ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร จัดการประชุมเรื่อง "แนวทางการพัฒนาหอจดหมายเหตุแห่งชาติในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค" ณ ห้องประชุมหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี โดย นางสุนิสา จิตรพันธ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน
การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อหาแนวทางพัฒนางานเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับงานจดหมายเหตุให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน
รายงานการเข้ารับการอบรม ณ ประเทศญี่ปุ่น
เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเรื่อง การอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น
ณ สถาบันวิจัยมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ National Research Institute for Cultural Properties (NRICPT) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ระยะเวลา ๑๓ วัน (ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๒๗ กันยายน ๒๕๕๗)
วิทยากรและทีมงาน
๑. Takeshi ISHIZAKI
Deputy Director General
Director, Center for conservation Science and Restoration Techniques
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๒. Masahiko TOMODA
Head, Conservation Design Section
Japan Center for International Cooperation in Conservation
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๓. Yasuhiro HAYAKAWA
Head of Analytical Science Section
Center for Conservation Science & Restoration Techniques
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๔. Masahide INUZUKA
Senior Researcher
Center for Conservation Science & Restoration Techniques
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๕. Katsura SATO
Research Fellow
Japan Center for International Cooperation in Conservation
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๖. Yoko FUTAKAMI
Head, Research Information Section
Department of Art Research, Archives and Information Systems
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๗. Yoshihiko YAMASHITA
Fixed-term Reseacher
Japan Center for International Cooperation in Conservation
National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo
๘. Takayuki HONDA
Lecturer
Department of Applied Chemistry
Meiji University
กำหนดการอบรม
๑๕ กันยายน ๒๕๕๗
๐๕.๕๕ น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ
๑๔.๐๐ น. ถึงสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
และเข้าพักที่โรงแรมอูเอโนะเทอร์มินอล กรุงโตเกียว
๑๖ กันยายน ๒๕๕๗
๑๐.๐๐ - ๑๐.๔๐ น. พิธีเปิด
๑๐.๔๐ – ๑๑.๐๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง โครงสร้างและผลงานของสถาบันวิจัยมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ
๑๑.๐๐ – ๑๒.๓๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง การควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องปฏิบัติงานและการกำจัด แมลงในวัตถุก่อนดำเนินการอนุรักษ์
๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติการ ตรวจสอบสภาพวัตถุด้วยตาเปล่า
๑๖.๐๐ – ๑๗.๓๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาชนิดและองค์ประกอบ ของยางรักและไม้
๑๗ กันยายน ๒๕๕๗
๐๙.๓๐ – ๑๐.๓๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง การตรวจสอบโครงสร้างของบานไม้ประดับมุกด้วยการ X-ray
๑๐.๓๐ – ๑๒.๓๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง การตรวจสอบด้วยเครื่อง X-ray Fluorescence Spectrometer
๑๓.๓๐ – ๑๔.๓๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง เครื่องประดับมุกในสมัยเอโดะที่ใช้เปลือกหอยแบบบาง เชื่อมโยงกับบานไม้ประดับมุก วัดราชประดิษฐ์
๑๔.๓๐ – ๑๗.๐๐ น. สรุปลักษณะการเสื่อมสภาพทางโครงสร้างและพื้นผิวของวัตถุ หลังจากตรวจสอบด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์
๑๘ กันยายน ๒๕๕๗
๑๐.๐๐ – ๑๑.๐๐ น. เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการตรวจสอบวัตถุด้วย X-ray Fluorescence
๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการถ่ายภาพโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง ประวัติเครื่องรักญี่ปุ่น
๑๔.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติการดังนี้
- การเตรียมกาวหนัง กาวHPC
- การเตรียมแผ่นเปลือกหอย การลงสีและการปิดแผ่นเงินเปลว
- การตัดกระดาษกัมปิ การเตรียมกาวแป้งเพื่อใช้ผนึกส่วนที่ชำรุดชั่วคราว (เทคนิคโยโจ)
๑๙ กันยายน ๒๕๕๗
๑๐.๐๐ – ๑๒.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติการดังนี้
- การเตรียมกาวหนัง (ต่อ)
- การใช้เทคนิคโยโจในการผนึกตัวอย่างชิ้นงาน
- ทดสอบประสิทธิภาพของกาวประเภทต่างๆในการผนึกตัวอย่างชิ้นงานที่มีรูปแบบแตกต่างกัน
๑๓.๓๐ – ๑๘.๐๐ น. สาธิตการเสริมความแข็งแรงของพื้นผิวบนชิ้นงานจริง
ฝึกปฏิบัติการกด ยึดและตรึง ส่วนที่ผนึกไว้ด้วยกาวโดยการใช้โครงไม้
๒๐ – ๒๑ กันยายน ๒๕๕๗ (วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์)
๒๒ กันยายน ๒๕๕๗
๑๐.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. แสดงตัวอย่างกาวหนังประเภทต่างๆ อธิบายการกรีดยางรักของประเทศญี่ปุ่น ฝึกปฏิบัติการเตรียมกาวจากยางรัก
๑๕.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติการผนึกขอบชิ้นงานด้วยกาวจากยางรักและการซ่อมเติมรอยแตกร้าวสาธิตการผนึกและยึดตรึงบนชิ้นงานจริง
๒๓ กันยายน ๒๕๕๗ (วันหยุดราชการ)
๒๔ กันยายน ๒๕๕๗
๐๙.๓๐ – ๑๒.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติการดังนี้
- การเตรียม Filler
- การทำความสะอาดพื้นผิวรักด้วยสารเคมี
๑๓.๓๐ – ๑๔.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติการศึกษาเปรียบเทียบลักษณะการเสื่อมสภาพของยางรักและเปลือกหอย จากโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุแบบอื่นๆ
๑๔.๓๐ – ๑๘.๐๐ น. ฟังการบรรยาย เรื่อง ลักษณะเสื่อมสภาพของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่มียางรักและเปลือกหอยเป็นส่วนประกอบและตัวอย่างขั้นตอนการอนุรักษ์
๒๕ กันยายน ๒๕๕๗
๐๙.๓๐ – ๑๒.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติการดังนี้
- การทำความสะอาดบนชิ้นงานจริง
- การทำพายไม้เพื่อเป็นเครื่องช่วยในการเติมส่วนที่หายไป
๑๓.๓๐ – ๑๘.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติการผสม Filler และฝึกเติม Filler ในอัตราส่วนต่างๆ
๒๖ กันยายน ๒๕๕๗
๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.ฟังการบรรยาย เรื่อง กรณีศึกษาการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตอบข้อสงสัย
๒๗ กันยายน ๒๕๕๗
เดินทางกลับประเทศไทย จากสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวลา ๑๘.๔๕ น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา ๒๓.๒๕ น.
ค่าใช้จ่าย วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆในระหว่างการฝึกอบรม
ผู้เข้ารับการอบรม ๖ คน ประกอบด้วย
๑. ผู้แทนจากกรมศิลปากร ๔ คน ดังนี้
๑.๑ สำนักช่างสิบหมู่
นายธนาวัฒน์ ตราชูชาติ นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน
นายนภดล แกล้วทนงค์ นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน
๑.๒ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
นายสรรินทร์ จรัลนภา นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ
นายสุชาติ บูรณะ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์ปฏิบัติงาน
๒. ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง โรงเรียนช่างฝีมือในวัง (ชาย) ๒ คน ดังนี้
นายบุญชัย ทองเจริญบัวงาม หัวหน้าแผนกงานช่างฝีมือประดับมุก
นายณรงค์ชัย หูตาชัย อาจารย์ประจำแผนกงานช่างฝีมือประดับมุก
สรุปผลการอบรม
การอบรมในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อนักอนุรักษ์ ช่างฝีมือ เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องกับการ ปฏิบัติงานด้านเครื่องรักประดับมุก ทั้งในครอบครองของพิพิธภัณฑ์ วัด หรือของเอกชนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น
๑. ทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการอนุรักษ์งานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น
๒. เพิ่มพูนทักษะด้านวิธีการอนุรักษ์งานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น
๓. ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงขบวนการตรวจสอบหาสาเหตุการเสื่อมสภาพของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ด้วยขบวนการทางวิทยาศาสตร์
๔. ได้เรียนรู้เรื่องวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการอนุรักษ์งานประดับมุก
๕. ได้เข้าใจในทุกขั้นตอนก่อนที่จะได้ยางรักมาใช้ในงานศิลปะ เพื่อให้สามารถเลือกยางรักมา ใช้ในการอนุรักษ์ได้อย่างถูกประเภท
๖. ได้เข้าใจถึงประเภทและองค์ประกอบยางรักที่พบในภูมิภาคนี้
๗. เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้จากทั้งวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับงานประดับมุก ของไทยและญี่ปุ่น
๘. ทำให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุประเภทงานประดับ มุก ระหว่างไทยและญี่ปุ่น
๙. ทำให้บุคลากรที่เข้ารับการอบรม ได้รับประสบการณ์และนำความรู้ที่ได้ มาปรับใช้และปรับปรุงพัฒนากับงานในหน้าที่ความผิดรับชอบในหน่วยงานของตน
ข้อเสนอแนะ
๑. ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกอบรม จะเป็นแนวทางหนึ่งในการนำมา ปรับใช้ในการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ไม่เพียงงานประดับมุก แต่ยังรวมไปถึงการอนุรักษ์วัสดุประเภทอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
๒. ควรมีการเผยแพร่แนวทาง วิธีการดูแลรักษา และการอนุรักษ์งานแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในประเทศ พร้อมทั้งควรมีการจัดอบรม โดยขอความร่วมมือนักอนุรักษ์ที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาเป็นวิทยากร เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับบุคลากร และผู้ที่ทำงานในด้านนี้
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง วรรณกรรมพุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 22 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
พิพิธภัณฑ์สรรหาสาระ บทความออนไลน์จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
“เจ้าแม่แห่งโคกพนมดี” หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรีได้เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีโคกพนมดี ชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ชายฝั่งอ่าวไทย แต่แท้ที่จริงแล้ว แหล่งโบราณคดีโคกพนมดียังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยครั้งนี้ขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแม่โคกพนมดีให้ได้รู้จักกัน
ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๗ – ๒๕๒๘ กรมศิลปากร ร่วมกับมหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี โดยมีศาสตราจารย์ชาร์ลส ไฮแอม และนางรัชนี ทศรัตน์ เป็นผู้อำนวยการขุดค้นร่วม การขุดค้นทางโบราณคดีในครั้งนั้น ได้มีการขุดพบหลุมฝังศพและโครงกระดูกจำนวนถึง ๑๕๔ โครง ฝังซ้อนทับกันถึง ๗ สมัย โดยมีโครงกระดูกหมายเลข ๑๕ เป็นหนึ่งในโครงกระดูกที่มีการขุดพบครั้งนั้น โครงกระดูกหมายเลข ๑๕ มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า เจ้าแม่แห่งโคกพนมดี เนื่องจากเป็นโครงกระดูกที่มีการอุทิศสิ่งของเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องประดับร่างกาย โครงกระดูกหมายเลข ๑๕ เป็นหลุมศพของผู้หญิง อายุประมาณ ๓๕ ปี พบที่ระดับความลึก ๒.๕๐ เมตร ตัวหลุมศพมีขนาดใหญ่ กว้าง ๑ เมตร ยาว ๓ เมตร ลึก ๙๕ เซนติเมตร ฝังแบบนอนหงายเหยียดยาวหันศีรษะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หลักฐานทางโบราณคดีที่พบจากโครงกระดูกเจ้าแม่โคกพนมดีหรือโครงกระดูกหมายเลข ๑๕ พบหลักฐานเป็นจำนวนมากประกอบไปด้วย - ลูกปัดเปลือกหอยแบบแว่นกลมมากกว่า ๑๒๐,๐๐๐ เม็ด พบบริเวณส่วนหน้าอกและแผ่นหลัง ในลักษณะน่าจะเป็นลูกปัดที่เย็บติดกับผ้าหรือเสื้อคลุม - ลูกปัดแบบตัวไอ ขนาดต่าง ๆ จำนวน ๙๕๐ เม็ด พบบริเวณหน้าอกและใต้แขน - เครื่องประดับศีรษะทำจากเปลือกหอย มีลักษณะเป็นแผ่นกลม เจาะรูทะลุตรงกลาง พบบริเวณหูข้างละ ๑ อัน - แผ่นวงกลมมีเดือยอยู่ตรงกลาง ทำจากเปลือกหอยจำนวน ๒ วง พบบริเวณไหล่ข้างละ ๑ วง - กำไลเปลือกหอย สวมใส่อยู่ที่ข้อมือซ้ายจำนวน ๑ วง ซึ่งถือว่าเป็นกำไลวงแรกที่พบร่วมกับโครงกระดูก - ภาชนะดินเผา ๑๐ ใบถูกทุบให้แตก โดยแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มที่ ๑ พบวางในลักษณะกระจายปกคลุมลำตัวตั้งแต่ต้นขาถึงปลายเท้า และกลุ่มที่ ๒ พบวางอยู่บนกองของแท่นดินเหนียวที่วางทับลำตัวอยู่ โดยที่บางใบมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากที่พบในหลุมศพอื่น - หินดุ ๑ ชิ้น พบบริเวณกระดูกหน้าแข้งข้างขวา โดยหินดุนี้ เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการผลิตภาชนะดินเผา ซึ่งจะพบแต่ในศพของผู้หญิงเท่านั้น - ฝาหอยพอก จำนวน ๑ ชิ้น อีกทั้งโครงกระดูกหมายเลข ๑๕ นี้ ยังมีดินเทศจำนวนปกคลุมร่างกาย รวมทั้งแท่งดินเหนียวดิบ จำนวนมากวางสุมทับลำตัวเป็นกองสูงเกือบเท่าถึงปากหลุม จากลักษณะของกระดูกนิ้วมือที่ค่อนข้างแข็งแรง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้มือนวดดินในการปั้นหม้อ ประกอบกับการพบหินดุและหินขัดภาชนะดินเผา เจ้าแม่แห่งโคกพนมดีน่าจะเป็นช่างปั้นหม้อด้วย จากการพบสิ่งของและเครื่องประดับจำนวนมาก แสดงว่า “เจ้าแม่แห่งโคกพนมดี” คงเป็นผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญชุมชนในสมัยนั้น เอกสารอ้างอิง : - ชาร์ลส ไฮแอม,รัชนี ทศรัตน์. สยามดึกดำบรรพ์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยสุโขทัย, ๒๕๔๒.- อำพัน กิจงาม. โคกพนมดี : แหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย. วารสารศิลปากร ฉบับที่ ๔ ก.ค. – ส.ค. ๒๕๔๖.
ผู้เรียบเรียง : นายเพิ่มพันธ์ นนตะศรี ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี
สาระสังเขป : เป็นคำปราศรัยของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวในวันครบรอบ 1 ปี ที่ได้ปฏิวัติเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2502 ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษผู้แต่ง : สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรีโรงพิมพ์ : ธนะการพิมพ์ปีที่พิมพ์ : 2502ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.30ร4218เลขหมู่ : 895.915 ท424ค
เลขทะเบียน : นพ.บ.12/8ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 58 หน้า ; 5.5 x 56 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากชื่อชุด : มัดที่ 8 (83-99) ผูก 8หัวเรื่อง : โลกนยชาตก--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.42/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 46 หน้า ; 4.5 x 53 ซ.ม. : ชาดทึบ ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 24 (239-243) ผูก 1หัวเรื่อง : อาทิกมฺมวณฺณน --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อผู้แต่ง : ยิ้ม บัณฑยางกูร
ชื่อเรื่อง : กรมพระราชวังหลัง
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๓๔
ครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่สอง
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : บริษัท อมรโปรดัดส์ จำกัด
จำนวนหน้า : ๑๖๗ หน้า
หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตรี ม.ล. จวง เสนีวงศ์ ท.ช. , ท.ม.
เรื่องกรมพระราชวังหลังนี้ พระยาสากลกิจประมวล (ม.ล. แปลก เสนีวงศ์) เป็นผู้รวบรวมหลักฐานและบันทึกเรื่องราวไว้ นายยิ้ม บัณฑยางกูร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เป็นผู้เรียบเรียงและตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม และได้มอบต้นฉบับเรื่องให้กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ดำเนินการจัดพิมพ์ต่อไป
การพิมพ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง และเจ้าภาพได้ขออนุญาตนำเรื่องพระวังหลังของนายสมภพ จันทรประภา ประวัติสกุลเสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ของนายเมือง เสนีวงศ์ ณ อยุธยา และวัดโพธิ์บางโอ ของ น.ณ ปากน้ำ มารวมพิมพ์ไว้ด้วย
"ปลูกดี กินดี ใจดี"
คนเมืองขลุง."ปลูกดี กินดี ใจดี".จันท์ยิ้ม.(2):4;เมษายน-พฤษภาคม2560.
วันหนึ่งระหว่างเดินทางกลับจันทบุรี แอบใด้ยินคนต่างถิ่น เอ่ยปากชื่นชมความเป็นจันท์ ชื่นชมสภาพแวดล้อม ความสวยงาม รวมถึงทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ นานา ที่คนจันทบุรีคนใหนได้ยิน ก็คงแอบปลื้มไม่แพ้กัน
ช่วงเวลานั้นมองไปรอบๆ เส้นทางในตัวเมืองกรุงมองความแออัด ของผู้คนที่นั่งและยืนอยู่บนรถโดยสารเห็นข้างทาง ที่เต็มไปด้วยผู้คน ที่ดูเร่งรีบและมีความเครียด บางคนก็นําหนังสือมาบังศีรษะ เนื่องจาก สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว บางคนก็ขมวดคิ้วมองดูรถที่ผ่านไปมา เพราะอาจจะกังวลเรื่องเวลากับการเดินทาง บางคนใช้ผ้าปิดจมูก เพราะมลภาวะอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน
มันสะท้อนอะไรบางอย่างที่ทําให้เราได้ย้อนมองตนเอง และ บวกกับคําพูดคําชม ของคนต่างถิ่นกอปรกัน ซึ่งเสริมความคิตในด้าน ดี ๆ ของตนเองว่า จริง ๆ แล้วนั้นเราที่เกิดเป็นคนจันท์โซคดีเหลือเกิน
“บ้าน” ของผู้เขียน คือ“จันทบุรี เมืองที่มีแต่ความสุข เคยนึกถึงกันไหม ว่าเราโชคดีขนาดไหน และมีคนอีกก็ล้านคนอยากอยู่ เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์นี้
มองด้วยใจที่เป็นบวก ก็ต้องเรียกว่า คนจันท์ อยู่ดี กินดี มา โดยกําเนิดจริง ๆ มองไปรอบ ๆ เราแทบจะไม่ต้องดิ้นรนอะไร มากมายเลย ถ้าเรายึดเศรษฐกิจพอเพียงแบบที่พ่อ“ในหลวง” สอนเรา
จันทบุรีนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว รถไม่ติด มสภาวะแทบไม่มี อากาศก็ดี ผลไม้ก็มีมากมายนานาชนิด
ช่วงนี้เป็นหน้าผลไม้ ยิ่งใกล้งาน“มหานครผลไม้ 2017” เชื่อเหลือเกินว่า หลายบ้าน หลายคน ที่เป็นคนจันท์แท้ ๆ แทบจะไม่ต้อง ควักเงินจ่ายค่าผลไม้ดี ๆ ที่สุดแสนอร่อยสักบาทเลย ยิ่งเฉพาะบ้าน ของผู้เขียนเอง ผลไม้หลากชนิดมีเพื่อนบ้านเดินถือมาให้เกือบทุกวัน อะไรจะข่างโชคดีแห้แบบนี้
“วิธีการดําเนินชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันและกัน ยังมีอยู่จริง สําหรับบ้านเรา สิ่งนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงความน่ารัก“ใจดี” ของชาวจันท์ ที่คนต่างบ้าน ต่างถิ่นเขาชื่นชมกันบ่อย ๆ และที่สําคัญคือเป็นเมือง ซึ่งหาได้ยากที่เมืองใตจะมีครบขนาดนี้ ธรรมชาติงดงาม สภาพอากาศดี ใกล้ทะเล ภูเขาและน้ำตก หลายสิ่งหลายอย่างประกอบ กัน ทําให้คนจันท์ ปลูกดี อยู่ดี กินดี แถม“ใจ” กันมาช้านาน
บ่อยครั้งที่หลังจากทําบุญแล้วเราก็จะแผ่ผลบุญนั้นให้กับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทําให้เราได้มาเกิดเป็นคนจันทบุรี ทุกอย่างล้วนจัดสรร มาแล้วทั้งสิ้น
สุดท้าย หากผู้ย่านที่เป็นคนจันท์ยังรู้สึกว่าตนเองทําไมชีวิต มีไม่พร้อมเลย หรือทําไมหลายอย่างยังเหมือนไม่ได้ตั้งใจ มีความทุกข์ ในชีวิต อยากให้ท่านย้อนมองตรงนี้ว่า เราได้เกิดมาอยู่บนผืนแผ่นดินไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยู่บนผืนแผ่นดินของพ่อตากสิน“จันทบุรี" ที่พ่อ รักษาไว้ให้เรา ลิขิตเลือกเรา ให้ได้มาเกิดอยู่บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ ที่มีความอุตมสมบูรณ์ขนาดนี้ ขอให้ทุกท่าน ใช้พื้นฐานที่ดีที่เรามี พัฒนาตน ความสามารถเพื่อชีวิตที่ดีกับทรัพยากรที่มีและเพื่อประเทศชาติ กันต่อไปนะคะ.
นิตยสารรายสองเดือน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์ : เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในสาระสำคัญต่าง ๆ และ
เพื่ออนุรักษ์สืบทอดมรดกวัฒนธรรมของชาติ
องค์ความรู้ เรื่อง นิทานพื้นบ้านเมืองสุพรรณ โดยหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
THAI CULTURE, NEW SERIES No. 24
THE DEVELOPMENT OF
NATIONAL MUSEUMS IN THAILAND
BY
DHANIT YUPHO