ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
***บรรณานุกรม***
หนังสือหายาก
สิ่งละอัน - พรรณละน้อย ในงานพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ท.นุตร์ รัตนภุมมะ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม ๓ ม.ค. ๐๙. พระนคร : โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๐๙.
นิตยสารรายสองเดือน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
รายงานการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
(ระหว่างวันที่ ๔ – ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗)
๑. หัวข้อเรื่อง การสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “ประวัติศาสตร์พม่าจากมุมมองของนักวิชาการพม่า”
(Myanmar History from Myanmar Perspectives)
๒. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ความรู้แก่ประเทศสมาชิกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์พม่าโดยภาพรวม
๒. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาเดินทางไปศึกษาหาความรู้จากแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญตามเมืองต่าง ๆ
๓. เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกันทั้งด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมจารีตประเพณี
๓. กำหนดเวลา ๔ – ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๔. สถานที่ ๑. ศูนย์ระดับภูมิภาคเพื่อการศึกษาประวัติศาสตร์และประเพณีของซีมีโอ
(SEAMEO Regional Centre for History and Tradition – SEAMEO CHAT) ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
๒. แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีในเมืองย่างกุ้ง หงสาวดี (พะโค) มัณฑะเลย์ อังวะ สะกาย อมรปุระ และพุกาม
๕. ผู้จัดการอบรม ศูนย์ระดับภูมิภาคเพื่อการศึกษาประวัติศาสตร์และประเพณีของซีมีโอ
(SEAMEO Regional Centre for History and Tradition – SEAMEO CHAT)
๖. กิจกรรม แบ่งเป็น ๒ ภาค
ภาคแรก การบรรยายทางวิชาการ ระหว่างวันที่ ๕ – ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
ประกอบการฉายภาพนิ่ง รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
ภาคสอง ทัศนศึกษาสถานที่สำคัญ แหล่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีต่าง ๆ ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๗. ผู้เข้าอบรม โครงการสัมมนาครั้งนี้มีผู้แทนจากประเทศในกลุ่มอาเซียนเข้าร่วม จำนวน ๖ คน ดังนี้
ผู้แทนจากประเทศไทย จำนวน ๔ คน ได้แก่
๑. นางสาวสุธีรา สัตยพันธ์ นักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการ
๒. นางสาวอาทิพร ผาจันดา นักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการ
๓. นางสาวกมลพรรณ บุญสุทธิ์ นักอักษรศาสตร์
๔. นายอลงกรณ์ จุฑาเกตุ นักวิจัยจาก SEAMEO SPAFA ประเทศไทย
ผู้แทนจากประเทศมาเลเซีย จำนวน ๑ คน ได้แก่
๑. Mrs. Rozilawati Binti Abd Kadir นักวิจัยจาก SEAMEO SEN Malaysia
ผู้แทนจากประเทศกัมพูชา จำนวน ๑ คน ได้แก่
๑. Prof. Sombo Manara Deputy Director, History Department.
Royal University of Phnom Penh, Cambodia.
คณะผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาทางวิชาการกับ Mr. Myo Aung Director ของศูนย์ SEAMEO CHAT
๘. สรุปสาระของกิจกรรม
วันอังคารที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๐๐ น. ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเที่ยวบิน TG 303
๐๙.๔๕ น. ถึงท่าอากาศยาน Yangon International Airport กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เดินทางไปยังโรงแรมที่พัก Bo Myat Tun, Bo Myat Tun Street, Yangon. โดยรถยนต์ของ SEAMEO CHAT
๑๒.๓๐ น. ออกจากที่พัก
เดินทางไปชมวิถีชีวิตชาวเมืองย่างกุ้งและย่านธุรกิจสำคัญ เช่น ตลาดจีน (Chinese Market) ตลาดไลออน (Lion Market) ย่านชุมชนชาวอินเดีย หรือตลาดแขก (Indian Market) ซึ่งชาวพม่าทั่วไปเรียกว่า เตงจีซาย (Thien Gyi Zei) และตลาดโบโจ๊ะ หรือ ตลาดสก๊อต (Scott Market)
ชมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมของอังกฤษ ได้แก่ ศาลสูง หรือ Victorian High Court Building โรงพยาบาลกลางประจำกรุงย่างกุ้ง (Yangon General Hospital) ซึ่งเดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ชมโบสถ์คริสต์ และโรงแรมเก่าแก่ริมน้ำ คือ โรงแรมสแตรนด์ (Strand Hotel) ชมสถานที่สำคัญอื่น ๆ โดยรอบ
- เจดีย์สุเล (Sula Pagoda) เป็นเจดีย์หลักที่อยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ชาวพม่านับถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยอังกฤษปกครองพม่า เจดีย์สุเลมีลักษณะทรวดทรงเป็นเจดีย์ทรง ๘ เหลี่ยม สูง ๑๕๗ ฟุต มีสีทองอร่ามอยู่ใจกลางนครย่างกุ้ง นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะยึดเจดีย์สุเลไว้เป็นสัญลักษณ์ใจกลางเมือง
- ถนนสแตรนด์ (Strand Road) ถนนเลียบชายฝั่งแม่น้ำย่างกุ้ง เป็นถนนที่อังกฤษสร้างไว้ให้ มีท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง มีผู้คนสัญจรไปมาระหว่างฝั่งเมืองย่างกุ้งและฝั่งเมืองสิเรียม ซึ่งเป็นเมืองท่าเก่าแก่ของโปรตุเกส ปัจจุบันเป็นเมืองค้าขายและมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพม่า จากริมแม่น้ำฝั่งถนนสแตรนด์จะเห็นผู้คนสัญจรไปมาด้วยเรือหางยาวขนาดเล็ก และฝูงนกนางนวลนับร้อยตัวบินรายล้อมเรือยามอาทิตย์อัสดง เป็นบรรยากาศที่สวยงามและน่าตื่นตา เป็นทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่ประทับใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง
- เจดีย์โบตะตาวน์ (Botataung Pagoda) มีความหมายว่า เจดีย์นายทหาร ๑,๐๐๐ นาย ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อราว ๒,๐๐๐ ปีก่อน พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศธาตุที่นายวานิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งที่เมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบตะตาวน์ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งแบ่งพระเกศธาตุ ๑ เส้นมาบรรจุไว้ ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดถล่มกรุงย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์องค์นี้ถูกทำลายพังพินาศ ระหว่างการบูรณะได้พบผอบบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุตามตำนาน ต่อมาได้นำมาบรรจุไว้ในพระเจดีย์องค์ใหม่ ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๖
ภาคแรก การบรรยายทางวิชาการ ระหว่างวันที่ ๕ – ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางจากที่พักไปศูนย์ SEAMEO CHAT
๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ น. พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ
๐๙.๑๕ – ๑๐.๓๐ น. การบรรยายเรื่อง “ภูมิหลังประวัติศาสตร์พม่า” (Myanmar Historical Background) โดย Mr. U Myo Aung, Rtd. Director, SEAMEO CHAT
๑๐.๔๕ – ๑๒.๐๐ น. การบรรยายเรื่อง “ศิลปะและสถาปัตยกรรมในเมืองพุกาม” (Bagan : Art & Architecture) โดย Prof. Tun Aung Chain, Rtd. Director, SEAMEO CHAT
๑๓.๐๐ – ๑๔.๑๕ น. การบรรยายเรื่อง “อาณาจักรพยูโบราณในเมียนมาร์” (Ancient Pyu Cities in Myanmar) โดย Dr. San Shwe, Professor/Head, Archeology Department, Yangon University.
๑๔.๑๕ – ๑๕.๓๐ น. การบรรยายเรื่อง “หงสาวดี : การค้าทางทะเลและอาณาจักรในภาคพื้นทวีป” (Hanthawaddy : Maritime Trade and Land Empire)
โดย Dr. Win Myat Aung, Senior Officer, Research & Development, SEAMEO CHAT
๑๕.๔๕ – ๑๗.๐๐ น. การบรรยายเรื่อง “ประวัติศาสตร์ย่างกุ้ง” (History of Yangon)
โดย Dr. Naw Si Blut, Senior Officer, Research & Development, SEAMEO CHAT
วันพฤหัสบดีที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางจากที่พักไปศูนย์ SEAMEO CHAT
๐๙.๑๕ – ๑๐.๓๐ น. การบรรยายเรื่อง “มัณฑะเลย์ : ราชสำนักและราชธานี” (Mandalay : The Court & The City) โดย Mr. U Myo Aung
๑๐.๔๕ – ๑๒.๐๐ น. Orientation on Field Study
๑๓.๓๐ – ๑๘.๐๐ น. ทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติย่างกุ้ง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง และเยี่ยมชมอาณาบริเวณย่านเมืองเก่า
ภาคสอง ทัศนศึกษาแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณสถานสำคัญในเมืองต่าง ๆ
วันศุกร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๐๐ น. ออกเดินทางจากที่พักโรงแรม Bo Myat Tun โดยรถยนต์ของ SEAMEO CHAT
๑๐.๐๐ น. ถึงเมืองพะโค (Bago) หรือเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองหงสาวดี
- เยี่ยมชมโบราณสถานและศาสนสถานสำคัญๆ ภายในเมืองพะโค ได้แก่
- พระเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ (Shwe Maw Daw) หรือพระธาตุมุเตา
- พระพุทธไสยาสน์ชเวตาลยอง (Shwe Tha Hlyaung)
- พระราชวังกัมบอสะตาดี หรือพระราชวังหงสาวดี (Kambaezathadi Palace)
- พระมหาเจดีย์ (Maha Zedi)
- วัดไจ้ปุน (kyaikpon Pagoda)
- วัดหงสา
- วัดกัลยาณีสีมา
๑๖.๐๐ น. กลับถึงย่างกุ้ง
- เยี่ยมชมวัดเจ๊าดอว์จี (Kyauktawgyi Pagoda)
- โรงเลี้ยงช้างเผือก
๑๘.๓๐ น. กลับเข้าที่พักโรงแรม Bo Myat Tun
วันเสาร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๕.๐๐ น. ออกจากที่พักโรงแรม Bo Myat Tun ไปสนามบินย่างกุ้ง
๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางจากสนามบินย่างกุ้ง เดินทางไปมัณฑะเลย์
๑๐.๐๐ น. ถึงสนามบินเมืองมัณฑะเลย์ และเดินทางไปทัศนศึกษากลุ่มเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำอิระวดี (Ayeyawaddy River) คือเมืองอมรปุระ (Amarapura) พร้อมเยี่ยมชมโบราณสถานและสถานที่สำคัญ ได้แก่
- วัดเจ๊าดอว์จี (Kyauktawgyi Paya)
- ทะเลสาบตองตะมาน (Taungthman Lake)
- สะพานอูเบ็ง (U Bein Bridge)
ชมแหล่งปักผ้า หุ่นกระบอก ไม้แกะสลัก
- ผ้าปักลายนูน ทำด้วยไหมดิ้นเงิน ทอง ทำเป็นของใช้และเครื่องประดับบ้าน
- หุ่นกระบอก ทำเป็นรูปคน สัตว์ สามารถชักเดินได้เหมือนจริง หุ่นกระบอกเป็นสินค้าที่ส่งไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน สามารถสร้างรายได้
- ไม้แกะสลัก ใช้เป็นประตู หน้าต่าง หน้าบัน และเครื่องประดับตกแต่งบ้าน
แหล่งแกะสลักหิน ไม้ ทองเหลือง และสำริด เป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ที่สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม อาทิ การแกะสลักหินอ่อนเป็นรูปพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ ฯลฯ
- การแกะสลักไม้ เช่น หน้าบัน บานประตู หน้าต่าง ลูกกรง ฯลฯ
- การทำทองเหลือง เช่น กระดิ่ง เครื่องถ้วย กาน้ำ ฯลฯ
- การทำสำริด เช่น พระพุทธรูป เครื่องประดับตกแต่งต่าง ๆ
แหล่งทอผ้าไหม ที่ Shwe Sin Tai Silkwear สาธิตการทอผ้าด้วยกระสวยร้อย ทอเป็นลายพื้นเมือง
- เยี่ยมชมพระราชวังมัณฑะเลย์
- ทัศนศึกษาเจดีย์สันทะมุนี (Sandamuni Pagoda) วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) และวัดอะตุ๊หม่าชิ (Ahtumashi Kyaung)
- ทัศนศึกษา ณ มัณฑะเลย์คีรี (Mandalay Hill)
๑๘.๓๐ น. กลับเข้าที่พักโรงแรม Mandalay Inn
วันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๓๐ น. ออกจากที่พัก ไปชม แหล่งทองคำเปลว ที่ King Galon Gold Leaf Workshopชมสาธิตการตีทองคำเปลว ซึ่งมีเพียงสองประเทศในโลกที่ผลิตทองคำเปลว คือ ไทย และพม่า ขั้นตอนการทำคล้ายกัน ต่างกันที่กระดาษห่อทองคำเปลวของพม่าทำจากไม้ไผ่หมักจนเปื่อยยุ่ย เมื่อนำมาทำเป็นกระดาษห่อ จะเหนียวและทนทานกว่ากระดาษของไทย
๑๐.๐๐ น. เดินทางไปยังกลุ่มเมืองโบราณ ลุ่มแม่น้ำอิระวดีตอนบน คือ เมืองอังวะ (Inwa) หรือเมือง อมรปุระ เป็นเมืองร่วมสมัยเดียวกับเมือง พะโค เมืองอังวะตั้งอยู่เหนือเมืองพุกาม ติดกับฝั่งซ้ายของแม่น้ำอิระวดี ถัดจากอังวะขึ้นไปทางเหนือเล็กน้อยคือที่ตั้งของเมืองอมรปุระ และทางเหนือต่อจากเมืองอมรปุระขึ้นไปคือเมืองมัณฑะเลย์และเมืองชเวโบ จากนั้นเข้าชมโบราณสถานสำคัญในเมืองอังวะ ได้แก่
หอชมเมืองอังวะ (Watch Tower) ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมือง สูงประมาณ ๓๐ เมตร มีบันไดเวียนขึ้นไปถึงข้างบนยอดหอคอย จะมองเห็นทัศนียภาพเมืองอังวะได้ชัดเจน
วัดมหาออง มเย บองซาน (Maha Aung Mye Bon San) ซึ่งเป็นวัดสำคัญ ผู้สร้างคือ พระนางนันมาดอว์เมนุ (Nan Ma Daw Menu) มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐตกแต่งเลียนแบบเครื่องไม้ในศิลปะพม่า ภายในมีพระพุทธรูป ตู้พระธรรม เสาไม้ภายในหน้าพระประธานประดับด้วยภาพไม้แกะสลัก
วัดไม้สักบากะยา (Bagaya Kyaung) ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองอังวะทางทิศใต้ เป็นอาคารไม้สักทั้งหลัง แกะสลักเป็นลวดลายละเอียดประณีต
๑๑.๓๐ น. ข้ามสะพานอังวะ หรือสะพานสะแคงไปยังฝั่งเมืองสะแคง (สะกาย Sagaing) ชมทิวทัศน์บนยอดเขาสะกาย และชมโบราณสถานสำคัญ เช่น เจดีย์เกามูดอว์ เป็นต้น
๑๓.๓๐ น. ทัศนศึกษาวัดพระมหามัยมุนี (Maha Muni pagoda) และวัดชเวนันดอว์ (Shwe Nan Daw Monastery)
๑๖.๓๕ น. ออกเดินทางจากสนามบินเมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay Airport)
๑๗.๐๐ น. ถึงสนามบินเมืองพุกาม (Bagan)
๑๘.๐๐ น. ถึงที่พักโรงแรม Prince Hotel เมืองพุกาม
วันจันทร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๐๐ น. ออกจากที่พักโรงแรม Prince Hotel โดยรถยนต์ของ SEAMEO CHAT และทัศนศึกษาสถานที่สำคัญภายในเมืองพุกาม ได้แก่
- เจดีย์โลกะนันทะ (Lawkananda Pagoda)
- เจดีย์เปตเลค (Phetleik Pagoda)
- วัด Seinnyet Ama Temple และเจดีย์ Siennyet Pagoda
- ตำหนัก Soemingyi Monastery
- วัดนันพญา (Nanpaya Temple)
- วัดนาคายน (Nagayon Temple)
- วัดกุบยอกจี (Gubyaukgyi Temple/Myinkaba)
- วัดอภัยทาน (Apeyadana Temple)
๑๔.๐๐ – ๑๘.๓๐ น. - ทัศนศึกษาวัดทัตพยินยู หรือวัดสัพพัญญู (Thatbyinnyu Temple)
- วัด Ngakywenadaung
- วัด Pahtothamya
- วัดธรรมยางจี (Dhammayangyi Temple) และเจดีย์ธรรมยางจี
- เจดีย์ชเวซานดอว์ (Shwe San Daw Pagoda)
- มิงกาลาเจดีย์ (Mingalazedi Pagoda)
๑๘.๔๕ น. กลับเข้าที่พักโรงแรม Prince Hotel
วันอังคารที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๘.๓๐ น. ออกจากโรงแรมที่พัก ทัศนศึกษาหมู่บ้าน Minanthu หมู่บ้านทอผ้าและงานหัตถกรรม
- เจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda)
- เจดีย์สะปาดา (Sapada Pagoda)
- วัด Gubyaukgyi (Wetkyi-in)
- เจดีย์บูพญา (Bupaya Pagoda)
๑๕.๓๐ น. - ทัศนศึกษาวัดอานันทะ (Ananda Temple) และวัดติโลมินโล (Htilominlo Temple)
๑๙.๐๐ น. เดินทางกลับเมืองย่างกุ้งโดยเครื่องบินสายการบิน Yangon Airways
๒๐.๐๐ น. ถึงเมืองย่างกุ้ง และเข้าที่พักโรงแรม Bo Myat Tun
วันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
๐๙.๐๐ น. ออกจากที่พักไปชมพระมหาเจดีย์ชเวดากอง และชมวิถีชีวิตตลอดจนการประกอบอาชีพต่าง ๆ ของชาวพม่าในเมืองย่างกุ้ง
๑๗.๓๐ น. ออกจากที่พักโรงแรม Bo Myat Tun เดินทางไปสนามบินมินกาลาดง
๑๘.๔๐ น. ออกเดินทางจากเมืองย่างกุ้ง โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 306
๒๒.๓๐ น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ และเดินทางกลับบ้านพัก
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยหัวเรื่อง วรรณกรรมพุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 50 หน้า : กว้าง 4 ซม. ยาว 57 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง ธรรมเทศนา อานิสงส์ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 10 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 59 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
เลขทะเบียน : นพ.บ.11/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 64 หน้า ; 4 x 56 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 7 (74-82) ผูก 1หัวเรื่อง : จูฬวคฺคปาลิ--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อผู้แต่ง แปลก พิบูลสงคราม,จอมพล
ชื่อเรื่อง ประวัติศาสตร์สุโขทัย ภาค 1
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ บริษัทไทยบริการ จำกัด
ปีที่พิมพ์ 2498
จำนวนหน้า 285 หน้า
รายละเอียด
หนังสือ ประวัติศาสตร์สุโขทัย ภาค 1 เป็นหนังสือที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม) ได้จัดพิมพ์แจกเนื่องในวาระคล้ายวันเกิด 14 กรกฎาคม พุทธศักราช 2498 เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย สมัยสุโขทัยซึ่งเป็นสมัยแรก ในประวัติศาสตร์ที่ไทยเริ่มตั้งตัวได้เป็นหลักฐานในดินแดน อันแน่นอน ไม่ต้องเร่ร่อนพเนจรอพยพเหมือนสมัยก่อน เป็นสมัยแรกที่มีศิลาจารึก มีศิลปะทั้งด้านประติมากรรมและสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่า ที่พึงสงวนไว้ เพื่อช่วยกันรับผิดชอบในความเสื่อมความเจริญของประเทศชาติ ด้วยการศึกษาประวัติศาสตร์ของไทยที่เคยรุ่งเรืองมาแล้วเพื่อเผยแพร่ความรู้ ที่เป็นประโยชน์แก่พี่น้องร่วมชาติอย่างกว้างขวาง จะได้เป็นแรงจูงใจให้ร่วมกันสามัคคี เพื่อสร้างความเจริญแก่ประเทศชาติทุกวิถีทางและจะได้อยู่ในความ ทรงจำและเป็นเครื่องเตือนใจให้กับคนไทยทุกๆ คนตลอดไป
ชื่อผู้แต่ง : ศิลปากร,กรมชื่อเรื่อง : ประเพณีเกี่ยวกับชีวิตของกรมศิลปากรครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่เจ็ดสิบสองสถานที่พิมพ์ : กรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ไทยแบบเรียนปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๘จำนวนหน้า : ๑๐๖ หน้าหมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณืในงานฌาปนกิจศพ นางปาหนัน คุ้มภัย ณ สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๑๖ มีนาคม พทธศักราช ๒๕๑๘ เรื่องประเพณีเกี่ยวกับชีวิตของกรมศิลปากร มีเรื่องต่างๆ รวม ๕ เรื่องคือ ๑.ประเพณีทำบุญ ๒.ประเพณีเลี้ยงลูก ๓.ประเพณีบวชนาค๔.ประเพณีแต่งงาน ๕.ประเพณีทำศพ
ชื่อผู้แต่ง : วรรณิภา ณ สงขลา
ชื่อเรื่อง : การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๒๘
ครั้งที่พิมพ์ : -
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์การพิมพ์
จำนวนหน้า : ๑๓๐ หน้า
หมายเหตุ : กรมศิลปากร จัดพิมพ์เนื่องในโอกาส การจัดนิทรรศการ การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง พระวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง เป็นหนังสือวิชาการที่ให้ความรู้ ด้านการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังโดยตรง จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อถวายท่านเจ้าอาวาสวัดที่มีจิตรกรรมฝาผนังทั่วประเทศ
ชื่อเรื่อง : สุภาษิตต่าง ๆ ตายแล้วไปไหน ความขบขัน การแต่งงาน ลักษณะของคน รัฐบุรุษคนสำคัญในปัจจุบัน มนุสสปฏิวัติ
ชื่อผู้แต่ง : วิจิตรวาทการ, พล.ต. หลวง
ปีที่พิมพ์ : 2504
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา
จำนวนหน้า : 288 หน้า
สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้ได้รวมรวมปาฐกถาของ พล.ต. หลวงวิจิตรวาทการ ทั้งหมด 7 เรื่อง ประกอบด้วย 1. เรื่องสุภาษิตต่าง ๆ สุภาษิตที่นำมากล่าวมีที่มาจากหลายชาติหลายภาษา โดยได้อธิบายถึงความหมายและคติสอนใจ 2. เรื่องตายแล้วไปไหน ความตายเป็นธรรมชาติอันหนึ่งซึ่งไม่มีใครหนีพ้น ดังที่พระพุทธเจ้าให้พึงระลึกไว้ว่า ไม่มีอนุสสติอันใดที่จะให้ผลานิสงส์มากเท่ามรณานุสสติ 3. เรื่องความขบขัน ความขบขันก็มีหลักทางวิชาการ การจะขันเรื่องใดต้องขบให้แตกก่อนว่าเป็นเรื่องน่าขันหรือไม่ บางเรื่องเป็นเรื่องน่าขันสำหรับเราแต่ผู้อื่นไม่ได้มองว่าน่าขัน 4. เรื่องการแต่งงาน เป็นการชี้ให้เห็นถึงมุมมองของการแต่งงานที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ๕. เรื่องลักษณะของคน "หน้าที่" เป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ ความรักความซื่อตรงต่อหน้าที่เป็นข้อสำคัญที่จะทำให้คนเป็นคนดี 6. เรื่องรัฐบุรุษคนสำคัญในปัจจุบัน กล่าวถึงรัฐบุรุษที่น่ายกย่อง ได้แก่ เดวาเลรา สตาลิน มุสโสลินี ฮิตเลอร์ มหาตมะคานธี และเยาวหราล เนหรู 7. เรื่องมนุสสปฏิวัติ มนุสสปฏิวัติส่วนสำคัญที่ต้องทำคือการปลูกความขยันขันแข็งในการทำงาน ปลูกความนิยมในงานอาชีพ และเพาะนิสัยพึ่งตนเอง
สืบเนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2528 - 2529 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในการทำปุ๋ยหมัก ทำนาและเกี่ยวข้าวที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง ที่มีการเพาะปลูกข้าวมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ถึง 3 ครั้ง (ในขณะนั้น) ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อเกษตรกรชาวไทย ในด้านการพัฒนาการทำนา และที่สำคัญพระองค์ทรงเป็นผู้ให้ขวัญกำลังใจแก่ชาวนาไทยอย่างใหญ่หลวง พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดสุพรรณบุรีในพระราชกรณียกิจด้านการเกษตร ในช่วงปี พ.ศ. 2528 - 2529 (ก่อนการก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย หลังแรก) รวม 4 ครั้ง ในห้วงเวลาดังกล่าว ครั้งที่ 1 วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2528 พระองค์ทรงทอดพระเนตรการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา ณ บ้านแหลมสะแก (บึงฉวากในปัจจุบัน) ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ครั้งที่ 2 วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528 พระองค์ทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชต่าง ๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวจังหวัดสุพรรณบุรี และเกษตรกรชาวไทย ตามโครงการรณรงค์จัดทำปุ๋ยหมัก เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกรนำไปปรับปรุงคุณภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ณ บ้านแหลมสะแก ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ครั้งที่ 3 วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2529 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในการทำนาสาธิตโดยใช้ปุ๋ยหมัก ณ บึงไผ่แขก ตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ครั้งที่ 4 วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2529 พระองค์ทรงนำพสกนิกรเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิต ณ บึงไผ่แขก ตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อทรงเกี่ยวข้าวแล้วทรงนำข้าวป้อนเข้าเครื่องนวดข้าว ผลปรากฏว่าได้เมล็ดข้าวจำนวน 1,047 กิโลกรัมต่อไร่ หรือไร่ละ 104 ถัง และได้พระราชทานข้าวที่ทรงเกี่ยวแก่เกษตรกรผู้เข้าเฝ้ารับเสด็จ พระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงหว่านข้าวในแปลงนาสาธิตบึงไผ่แขกด้วยพระองค์เอง ทรงถอดรองพระบาท ย่ำท้องนาด้วยพระบาทเปล่า (พระบรมฉายาลักษณ์จากหนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี) พระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิตบึงไผ่แขกด้วยพระองค์เอง เพื่อเป็นปฐมฤกษ์และเป็นขวัญกำลังใจแก่พสกนิกรเกษตรกรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี อันเป็นพระมหากรุณาล้นเกล้าล้นกระหม่อม (พระบรมฉายาลักษณ์จากหนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี) หมายเหตุ : อนุเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมโดย หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี ภาพจาก หนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มาของข้อมูล : Facebook Page : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย Thaifarmersnationalmuseum เผยแพร่ข้อมูลในวันที่ 16 เม.ย. 2563
สวัสดีค่ะ ขอเชิญชวนน้องๆ และครอบครัว มาท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ และร่วมทำกิจกรรมสนุกๆในวันหยุดนี้ร่วมกันค่ะ กิจกรรมสุดพิเศษทุกๆวันเสาร์ อาทิตย์ ประจำเดือนกรกฎาคม "ร้อยกำไลลูกปัด"ฟรี ทุกกิจกรรม