ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 177/2 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 14/1ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 80 หน้า : กว้าง 5.2 ซม. ยาว 54.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ประเพณีไหว้ตายายผีหลาง ประเพณีไหว้ตายายผีหลางเป็นประเพณีเก่าแก่ของคนอำเภอถลางที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานาน เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที และความสำนึกในบุญคุณของบรรพบุรุษ รวมทั้งยังเป็นการพบปะระหว่างเครือญาติ
แต่เดิมนั้นจัดกันที่บริเวณบ้านเจ้าเมืองถลาง หรือบ้านลูกหลานเจ้าเมืองถลาง เช่น บ้านลิพอน บ้านดอน บ้านสาคู บ้านเหรียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พิธีกรรมจะเริ่มขึ้นหลังจากดวงอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า จนถึงรุ่งเช้า ของวันอังคาร วันพฤหัสบดี หรือวันเสาร์ ในช่วงเดือน ๔ หรือเดือน ๖ ข้างขึ้น ตามปฏิทินจันทรคติ
ในปัจจุบัน ลูกหลานชาวถลาง ได้ประกอบพิธีนี้ขึ้นในชื่อ “งานบวงสรวงปู่ย่า ตายาย และบรรพชนผู้กล้าเมืองถลาง” ณ. สวนพระพุทธศาสนา วัดม่วงโกมารภัจจ์ ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง ในวันที่ ๑๒ มีนาคม ของทุกปี เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษ และรำลึกถึงท้าวเทพกระษัตรี (คุณหญิงจัน) ท้าวศรีสุนทร (คุณมุก) รวมถึงบรรพชนผู้กล้า ที่ร่วมกันสู้ในศึกสงครามเก้าทัพจนชนะพม่า ในวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ.๒๓๒๘ ซึ่งชาวถลาง ถือกันว่าวันนี้เป็น "วันถลางชนะศึก"
การเตรียมงาน จะเริ่มขึ้นตั้งวันที่ ๑๐ มีนาคม ก่อนหน้ามีการบวงสรวง ๒ วัน
วันที่ ๑๐ มีนาคม “วันกวนขนมกาละแม” วัตถุดิบที่ใช้ มีแป้งข้าวเหนียว หัวกะทิ น้ำตาล และแบะแซ กวนส่วนผสมทั้งหมดในกระทะทองเหลือง โดยใช้ไฟปานกลาง-อ่อน เป็นเวลาประมาณ ๔ ชั่วโมง การกวนกาละแม นอกจากมีความยุ่งยากในการเตรียมวัตถุดิบในปริมาณมากแล้ว ยังต้องอาศัยแรงผู้ชายหลายคนสลับกันกวน แบบไม่มีหยุดพัก การกวนกาละแมจึงเป็นการทำขนมที่ทำได้ยาก จะมีขึ้นเฉพาะในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานทำบุญใหญ่ของชุมชน งานแต่งงาน เป็นต้น เสร็จแล้วก็จะแบ่งใส่ถาดเก็บไว้สำหรับใช้ในพิธีบวงสรวง ที่เหลือก็แจกจ่ายให้กับคนที่มาช่วยกวนกาละแม
วันที่ ๑๑ มีนาคม “วันห่อขนม” วันนี้ชาวบ้านจะมาช่วยกันทำขนมห่อต่าง ๆ ที่จะใช้ในพิธีบวงสรวง และแต่งจาดในพิธีแห่ ประกอบด้วยขนมท่อนใต้ ขนมเทียน ขนมต้ม(ข้าวต้มลูกโยน) ขนมเหนียวกล้วย(ข้าวต้มมัด) ขนมห่อ(ขนมใส่ไส้) เพื่อให้การห่อขนมเสร็จเร็วขึ้น ส่วนประกอบบางอย่าง เช่น ไส้ขนม ชาวบ้านจะเตรียมไว้หลังจากกวนกาละแมเสร็จ เมื่อนึ่งขนมสุกแล้ว ก็จะแบ่งเก็บไว้สำหรับใช้ในพิธีบวงสรวง และบางส่วนก็จะนำมาร่วมกันแต่งจาดในพิธีแห่
วันที่ ๑๒ มีนาคม “วันงานบวงสรวงปู่ย่า ตายาย และบรรพชนผู้กล้าเมืองถลาง” ช่วงเช้า เวลา ๐๘.๓๐ น.จะมีพิธีทำบุญตักบาตร และถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์
ตอนเย็น เวลา ๑๗.๓๐ น. จะมีขบวนแห่จาดจากศาลเจ้าบ้านเคียน(หง่อเฮี้ยนไต่เต่) มายัง สวนพระพุทธศาสนา วัดม่วงโกมารภัจจ์ ในเวลา ๑๘.๓๐ น. ประธานในพิธี จุดธูปเทียน เริ่มพิธีบวงสรวง
เลขทะเบียน : นพ.บ.377/13ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 5 x 52 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 142 (7-25) ผูก 13 (2566)หัวเรื่อง : เวสฺสนฺตรชาตก --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.515/11ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4 x 49 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 172 (248-253) ผูก 11 (2566)หัวเรื่อง : ฉลองข้าวกระยาสารท--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖*..พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญทรงสร้างสรรค์กำลังใจให้ความหวังเกษตรกรทั่วธานีมีพลังปลูกพืชพันธุ์งามสะพรั่งทั้งแผ่นดิน..*ประพันธ์ : นัยนา แย้มสาขา อดีตผู้อำนวยการสำนักจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมภาพ : จิตรกรรมฝาผนัง วิหารวัดป่าแดด อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยกลุ่มอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรม กองโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
ชื่อเรื่อง: แบบเรียนศัพท์โบราณ ผู้แต่ง: -ปีที่พิมพ์: ม.ป.ปสถานที่พิมพ์: ม.ป.ทสำนักพิมพ์: ม.ป.พจำนวนหน้า: ๓๒ หน้า เนื้อหา: "แบบเรียนศัพท์โบราณ" เป็นหนังสือแบบเรียนที่รวบรวมศัพท์โบราณที่ใช้กันมานาน โดยมีการแสดงหมวดคำศัพท์ ตั้งแต่อักษร ก ถึง ฮ พร้อมคำแปล และตัวอย่าง อาทิ "กะแตว, กระแตว" แปลว่า รบกวน, เซ้าซี้ ตัวอย่าง เจ้าหนี้มาทวงกระแตวๆ / "มะลัง" แปลว่า งาม สุก ใส ตัวอย่าง มะลัง เลื่อม แสง ศรี / "อะโข" แปลว่า มาก ล้น เหลือ ตัวอย่าง ใหญ่ อะโข เป็นต้น เลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๔๙๒เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๐๖หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖
องค์ความรู้ ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม”
เพลง “ค่าน้ำนม” คงได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก หลายยุคหลายสมัยยังเป็นเพลงอมตะที่ฟังแล้วทำให้นึกถึงพระคุณของแม่ ที่มีเนื้อหากินใจว่า “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล...” ทำให้เห็นถึงความรักของแม่ที่รักลูกถนอมลูก สงสารลูก จะไปไหนก็เป็นห่วง รับประทานอะไรก็คิดถึงลูก ลักษณะเหล่านี้ย่อมตรึงใจเรามิรู้วาย
วันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย ที่ถือเอาวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันแม่แห่งชาติ
แต่เดิมนั้น วันที่ 12 สิงหาคม มิได้เป็นวันแม่แห่งชาติอย่างเช่นในปัจจุบัน แต่ได้มีการกำหนดเอาวันที่ 15 เมษายนของทุกๆ ปีเป็น วันแม่แห่งชาติ โดยเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นผู้จัดงานวันแม่มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา เพราะเห็นว่าเป็นเดือนที่ฝนยังตกไม่ชุกนัก จะมีคนมาร่วมงานได้สะดวก โรงเรียนอยู่ระหว่างการหยุดเทอม นักเรียนว่างพอจะเข้าร่วมงานวันแม่ได้ การจัดงานไม่เพียงแต่มีการจัดพิธีทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น ยังมีการประกวดแม่ของชาติ การประกวดคำขวัญวันแม่ เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ และเป็นการเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้มีมากยิ่งขึ้น
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2519 ทางราชการได้เปลี่ยนแปลงวันแม่ใหม่ ให้ถือเอาวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทย เปรียบเสมือนแม่ของชาติ โดยมติเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมศีลธรรมและจิตใจ โดยพิจารณาว่าแม่เป็นผู้มีพระคุณและมีบทบาทอย่างสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่จะได้รับการเทิดทูนและตอบแทนบุญคุณด้วยความกตัญญูกตเวที
การที่ทางราชการได้ประกาศกำหนดให้วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปีเป็น วันแม่แห่งชาติ ย่อมก่อให้เกิดวันอันเป็นที่ระลึกที่สำคัญยิ่งของไทยเราวันหนึ่ง และกำหนดให้ถือว่า ดอกมะลิ สีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม ที่ใช้ได้ตั้งแต่เป็นดอกไม้สด จนกระทั่งแห้งเสมือนดั่งความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่เสื่อมคลาย เป็นสัญญลักษณ์แห่งความดีงามของแม่ผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา
อ้างอิง : บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541.
ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยามค่ำคืน ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดโครงการ Thailand Winter Festival ประกาศความพร้อมและแสดงศักยภาพการเป็นฮับแห่งเฟสติวัลโลก ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแหล่งมรดกวัฒนธรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมเปิดแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานในยามราตรี เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของโบราณสถานในยามค่ำคืน ให้ได้เห็นภาพของโบราณสถานยามที่กระทบแสงไฟสาดส่อง ซึ่งเป็นภาพสวยงามที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยแหล่งโบราณสถานที่จะเปิดให้เข้าชมยามราตรี ได้แก่
วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดไชยวัฒนาราม ผ่าน แสง สี จากการประดับไฟโบราณสถาน ภายใต้ชื่องาน "ราตรีนี้...ที่วัดไชยวัฒนาราม" ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และเทศกาลสำคัญ ในเวลา ๑๘.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๖ ภายในงานยังมีการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี การเสวนา การสาธิตหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยเปิดพื้นที่ให้หน่วยงาน องค์กร ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมแสดงกิจกรรมทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “แต่งไทย ชมวัดไชยฯ ยามราตรี” เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการแต่งชุดไทยเที่ยวชมโบราณสถานอีกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เปิดให้เข้าชมโบราณสถานเขตในกำแพงเมือง (วัดพระแก้ว - วัดพระธาตุ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๖ เปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๐.๐๐ น. โดยมีวิทยากรบรรยายนำชมโบราณสถานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปราสาทพิมายยามค่ำคืน (Phimai Night : Light Up) ทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ถึง ๒๗ มกราคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. โดยเปิดให้เข้าชมถึงพื้นที่ชั้นในสุดของโบราณสถานในยามค่ำคืนเป็นครั้งแรก (ปราสาทพิมาย เมรุพรหมทัต ประตูชัยเมืองพิมาย) นอกจากนี้ ยังเปิดให้สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาสนสถาน “พระกมรเตงชคตวิมาย” พระพุทธรูปนาคปรก และประติมากรรมพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ มหาราช รวมถึงการเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์ยามค่ำ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. ระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๖๖ - มกราคม ๒๕๖๗ ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โบราณสถานเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมพิเศษ “แอ่วกุมกามยามแลง” ในวันที่ ๑ – ๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๖.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ณ ลานกิจกรรมวัดอีก้าง - วัดหนานช้าง เยี่ยมชมโบราณสถานสำคัญของเวียงกุมกาม อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาสมัยพญาเม็งรายที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๗๐๐ ปี ชมกาดกุมกาม @ Night เลือกซื้ออาหารและสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน และชมบูธกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งรับชมการแสดงจากสำนักการสังคีต ภายใต้แนวคิด “กิจกรรมโขนในเวียง” ด้วยการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ทูษณ์ - ขร - ตรีเศียร – ยกรบ โดยมีการออกแบบ แสง สี เสียงประกอบการแสดงด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้เข้ากับฉากหลังที่เป็นโบราณสถานเวียงกุมกาม
กิจกรรมเปิดพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน : Night at the Museums เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ตลอดจนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมไทย โดยมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ร่วมสัมผัสความงดงามของโบราณสถานวังหน้า ที่ประทับของพระมหาอุปราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในยามค่ำ พร้อมทั้งชมห้องจัดแสดงนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ - ๒๐.๐๐ น. ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ยกเว้นวันจันทร์ - อังคาร) ระหว่างวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจัดแสดงเครื่องทอง สมัยอยุธยาที่สวยงามและมีจำนวนมากที่สุดของประเทศไทย ขยายเวลาการเปิดพิพิธภัณฑ์จนถึงเวลา ๑๘.๓๐ น. ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เพื่อให้มีความต่อเนื่องสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมโบราณสถานในยามค่ำคืนที่วัดไชยวัฒนาราม
นอกจากนี้ กรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรมพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรมศิลปากร (Thailand Winter Festival) ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ สะสมบัตรเข้าชมที่มีตราประทับกิจกรรมไม่น้อยกว่า ๕ สถานที่ (เจ้าหน้าที่จะประทับตราในบัตรเข้าชม ณ จุดจำหน่ายบัตร) นำมารับของที่ระลึก ได้แก่ เหรียญพระพุทธสิหิงค์ รุ่นครบรอบ ๑๑๒ ปีกรมศิลปากร, สมุดภาพ (ไดอารี่) และภาพชุด (ปฏิทิน) มรดกเรืองรอง เครื่องทองอยุธยา จำนวนจำกัดเพียง ๑๐๐ ชุด ได้ที่อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) ชั้น ๓ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป (วันและเวลาราชการ) จนกว่าของที่ระลึกจะหมด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ก เพจ กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
หนังสือ : วรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2566
"รางวัลพานแว่นฟ้า" เป็นรางวัลที่มอบให้กับผลงานเรื่องสั้นและบทกวีการเมืองที่ทรงคุณค่าซึ่งผ่านการคัดเลือกและตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในแวดวงวรรณกรรมและวิชาการหลากหลายท่าน
โดยผลการตัดสิน ประจำปี 2566 ประเภทเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ คือผลงานเรื่อง การปรากฎตัวของเงาดำข้างศาลเจ้า โดย คิรากร คัมคุณ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ มี 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานเรื่อง ฝนพฤษภา โดย รตี รติธรณ และผลงานเรื่อง พัง พัง โดย ฮีม พารา พิพัฒน์ และมีรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล
ขณะที่ผลการตัดสิน ประเภทบทกวี รางวัลชนะเลิศ คือ ผลงานเรื่อง เฮือกสุดท้ายของบทผญา โดย องอาจ สิงห์สุวรรณ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ มี 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานเรื่อง ไม้แขวนเสื้อ และผลงานเรื่อง อัตตาอวตาร โดย สงกาสังข์ และมีรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล
ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
เลขหมู่ : 895.911 ว242