ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
ชวนร่วมกิจกรรม Scent of the Month - หอมทุกเดือน ในเดือนมิ.ย 68 รำลึกถึงสุนทรภู่กวีเอกของโลกด้วยกลิ่น
"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันสุดแสนลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน"
*กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก พระอภัยมณี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี จัดกิจกรรม "Scent of the Month – หอมทุกเดือน" นิทรรศการเล็ก ๆ แต่หอมจับใจ ชวนทุกท่านมาสัมผัส “กลิ่น” ที่บอกเล่าเรื่องราวของประเพณี วิถีชีวิต วันสำคัญ และเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน ในเดือนมิถุนายน 2568 ร่วมรำลึกถึงสุนทรภู่กวีเอกของโลกด้วยกลิ่น...บทกลอนบนเกลียวคลื่น พบกับ "กลิ่นนางเงือก และกลิ่นนางผีเสื้อสมุทร" เอกลักษณ์ของกลิ่นหอมที่ให้ความเพลิดเพลินสำราญใจจากแรงบันดาลใจจากวรรณคดีสุนทรภู่
ขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านร่วมรังสรรค์กลิ่นใหม่ได้ด้วยตัวคุณเอง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี นิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ 1 - 30 มิถุนายน 2568 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3553 6100 ติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ทาง Facebook พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี Suphanburi National Museum
ชื่อเรื่อง : ขันธโลกวิจาร
หัวเรื่อง : ธรรมเทศนา พุทธศาสนา
คำค้น : ขันธ์ 5
ขันธปัญจกนัย
รายละเอียด : -
ผู้แต่ง : ญ.ว.
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
สำนักพิมพ์/โรงพิมพ์ : -
ปีที่พิมพ์ : 2465
วันที่เผยแพร่ : 26 มิถุนายน 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF.
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือกล่าวถึงข้อธรรมะ ว่าด้วยเรื่อง ขันธ์ 5 หรือ ร่างกายของมนุษย์
เลขทะเบียน : น. 68 บ. 79463 จบ. (ร.)
เลขหมู่ : ห
294.312
ญ111ว
เลขทะเบียน : นพ.บ.654/6กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 18 หน้า ; 4 x 58 ซ.ม. : ทองทึบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 209 (122-134) ผูก 6ก (2568)หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อแบบฉบับ : มหานิปาตวณฺณนา ชาดกฏฺฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา (ผูก ก1)
ชื่อเรื่อง : ทสชาติ เตมิย-วิธูรบัณฑิต (ผูก ก1 เตมิยะ ผูก 1)
เลขทะเบียน : ชม.บ.681/ก1
ผู้แต่ง : พระพุทธโฆษาจารย์ ผู้สร้าง : ปู่แก้ว พร้อมด้วย บุตร ภรรยา ปีที่สร้าง : จ.ศ.1045 (พ.ศ. 2226)
จำนวน : 1 คัมภีร์ 6 ผูก (หอสมุดแห่งชาติฯ เชียงใหม่ มีผูก ก1, ข1 ข3, ค2 ค3 ค5)
จำนวนบรรทัด : 5 บรรทัด จำนวนหน้า : 66 หน้า
อักษร : ธรรมล้านนา ภาษา : บาลี-ไทยล้านนา เส้น : จาร
ฉบับ : ล่องชาด ไม้ประกับ : ไม่มี ประเภทเอกสารโบราณ : คัมภีร์ใบลาน
ประวัติ : พระพุทธโฆษาจารย์ แต่ง, ปู่แก้ว พร้อมด้วยบุตร ภรรยา สร้าง จ.ศ.1045 (พ.ศ.2226 สมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ได้มาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2531
โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568
ชื่อเรื่อง : พระคาถา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 4 คือ พระคาถาเรื่อง พระราชพงษาวดารย่อ กรุงรัตนโกสินทร์พิสดารในรัชกาลที่ 4 แลพระคาถา ตำนาน พระแก้วมรกฎ แลพระคาถาสรรเสริญพระธรรมวินัย
หัวเรื่อง : เที่ยง, เจ้าจอมมารดา, 2374-2456
หนังสืออนุสรณ์งานศพ
คำค้น : พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
รายละเอียด : พิมพ์แจกในการศพ เจ้าจอมมารดาเที่ยง พ.ศ. 2457
ผู้แต่ง : จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, 2347-2411
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ โรงพิมพ์/ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ
ปีที่พิมพ์ : 2457
วันที่เผยแพร่ : 22 สิงหาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง พระราชพงศาวดารย่อกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวถึงพระราชจรรยาและการบำเพ็ญพระราชกุศลตลอดปี และ เรื่อง ตำนานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ทั้งสองเรื่องเดิมทรงพระราชนิพนธ์ไว้เป็นภาษามคธ และมีบัณฑิตผู้แปลเป็นภาษาไทยตามที่ระบุในต้นเรื่อง ส่วนเรื่อง บทสรรเสริญธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช วัดราชประดิษฐ์ ได้นำมาแปล และแต่งประกอบกับพระสูตรเป็นกถามรรคเทศนา
เลขทะเบียน : น. 30 ร. 9385
เลขหมู่ : 959.311
จ196พ
รายงานสรุปผลการดำเนินงาน การประชุมสรุปผลการศึกษาทางวิชาการโบราณคดีในพื้นที่ แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ภายใต้โครงการศึกษาร่องรอยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในพื้นที่เมืองนครราชสีมา บริเวณกำแพงเมืองนครราชสีมาด้านตะวันออก
ผู้แต่ง : ประชาสัมพันธ์ จังหวัดเชียงใหม่ ปีที่พิมพ์ : 2538 สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : ส.ทรัพย์การพิมพ์ งานฉลองสมโภชพระธาตุเจดีย์หลวง 600 ปีครั้งนี้ คณะกรรมการได้จัดทำหนังสืออนุสรณ์ 2 เล่ม คือ เล่ม 1 เป็นเล่มใหญ่ จัดทำโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เนื้อหาสาระหนักไปทางวิชาการ ประวัติศาสตร์โบราณคดี ในส่วนที่เกี่ยวกับเจดีย์หลวง ใช้อ้างอิงได้ เล่ม 2 เป็นเล่มเล็ก รวบรวมข้อเขียนที่เป็นทำนองตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ที่อ่านฟังเข้าใจง่าย พร้อมทั้งข้อเขียนเล่าประวัติเจ้าอาวาส และพระเถระต่างๆ
พิพิธิภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง รามคำแหง: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/ramkhamhaeng
ประวัติการก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง
นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2496 เป็นต้นมา กองโบราณคดี กรมศิลปากร ได้ดำเนินการสำรวจขุดแต่งและบูรณะโบราณสถานเมืองโบราณสุโขทัยโดยได้พบโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงพิจารณาเห็นว่าควรสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขึ้นในบริเวณเมืองโบราณสุโขทัย เพื่อเก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญของชาติและจัดแสดงเผยแพร่เพื่อการศึกษาต่อไป
ต่อมาในปีพุทธศักราช 2503 – 2506 กรมศิลปากรจึงดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขึ้นในพื้นที่บริเวณเมืองโบราณสุโขทัยด้านทิศตะวันออก มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์2ชั้นสร้างขึ้นโดยใช้งบประมาณของรัฐบาลสมทบกับเงินบริจาคของประชาชนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง” ตั้งขึ้นตามพระนามของพ่อขุนรามคำแหง มหาราช วีรกษัตริย์ไทยผู้ปกครองเมืองสุโขทัยในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 19
ผู้ออกแบบอาคารพิพิธภัณฑ์คือ น.ส.จันทร์ลัดดา บุญยมานพ สถาปนิกโท กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ซึ่งโบราณวัตถุส่วนใหญ่ที่จัดแสดงได้จากการขุดแต่งบูรณะโบราณสถานในเขตเมืองเก่าสุโขทัย เมืองโบราณใกล้เคียงและอีกส่วนหนึ่งเป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่พระโบราณวัตถาจารย์ (พระราชประสิทธิคุณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชธานีและเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยได้อนุญาตให้เคลื่อนย้ายจากพิพิธภัณฑ์ในวัดราชธานีมาเก็บรักษาและจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหงโดยมีหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ภัณฑารักษ์เอก กองโบราณคดี และนายทิพา สังขะวัฒนะ นายช่างศิลปโท กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ดำเนินการจัดแสดงโบราณวัตถุตามหลักวิชาการ เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างแท้จริง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง เมื่อวันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2507
ต่อมาในวาระครบรอบ 700 ปี ลายสือไท เมื่อปีพุทธศักราช 2526 รัฐบาลได้ดำเนินก่อสร้าง “อาคารอนุสรณ์ลายสือไท” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าว จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง นิทรรศการภาพเรื่อง “สุโขไท – สุโขทัย อดีตและปัจจุบัน” ที่นำเสนอภาพรวมของเมืองสุโขทัยในด้านต่างๆทั้งการปกครอง ประเพณี วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองสุโขทัย รวมถึงการพัฒนาเมืองโบราณสุโขทัยให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ กระทั่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกับเมืองโบราณศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชรภายในอาคารยังมีส่วนให้บริการนักท่องเที่ยวจำหน่ายบัตรค่าธรรมเนียม และหนังสือทางด้านวิชาการ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคารเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2526
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง
https://www.youtube.com/watch?v=2y9zYS_o6sE
พระพุทธรูปสุโขทัย
https://www.youtube.com/watch?v=1QXRkppUieY
สังคโลกสุโขทัย
https://www.youtube.com/watch?v=TXXZBFc_DW8
ห้องพระธาตุ
https://www.youtube.com/watch?v=Ah9cqiaNlyM
รูปเคารพในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
https://www.youtube.com/watch?v=InamKOJopBk
มรดกโลกสุโขทัย
https://www.youtube.com/watch?v=k3tCX3eULqQ
พระพุทธรูปลีลา
https://www.youtube.com/watch?v=0fWZJuwmSmw
พระพุทธรูปจากกรุเจดีย์น้อย วัดมหาธาตุ
https://www.youtube.com/watch?v=r1DIegvegbs
ปูนปั้นประติมาคาร
https://www.youtube.com/watch?v=3Z-bpZs4VpE
อบรมผู้ใช้งานระบบสัมมนาออนไลน์ ในวันที่ 26 มีนาคม 2556
ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 โดยเจ้าหน้าที่บริษัท เอ็มเวิร์ค กรุ๊ป จำกัด
สถานที่ : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศติดต่อ : เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ 02-2222222
ที่ตั้ง บ้านภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
อายุสมัย อายุราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๒ - ต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๓
รายละเอียด
ที่ตั้งของปราสาทภูมิโปนเป็นบริเวณที่มีหลักฐานว่ามนุษย์ได้เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ดังปรากฏร่องรอยของคูน้ำ-คันดินรูปร่างไม่แน่นอนอยู่บริเวณโดยรอบชุมชน ต่อมาราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๓ ซึ่งตรงกับรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ ๑ แห่งอาณาจักรขอมโบราณ ชุมชนบ้านภูมิโปนพัฒนาเป็นชุมชนที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง มีปราสาทภูมิโปนซึ่งเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่เนื่องในศาสนาฮินดู เป็นศูนย์กลางของเมืองตามแบบวัฒนธรรมขอมโบราณในช่วงเวลานั้น
ปราสาทภูมิโปนประกอบด้วย ปราสาทก่อด้วยอิฐ ๓ หลัง และฐานอาคารก่อด้วยศิลาแลง ๑ หลัง โดยปราสาทอิฐหลังใหญ่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด ก่อด้วยอิฐไม่สอปูนแบบศิลปะขอมรุ่นเก่ามีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฐานเตี้ย เรือนธาตุทรงสี่เหลี่ยม มีประตูทางเข้า-ออกด้านเดียวทางทิศตะวันออก ส่วนยอดก่อเป็นหลังคาซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ ปัจจุบันพังทลายเหลือเพียง ๓ ชั้น บริเวณใต้หน้าบันของประตูทางเข้า-ออก สลักเป็นลายรูปใบไม้ม้วนแบบศิลปะอินเดีย สมัยหลังคุปตะ(ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑ – ๑๓) จากการขุดแต่งโบราณสถาน พบชิ้นส่วนศิลาจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต ๑ ชิ้น ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มีใช้ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๓
นอกจากนี้ที่บริเวณปราสาทอิฐขนาดเล็กองค์เหนือสุด ซึ่งสภาพปัจจุบันเหลือเพียงฐาน กรอบประตู และผนังเล็กน้อย ได้พบเสาประดับกรอบประตูทำด้วยหินทราย และทับหลังสลักจากหินทราย ภาพสัตว์ครึ่งสิงห์ครึ่งนกประกอบวงโค้งที่มีวงกลมรูปไข่ ๓ วง ภายในวงกลมรูปไข่ น่าจะเป็นรูปบุคคล แต่ได้แตกหายไปหมดแล้ว ซึ่งลวดลายบนทับหลังและเสาประดับกรอบประตูนี้เป็นศิลปะขอมแบบไพรกเมง อายุราว พ.ศ. ๑๑๘๐ – ๑๒๕๐
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากปราสาทภูมิโปนประมาณ ๕๐๐ เมตร พบบารายใหญ่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบบวัฒนธรรมขอมโบราณ ซึ่งบารายเป็นระบบชลประทานที่สำคัญมักพบทั่วไปในชุมชนวัฒนธรรมขอม ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๘ ในดินแดนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การสร้างบารายจะไม่ใช้วิธีการขุดลงไปในดินอย่างสระน้ำทั่วไป แต่เป็นการขุดดินมาก่อเป็นคันดินกั้นน้ำในบริเวณพื้นที่ลุ่มที่มีลำธารธรรมชาติไหลผ่าน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในชุมชนและยังอาจช่วยเรื่องปัญหาน้ำท่วมภายในชุมชนด้วยโดยทั่วไปบารายมักจะมีขนาดใหญ่กว่าสระน้ำ
ปัจจุบันปราสาทภูมิโปนได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้ว โบราณวัตถุ ได้แก่ ทับหลัง ชิ้นส่วนจารึกและเสาประดับกรอบประตู จัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เก็บค่าเข้าชม
การเดินทาง จากจังหวัดสุรินทร์ตามทางหลวงหมายเลข ๒๐๗๗ สายสุรินทร์ – สังขะ ระยะทาง ๕๐ กิโลเมตร จากนั้นตรงไปอำเภอบัวเชด ตามทางหลวงหมายเลข ๒๑๒๔ ตรงไปจนถึงชุมชนบ้านภูมิโปนระยะทาง ๑๒ กิโลเมตร ก็จะถึงปราสาท