ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ



   กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ขอเชิญชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เรื่อง “พระราชกรณียกิจประสิทธิ์ศิลป์” ระหว่างวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ห้องโถงใหญ่ อาคารสำนักหอสมุดแห่งชาติ ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร                   กรมศิลปากร โดยสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ร่วมกับสำนักหอสมุดแห่งชาติ กำหนดจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖๓ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เรื่อง “พระราชกรณียกิจประสิทธิ์ศิลป์” รวบรวบภาพพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อเผยแพร่ให้พสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ซาบซึ้งในพระเกียรติคุณ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอุปถัมภ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ การจัดแสดงภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย                      ส่วนที่ ๑ นำเสนอภาพพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธาสธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพระอิริยาบถที่น่าประทับใจต่างๆ ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ พร้อมทั้งพระฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระเชษฐภคินี                      ส่วนที่ ๒ นำเสนอภาพพระราชกรณียกิจ ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ด้วยพระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะ และมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทั้งยังทรงเป็นผู้อุปถัมภ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของชาติ จึงทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรมน้อยใหญ่มาโดยตลอด                      ส่วนที่ ๓ การฉายสไลด์ภาพพระราช ประวัติ และภาพพระราชกรณียกิจที่หาชมได้ยาก ที่รวบรวมเก็บรักษาไว้มาจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้ชื่นชมพระเกียรติคุณ และร่วมแสดงความจงรักภักดีในโอกาสสำคัญนี้                      ทั้งนี้ จะมีพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง พระราชกรณียกิจประสิทธิ์ศิลป์ ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยมีนายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน และเปิดให้ประชาชนเข้าชม ระหว่างวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ ห้องโถงใหญ่ อาคารสำนักหอสมุดแห่งชาติ ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร   สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ โทร. ๐ ๒๒๘๑ ๑๕๙๙




กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต จะจัดการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ปีที่ ๕๙เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมด้านการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ถึง เดือนเมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร การจัดแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ได้มีการดำเนินงานมานับแต่ปี ๒๔๙๑ สืบต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยจัดการแสดงที่หลากหลายจากศิลปินของกรมศิลปากรและศิลปินรับเชิญ ได้แก่ การบรรเลงดนตรีสากล(วงดนตรีลูกทุ่ง วงสตริง วงหัสดนตรี วงสังคีตประยุกต์วงดุริยางค์สากล วงโยวาทิต)การแสดงนาฏศิลป์ โขน การแสดงนาฏศิลป์ละคร ละครนอก ละครใน ละครพันทาง ละครเสภา ละครชาตรี ละครดึกดำบรรพ์)การแสดงหุ่นกระบอก การแสดงโขนสด การแสดงหุ่นละครเล็ก การแสดงพื้นเมือง(ลำตัด เพลงอีแซว ลิเก)การบรรเลงดนตรีไทย (วงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงมโหรี วงเครื่องสายปี่ชวา วงปี่พาทย์มอญ วงอังกะลุง วงปี่พาทย์ชวา)สักวาออกตัว การบรรเลงและการแสดงนาฏศิลป์จากต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานรายการดนตรีสำหรับประชาชน เป็นการเผยแพร่ความรู้ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเก็บค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๕ ๙๐๙๗ เริ่มเปิดสังคีตศาลาวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



วันที่ ๒๔-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา จัดโครงการเครือข่ายทางมรดกศิลปวัฒนธรรม โครงการสร้างภาคีเครือข่ายประชารัฐบุคลากรทางการศึกษาในการดูแลรักษาโบราณสถานเมืองพิมาย ณ ห้องประชุมสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา และเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง, หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน, เรือนไทพวนอนุสรณ์, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของชาวไทพวนบ้านเชียง และอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี


 “กันตรึม” เป็น เพลงพื้นบ้านนิยมกันมากในจังหวัดสุรินทร์ เนื้อเพลงกันตรึมใช้ภาษาเขมรขับร้อง กันตรึมถือเป็นแม่บทของเพลงพื้นบ้าน และการละเล่นพื้นบ้านอื่นๆ ของจังหวัดสุรินทร์   ประวัติความเป็นมา             ประวัติ การเล่นกันตรึมไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด ลักษณะของเพลงกันตรึมเป็นเพลงปฏิพากย์คล้ายๆ เพลงฉ่อย เพลงเรือ หรือลำตัด จะแตกต่างที่เนื้อร้องกันตรึมเป็นภาษาเขมร             ดนตรีบรรเลงประกอบ คือ กลองโทน(สก็วล) และซอ(สุกัญญา สุจฉายา ๒๕๒๕ : ๘) เหมือนกับประเทศกัมพูชา วงดนตรีกันตรึมมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของชาวสุรินทร์มาแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีแบบใดๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ งานพิธีกรรมต่างๆ หรือใช้บรรเลงในพิธีเซ่นสรวงบูชา ทรงเจ้าเข้าผี เป็นต้น งานพิธีต่างๆ ของกลุ่มชาวไทยเขมรส่วนมากมักจะใช้วงกันตรึมบรรเลงยืนพื้นตลอดงาน             ปัจจุบันกันตรึมใช้ เป็นการละเล่นเพื่อความบันเทิงโดยทั่วไป มีการสืบทอดตามแบบการละเล่นพื้นบ้านแบบรุ่นสู่รุ่น คือ เมื่อผู้เล่นกันตรึมคณะเดิมชราภาพ หรือย้ายถิ่นที่อยู่ ก็จะถ่ายทอดให้แก่ผู้สนใจเพื่อสานต่อ(สงบ บุญคล้อย ๒๕๒๒ : ๘)   วิวัฒนาการของเพลงกันตรึม   ๑. ได้รับอิทธิพลมาจากเพลงปฏิพากย์ของเขมร ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเพลงปฏิพากย์ภาคกลางของประเทศไทยทั้งโครงสร้างของ เพลง วิธีการแสดง และเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบ ได้แก่ กลองโทน ซอ และใช้การปรบมือเข้าจังหวะ เพลงปฏิพากย์ที่เล่นกันในประเทศกัมพูชาจะมีเพลงปรบเกอย เพลงอายัย เพลงอมตูก และเจรียงต่างๆ เป็นต้น (สุกัญญา สุจฉายา ๒๕๒๕ : ๘)             ๒. วิวัฒนาการจากการใช้กลอง(สก็วล) ซึ่งเสียงตีกลองจะดัง “โจ๊ะกันตรึม ตรึม”จึงได้นำเสียงที่ดังนั้นมาตั้งเป็นชื่อวงดนตรี เรียกว่า “กันตรึม”การเล่นกันตรึมจะมีผู้ร้องทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ผู้แสดงจะร้อง และรำไปด้วย เป็นการรำให้เข้ากับจังหวะดนตรี ท่ารำไม่มีแบบแผนตายตัว             ปัจจุบันคณะกันตรึมบางคณะที่ยังเล่นอยู่ก็มีแบบการรำที่ไม่แน่นอน เนื่องจากกันตรึมไม่เน้นทางด้านการรำ แต่จะเน้นที่ความไพเราะของเสียงร้อง และความสนุกสนานของท่วงทำนองเพลงกันตรึมที่มีหลากหลายมากกว่า   เครื่องดนตรี             เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการเล่นกันตรึม ประกอบด้วย กลองกันตรึม(สก็วล) ๒ ลูก ซอ(ตรัว) ๑ คัน ปี่อ้อ ๑ เลา ขลุ่ย ๑ เลา ฉิ่ง กรับ และฉาบ อย่างละ ๑ คู่ แต่ถ้ามีเครื่องดนตรีไม่ครบก็อาจจะอนุโลมใช้เครื่องดนตรีเพียง ๔ อย่าง คือ กลองกันตรึม ๑ ลูก ซอ ๑ คัน ฉิ่ง และฉาบ อย่างละ ๑ คู่             ในปัจจุบัน วงกันตรึมบางคณะได้นำเอาเครื่องดนตรีสากลมาใช้ เช่น กลองชุด กีตาร์ และไวโอลิน เพื่อปรับให้เข้ากับสภาพการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปตามความนิยมของผู้ชม   การแต่งกาย             การแต่งกายทั้งของนักดนตรีและนักร้องชายหญิงไม่มีแบบแผนกฎเกณฑ์ที่แน่นอน จะแตกต่างตามความสะดวกสบาย ทันสมัยและถูกใจผู้ชม เช่น หญิงนุ่งผ้าไหมพื้นเมือง เสื้อแขนกระบอก ห่มสไบเฉียง ชายนุ่งโจงกระเบน เสื้อคอกลมแขนสั้น ผ้าไหมคาดเอว และมีผ้าขาวม้าไหมพาดไหล่ทั้งสองข้าง โดยชายผ้าทั้งสองจะห้อยอยู่ทางด้านหลัง   ผู้เล่นและโอกาสที่ใช้เล่น             การเล่นกันตรึม ใช้ผู้เล่นประมาณ ๖ –๘ คน ผู้ร้องเป็นชายและหญิง อาจจะมี ๑ –๒ คู่ หรือชาย ๑ คน หญิง ๒ –๓ คน แต่โดยทั่วไปนิยมให้มีชาย ๒ คน หญิง ๒ คน             การเล่นกันตรึมจะเล่นในโอกาสต่างๆ ทั้งในโอกาสเฉลิมฉลอง งานมงคล เช่น งานแต่งงาน งานโกนจุก งานบวชนาค เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และลอยกระทง เป็นต้น หรืองานอวมงคล นอกจากนี้ยังใช้เล่นในพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อพื้นบ้าน   วิธีเล่นกันตรึม             วงกันตรึมจะเล่นที่ไหน ก่อนเริ่มการแสดงจะต้องมีพิธีไหว้ครูเพื่อเป็นสิริมงคล ทั้งผู้ดูและผู้เล่น เมื่อไหว้ครูเสร็จก็จะเริ่มบรรเลงเพลง เป็นการโหมโรงเพื่อปลุกใจให้ผู้ดูรู้สึกตื่นเต้น และผู้แสดงก็จะได้เตรียมตัว จากนั้นจะเริ่มแสดง โดยเริ่มบทไหว้ครูตามธรรมเนียมโบราณดั้งเดิม วิธีการร้องจะขับร้องโต้ตอบกันระหว่างชาย หญิง มีการรำประกอบการร้อง ไม่ต้องใช้ลูกคู่ช่วยร้องรับบทเพลง   บทเพลงกันตรึม             บทเพลงกันตรึมไม่มีเนื้อร้องเป็นการเฉพาะ แต่มักคิดคำกลอนให้เหมาะสมกับงานที่เล่น หรือใช้บทร้องเก่าๆ ที่จดจำกันมามีประมาณ ๒๒๘ ทำนองเพลง ไม่มีใครสามารถจดจำได้ทั้งหมด เพราะไม่มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงการจดจำต่อๆ กันมาเท่านั้น   การแบ่งประเภทบทเพลงกันตรึม             ๑. บทเพลงชั้นสูงหรือเพลงครู เป็นบทที่มีความไพเราะ สูงศักดิ์ ทำนองเพลงอ่อนหวานกินใจ แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ เช่น เพลงสวายจุมเวื้อด ร่ำเป็อย –จองได มโหรี และเพลงเซร้ยสะเดิง เป็นต้น             ๒. บทเพลงสำหรับขบวนแห่ มีทำนองครึกครื้นสนุกสนาน มีการฟ้อนรำประกอบการขับร้อง มีหลายทำนอง เช่น รำพาย ซมโปง ตร็อบตุม และเกาะเบอรมแบง เป็นต้น             ๓. บทเพลงเบ็ดเตล็ดต่างๆ เป็นบทเพลงที่มีทำนองรวดเร็ว เร่งเร้า ให้ความสนุกสนาน ใช้เป็นบทขับร้องในโอกาสทั่วๆ ไป เช่น เกี้ยวพาราสี สั่งสอน สู่ขวัญ และรำพึงรำพัน เป็นต้น ทำนองเพลงจะมีหลายทำนอง เช่น อมตูก กัจปกาซาปาดาน กันเตรยโมเวยงูดตึก กะโน้ปติงต้อง และมลบโดง เป็นต้น             ๔. บทเพลงประยุกต์ เป็นบทเพลงที่ใช้ทำนองเพลงลูกทุ่งเข้ามาประยุกต์เป็นทำนองเพลงกันตรึม เช่น ดิสโก้กันตรึม สัญญาประยุกต์ และเตียแขมประยุกต์ เป็นต้น


  กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต จะจัดการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ปีที่ ๕๙เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมด้านการแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ระหว่างเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ถึง เดือนเมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร การจัดแสดงดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา ได้มีการดำเนินงานมานับแต่ปี ๒๔๙๑ สืบต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยจัดการแสดงที่หลากหลายจากศิลปินของกรมศิลปากรและศิลปินรับเชิญ ได้แก่ การบรรเลงดนตรีสากล(วงดนตรีลูกทุ่ง วงสตริง วงหัสดนตรี วงสังคีตประยุกต์วงดุริยางค์สากล วงโยวาทิต)การแสดงนาฏศิลป์ โขน การแสดงนาฏศิลป์ละคร ละครนอก ละครใน ละครพันทาง ละครเสภา ละครชาตรี ละครดึกดำบรรพ์)การแสดงหุ่นกระบอก การแสดงโขนสด การแสดงหุ่นละครเล็ก การแสดงพื้นเมือง(ลำตัด เพลงอีแซว ลิเก)การบรรเลงดนตรีไทย (วงปี่พาทย์ไม้แข็ง วงมโหรี วงเครื่องสายปี่ชวา วงปี่พาทย์มอญ วงอังกะลุง วงปี่พาทย์ชวา)สักวาออกตัว การบรรเลงและการแสดงนาฏศิลป์จากต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการแสดงผลงานรายการดนตรีสำหรับประชาชน เป็นการเผยแพร่ความรู้ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเก็บค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๕ ๙๐๙๗ เริ่มเปิดสังคีตศาลาวันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


         จัดทำขึ้นเพื่อเป็นหนังสือที่ระลึกเพื่อแจกเป็นอภินันทนาการแก่บรรดาผู้ที่ไปร่วมงานในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้  เนื้อรวบรวมข้อมูลตำนานเมืองนครศรีธรรมราชฉบับของพระยาโกมารกุลมนตรี  ประวัติวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารของพระครูปลัดวิริยะวัฒน์  (สมภพ  ป.)  วัดราชผาติการาม  กับตำนานเรื่องพระครูกา 


 โครงการเครือข่ายการบันทึกเหตุการณ์ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา


วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561 หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี ได้จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2561 โดย นางสาวระเบียบ หงส์พันธ์ หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี กล่าวเปิดงาน ได้เชิญนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี มาร่วมจับรางวัลใหญ่ให้แก่เด็กๆ หลังจากนั้นมีกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัล เกมส์เหยียบลูกโป่ง เกมส์วิบาก มีการแสดงจากน้องๆ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาญจนบุรี และจับฉลากแจกรางวัล มีหน่วยงานต่างๆที่ช่วยสนับสนุนในเรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม มาแจกฟรีตลอดงาน และมีน้องๆเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย โดยหอสมุดแห่งชาติขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ได้ช่วยสนับสนุนทรัพย์และสิ่งของในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2561 ให้แก่หอสมุดแห่งชาติฯ กาญจนบุรี ขอขอบพระคุณการสนับสนุนในครั้งนี้ค่ะ



          วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ น.นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงก่อนการซ่อมปรับปรุงอาคารในโครงการพัฒนาการจัดแสดงอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมด้วยนางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นางพูลศรี จีบแก้ว ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และข้าราชการเจ้าหน้าที่ กรมศิลปากร ร่วมในพิธี           กรมศิลปากรได้จัดทำโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ แผนงานบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ปรับปรุงอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ทั้งด้านเนื้อหาวิชาการที่มีความก้าวหน้า และมีรูปแบบการจัดแสดงที่ทันสมัยทัดเทียมพิพิธภัณฑ์สากลในปัจจุบัน เพื่อเปิดให้เข้าชมได้ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ภายใต้หัวเรื่อง นิทรรศการประวัติศาสตร์โบราณคดีในประเทศไทยหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๙


black ribbon.