ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,783 รายการ

ชื่อเรื่อง :  บทละคอนเรื่องเงาะป่า   ผู้แต่ง : พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   พิมพ์ครั้งที่ :  ๑๒   ปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๔   สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์กรมสรรพสามิต   หมายเหตุ :  พิมพ์เป็นอนุสรณ์งานฌาปนกิจศพ นางรักษ์วรัยการ ( จร  โคบุตร )                  พระราชนิพนธ์เรื่องเงาะป่านี้เป็นวรรณคดีเอกเรื่องหนึ่งมีแนวเรื่องและฉากเหตุการณ์แตกต่างจากเรื่องอื่นๆแปลกออกไปและยังให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับบุคคลประเภทที่เราเรียกว่า "เงาะ" ตลอดจนภาษาของเขา ทั้งสำนวนกลอนก็ไพเราะลึกซึ้ง ผู้อ่านจะได้รับทั้งความรู้ ความเพลิดเพลินและความรู้สึกสะเทือนใจตามลักษณะของวรรณคดีเอกครบถ้วน


กรมวิชชาการ. อภิธานภาษาพื้นเมือง มณฑลพายัพ. พระนคร: กรมวิชชาการ, 2474.รวบรวมศัพท์พื้นเมืองตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวกรุงผู้ที่จะเดินทางไปยังย่านนั้นๆ และใช้เป็นคู่มือสำหรับการสนทนา โดยเรียงลำดับตามตัวอักษร ก-ฮ  อภิธานเล่มนี้ พระยาวิจิตรธรรม ปริวัต (คำ  พรหมกสิกร) เป็นผู้ตรวจแก้495.913 ว546อ


รวบรวมภาพ พระราชกรณียกิจ ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2536 - 2537ผู้แต่ง                                สำนักงานเสิมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลโรงพิมพ์                            เซเว่น พริ้นติ้ง กรุ๊ปปีที่พิมพ์                            2537 ภาษา                                ไทย - อังกฤษ รูปแบบ                              pdf เลขทะเบียน                       หช.จบ. 209 จบ (ร)


สังคโลกรูปบุคคลนั่งแบกเด็กไว้บนบ่า   ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๒๐ พบที่เตาบ้านเกาะน้อย นอกเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย   สังคโลกรูปบุคคลนั่งแบกเด็กไว้บนบ่าซ้ายติดอยู่กับชามลายกลีบดอกไม้ เคลือบสีเขียวอ่อน บริเวณบนศีรษะรูปบุคคลมีลักษณะเป็นรู อาจใช้สำหรับใส่ของเหลว ซึ่งการที่รูปคนอุ้มเด็กติดอยู่ภายในชาม คงเกิดจากความผิดพลาดระหว่างกรรมวิธีการเผา   สังคโลกชนิดเคลือบสีเขียว เป็นเครื่องสังคโลกที่ได้รับการพัฒนาในระดับสูงสุดในด้านของวัตถุดิบ เทคโนโลยีและความชำนาญในเชิงช่างของชาวศรีสัชนาลัย ที่รู้จักกันดีในนามเครื่องเคลือบแบบเซลาดอน และมีแหล่งผลิตที่สำคัญบริเวณแหล่วเตาบ้านเกาะน้อย ศรีสัชนาลัย โดยได้รับการพัฒนาในระดับที่สามารถส่งเป็นสินค้าออกไปยังต่างประเทศได้   ที่มาของข้อมูล : แผ่นพับนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง   ข้อมูลนำชมโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ผ่าน QR code จัดทำโดย นางสาวสาธิตา วรรณพิรุณ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ชั้นปีที่ ๔ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา ตาก โครงการสหกิจศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๓




นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์


เลขทะเบียน : นพ.บ.65/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  32 หน้า ; 4 x 56.6 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 42 (6-13) ผูก 3 (2564)หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (ธัมสังคิณี-มหาปัฏฐาน)--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.95/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  50 หน้า ; 4 x 50 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 56 (135-139) ผูก 2 (2564)หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฎฐกถา ขุทฺทกนิกายฎฺฐกถา (ภูริทัตตะ) --เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อผู้แต่ง             เมธาธิบดี , พระยา ชื่อเรื่อง              พระพุทธศาสนา ครั้งที่พิมพ์           - สถานที่พิมพ์        พระนคร สำนักพิมพ์          โรงพิมพ์พระจันทร์ ปีที่พิมพ์             ๒๔๙๙ จำนวนหน้า         ๘๘  หน้า หมายเหตุ           บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ มหาอำมาตย์โท พระยาเมธาธิบดี (สารท  สุทธเสถียร) ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙                        พระพุทธศาสนาเป็นหนังที่แต่งไว้ดี ได้ค้นคว้าพินิจพิเคราะห์ข้อความทั้งสกสมัย ปรสมัย แล้วเขียนลงด้วยโวหาร อาจารย์ สมัยใหม่ เป็นความชัดเจนไม่น่าเบื่อหน่าย เยียงส่วนมากของหนังสือธรรมในภาษาไทยนับเป็นเรืองดีอันหนึ่ง


          ทับหลังของปราสาทสด๊กก๊อกธม ทับหลังชิ้นที่โดดเด่น ชิ้นที่ ๒ ที่ซุ้มประตูรองทิศใต้ด้านใน บริเวณทับหลังสลักภาพบุคคลประทับนั่งในท่ามหาราชลีลาในกรอบสามเหลี่ยมบนฐานบัว ใต้รูปบุคคลมีวยาลสองตัวยืนย่อขาและหันหน้าออกทั้งสองด้านวยาลทั้งสองตัวใช้มือจับท่อนพวงมาลัยที่คายออกมา ท่อนพวงมาลัยโค้งขึ้นจนเกือบกึ่งกลางของทับหลัง และตกลงมาที่ปลายทับหลังทั้งสองด้าน ด้านล่างของท่อนพวงมาลัยประดับลายใบไม้ม้วน ด้านบนของท่อนพวงมาลัยประดับลายใบไม้------------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม สระแก้ว https://www.facebook.com/104122911122606/posts/251522756382620/?d=n------------------------------------------------------เผยแพร่ข้อมูล : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร


องค์ความรู้ เรื่อง "หลักฐานศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในภาคใต้ของประเทศไทย ตอน ไศวนิกาย : พระศิวะ" ค้นคว้า/เรียบเรียงโดย น.ส.สุขกมล วงศ์สวรรค์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช------------------------------------------------เผยแพร่ข้อมูล : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร------------------------------------------------


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (เทศนาสังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.2/1-5 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง : ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร ชื่อผู้แต่ง : สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี ปีที่พิมพ์ : 2505 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : ธนะการพิมพ์ จำนวนหน้า : 172 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเรื่องไทยสถาปนากษัตริย์เขมร เป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอธิบายประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกสถาปนาราชบุตรบุญธรรมขึ้นเป็นกษัตริย์เขมรเมื่อปีพุทธศักราช 2337 แล้วต่อมาถึงพุทธศักราช 2406 - 2410 ชนชาติมหาอำนาจชาติหนึ่งมารบได้ประเทศญวนแล้วบีบบังคับเอาประเทศเขมรเป็นเมืองขึ้น โดยอ้างว่าประเทศเขมรเคยเป็นเมืองขึ้นประเทศญวนมาก่อน บังคับให้กษัตริย์เขมรคือองค์สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษามหาอุปราชทำสัญญากับแม่ทัพใหญ่ของประเทศนั้น องค์สมเด็จพระนโรดมฯ ได้กราบบังคมทูลชี้แจงว่าจำต้องลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2506 เพราะถูกบีบบังคับแต่ยังมีความจงรักภักดีเช่นเดิม และสุดท้ายไทยก็ได้เสียประเทศเขมรไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2410



black ribbon.