ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,844 รายการ
ในขณะที่ตอนนี้ผู้คนกำลังให้ความสำคัญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เราอาจจะลืมไปว่ายังมีโรคระบาดที่รุนแรงอย่างไข้เลือดออกที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค และมักจะระบาดหนักในช่วงฤดูฝน โดยกรมควบคุมโรคออกมาเตือนการเกิดโรคไข้เลือดออกเป็นอีกหนึ่งโรคที่มาแรงสำหรับปี 2020 นี้ โดยตั้งแต่ต้นปี 1 มกราคมเป็นต้นมา มีผู้ป่วยทั่วประเทศแล้วมากกว่า 8,746 ราย และเสียชีวิตไปแล้วถึง 6 ราย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่พบอัตราป่วยมากสุด คือ เด็กๆ อายุระหว่าง 5-14 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี และอายุแรกเกิดถึง 4 ปี ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า เด็กเล็กนั้น มีความเสี่ยงในการติดโรคอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออกในเด็ก เรามารู้จักกับโรคนี้ทั้งระยะของโรค อาการ และการรักษาป้องกันกันค่ะ โรคไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง (Dengue) โดยมียุงลายที่เป็นพาหะนำโรค เชื้อนี้จะเข้าสู่ร่างกายคนโดยการถูกยุงลายที่มีเชื้อกัด จากนั้นยุงลายก็จะแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ ต่อไป (ในรัศมีไม่เกิน 400 เมตร) ซึ่งเมื่อได้รับเชื้อเข้าร่างกายและ จะมีอาการ ไข้ขึ้นสูงหลายวัน, ปวดศีรษะ คล้ายอาการของไข้หวัด แต่จะมีอาการร่วมเป็นอาการปวดกระบอกตา, ปวดกล้ามเนื้อ, เมื่อยเนื้อตัว, ท้องอืด, มีผื่นแดงขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ใบหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาการเฉพาะของ โรคไข้เลือดออกค่ะ ระยะของโรคไข้เลือดออก แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะหลักๆ ได้แก่ -ระยะไข้ ระยะนี้ไข้สูง 39-40 °C นานเกิน 4-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว ปวดกระบอกตา เบื่ออาหาร ท้องอืด เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว และอาจจะชัก ใบหน้าแดงในระยะนี้ได้ -ระยะวิกฤต ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือ ฝ่าเท้าเย็นขึ้น ปัสสาวะน้อย มีอาการท้องอืด ระยะอาจจะเกิดอาการอันตรายอย่างอาการช็อกได้ -ระยะฟื้นตัว หลังจากผ่านช่วงวิกฤตมาแล้ว ผู้ป่วยจะฟื้นตัวเร็ว ปัสสาวะบ่อยขึ้น ปวดหัวลดลง อยากอาหาร ซึ่งหากผู้ป่วยเกิดอาการช็อก แล้วได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็จะกลับมาเป็นปกติภายใน 2-3 วัน การรักษาโรคไข้เลือดออกนั้น ต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นให้งดกินยาประเภทแอสไพรินและยาต้านการอักเสบ ให้ดื่มน้ำผลไม้หรือเกลือแร่เสริม และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ส่วนวิธีป้องกัน เนื่องจากโรคนี้มีพาหะนำโรคเป็นยุงลาย เราจึงต้องกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย สวมใส่เสื้อแขนยาวขายาว และทายากันยุงสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการถูกแมลง ถูกยุงลายกัดค่ะ ในสมัยก่อนได้มีการรักษาโรคต่างๆด้วยสมุนไพรและการบริหารร่างกาย อย่างเช่น หนังสือหายากเล่มหนึ่ง ได้บันทึกเกี่ยวกับโครงภาพฤๅษีดัดตนและตำรายาอายุวัฒนะ เพื่อเป็นตัวอย่างการรักษาด้วยการบริหารร่างกายประกอบกับการรับประทานยาทำให้ไข้และสามารถรักษาได้หายจริงในสมัยเริ่มตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นที่ศิริราชพยาบาล จึงได้บักทึกไว้ในหนังสือหายากจารึกวัดพระเชตุพน ตอน โคลงภาพฤๅษีดัดตนและตำรายาอายุวัฒนะ ------------------------------------------------------ผู้เรียบเรียง นางสาววารุณี วิริยะชูศรี บรรณารักษ์ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ ------------------------------------------------------ข้อมูลอ้างอิง ไข้เลือดออก. กรุงเทพฯ : กรมควบคุมโรคติดต่อ, 2536. เลขหมู่ 616.157 ก169ร สุรเกียรติ อาชานานุภาพ. ไข้เลือดออก. กรุงเทพฯ : หมอชาวบ้าน, 2546. เลขหมู่ 616.157 ส846ร จารึกวัดพระเชตุพน ตอน โคลงภาพฤาษีดัดตน. กรุงเทพฯ : อรุณการพิมพ์, 2534 เลขหมู่ 615.822 ค319ก ข้อมูลสถิติ กรมควบคุมโรคติดต่อ
ชื่อเรื่อง อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธัมมารวม)
สพ.บ. 245/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 56 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 58 ซ.ม. หัวเรื่อง พุทธศาสนา ชาดก เทศน์มหาชาติ คาถาพัน
บทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องรัก ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ชื่อเรื่อง บัวรพันธ (บัวรพัทธ)
สพ.บ. 361/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 54 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง ธรรมเทศนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เลขทะเบียน : นพ.บ.154/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 76 หน้า ; 4.5 x 53 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 93 (1-16) ผูก 4 (2565)หัวเรื่อง : วิทฺดธมุขมณฺฑน(ศัพท์วิทัดมุขมัณฑน)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)
ชบ.บ.37/1-3
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
นิพฺพานสุตฺต (นิพฺพานสูตร)
ชบ.บ.75/1-1ถ
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ปฐมสิกฺขาปท (ปถมสิกฺขาปท)
ชบ.บ.98/1-1
เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
เลขทะเบียน : นพ.บ.312/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 5 x 58.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 127 (313-316) ผูก 4 (2565)หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา (ทศชาติ) ชาตกฎฐกถา,ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (เนมิราช)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง : อธิบายว่าด้วยยศเจ้า
ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา
ปีที่พิมพ์ : 2513
สถานที่พิมพ์ : ธนบุรี
สำนักพิมพ์ : เฉลิมชัยการพิมพ์
จำนวนหน้า : 86 หน้า
สาระสังเขป : อธิบายว่าด้วยยศเจ้า กล่าวถึงที่มาและความหมายของยศเจ้านายในราชสกุลซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือสกุลยศ และอิสริยยศ ประเภทสกุลยศ เริ่มตั้งแต่เจ้านายชั้นเจ้าฟ้าจนกระทั่งถึงหม่อมหลวง ส่วนอิสริยยศ เป็นตำแหน่งมหาอุปราชและพระ นอกจากนี้มีเนื้อหาเรื่องพระนามเจ้าครั้งกรุงเก่า เจ้านายครั้งกรุงศรีอยุธยาที่เรียกพระนามตามกรม และประเพณีแต่งตั้งเจ้า
ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ประเพณีสงกรานต์ หรือที่รู้จักกันดีว่าคือวันขึ้นปีใหม่ไทย หมายถึงการขึ้นศักราชใหม่หรือปีใหม่ตามปฏิทินสุริยคติ โดยคำว่า สงกรานต์ เป็นคำภาษาสันสกฤต แปลว่า ผ่าน หรือ เคลื่อนย้ายไป ในที่นี้คือ การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ถือเป็นการเคลื่อนที่สำคัญ จึงเรียกว่า มหาสงกรานต์ใน พ.ศ. ๒๔๓๒ ได้ประกาศให้วันที่ ๑ เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ จนถึง พ.ศ. ๒๔๘๔ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ตามหลักสากล คือ วันที่ ๑ มกราคม ส่วนเทศกาลสงกรานต์หรือการขึ้นปีใหม่แบบเดิม ได้กำหนดให้ตรงกับวันที่ ๑๓ - ๑๕ เมษายน ของทุกปี ประเพณีสงกรานต์ของชาวล้านนา ตรงกับเดือน ๗ ของทางเหนือ ชาวไทยถิ่นเหนือเรียกว่า วันสังขานต์ล่อง ซึ่งมีความหมายเหมือนคำว่าสงกรานต์กิจกรรมที่ชาวล้านนาปฏิบัติกันในวันสงกรานต์ เริ่มจากวันแรก คือ วันสังขานต์ล่อง ชาวบ้านจะตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ บางบ้านมีการยิงปืนไล่สิ่งอวมงคล จุดประทัด เนื่องจากมีความเชื่อว่าในตอนเช้ามืดของวันดังกล่าว ปู่สังขานต์หรือย่าสังขานต์จะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีแดงสยายผมล่องแพไปตามลำน้ำและนำสิ่งไม่พึงปรารถนาติดตัวมาด้วย จึงต้องมีการยิงปืนหรือจุดประทัดหรือทำให้เกิดเสียงดังต่าง ๆ เพื่อไล่สังขานต์ บางความเชื่อกล่าวว่า ในวันดังกล่าวปู่สังขานต์หรือย่าสังขานต์จะมาช่วงดึกหรือใกล้รุ่ง หาบกระบุงมาเก็บเอาความไม่ดีไม่งามและเสนียดจัญไร จึงมีการยิงปืนหรือจุดประทัดขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไป ทั้งยังเชื่อกันว่าการใช้อาวุธยิงในวันสังขานต์ล่องจะทำให้อาวุธนั้นมีฤทธิ์มีเดชมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีธรรมเนียมปฏิบัติว่าในวันนี้ช่วงเช้าตรู่หรือช่วงสาย จะมีการปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ซักเสื้อผ้า เก็บกวาดขยะต่าง ๆ ทำความสะอาดร่างกายและสระผม นำผ้าห่ม หมอน มุ้ง ออกไปซัก ทำจิตใจให้ผ่องใส เมื่อเสร็จแล้วผู้คนจะนิยมไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ วันที่สอง คือ วันขนทราย หรือเรียกว่า วันเน่าหรือวันเนาว์ ตามภาษาเขมรหมายถึง อยู่ ในวันดังกล่าวผู้คนจะไม่ด่าทอหรือทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล และออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปจ่ายตลาดเตรียมทำอาหารไว้ทำบุญถวายพระในวันรุ่งขึ้น ส่วนช่วงบ่ายเป็นการขนทรายเข้าวัด ก่อเจดีย์ทราย ตกแต่งด้วยธงริ้วสีต่าง ๆ ธงนี้ชาวล้านนาเรียกว่า "ตุง" ทำด้วยกระดาษสี ตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมชายธงและรูปต่าง ๆ ติดปลายไม้สำหรับปักบริเวณที่ก่อเจดีย์ทราย บางท้องที่จะนำตุงไปปักเจดีย์ทรายในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังนิยมเล่นน้ำกันวันนี้อีกด้วย วันที่สาม คือ วันเถลิงศก หรือวันพญาวัน คือวันขึ้นปีใหม่และเปลี่ยนปีศักราช ช่วงเช้าตรู่จะมีการทำบุญทางศาสนา ชาวบ้านจะนำสำรับอาหารคาวหวานไปทำบุญถวายพระที่วัด เรียกว่า “ตานขันข้าว” เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษหรือญาติมิตรที่ล่วงลับ รวมทั้งจัดสำรับอาหารไปมอบให้บิดา มารดา ปู่ย่าตายาย ผู้เฒ่าผู้แก่หรือบุคคลที่เคารพนับถือ เรียกว่า “ตานขันข้าวคนเฒ่าคนแก่” พร้อมทั้งน้ำขมิ้นส้มป่อยไปรดน้ำดำหัว เพื่อเป็นการขอขมาในสิ่งที่เคยล่วงเกิน และผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะให้พร นอกจากสำรับที่เตรียมไปทำบุญแล้ว แต่ละบ้านจะนำตุงหรือธงไปปักบนเจดีย์ทราย บางบ้านอาจเตรียมไม้ง่ามไปถวายสำหรับค้ำต้นโพธิ์ เป็นสัญลักษณ์ในการช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวต่อไป วันพญาวันถือเป็นวันที่ดีที่สุดของปีจึงมักประกอบพิธีมงคลกันในวันนี้ เช่น การขึ้นบ้านใหม่ ประเพณีสงกรานต์แบบชาวล้านนายังมีต่อถึงวันที่สี่ คือ วันปากปี โดยวันนี้ยังคงเป็นวันที่มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีความเชื่อเรื่องการรับประทานแกงขนุน จะทำให้มีผู้ค้ำหนุนชีวิตให้เจริญ ส่วนวันที่ห้าคือวันปากเดือน มีการประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เช่น สะเดาะเคราะห์ ส่งเคราะห์ และบูชาเทียน เป็นต้นผู้เรียบเรียง : นางสาวอริสรา คงประเสริฐ นักจดหมายเหตุภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่. อ้างอิง :๑. สรัสวดี อ๋องสกุล. ๒๕๖๒. “ความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ในสังคมวัฒนธรรมล้านนา.” ใน วงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ (บรรณาธิการ). เชียงใหม่ นครแห่งอมต. เชียงใหม่ : บริษัท วิทอินดีไซน์ จำกัด, ๑๐๕-๑๑๕.๒. นิรันดร ชัยนาม. ๒๕๑๒. "ประเพณีตรุษสงกรานต์และดำหัว." ใน ประเพณีและวัฒนธรรมของเชียงใหม่และลานนาไทยกับการถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชอาคันตุกะ.พระนคร : โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง, ๑๑-๑๖.๓. เรณู อรรฐาเมศร์. ๒๕๓๘. “สงกรานต์ : ประเพณีแห่งความกตัญญู.” ชีวิตไทย ชุด ฮีตฮอยเฮา. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๒๑-๒๓๒.
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร กำหนดจัดการบรรยายทางวิชาการ หัวข้อเรื่อง “การขุดค้นทางโบราณคดี บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกำเพงเพชร” ให้แก่นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาในท้องถิ่น ณ โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างเดือนสิงหาคม – กันยายน ๒๕๖๕ รวม ๕ ครั้ง กว่า ๒,๐๐๐ คน
กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีกำแพงเพชร เป็นการปลูกฝังให้นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาได้ตระหนักในความสำคัญของมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ก่อให้เกิดจิตสำนึกในการดูแลรักษาให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งการจัดการบรรยายทางวิชาการ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรในฐานะที่เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
กำหนดจัดการบรรยายทางวิชาการ รวมจำนวน ๕ ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ ๑ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จำวน ๔๕๐ คน
ครั้งที่ ๒ วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำวน ๔๕๘ คน
ครั้งที่ ๓ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จำวน ๔๔๐ คน
ครั้งที่ ๔ วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำวน ๔๕๑ คน
ครั้งที่ ๕ วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๕ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จำวน ๔๗๐ คน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โทร. ๐ ๕๕๘๕ ๔๗๓๖ - ๗ หรือติดตามข่าวสารกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร : Kamphaeng Phet Historical Park