ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,823 รายการ

ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           49/4ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              82 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ปริวาสกมฺมวิตฺถาร (ปริวาสฺสกมฺมพิษษดาร) ชบ.บ 115/1 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 159/6เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


      ศิลปะธนบุรี  ต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔ (๒๐๐ ปีมาแล้ว)       เดิมอยู่ในหอทะเบียนพลแต่โบราณ กระทรวงกลาโหม ส่งมา       ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องศัสตราวุธ พระที่นั่งบูรพาภิมุข พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร       ประติมากรรมพระสุรัสวดี เทวดาผู้รักษากรมพระสุรัสวดี เดิมอยู่ในหอทะเบียนพลแต่โบราณ สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยกรุงธนบุรี กระทรวงกลาโหมมอบให้พิพิธภัณฑสถาน โดยหอทะเบียนพล หรือที่เรียกว่า “ศาลาสารบาญชี” เป็นอาคารสำหรับเก็บบัญชีสมุดทะเบียนพลเมือง ที่บันทึกจำนวนเลกไพร่หลวง ไพร่ราบ ไพร่สม พันทนาย ขุนหมื่นต่างๆ อยู่ในความดูแลของกรมพระสุรัสวดี สำหรับหอทะเบียนพลของกรุงเทพฯ เดิมตั้งอยู่ใกล้ศาลหลักเมือง และรื้อลงในต้นรัชกาลที่ ๕       กรมพระสุรัสวดี ปรากฏมาแต่ครั้งรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ แห่งกรุงศรีอยุธยา มีหน้าที่บันทึกทะเบียนไพร่พลและเตรียมกำลังพลสำหรับยามศึกสงคราม รวมทั้งลงทะเบียนคนเกิดและจำหน่ายทะเบียนเมื่อมีคนตาย คติแบบแผนนี้สืบทอดมาจนถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ ๕  พ.ศ. ๒๔๓๙ โปรดให้ย้ายกรมสุรัสวดีจากเดิมที่ขึ้นกับกระทรวงเมือง มาขึ้นกับกระทรวงกลาโหม ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๔๑ ได้เปลี่ยนชื่อ “กรมสุรัสวดี” เป็น “กรมสัสดี”


ชื่อเรื่อง                     การระวังรักษาและซ่อมหนังสือผู้แต่ง                       แม้นมาส ชวลิตประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์เลขหมู่                      025.7 ม875กสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 กรุงเทพการพิมพ์ปีที่พิมพ์                    2516ลักษณะวัสดุ               100 หน้า หัวเรื่อง                     หนังสือ – การซ่อมภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับการซ่อมแซม และเก็บรักษาหนังสือ ประกอบด้วย การระวังรักษาหนังสือ หนังสือที่ควรซ่อม เตรียมการซ่อมหนังสือ การซ่อมหนังสือ การเข้าเล่ม และนิตยสาร และอนุสาร


องค์ความรู้ ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “เที่ยวหาดคุ้งวิมาน จันทบุรี” หาดคุ้งวิมาน เป็นหาดที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี อยู่ในท้องที่ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม ถ้ามาจากระยองจะแยกเข้าทางขวามือของเส้นทางถนนสุขุมวิท ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 301-302 ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 28 กิโลเมตร เข้าไป 27 กิโลเมตร ก็จะถึงชายหาดคุ้งวิมาน ก่อนถึงชายหาดคุ้งวิมานประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือขึ้นไปบนภูเขาเตี้ยๆ คือ จุดชมวิวเนินนางพญา มีจุดชมวิวทิวทัศน์ มีมุมสวยๆ บนเขาและทางลาดที่มองออกไปทะเล มีถนนเลียบทะเลที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก สมกับชื่อที่เป็นวิมานของคุ้งแห่งนี้ เมื่อไปจนสุดเส้นทางจะเห็นเจดีย์กลางน้ำ จุดชมวิวบ้านหัวแหลม เมื่อมองออกไปอีกฝั่ง จะเห็นภูเขาที่เป็นจุดที่ตั้งของแหลมเสด็จ หาดคุ้งวิมานเป็นหาดทรายสีทอง ที่จุดชมวิวหินโคร่ง มีโขดหินผุดโผล่เป็นแห่งๆแต่งแต้มชายหาดให้สวยงามยิ่งขึ้นยามที่คลื่นถาโถมซัดเข้าหาโขดหินตามกำลังแรงของลม ทำให้น้ำแตกกระเซ็นเป็นฟองฝอยขาวพร่างตาตัดกับสีฟ้าสดใสของน้ำทะเล ไกลออกไปในยามเย็น จะเห็นเรือประมงอยู่ลิบๆ ฝูงนกนางนวลและนกทะเลบางชนิดบินฉวัดเฉวียนอย่างร่าเริงน่ามอง หลายคนอาจไม่รู้ว่า ใกล้ ๆ กับจุดชมวิวเนินนางพญา ถนนบูรพาชลทิต หาดคุ้งวิมาน มีลานกางเต็นท์อยู่ เพียงขับรถเลยจุดชมวิวเนินนางพญาไป ประมาณ 100 เมตร ลงเนินไป จะสังเกตเห็นลานหินที่เป็นลานจดรถ ติดกับลานจอดรถนี้เอง ที่เป็นที่ตั้งของลานกางเต็นท์ที่กำลังพูดถึง เป็นลานเล็ก ๆ กางเต็นท์ได้ประมาณ 10-15 เต็นท์ ลักษณะลาน เป็นลานดินลูกรังปรับให้ราบเรียบ แล้วปลูกหญ้าไว้ ดินค่อนข้างแข็ง สูดบรรยากาศกับลมทะเลใน ยามค่ำคืน สามารถถ่ายรูปในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม จึงอยากเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวกันที่หาดคุ้งวิมาน อ้างอิง : ที่ระลึกในพิธีเปิดหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี : อัมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ. 2533. มัทธิว เจ. (2542, เมษายน). “เที่ยวทะเลจันท์.” Trips Magazine. ปีที่ 3 ฉบับที่ 30 : หน้า 44-65. ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี


ตราสัญลักษณ์ ๑๑๒ ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร ลักษณะและความหมายของตราสัญลักษณ์ ตราสัญลักษณ์ประกอบด้วย ตราประจำกรมศิลปากรอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยแพรแถบพื้นเขียวขลิบทอง บนแพรแถบซ้าย - ขวา มีตัวเลขปีพุทธศักราช ๒๔๕๔ และ ๒๕๖๖ เป็นปีแรกเริ่มการสถาปนาจวบจนถึงปีปัจจุบัน ด้านล่างมีข้อความ "กรมศิลปากร" ด้านบนมีตัวเลข ๑๑๒ อยู่ภายในกรอบ หมายถึง การครบรอบ ๑๑๒ ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร ผู้ออกแบบ : นายปัญญา โพธิ์ดี นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการ สังกัด : กลุ่มศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม


         เนื่องด้วยวันที่ 13 มีนาคม คือ "วันช้างไทย" หอสมุดแห่งชาติ ขอเชิญชมนิทรรศการออนไลน์ เรื่อง "ช้างมงคล" ที่ปรากฏในเอกสารโบราณ โดยเนื้อหานิทรรศการประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 นำเสนอความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ในสมัยโบราณที่ใช้เรียกอวัยวะส่วนต่างๆ ของช้าง ส่วนที่ 2 จะเป็นความรู้เกี่ยวกับการกำเนิดของช้างมงคลตามตำราคชศาสตร์ที่ปรากฏในเอกสารโบราณว่า “ช้างศุภลักษณ์” หรือช้างที่มีลักษณะมงคล พร้อมทั้งมีภาพประกอบจากเอกสารโบราณ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ตระกูล คือ ช้างตระกูลอิศวรพงศ์  ช้างตระกูลพรหมพงศ์  ช้างตระกูลวิษณุพงศ์  และช้างตระกูลอัคนิพงศ์  ส่วนที่ 3 กล่าวถึงช้างหลวงประจำรัชกาลในราชวงศ์จักรี ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 พร้อมเอกสารโบราณที่บันทึกทำเนียบนามช้างสำคัญในสมัยรัตนโกสินทร์           ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการออนไลน์ เรื่อง "ช้างมงคล" ได้ที่ https://www.nlt.go.th/service/1565


เลขวัตถุ ชื่อวัตถุ ขนาด (ซม.) ชนิด สมัยหรือฝีมือช่าง ประวัติการได้มา ภาพวัตถุจัดแสดง 46/2553 (14/2549) ชิ้นส่วนขวานหินขัด เนื้อสีดำ ย.5.4 ก.4.5 หิน ก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ ได้จากบ้านเขาเพิ่ม อำเภอบ้านนา จ.นครนายก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2539


เลขทะเบียน : นพ.บ.427/2กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 24 หน้า ; 4.5 x 58 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 154  (120-128) ผูก 2ก (2566)หัวเรื่อง : มาลาวิภักค์--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.571/8                             ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 4 x 59 ซ.ม. : ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 186  (347-356) ผูก 8 (2566)หัวเรื่อง : เวสฺสนฺตรชาตก--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



องค์ความรู้ ส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “วันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม ” วันสำคัญในเดือนพฤษภาคมวันหนึ่ง คือ วันฉัตรมงคล ในสมัยรัชกาลที่ 9 ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม ต่อมารัชกาลที่ 10 ได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พฤษภาคม จึงถือเอาวันนี้เป็นวันฉัตรมงคล พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีที่กำหนดให้มีขึ้น โดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์แต่ละรัชกาล ถือเป็นวันมหามงคลสมัย ในการพระราชพิธีนั้นทรงบำเพ็ญพระราชกุศล สมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นการฉลองครบรอบปีที่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก และเพื่อให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน เพื่อทรงอุทิศกุศลสนองพระเดชพระคุณให้เป็นการเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ และพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป พระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ได้เริ่มขึ้นในรัชกาลที่ 4 ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงการสมโภชเครื่องราชูปโภค และเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระราชทานนามว่า พระราชพิธีฉัตรมงคล มีงาน 4 วัน ในเดือน 6 ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พระราชพิธีนี้ยังคงทำในเดือนหก ต่อมาจนถึง พ.ศ. 2417 จึงเปลี่ยนมาทำในเดือน 12 อันเป็นเดือนที่ได้ทรงรับพระบรมราชาภิเษก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่มการพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ถึงสมัยรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ยังทรงพระเยาว์และยังมิได้ทรงรับพระบรมราชาภิเษก การพระราชพิธีจึงคงทำในนามพระราชพิธีรัชมงคล ต่อมาเมื่อได้รับพระบรมราชาภิเษกในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 รัฐบาลไทย ได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เหล่าพสกนิกรชาวไทยได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคลรำลึก สำหรับในรัชกาลปัจจุบัน วันฉัตรมงคล ถูกกำหนดวันขึ้นตามวันบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีนี้ขึ้น เมื่อวันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ จัดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ดังนั้น วันฉัตรมงคลในปัจจุบัน จึงตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม ของทุกปี อ้างอิง : บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541. ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี


อัมพร วีรวัฒน์.  วิธีใช้ห้องสมุด (Use of Libraries).  [กรุงเทพฯ]: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๑๔.          เป็นคู่มือการเรียนวิชาวิธีใช้ห้องสมุดสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแห่ง ซึ่งเน้นเนื้อหาวิชาทางปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วย เนื้อหาและความรู้เกี่ยวกับ ๑. ห้องสมุดทั่วไป ๒. หอสมุดมหาวิทยาลัยรามคำแหง ๓. หนังสือ ๔. การจัดหมวดหมู่หนังสือ ๕. วิธีใช้บัตรรายการ ๖. หนังสืออ้างอิง ๗. วิธีค้นคว้าเพื่อทำภาคนิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ ๘. วิธีจดโน้ต ๙. เชิงอรรถ และ ๑๐.  วิธีรวบรวมบรรณานุกรม พร้อมแบบฝึกหัด



black ribbon.