ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,784 รายการ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 92/1หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 72 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 55 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 124/3
หมวดหมู่ พุทธศาสนาประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 38 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง มาลัยหมื่น (มาไลหมื่น)สพ.บ. 6/1กประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 22 หน้า : กว้าง 4.8 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พระมาลัยภาษา บาลี-ไทยอีสานบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับชาดทึบ, ล่องชาด ไม่มีไม้ประกับ ได้รับมอบมาจากนางสุดา วงษ์พันธุ์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญชมการแสดงงาน “ศิลปกรรมเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 20” จัดโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม นิทรรศการเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 5 - 30 กรกฎาคม 2568 (ปิดวันจันทร์ - อังคาร) เวลา 09.00 - 16.00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป โดยมีพิธีมอบรางวัลการประกวด วันที่ 18 กรกฎาคม 2568
------------------------------------------------------
The 20th National Youth and Juvenile Art Exhibition
By Bunditpattanasilpa Institute of Fine Arts
5- 30 July 2025 | 9.00-16.00
At The National Gallery of Thailand
The awards ceremony for the competition will be held on July 18, 2025, at the Auditorium Room, The National Gallery of Thailand.
วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘) เวลา ๐๘.๐๙ น. สมเด็จมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการเททองหล่อพระรัศมีทองคำ พระพุทธสิหิงค์ และนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บูชาฤกษ์ พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และประชาชนเข้าร่วมพิธี ณ มณฑลพิธี อาคารกลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ พิธีเททองหล่อพระรัศมีทองคำ พระพุทธสิหิงค์ ได้ดำเนินเสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่กลุ่มงานช่างบุและช่างศิราภรณ์ สำนักช่างสิบหมู่ จะดำเนินการเก็บรายละเอียดและความเรียบร้อยพระรัศมีทองคำ โดยการตัดทางน้ำออก ขัดแต่งให้เรียบร้อย และจะทำการลงยาสีร้อนและประดับเพชรในขั้นตอนต่อไป
ชื่อแบบฉบับ : เปตวตฺถุปาลิ ขุทฺทกนิกาย (ผูก 7)
ชื่อเรื่อง : บาลีเปตวัตถุ (ผูก 7)
เลขทะเบียน : ชม.บ.582/7
ผู้แต่ง : พระพุทธพจน์ ผู้สร้าง : อาจารย์ศรีโค ปีที่สร้าง : จ.ศ.886 (พ.ศ. 2067)
จำนวน : 1 คัมภีร์ 4 ผูก (หอสมุดแห่งชาติฯ เชียงใหม่ มีผูก 1, 4, 7, 11)
จำนวนบรรทัด : 5 บรรทัด จำนวนหน้า : 52 หน้า
อักษร : ธรรมล้านนา ภาษา : บาลี เส้น : จาร
ฉบับ : ชาดทึบ ไม้ประกับ : ไม่มี ประเภทเอกสารโบราณ : คัมภีร์ใบลาน
ประวัติ : พระพุทธพจน์แต่ง, อาจารย์ศรีโคสร้าง จ.ศ.886 (พ.ศ.2067) ได้มาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2531
โครงการ : พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2568
ขอเชิญชมนิทรรศการและร่วมการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “ราชประดิษฐฯ วิจิตรศิลป์ สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน งานศิลป์ประดับมุก”
กรมศิลปากร โดยสำนักช่างสิบหมู่ ภายใต้ความร่วมมือกับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และสถาบันวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขอเชิญชมนิทรรศการและร่วมฟังการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “ราชประดิษฐฯ วิจิตรศิลป์ สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน งานศิลป์ประดับมุก” ในวันพุธที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://forms.gle/NP3Cu2D1hgW9jAyq7
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านการอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทยให้กับประชาชนที่สนใจ เป็นการสืบทอดองค์ความรู้และทักษะเชิงช่าง ธำรงรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรม และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ผ่านงานศิลปกรรมอันทรงคุณค่า เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของมรดกวัฒนธรรมจากอดีตสู่ปัจจุบัน เพื่อความสมบูรณ์ของศาสนสถานที่สำคัญของประเทศไทยแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป
พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2407 ประตูและหน้าต่างภายในพระวิหารหลวงถูกประดับด้วยบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ซึ่งเป็นงานสั่งทำโดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นศิลปวัตถุชิ้นสําคัญที่มีคุณค่ายิ่งในประเทศไทยและเป็นบานไม้ประดับมุกชุดใหญ่ของโลกที่เหลืออยู่ ทางวัดราชประดิษฐฯ ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของศิลปวัตถุชิ้นนี้ จึงเป็นที่มาโครงการอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร โดยความร่วมมือระหว่างวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรมศิลปากร และสถาบันวิจัยมรดกทางวํฒนธรรมแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo National Research Institute for Cultural Properties :TNRICP) ในการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่ และกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร่วมดำเนินการกับผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์งานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นจาก TNRICP โดยใช้พื้นที่ภายในวัดราชประดิษฐฯ เป็นห้องปฏิบัติการอนุรักษ์ตลอดทั้งโครงการเป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564 - 2568 เพื่ออนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง และรักษางานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทยให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไปในอนาคต และให้คณะช่างที่ปฏิบัติงานซ่อมแซมได้เรียนรู้ ฝึกฝน เพิ่มพูนทักษะฝีมือทางด้านงานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ศิลปวัตถุชิ้นสำคัญในหน่วยงานอื่น ๆ ต่อไป
--------------------------------------------------
พิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม สำหรับการจัดสร้างพระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ งานพระราชพิธี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 12.19 น. ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลอากาศเอก จารึก สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นประธานในพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม สำหรับการจัดสร้างพระโกศจันทน์ และพระหีบจันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดดล้อม นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมในพิธีฯ
พลอากาศเอก จารึก สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ประธานในพิธี เดินทางถึงมณฑลพิธี เริ่มพิธีบวงสรวง เวลา 12.19 น. ประธานฯ หลั่งน้ำเทพมนต์ เจิมขวานสําหรับใช้ตัดต้นจันทน์หอม จุดเทียนเงิน เทียนทอง ธูปที่โต๊ะบวงสรวง จุดธูปหางปักที่เครื่องบวงสรวง จุดเครื่องทองน้อย นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าฝ่ายโหรพราหมณ์ อ่านโองการบวงสรวง เมื่อหัวหน้าฝ่ายโหรพราหมณ์ อ่านโองการบวงสรวง จบแล้ว ประธานฯ ไปยังบริเวณหน้าต้นจันทน์หอม ประพรมน้ำเทพมนต์ที่ต้นจันทน์หอม แล้วใช้ขวานฟันที่ต้นจันทน์หอม เป็นปฐมฤกษ์ และโปรยดอกไม้รอบบริเวณต้นจันทน์หอม นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจไม้จันทน์หอม จำนวน 20 ต้น ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตําบลหาดขาม อําเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่าลักษณะและคุณภาพของไม้จันทน์หอมที่สามารถนำมาดำเนินการแปรรูปสำหรับจัดสร้างพระโกศจันทน์ พระหีบจันทน์ ท่อนฟืนไม้จันทน์และช่อไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต้นที่ค่อนข้างสมบูรณ์นำมาแปรรูปได้ จำนวน 10 ต้น ใช้ได้บางส่วน จำนวน 8 ต้น โดยทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะดำเนินการตัด และแปรรูป พร้อมนำส่งมอบให้แก่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ในลำดับต่อไป ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่ได้จัดเตรียมบุคลากรไว้พร้อมแล้ว เพื่อให้การดำเนินการจัดสร้างพระโกศจันทน์ พระหีบจันทน์ ท่อนฟืนไม้จันทน์และช่อไม้จันทน์ เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ให้มีความวิจิตร งดงาม และสมพระเกียรติสูงสุด
ไม้จันทน์หอมถือว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์และสูงศักดิ์ ถือเป็นไม้มงคลที่มีกลิ่นหอม เป็นไม้เนื้อแข็งลักษณะเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน เสี้ยนตรง เนื้อละเอียด สำหรับไม้จันทน์หอมที่ใช้ในงานพระราชพิธีฯ นี้ เป็นต้นไม้จันทน์ที่ยืนต้นตายตามธรรมชาติ มีลำต้นเปลาตรง พบบริเวณป่าดิบแล้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผู้แต่ง : ธนาคารกรุงเทพปีที่พิมพ์ : 2544สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : เจริญรัฐการพิมพ์ วัดพระศรีโคมคำเป็นวัดที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ราวพุทธศักราช 2034 โดยมีพระพุทธปฏิมาพระเจ้าตนหลวงเป็นพระประธานองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองพะเยา คาดว่าน่าจะมีอายุราว 508 ปี ส่งผลให้ธนาคารกรุงเทพได้จัดตีพิมพ์ พระกฐินพระราชทาน ทอด ณ วัดศรีโคมคำฉบับนี้ เพื่อธำรงรักษาความเชื่อ สิ่งเคารพ บูชาสูงสุดชิ้นหนึ่งที่มีคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ควรค่าแก่การรักษาไว้