ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,761 รายการ

ชื่อเรื่อง                         ธมฺมบทวณฺณนา ธมฺมบทฏฺฐกถา (ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา) อย.บ.                            243/13 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                   58 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 54 ซม. หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับชาดทึบ ไม้ประกับธรรมดา


“๑๕๐ ปี วันประสูติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี”         ด้วยวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๖ ตรงกับวันคล้ายวันประสูติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ครบรอบ ๑๕๐ พรรษา และในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ระหว่างวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๖ ถึง ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ โดยกำหนดใช้ชื่องาน “๑๕๐ ปี วันประสูติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี”         ในการนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม และองค์กรต่าง ๆ ร่วมใช้ตราสัญลักษณ์ ในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องในวาระครบรอบ ๑๕๐ ปี วันประสูติ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติให้เป็นที่รับรู้แก่ประชาชนโดยทั่วกัน


           วันพุธที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลอง ในโอกาสครบรอบ ๑๑๒ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร             พุทธศักราช ๒๕๖๖ ในโอกาสครบรอบ ๑๑๒ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร กรมศิลปากรได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลอง และเหรียญพระพุทธสิหิงค์ เพื่อหารายได้นำเข้ากองทุนโบราณคดี ใช้ในการบูรณะโบราณสถาน และกิจการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ การจัด สร้างครั้งนี้ ออกแบบโดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ด้วยฝีมืออันงดงาม ถือเป็นการจัดสร้างครั้งแรก และจัดสร้างจำนวนจำกัด พิเศษคือใต้ฐานของพระพุทธสิหิงค์จำลองทุกองค์ได้บรรจุไม้ช่อฟ้าเดิมซึ่งเป็นส่วนสูงสุดของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และเทียนชัยเข้าพรรษา ซึ่งถวายองค์พระพุทธสิหิงค์เพื่อเป็นนิมิตแห่งความสว่างไสวของชีวิต           ในการนี้ กรมศิลปากรจะจัดพิธีมหาพุทธาภิเษก ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดย พระเถรานุเถระ ผู้ได้รับความเคารพนับถือจากประชาชน จำนวน ๙ รูป ในวันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๔๙ น. เป็นวันมหาสิทธิโชค และตรงกับราชาแห่งฤกษ์ โดยจะอัญเชิญวัตถุมงคลที่จัดสร้างทั้งหมดไว้ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นเวลา ๑ ราตรี เพื่อซึมซับความศักดิ์สิทธิ์ จากองค์พระพุทธสิหิงค์ และถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง            กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจสั่งจองพระพุทธสิหิงค์ พระกริ่งพระพุทธสิหิงค์ และเหรียญพระพุทธสิหิงค์ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัสดุ กลุ่มคลังและพัสดุ สำนักบริหารกลาง ชั้น ๓ อาคารกรมศิลปากร เทเวศร์ โทร. ๐ ๒๑๒๖ ๖๕๕๙ หรือ facebook page พระพิฆเนศวร ๑๐๘ ปี กรมศิลปากร


          กรมศิลปากรเปิดตำนาน ความเชื่อ ความศรัทธาเรื่องพญานาค กับรายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน ตำนาน - ความเชื่อ “คติพญานาค” รับปีมะโรง โดยวิทยากรมากความสามารถ อาทิ พิมพ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจริญ นักอักษรศาสตร์ทรงคุณวุฒิ (ภาษา เอกสารและหนังสือ), ชญานิน นุ้ยสินธุ์ นักอักษรศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ และยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดำเนินรายการโดย สิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ - ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร.....งานนี้สายมูตัวจริงห้ามพลาด....!!!


#องค์ความรู้อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเมืองชากังราวในจารึกสมัยสุโขทัย..เมืองชากังราว เป็นเมืองโบราณที่ปรากฏชื่อตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยพบชื่อเมืองนี้ในศิลาจารึกเขาสุมนกูฏ (พ.ศ. 1911) จัดเป็นหลักฐานชั้นต้นหรือปฐมภูมิ (primary source) อันเป็นหลักฐานที่ทำขึ้นร่วมสมัยกับเหตุการณ์นั้น ๆ.ศิลาจารึกเขาสุมนกูฏ (พ.ศ. 1911) เขียนเป็นภาษาไทยด้วยตัวอักษรไทยแบบสุโขทัย ศิลาจารึกหลักนี้เดิมอยู่เขาสุมนกูฏ (เขาพระบาทใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย) ซึ่งพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 1911) ได้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเมื่อ พ.ศ. 1902 เขาสุมนกูฏหรือสมนตกูฏ เป็นชื่อภูเขาสำคัญที่มีรอยพระพุทธบาทในศรีลังกา คือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “อาดัมสปีก” (Adam’s Peak) นั้น เขาสุมนกูฏในเมืองสุโขทัยคงเอาชื่อลังกามาสมมติเรียก สันนิษฐานว่าศิลาจารึกหลักนี้สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1902 – 1915 .จารึกหลักนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงนำมาแต่เขาพระบาทใหญ่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. 2451 ขนาดสูง 90 เซนติเมตร กว้าง 31 เซนติเมตร ด้านข้าง 15 เซนติเมตร โดยจารึกหลักนี้มีจำนวน 4 ด้าน กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้.จารึกด้านที่ 1 เป็นคำสรรเสริญรอยพระพุทธบาทที่พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ได้ประดิษฐานไว้บนยอดเขาสุมนกูฏ.จารึกด้านที่ 2 เป็นเรื่องทำการสักการะบูชา ในเวลาที่แห่รอยพระพุทธบาทขึ้นบนเขาสุมนกูฏ.จารึกด้านที่ 3 เรื่องราวที่พออ่านได้คือพระยาศรีสุริยพงศ์มหาธรรมราชาธิราช พระโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ได้เสด็จไปปราบปรามหัวเมืองข้างทิศตะวันออกถึงแม่น้ำสัก แล้วเสด็จกลับมาประทับอยู่เมืองสองแคว (เมืองพิษณุโลก) และกล่าวถึงอาณาเขตเมืองสุโขทัยที่แผ่ออกไปในแผ่นดินนั้น.จารึกด้านที่ 4 ปรากฏชื่อเมือง “ชากังราว” ในบรรทัดที่ 6 – 21 ความว่า.“...มีทั้งชาวสระหลวงสองแควปากยม พระบางชากังราว สุพรรณภาว นครพระชุม เบื้องใ—เมืองพานเมือง--เมืองราด เมืองสะค้า เมืองลุมบาจายเป็นบริพาร จึงขึ้นมานบพระบาท ลักษณอันตนหากประดิษฐานแต่ก่อนเหนือจอมเขาสุมนกูฏนี้ จึงจารจารึกอันนี้ไว้อีกโสด”..ข้อความในจารึกกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) เสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทบนเขาสุมนกูฏพร้อมกับชาวเมืองต่าง ๆ รวมถึงเมืองชากังราว ได้แก่ สระหลวงสองแคว ปากยม พระบาง สุพรรณภาว นครพระชุม เมืองพาน เมืองราด เมืองสะค้า เมืองลุมบาจาย ซึ่งเป็นเมืองบริวารของอาณาจักรสุโขทัยในขณะนั้น และโปรดให้จารึกศิลาหลักนี้ โดยข้อความไม่ได้ระบุตำแหน่งเมืองชากังราวไว้แน่ชัดหรือแสดงการเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองใดทราบเพียงว่าเมืองชากังราวและเมืองที่กล่าวถึงเป็นกลุ่มเมืองในการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยเท่านั้น...เอกสารอ้างอิงประมวลกฎหมายรัชกาลที่ 1 จุลศักราช 1166 พิมพ์ตามฉะบับหลวง ตรา 3 ดวง เล่ม 2 (2482). มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง.มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. (2554). นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา.สำนักหอสมุดแห่งชาติ. (2548). ประชุมจารึก ภาคที่ 8 จารึกสุโขทัย. กรมศิลปากร.


ขอเชิญลงทะเบียนเข้าร่วมการเสวนาทางวิชาการ “ทศวรรษแห่งการค้นพบใหม่” ระหว่างวันที่ 3 – 8 เมษายน 2567 ณ ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันพุธที่ 3 เมษายน 2567 1. 10 สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/mpqBO . 2. คติการวางศิลาฤกษ์ปราสาทหินวัฒนธรรมเขมรโบราณ เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/coFL0 . 3. ผ่าโลกใต้พิภพเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ : หลักฐานโบราณคดีเส้นทางรถไฟฟ้า เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/JVZ07 . วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567 4. ทศวรรษแห่งการค้นพบเรือโบราณพนมสุรินทร์ : เรือโบราณที่เก่าที่สุดในประเทศไทย เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/dxEIX . 5.การค้นพบภาพเขียนสี และแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์ครั้งแรกในภาคกลางของประเทศไทย ถ้ำเลียงผา เขาผาแรด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/alrNO . 6. แหล่งโบราณคดีโนนหนองหอ จังหวัดมุกดาหาร แหล่งผลิตกลองมโหระทึกสำคัญในประเทศไทย เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/jkFHT .วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 7. แผนผังสุสานโปรเตสแตนท์ เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/nKS46 . 8. ข้อมูลใหม่จากวรรณกรรมอำพราง เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/ABN47 . 9. หีบพระสมุดคลังความรู้มหัศจรรย์จากอดีต เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gksD4 . วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 10. สุดยอดการค้นพบใหม่ด้านโลหะวิทยาในแหล่งโบราณคดีภาคเหนือของประเทศไทย เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gFHPX . 11. ข้อมูลใหม่ด้านโบราณคดีของเมืองโบราณยะรัง เมืองโบราณสำคัญที่ปลายด้ามขวาน เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/bvwOZ . 12. ภาพ STENCIL ลวดลายที่พบใหม่ ณ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศวร เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/DEIO1 . วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 13. 70 แหล่งศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ค้นพบใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/empKS . 14. ถ้ำหมอเขียว การค้นพบใหม่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภาคใต้ของประเทศไทย เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/qGHU9 . 15. การค้นพบหลักฐานใหม่สมัยทวารวดีในรอบทศวรรษ เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/fgksJ . วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2567 16. การค้นพบแหล่งโบราณคดีสีบัวทอง แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ในจังหวัดอ่างทอง เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/zAHV0 . 17. โลงไม้กับวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พิษณุโลก เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gjlY0 . 18. เปิดโลกใบใหม่เที่ยวพิพิธภัณฑ์ไทยง่ายเพียงปลายนิ้ว เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/hxzV0 ***สำหรับหัวข้อที่มียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเต็มจำนวนแล้ว ท่านสามารถลงทะเบียนหน้างานได้ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ที่นั่งและของว่าง สำหรับผู้ลงทะเบียนในระบบก่อน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ***




สำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี (เวลา 10.30-12.00 น.) จำนวน 140 คนวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๓๐ น. คณะสภาเด็กและเยาวชนจิตอาสา จากเทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จำนวน ๑๔๐ คน เข้าเยี่ยมชม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีนางสาวณัฏฐกานต์ มิ่งขวัญ ตำแหน่งเจ้าพนักงานพิพิธภัณฑ์ชำนาญงาน เป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้ พร้อมทั้งทำกิจกรรม WorkShop สาธิตการทำ ธุงใยมงคล โดยกลุ่มธุงใยลาวเวียงบ้านวังยายฉิม


สำนักสารนิเทศและสื่อสารองค์กร สภากาชาดไทย จ.กรุงเทพฯ (เวลา 09.30-11.35 น.) จำนวน 26 คน



องค์ความรู้ เรื่อง เรือ ผู้เรียบเรียง : นางสาวกาญจนา ศรีเหรา บรรณารักษ์


โบราณสถานวัดโรง  บ้านโรง หมู่ที่ ๕ ตำบลโรง อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา                วัดโรงเป็นวัดโบราณที่มีข้อมูลอยู่ในเอกสารโบราณสมัยอยุธยา คือ แผนที่เมืองนครศรีธรรมราช จ.ศ.๙๗๗ (พ.ศ.๒๑๕๘) ซึ่งเป็นแผนที่ภาพการกัลปนาวัดบนคาบสมุทรสทิงพระในสมัยอยุธยา ปรากฏชื่อของวัดโรงว่า “วัดโรงน้อยขึ้นพะโคะ”           ปัจจุบันวัดโรง เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มทางด้านตะวันออกของทะเลสาบสงขลา โดยมีคลองโรงไหลผ่านวัดทางด้านตะวันตก ทั้งนี้ในหนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักรได้ระบุไว้ว่า วัดโรงสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๐๐ โดยเมื่อแรกเริ่มตั้งอยู่ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันไปทางตะวันออก ชาวบ้านเรียกชื่อเดิมกันว่า“วัดบน” ซึ่งสมัยก่อนนิยมการคมนาคมทางน้ำโดยใช้เรือเพื่อการสัญจรไปมาหาสู่กัน จึงได้สร้างโรงเก็บเรือไว้ ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านมาตั้งถิ่นฐานโดยปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่ริมคลองกันมากขึ้น ทำให้วัดต้องย้ายมาสร้างเสนาสนะของวัดในที่ตั้งใหม่ที่อยู่ริมคลองด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับชุมชนที่ขยายตัวขึ้น โดยตั้งวัดขึ้นที่โรงเก็บเรือ จึงได้ชื่อว่า " วัดโรง" ทั้งนี้วัดโรงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณ พ.ศ.๒๓๗๐ และได้ผูกพัทธสีมาประมาณปี พ.ศ.๒๔๓๐ สิ่งสำคัญ ๑. อุโบสถ ตั้งอยู่บริเวณลานกลางวัด สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๑ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบท้องถิ่นภาคใต้ผสมอิทธิพลการตกแต่งแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ ๓ และดัดแปลงตามแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๔ - ๕ (พ.ศ. ๒๔๔๐ - ๒๔๖๔) อุโบสถเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อด้วยอิฐถือปูน หลังคาอุโบสถเป็นทรงจั่วชั้นเดียวมุงด้วยกระเบื้องดินเผาท้องถิ่น โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยที่ทำจากปูนปั้นลงรักปิดทอง ๒. ศาลาการเปรียญ ชาวบ้านมักเรียกว่า ศาลาโรงธรรม สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นอาคารโถงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โครงสร้างอาคารสร้างด้วยไม้และคอนกรีต หลังคาทรงจั่วมุงด้วยกระเบื้องดินเผาท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ระบุว่าซ่อมแซมศาลาการเปรียญ พ.ศ. ๒๔๘๙ ปรากฏอยู่ด้วยเช่นกัน อายุสมัย พุทธศตวรรษที่   ๒๓ – ๒๕ การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน         กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานวัดโรง ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๔๖ ง วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗ หน้า ๑๕ พื้นที่โบราณสถานประมาณ ๓ งาน ๑๘.๕๒ ตารางวา    เรียบเรียง นางสาวชนาธิป ไชยานุกิจ นักโบราณคดีชำนาญการ


การขออนุญาตจําลองพระพุทธรูปสําคัญ


สภาพธรรมที่เป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้ 37  ประการ หมายถึง การอบรมวิปัสสนาภาวนา เริ่มตั้งแต่ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8


black ribbon.