน ลูกปัดแก้ว เป็นต้น แหล่งโบราณคดีถ้ำเขียวนี้เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยโลหะ หรือกำหนดอายุราว ๔,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีบ้านคลองลาน อำเภอคลองลาน หลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ได้แก่ ภาชนะดินเผา แวดินเผา ฯลฯ แหล่งโบราณคดีบ้านคลองลาน เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยโลหะ หรือกำหนดอายุราว ๔,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว แหล่งโบราณคดีบ้านคอปล้อง และบ้านชายเคือง ตำบลระหาน อำเภอบึงสามัคคี แหล่งโบราณคดีดังกล่าว สำรวจพบเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๖ จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ เช่น หินดุ แวดินเผา ลูกกระสุนดินเผา ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน เครื่องมือสำริด เครื่องมือเหล็ก ฯลฯ สันนิษฐานว่า เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยโลหะ หรือกำหนดอายุราว ๔,๐๐๐ - ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว /// แหล่งโบราณคดีบ้านหนองกอง ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร พบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ลูกปัดหินคาร์เนเลียน ลูกปัดหินโมรา เป็นต้น สันนิษฐานว่า เป็นแหล่งโบราณคดีในสมัยโลหะ ซึ่งรู้จักการใช้เครื่องมือเหล็ก หรือกำหนดอายุประมาณ ๒,๐๐๐ – ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว---------------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร---------------------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง - กรมศิลปากร. นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร. กรุงเทพฯ : รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗), ๒๕๕๗.
ล้อวัวล้อ ในสารพจนานุกรมล้านนาให้ความหมายว่า เกวียน วงล้อ แหว้นล้อ ภาคกลางเรียก เกวียนวัว ภาคอีสานเรียก ระแทะหรือเกียน ซึ่งเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่งในการเดินทาง มีสองล้อ เทียมด้วยวัวหรือควาย ใช้บรรจุพืชผลต่างๆ เรียก ล้อวัวหรือล้อควาย ประกอบไปด้วยล้อไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่จำนวนสองล้อ ล้อจะหมุนรอบเพลาที่มีดุมเป็นแกนกลาง โดยมีกำหรือโครงสร้างล้ออยู่ในกรอบไม้ฝักมะขาม และมีแม่แปลกเป็นไม้ประกบบังคับให้ล้อเกวียนหมุน ตัวเกวียนมีลักษณะโปร่งๆ มีไม้ซี่เล็กๆ เรียงคล้ายกรง ด้านล่างตั้งอยู่บนไม้คาน ในอดีตใช้เป็นพาหนะสำหรับบรรทุกข้าวเปลือกและพืชผลต่างๆ อาจะมีประทุนหรือกูบไว้กันฝนกันแดดด้วยภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่. ภาพชุด การประกวดภาพเก่าเกี่ยวกับจังหวัดลำพูน (เจ้าของภาพ อนงค์ศิลป์ ด่านไพบูลย์)อ้างอิง๑. มณี พยอมยงค์. ๒๕๔๖. สารพจนานุกรมล้านนา. เชียงใหม่: ดาวคอมพิวกราฟิก.๒. พิชชา ทองขลิบ. ๒๕๖๔. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (Online). https://www.sac.or.th/.../trad.../th/equipment-detail.php.... สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔.
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.36/1-3
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
นิพฺพานสุตฺต (นิพฺพานสูตร)
ชบ.บ.75/1-1
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
เลขทะเบียน : นพ.บ.299/1กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 14 หน้า ; 5 x 56.5 ซ.ม. : ทองทึบ-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 123 (275-286) ผูก 1ก (2565)หัวเรื่อง : เล่มหลวง--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม