ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
กลองมโหระทึก เป็นกลองชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ ซึ่งมีอายุประมาณ 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว ทำด้วยโลหะผสมระหว่างทองแดงกับดีบุกเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะรูปร่างคล้ายทรงกระบอก ส่วนหน้ากลองและฐานนั้นผายออก มีด้านหนึ่งเป็นแผ่นเรียบซึ่งเป็นส่วนของหน้ากลอง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นส่วนฐานเป็นรูปกรวยและกลวง กลองมโหระทึกนั้นมีกำเนิดในแถบเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จัดอยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมดองซอน ต่อมาได้รับเอาวิธีการหลอมโลหะมาจากจีน ในส่วนของประเทศไทยนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดว่า ได้มีการผลิตและใช้กลองมโหระทึกมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในยุคโลหะเป็นต้นมา รูปแบบกลองมโหระทึก แบ่งออกได้เป็น 4 แบบ คือ - แบบที่ 1 เป็นกลองที่มีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ กลองทำเป็นรูปคล้ายกลองรำมะนา ส่วนที่อยู่เหนือหูมีลักษณะโค้งผายและปิดทึบ ถัดมาเป็นส่วนตรงกลางมีรูปเป็นทรงกระบอก ส่วนล่างสุดโค้งผายออกและกลวงคล้ายบาตรคว่ำ กลองแบบนี้เป็นกลองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และทางใต้ของประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่พบแบบที่ 1 - แบบที่ 2 เป็นกลองขนาดปานกลาง ส่วนของหน้ากลองมีลักษณะโค้งมากขึ้นจนดูคล้ายทรงกระบอก ส่วนหูจะมี 2 อัน คู่กัน กลองแบบนี้พวกมวงในประเทศเวียดนามยังคงใช้กันอยู่ - แบบที่ 3 เป็นกลองขนาดกลาง ส่วนตอนกลางและตอนล่างจะกลมกลืนกันจนแยกไม่ค่อยออก ส่วนหน้ากลองจะมีรูปกบประกอบเกาะแน่นอยู่หลายตัว กลองแบบนี้เรียกว่า แบบยางหรือแบบกระเหรี่ยง เพราะชาวกระเหรี่ยงยังคงใช้กันจนทุกวันนี้ แบบที่ 4 เป็นแบบที่คล้ายทรงกระบอกเตี้ยและมีขนาดเล็ก บางครั้งเรียกว่า แบบจีนและมีลวดลายตกแต่งเป็นลายจีน มีหูจับ 2 คู่ ปัจจุบันยังคงพบและมีการใช้กันตามวัดในประเทศจีน ลวดลายประดับ 1. ลายดวงดาวหรือดวงอาทิตย์ เป็นลายที่สำคัญที่สุด พบบนหน้ากลองมโหระทึกตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงรุ่นหลังสุด สัญนิษฐานว่ากลุ่มชนที่สร้างกลองมโหระทึกอาจนับถือหรือเคารพบูชาดวงอาทิตย์ 2. ลายนกบิน เป็นลายรูปสัตว์ที่สำคัญลายหนึ่งที่พบบนหน้ากลองมโหระทึก ลายนกบินที่พบส่วนใหญ่จะมีหลายตัวตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป สัญนิษฐานว่าลายนกบินนั้นอาจหมายถึงนกส่งวิญญาณตามความเชื่อของกลุ่มชน คือใช้ในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย 3. ประติมากรรมลอยตัวรูปกบ ความสำคัญของกบบนขอบหน้ากลองสันนิษฐานว่าเนื่องจากกบเป็นสัตว์ที่คนในสังคมเกษตรคุ้นเคย เป็นสัตว์ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ คาดว่ากลองมโหระทึกแบบนี้น่าจะเกี่ยวกับการเกษตรกรรมวัตถุประสงค์ในการผลิตกลองมโหระทึก มีผู้ศึกษาเกี่ยวกับกลองมโหระทึก โดยศึกษาจากชนเผ่าที่ยังใช้กลองมโหระทึกกันอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงตีความจากลวดลายที่ปรากฏบนหน้ากลอง และจากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่ากลองมโหระทึกนั้นผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น - ใช้เป็นสิ่งแสดงถึงฐานะและความมั่งมี พวกเหลียว (Liao) ในประเทศจีน ถือว่าผู้ใดมีกลองใบใหญ่จะได้รับการยกย่องให้เป็นทู-ลาว (Tu-lao) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องนับถือจากคนในชุมชน - ใช้เป็นสิ่งสำคัญในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตาย พบว่าพวกกระเหรี่ยงในพม่าและภาคตะวันตกของไทยใช้กลองมโหระทึกในการตีเพื่อเรียกวิญญานของผู้ตาย โดยเชื่อว่าผู้ตายนั้นจะแปลงร่างเป็นนก และใช้กลองมโหระทึกเป็นแท่นวางเครื่องสังเวย นอกจากนี้ยังมีการตีความลายนกบินทวนเข็มนาฬิกาที่ปรากฏบนหน้ากลองว่า อาจเป็นกลองที่ใช้ในพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย และในทางตอนใต้ของจีน ที่สุสานสือไจ้ซาน มณฑลหยุนหนาน ได้มีการขุดพบกลองมโหระทึกในพื้นที่สุสานด้วย - ใช้ตีเป็นสัญญาณในคราวออกศึกสงคราม ที่ปาเซมะ(Pasemah) เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการค้นพบประติมากรรมนักรบมีกลองมโหระทึกขนาดกลางแขวนอยู่ด้านหลัง - ใช้ตีในการประกอบพิธีกรรมขอฝน พบว่ากลองมโหระทึกบางใบมีการทำรูปสัตว์ต่าง เช่น กบ หอยทาก ช้าง จักจั่น ติดบนหน้ากลอง ซึ่งเชื่อว่าสัตว์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับฝน ในทางตอนใต้ของจีนเชื่อว่า กบ และคางคกจะบอกเหตุล่วงหน้าว่าฝนจะตก - ใช้ในการประกอบพิธีกรรมอื่นๆ เช่น ในประเทศพม่าจะมีการตีกลองมโหระทึกในงานประเพณีของกลุ่มชนพื้นเมือง ส่วนในประเทศไทยพบว่ามีการตีกลองในงานมงคล และใช้ตีในงานพระราชพิธี อย่างเช่น พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ภาพ : มโหระทึกและฆ้องชัยในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ กลองมโหระทึกที่พบจากชุมชนโบราณเขาสามแก้ว พบในบริเวณเขาสามแก้ว ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด (ฐาน) ศก.18.5 ซม. สูง 16.5 ซม. (หน้ากลอง) ศก.15.5 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์หรือดาว 8 แฉก ล้อมรอบด้วยลายนกกระสาบินทวนเข็มนาฬิกา ประวัติ : พบที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2540 ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด กว้าง 76 ซม. สูง 56 ซม. (หน้ากลอง) ศก.68.5 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์หรือดาว 12 แฉก คั่นด้วยลายหางนกยูงล้อมรอบด้วยลายนกกระสาบินทวนเข็มนาฬิกาและลายเรขาคณิต ด้านข้างกลองตอนบนมีหู 4 หู โดยรอบ ตัวกลองตกแต่งลายวงกลมมีจุดตรงกลางมีเส้นทแยงในแนวตั้ง ประวัติ : พบที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2540 ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด สูง 51 ซม. ศก.หน้ากลอง 69 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : ทรงกลมสีเทาดำ หน้ากลองแบนราบ ตัวกลองป่องออกแล้วคอดเข้า ก่อนผายออกเป็นฐานมีหูสี่คู่ ภายในกรวง หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์สิบสี่แฉกล้อมรอบด้วยลายเส้น ลายจุด ลายนกยูงเหลียวหลังจำนวนหกตัว ลายปีกใบพัดจำนวนสิบสองตัว และลายนกกระสาสิบหกตัว บินทวนเข็มนาฬิกา ด้านข้างกลองตกแต่งลายเส้น ลายวงกลม ลายเส้นทแยง ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าและลายวงกลมขนาดเล็ก ประวัติ : พบในคลองท่าตะเภา ตำบลบางลึก (เขาสามแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2554 ภาพ : ลวดลายบนหน้ากลองมโหระทึก-----------------------------------------ข้อมูลโดย : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร -----------------------------------------เอกสารอ้างอิงภาพลายเส้นจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เขมชาติ เทพไชย. "รายงานการสำรวจและศึกษากลองมโหระทึก ณ บ้านยวนเฒ่า ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช" ใน ศิลปากร ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๔, หน้า ๘๒-๙๘. เมธินี จิระวัฒนา. กลองมโหระทึกในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๔๒. สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๑. ระบบทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร
นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีพายุพัดเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบกับฝนที่ตกตามฤดูกาลตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนต่อเนื่องมายังเดือนตุลาคม ๒๕๖๓ ส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำในเขื่อนต่าง ๆ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลและลำน้ำสาขามีปริมาณน้ำที่กักเก็บในเขื่อนจำนวนมาก กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาและควบคุมระดับน้ำ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่สองฝั่งของลำน้ำ น้ำที่ระบายออกจากเขื่อนดังกล่าวจะไหลมารวมกันที่แม่น้ำมูลในเขตอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำมูลบริเวณอำเภอพิมายสูงขึ้น สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา จึงได้ดำเนินการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดกับโบราณสถานเมืองพิมายจากน้ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ โดยกรมชลประทานได้สร้างประตูระบายน้ำและกำแพงป้องกันตลิ่งเพื่อป้องกัน ควบคุม และระบายน้ำ มีการเสริมกระสอบทรายบริเวณประตูระบายน้ำที่อยู่ด้านหน้าประตูเมืองทิศเหนือที่ติดกับลำน้ำ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูล โดยก่อเรียงกระสอบทรายเป็นแนวไปตามตลิ่ง ปิดประตูและช่องทางต่าง ๆ ที่น้ำจะเอ่อเข้ามาได้ ทำการซ่อมแซมประตูระบายน้ำให้มีความมั่นคงแข็งแรงเพื่อปิดช่องทางที่น้ำจะเข้าสู่คูเมือง เคลื่อนย้ายโบราณวัตถุบางส่วนและเอกสารทางราชการไปเก็บรักษาในชั้นบนของอาคาร รวมทั้งประสานข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมชลประทาน หน่วยงานทหาร และอำเภอพิมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับโบราณสถานและโบราณวัตถุที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์
ผู้แต่ง : -
ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 3
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2499
หมายเหตุ : ในงานฉลองและทำบุญอายุครบ 60 ปี พระภิกษุ กิตฺตินาโค นายพันตำรวจเอก พระราชญาติรักษา (ประกอบ บุนนาค) ผู้ว่าราชการภาค 7 วันที่ 26 ตุลาคม 2499
ว่าด้วยลัทธิศานาต่าง ๆพระเป็นเจ้าทั้ง 3 ประวัติเสนาพราหมณ์ ประวัติพระพุทธศาสนา ประวัติศาสนาคริสต์ ประวัติศาสนาอิสลาม เรื่องพระพุทธศาสนาประดิษฐานในประเทศพม่า ประเทศจีน และลังกาทวีป
ชื่อเรื่อง มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มหาชนก)สพ.บ. 180/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 44 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 58.4 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับทองทึบ ภาษาบาลี-ไทย ได้รับบริจาคมาจากวัดพยัคฆาราม ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง นิพฺพานสุตฺต (นิพพานสูตร)สพ.บ. 223/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 59 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธศาสนา พุทธประวัติ
บทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทสนา (เทศนาสังคิณี-มหาปัฏฐาน)สพ.บ. 160/3ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 30 หน้า กว้าง 4.5 ซ.ม. ยาว 56.5 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธศาสนา บทสวดมนต์ พระอภิธรรม
บทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
อธิบดีกรมศิลปากรลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ และโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กรมศิลปากร ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงคลังเก็บโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ และโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการพัฒนา ปรับปรุงคลังเก็บโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จำนวน ๒ หลัง คือ อาคาร หลังที่ ๓ และหลังที่ ๔ ของหมู่ตึกพระประเทียบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานงวดสุดท้าย นอกจากนี้ ยังได้ ตรวจติดตามการดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่งตั้งอยู่ ในเขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่ง องค์นี้ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๒๓๑ ส่วนด้านหลังของพระที่นั่งเป็นที่ประทับของข้าราชบริพารฝ่ายใน ซึ่งบริเวณด้านหลังพระที่นั่งมีสภาพป่ารกร้างมานาน จนได้รับการพัฒนาพื้นที่และพบหลักฐานแนวอาคารเก่าที่สร้างซ้อนทับกันถึง ๒ สมัย คือ แนวอาคารเดิมสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเป็นแนวเดียวกันกับอาคาร ด้านหน้าของพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ จำนวนกว่า ๒๐ หลัง ที่มีลักษณะเด่น คือ กลุ่มอาคาร ๔ หลัง ตั้งอยู่บนฐานไพทีเดียวกัน และแนวอาคารที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเรือนจำประจำจังหวัดขึ้น ก่อนย้ายออกไปยังพื้นที่ปัจจุบันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ จากการขุดแต่งพบหลักฐานต่าง ๆ เช่น กระเบื้องเชิงชายลายเทพพนม กระเบื้องเชิงชายลายพันธุ์พฤกษา การวางแนวท่อน้ำดินเผาภายในอาคารที่สลับซับซ้อน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้า ทางด้านระบบประปาในสมัยอยุธยา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้หากได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา ในอนาคตจะ เป็นพื้นที่แหล่งการเรียนรู้และท่องเที่ยวใหม่ของประชาชนชาวลพบุรีและประชาชนทั่วไป เพราะนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ประวัติศาสตร์แล้วยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้โดยเฉพาะพืชสมุนไพรที่ปรากฏอยู่ในพื้นที่มากกว่า ๒๐ ชนิด และหลายชนิดอยู่ในตำรายาพระโอสถพระนารายณ์ รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับจังหวัดได้เป็นอย่างดีภาพ : หมู่ตึกพระประเทียบ
ตำรายาแผนโบราณ ชบ.ส. ๘๕
เจ้าอาวาสวัดเทพประสาท ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
มอบให้หอสมุด ๒๓ ก.ค. ๒๕๓๕
เอกสารโบราณ (สมุดไทย)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
เลขที่ ชบ.บ.29/1-6
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)