ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,793 รายการ

รสวรรณคดี ชื่อผู้แต่ง           พระยาอนุมานราชธน, พระยา. ชื่อเรื่อง            รสวรรณคดี ครั้งที่พิมพ์        พิมพ์ครั้งที่ ๑ สถานที่พิมพ์      กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์        โรงพิมพ์เจริญธรรม ปีที่พิมพ์           ๒๕๑๕ จำนวนหน้า       ๓๕๔ หน้า : ภาพประกอบ หมายเหตุ         -                              เรื่องต่างๆ ท่านเสถียรโกเศศ ได้เขียนขึ้นต่างเวลากัน ตีพิมพ์ในหนังสือต่างๆ กัน แจกจ่ายในบางโอกาส ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้มีผู้รวบรวมนำไปจำหน่าย  ซึ่งน่าสนใจยิ่ง สำหรับผู้ใฝ่ใจหาความรู้ให้กว้างขวาง


ชื่อเรื่อง : นิบาตชาดก เล่ม 7 จตุกกนิบาต ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2468 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ไท จำนวนหน้า : 288 หน้าสาระสังเขป : นิบาตชาดก เล่ม 7 จตุกกนิบาตเล่มนี้ จัดพิมพ์พระราชทานในงานพระศพ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พ.ศ. 2468 กล่าวถึงพระอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังและการกลับชาติมาเกิดของบุคคลในสมัยพุทธกาล ประกอบด้วยชาดก 50 เรื่อง เช่น เอกราชชาดก ขันติวาทิชาดก โกกาลิกชาดก ถุสชาดก เป็นต้น


  ชื่อเรื่อง           อยู่ดี มีสุข ชื่อผู้แต่ง         พระโสภณคณาภรณ์ (ระแบบ ฐิตญาโณ) พิมพ์ครั้งที่       - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพ สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์          2524 จำนวนหน้า      121  หน้า รายละเอียด                     หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมเรื่องธรรมมะ  ที่ได้เรียบเรียงไว้ในโอกาสต่างๆ “อยู่ดี มีสุข”  ซึ่งหมายความว่า  หากบุคคลสามารถดำรงตนดีตามธรรม  ปฏิบัติธรรม  สมควรแก่ธรรม คือสมควรแก่ฐานะกาล บุคคล  หน้าที่  เหตุผล  ความสุขก็จะเกิดตามสมควรแก่การประพฤติปฏิบัติ 


         ผอบหกเหลี่ยมถมปัด (เครื่องประกอบเชี่ยนหมาก)          สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕          ไม่ปรากฏที่มา          ปัจจุบันจัดแสดง ณ พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นบน) หมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          ผอบรูปทรงหกเหลี่ยม ขึ้นรูปจากโลหะทองแดงตกแต่งด้วยเทคนิคการถมปัด ปากผอบผายออกเล็กน้อย มีรูปทรงหยักโค้งคล้ายกลีบดอกไม้ ขอบปากผอบด้านนอกตกแต่งเป็นลายใบเทศบนพื้นสีแดง ตัวผอบเป็นทรงหกเหลี่ยม ผิวด้านนอกแบ่งเป็นลายช่องกระจกเขียนลายก้านต่อดอกใบเทศ เชิงผอบเป็นทรงกลมตกแต่งเป็นลายกลีบบัวคว่ำซ้อนกลีบ ภายในกลีบบัวมีลายใบเทศ ฝาผอบหยักโค้งเป็นรูปทรงคล้ายกลีบดอกไม้ (รับกับปากผอบ) ตกแต่งด้วยลายใบไม้บนพื้นสีแดง กึ่งกลางฝาเป็นจุกยอดแหลม          ผอบ หมายถึง ภาชนะสำหรับใส่ของ มีเชิง ฝาครอบมียอด มักทำด้วยโลหะหรือไม้กลึงเป็นต้น* ซึ่งผอบชิ้นนี้เป็นหนึ่งในเครื่องประกอบพานหมากถมปัด ซึ่งพระมหากษัตริย์พระราชทานถวายพระภิกษุสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ และเหตุที่ใช้โลหะทองแดงนั้น เพราะวัสดุทองกับเงินถือเป็น ๒ ใน ๑๐ วัตถุอนามาส สิ่งที่พระภิกษุไม่ควรจับตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ในพระวินัย          เครื่องถมปัด คือภาชนะทองแดงที่มีการเคลือบน้ำยาผสมกับผงที่มาจากการป่นลูกปัดสี แต่เดิมนิยมนำเข้าจากประเทศจีน ชาวตะวันตกรู้จักกันแพร่หลายในนาม “เครื่องลงยากวางตุ้ง” (Canton enamel ware) เรียกตามเมืองที่มีแหล่งผลิต เครื่องถมปัดที่ถวายพระสงฆ์นั้นนิยมลงยาสีพื้นเป็นสีเหลือง ขณะเดียวกันมีเครื่องถมปัดลงยาสีพื้นอื่น ๆ ด้วย อาทิ สีแดง สีดำ สีน้ำเงิน ภาชนะถมปัดที่ถวายพระสงฆ์มีหลายรูปแบบ ได้แก่ กระโถน กาน้ำ ฝาบาตร พานหมาก หีบหมาก กระโถนใหญ่ กระโถนเล็ก ลักจั่น** ปิ่นโต ฯลฯ      *ตามความหมายใน: ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖. หน้า ๗๙๐. . **ลักจั่น หมายถึง นํ้าเต้าหรือภาชนะดินรูปคล้ายนํ้าเต้าสำหรับบรรจุนํ้าในเวลาเดินทางอย่างที่พระธุดงค์ใช้ ตามความหมายใน: ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖. หน้า ๑๐๖๘.     อ้างอิง กรมศิลปากร. ประณีตศิลป์สยาม ณ หมู่พระวิมาน พระราชวังบวรสถานมงคล. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๖๕. ยุทธนาวรากร แสงอร่าม. โลหศิลป์ ณ พระที่นั่งปิจฉิมาภิมุข พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๖๐. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖.


เลขทะเบียน : นพ.บ.527/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 60 หน้า ; 5 x 48 ซ.ม. : รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 176  (267-279) ผูก 6 (2566)หัวเรื่อง : ลำสินไชย--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม "Night at The Museum ยลพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ" ภายใต้กิจกรรมจัดงาน ใต้ร่มพระบารมี ๒๔๑ ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๕ เมษายน ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ------------------------------------ ขอเชิญชม - ความงดงามของโบราณสถาน (วังหน้า) ที่ประทับของพระมหาอุปราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ - การจัดแสดงนิทรรศการโฉมใหม่ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร - ชมการแสดงศิลปวัฒธรรม ณ เวทีสังคีตศาลา  ------------------------------------           กิจกรรมนำชมเป็นรอบสำหรับชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยจัดนำชมในหัวข้อ "ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์" และหัวข้อ "ประณีตศิลป์ไทย" จำนวน ๓ รอบต่อวัน ได้แก่ รอบ ๑๗.๐๐ น. / รอบ ๑๘.๐๐ น. / รอบ ๑๙.๐๐ น. ผู้สนใจร่วมกิจกรรมนำชมเป็นรอบสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ ณ จุดลงทะเบียนด้านหน้าพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน (อาคารหมายเลข ๑) ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ น. ของแต่ละวัน โดยไม่รับลงทะเบียนล่วงหน้า และรับจำนวนจำกัด ----------------------------------- นอกจากนี้ ชวนมา "ช้อป ชิม ชิล" เลือกช้อปสินค้า ชิมอาหาร จากร้านค้า OTOP ชุมชน และสินค้าจากผู้ประกอบการ CPOT ชิลไปกับแสง สี เสียง ของพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน -----------------------------------  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 224 1402, 02 224 1333


เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีรับและขึ้นระวางสมโภชช้างสำคัญ ณ พลับพลาหน้าโรงพระราชพิธีช้างต้น จังหวัดเพชรบุรี (รหัสเอกสาร ฉ/ร/๖๕๑)



องค์ความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร เรื่อง “เหรียญเงินพระบรมรูป - ตราแผ่นดิน แรกเริ่มการประทับพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ไทยลงบนเหรียญกษาปณ์”


ชื่อเรื่อง: วัธนธัมไทย เรื่อง พระพุทธรูปสมัยต่างๆ ไนประเทสไทย ผู้แต่ง: บริบาล บริบาลบุรีภัณท์ปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๘๖สถานที่พิมพ์: พระนครสำนักพิมพ์: โรงพิมพ์พระจันทจำนวนหน้า: ๗๒ หน้า เนื้อหา: สำนักนายกรัถมนตรี จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่วัธนธัมของไทยในทุกสาขา อาทิ ประวัติศาสตร์ไทย พระราชสถาน การเล่นพื้นเมือง การดนตรี      ละคอนไทย สิ่งของไนพิพิธภัณฑ์ พระพุทธรูป สมุดไทย ตู้พระธัม การอาชีพ ลายผ้า ความอุดมสมบูรน์ของประเทสบ้านเมืองไทย เป็นต้น เนื่องในโอกาสงานฉลองวันชาติ พ.ศ. ๒๔๘๖ เรื่อง พระพุทธรูปสมัยต่างๆ ไนประเทสไทย เป็นเรื่องหนึ่งของหนังสือชุด "วัธนธัมไทย" โดยกรมสิลปากรได้มอบหมายให้    นายบริบาล บริบาลบุรีภัณฑ์ หัวหน้ากองโบราณคดี เป็นผู้เรียบเรียง กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการก่อเกิดพระพุทธรูปขึ้นครั้งแรก วิวัฒนาการจนเป็นศิลปกรรมของชาติไทย พระพุทธรูปและลักษณะพระพทุธรูปไนประเทสไทยสมัยต่างๆ ได้แก่ สมัยทวาราวดี สรีวิชัย ลพบุรี เชียงแสน สุโขทัย สรีอยุธยา และรัตนโกสินทร พร้อมภาพประกอบและคำอธิบาย    ซึ่งนับว่าเป็นหนังสือที่มีทรงค่าและมีประโยชน์สำหรับใช้ศึกษา ค้นคว้าข้อมูลทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของชาติไทยเลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๑๒๘๒   เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๒๘หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ (ไฟล์ดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์เท่านั้น)


โบราณสถานตึกแดง โบราณสถานตึกแดงตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ บ้านปากน้ำแหลมสิงห์ ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นอาคารหลังหนึ่งของฐานบัญชาการกองทหารฝรั่งเศสบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ที่สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๓๖ เมื่อคราวที่ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีเป็นเมืองประกัน (วิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒) ตึกแดงเป็นอาคารที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันตกและพื้นถิ่นเพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของบ้านเมืองในเขตร้อนชื้น โดยมีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียววางตัวอยู่ในแนวตะวันตก-ตะวันออก ตัวอาคารหันหน้าไปทางด้านตะวันตกออกสู่ปากอ่าวแหลมสิงห์ มีขนาดความกว้างประมาณ ๗ เมตร ยาว ๓๒ เมตร มีประตูและหน้าต่างไม้แบบบานเปิด หลังคาทรงจั่วและมีหลังคากันสาดเป็นระเบียงทางเดินโดยรอบ โครงสร้างหลังคาเหล็กมุงด้วยกระเบื้องดินเผา บริเวณหน้าบันถูกแบ่งเป็น ๒ ส่วนด้วยเสา ซึ่งภายในพื้นที่ที่แบ่งนั้น ทำเป็นซุ้มโค้งรูปครึ่งวงกลม โดยภายในซุ้มเจาะเป็นช่องระบายอากาศรูปเครื่องหมายบวก ซุ้มละ ๖ ช่อง ภายในอาคารแบ่งเป็น ๖ ห้อง พื้นเดิมทั้งภายในและระเบียงทางเดินปูด้วยกระเบื้องดินเผา ซึ่งห้องทางด้านตะวันตกปรากฏหลักฐานการเทพื้นปูนซีเมนต์ขัดมันตีเป็นเส้นตารางเลียนแบบกระเบื้องปูพื้น นอกจากนี้จากการขุดตรวจทางโบราณคดียังพบชิ้นส่วนกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาที่มีลักษณะเหมือนกันกับกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาประทับตรารูปผึ้งและตัวอักษร MARSEILLE ที่พบอยู่บนพื้นภายในห้องของตึกแดง ซึ่งกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาดังกล่าว เป็นกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาที่ผลิตโดยบริษัท Guichard Carvin et Cie ที่ผลิตขึ้นที่เมือง Marseille ประเทศฝรั่งเศส โดยใช้ตราสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าเป็นตรารูปผึ้ง ทั้งนี้ ยังพบกระเบื้องรูปแบบดังกล่าวที่ค่ายตากสิน จังหวัดจันทบุรี อีกด้วย ภายหลังจากที่กองทหารฝรั่งเศสถอนกำลังออกจากเมืองจันทบุรีแล้ว ตึกแดงถูกใช้เป็นที่พักตากอากาศสำหรับเจ้านาย ข้าราชการ และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคณะทูตและชาวฝรั่งเศสจะใช้เป็นที่พักตากอากาศ และสถานที่พักฟื้น หรือที่เรียกว่า “แซนิตอเลียม” (Sanitarium) อีกทั้งต่อมายังมีการใช้เป็นห้องสมุดประชาชนและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ตลอดจนเป็นพิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี โบราณสถานตึกแดงได้รับการบูรณะหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด เป็นการบูรณะในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยสำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี กรมศิลปากร และในปัจจุบันกรมศิลปากรได้ถ่ายโอนภารกิจการดูแล บำรุงรักษา และบริหารจัดการอาคารโบราณสถานตึกแดงให้แก่เทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานตึกแดง อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๒ ตอนที่ ๓๑ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๒๘ พื้นที่โบราณสถานประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๑๑.๘๗ ตารางวา เอกสารอ้างอิง คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ. (๒๕๔๒). วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดจันทบุรี. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการฯ. ตรี อมาตยกุล. (๒๕๑๔). ประวัติเมืองจันทบุรี. ใน กรมศิลปากร (บ.ก.), ชุมนุมเรื่องจันทบุรี (น.๙ – ๓๘).กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. สำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี. (๒๕๕๒). รายงานการสำรวจตึกแดง ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี. เอกสารอัดสำเนา. หลวงสาครคชเขตต์. (๒๕๓๙). จดหมายเหตุความทรงจำสมัยฝรั่งเศสยึดจันทบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๖ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๗ (พิมพ์ครั้งที่ ๓). กรุงเทพฯ : บริษัท ต้นอ้อ แกรมมี่ จำกัด. เรียบเรียง : นางสาวเลิศลักษณ์ สุริมานนท์ นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี #สำนักศิลปากรที่๕ปราจีนบุรี #กรมศิลปากร #กระทรวงวัฒนธรรม


         งาช้างประหลาด          พุทธศตวรรษที่ ๒๔          สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ “Museum Unveiling” เรื่องลึก เบื้องหลังพิพิธภัณฑ์ไทย ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          งาช้างประหลาดกิ่งนี้ มีผิวหยักเป็นปล้อง ๆ เกิดจากความผิดปกติทางธรรมชาติของช้าง ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะพิเศษของงาช้างที่พบได้ยาก และถูกนำมาจัดเก็บและแสดงในหอพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๕ จากบัญชีรายการโบราณวัตถุที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถาน พ.ศ. ๒๔๔๐ ระบุว่า รายการที่ ๒๗๘๖ ชื่อวัตถุ “งาช้างปล้อง” จำนวน ๑ กิ่ง          นอกจากนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังเก็บรวบรวมงาประหลาดแบบต่าง ๆ ไว้อีกหลายกิ่ง อาทิ งาช้างบิดเกลียวจำหลักพระพุทธรูปห้าพระองค์ งาช้างบิดแตกออกเป็นห้ากิ่งพันกัน งาช้างคุด โดยแนวคิดการรวบรวมวัตถุที่เป็นของประหลาดเหล่านี้ปรากฏชัดเจนใน ประกาศเรื่องให้เอาของต่าง ๆ มาตั้งหอมิวเซียม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ ความตอนหนึ่งกล่าวว่า          “...ผู้หนึ่งผู้ใดมีของประหลาด ที่จะเอามาตั้งในหอมิวเซียมนี้ ขอให้เอามา ณ วันพุธ เดือนสิบ แรมสามค่ำ จนถึง ณ วันอาทิตย์ เดือนสิบ แรมสิบสี่ค่ำ จะให้มีพนักงานรับแลลงเลขนำเบอร์ ทุก ๆ สิ่งของผู้ที่เอามาแล้วจะให้ตั๋วพิมพ์ใบเสร็จให้กับผู้ที่เอาของมาให้...”          ครั้นต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๗ นายแฮร์มูนนิค เดอ จองก์ห์ (H. Munniks de Jongh) ได้ส่งรูปงาช้างปล้องและจดหมายสอบถามเกี่ยวกับงาช้างปล้องในสยามมาถึงเจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการในขณะนั้น และกระทรวงเกษตราธิการได้สอบถามมายังราชบัณฑิตยสภา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีลายพระหัตถ์ตอบกลับลงวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ความตอนหนึ่งกล่าวว่า          “...ข้าพเจ้ามีความยินดีที่จะตอบได้ว่างาเปนปล้อง ๆ เช่นนี้เปนเอง ที่ในพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร กรุงเทพฯ นี้ก็มีงาเหมือนเช่นนั้นอยู่กิ่งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้ถ่ายรูปฉายาลักษณ์ส่งมายังเจ้าคุณพร้อมกับจดหมายฉะบับนี้เพื่อจะได้ส่งไปยังนายแฮร์มูนนิคเดอจองก์ห์เปนสำคัญ งาที่ผิดธรรมดานอกจากที่เปนปล้อง ๆ อย่างนี้ยังมีอีกหลายอย่าง บางทีกิ่งเปน ๓ กิ่งพันพันก็มี ดังได้ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยอีกแผ่น ๑ ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าเกิดแต่โรคของช้างบางตัวที่ทำให้งางอกวิปริตผิดธรรมดาไปเช่นนั้น...”     อ้างอิง กรมศิลปากร. สมเด็จพระปิยมหราช พระผู้พระราชทานกำเนิดพิพิธภัณฑสถานเพื่อประชา. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๗. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. (๔) ศธ.๒.๑.๑/๑๖๔. เอกสารกระทรวงศึกษาธิการ กรมศิลปากร เรื่อง ขอให้ช่วยพิจารณางาช้างซึ่งเปนปล้อง ๆ (๗ มี.ค. ๒๔๗๒ - ๓๐ ก.พ. ๒๔๗๔). หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ น.๔๙.๒/เอกสารกระทรวงนครบาล รัชกาลที่ ๕. เรื่อง บัญชีสิ่งของพิพิธภัณฑ์ (๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๐).


"ย้อนอดีตงานลอยกระทงสุโขทัยผ่านฟิล์มภาพเก่า" . อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยขอนำทุกท่านย้อนอดีตไปชมภาพบรรยายความทรงจำที่งดงามของงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ผ่านฟิล์มภาพเก่าซึ่งถ่ายไว้เมื่อราวปี พ.ศ.๒๕๒๖ อันเป็นช่วงเวลาที่งานลอยกระทงสุโขทัยเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว ทำให้มีผู้คนมาเที่ยวชมมากมายดังที่ปรากฏในภาพเก่า . สำหรับในปี พ.ศ.๒๕๖๖ นี้ งานประเพณีงานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


          กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “อยากรู้เรื่องเมืองน่าน ต้องมาเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน” วิทยากร นางสาวชลลดา สังวร หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ - ๑๑.๔๕ น.           ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร



black ribbon.