ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,765 รายการ


เลขทะเบียน : นพ.บ.62/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  88 หน้า ; 5.2 x 58 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 40 (388-394) ผูก 2หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อผู้แต่ง :      นางจินดา  อินทะเคหะ ชื่อเรื่อง :       ตำนานพระเจ้า ๗ พระองค์ และ ประวัตินายทิพย์ช้าง ฉบับแปล ปีที่พิมพ์ :      ๒๕๑๗ สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ โรงพิมพ์      : กรุงเทพการพิมพ์ จำนวนหน้า    ๑๐๖ หน้า                    หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่พิมพ์เป็นอนุสรณ์งานศพนางจินดา อินทะเคหะเมื่อวันที่ ๘ เดือนกุมภาพันธ์  ๒๕๑๗   นางจินดา อินทะเคหะเป็นผู้ที่มีความยึดมั่นและศรัทธาในพุทธศาสนา และได้อบรมบุตรธิดาให้เป็นคนดี สมควรที่จะเป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลังๆ


วันอังคารที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมาลงพื้นที่ตรวจโบราณสถาน อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-ปราสาทไบแบก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-แหล่งถลุงเหล็ก บ้านสายโท๕ใต้ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-แหล่งเตาเผาโบราณเตานายเจียน อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-แหล่งเตาเผาโบราณเตาสวาย อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-ปราสาททอง อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์-ปราสาทถมอ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์





ชื่อเรื่อง : การศึกษาวิจัยเรื่องวัดช้างล้อม   ชื่อผู้แต่ง : กองโบราณคดี กรมศิลปากร   ครั้งที่พิมพ์ : -   สถานทีพิมพ์ : กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์ : วิคตอรี่เพาเวอร์พอยท์ จำกัด   ปีที่พิมพ์ : ม.ป.ป.          การศึกษาวิจัยเรื่องวัดช้างล้อมโดยคณะผู้เชี้ยวชาญทางโบราณคดีของกรมศิลปากร ได้ศึกษาเกี่ยวกับศิลปกรรมทางโบราณคดีของวัดช้างล้อม รูปทรงทางสถาปัจยกรรมของพระเจดีย์ตลอดถึงพระพุทธรูป และโบราณวัตถุต่าง ๆ ภายในวัดช้างล้อมซึ่งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทั




          วัดศรีธาตุ บ้านสิงห์ ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ ภายในวิหารวัดศรีธาตุประดิษฐานพระพุทธหลักคำวรสิงหนาท (พระเจ้าใหญ่) พระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะล้านช้าง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร สูง ๕.๒๐ เมตร เป็นพระสำคัญคู่ชุมชนบ้านสิงห์มาแต่โบราณ วัดศรีธาตุเป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ สถูปโบราณ สิงห์หินทรายแกะสลัก นอกจากนี้ยังมีหอไตรกลางน้ำ ตู้พระธรรม หีบพระธรรม สัตตภัณฑ์หรือเชิงเทียน ที่เก็บรักษาภายในวัดอีกด้วย ปัจจุบันมีพระครูฉันทกิจโกศล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เป็นเจ้าอาวาส พระพุทธหลักคำวรสิงหนาท (พระเจ้าใหญ่)           ปีงบประมาณ ๒๕๖๓ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการสำรวจเอกสารโบราณ ที่เก็บรักษา ณ วัดศรีธาตุ บ้านสิงห์ ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓ มีคณะทำงานไปปฏิบัติราชการจากสำนักหอสมุดแห่งชาติและหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม เพื่อทำการสำรวจ ดูแลรักษา สืบสานวัฒนธรรมทางด้านอักษรและภาษาโบราณที่บันทึกไว้ในเอกสารโบราณ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้พระครูฉันทกิจโกศล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เจ้าอาวาสวัดศรีธาตุ ได้กรุณาให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตลอดการทำงาน           เมื่อได้สำรวจเอกสารโบราณที่เก็บรักษาไว้ภายในศาลาอเนกประสงค์ของทางวัด ซึ่งแต่เดิมเข้าใจว่าได้ย้ายมาจากหอไตรกลางน้ำ เบื้องต้นพบว่าเอกสารโบราณส่วนมากเป็นคัมภีร์ใบลาน ซึ่งกลุ่มงานอนุรักษ์เอกสารโบราณ สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มาสำรวจและลงทะเบียนไว้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีบัญชีจากฐานข้อมูลเอกสารโบราณ วัดศรีธาตุ บ้านสิงห์ ตำบลสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ระบุว่ามีคัมภีร์ใบลานจำนวนทั้งสิ้น ๒๐๘ มัด เก็บรักษาเอกสารโบราณอยู่ในตู้พระธรรม จำนวน ๑ ใบ หีบพระธรรม จำนวน ๕ ใบ บนธรรมาสน์ และบันไดแก้ว หอไตรกลางน้ำหีบพระธรรม ตู้พระธรรม ภายในศาลาอเนกประสงค์            คณะทำงานจึงได้วางแผนงานและปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน เพื่อให้สามารถจัดเก็บและค้นหาเอกสารได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนี้            ๑. นำมัดคัมภีร์ใบลานออกจากสถานที่จัดเก็บ เพื่อเรียงเลขที่มัดตั้งแต่มัดที่ ๑ จนถึงมัดที่ ๒๐๘ ตามลำดับทะเบียนเดิม            ๒. ตรวจสอบข้อมูลป้ายหน้ามัดคัมภีร์ใบลานกับบัญชีฐานข้อมูลเอกสารโบราณให้ถูกต้องตรงกัน เนื่องจากพบว่ามีบางรายการให้เลขที่ประจำมัดซ้ำกัน หรือ ป้ายชื่อเรื่องหน้ามัดไม่ตรงกับเอกสารโบราณภายใน ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง            ๓. จัดทำป้ายเลขที่ประจำมัด โดยตัดใบลานเปล่าให้มีขนาดที่เหมาะสม แล้วจึงเขียนเลขที่ประจำมัด พร้อมกับประทับตราวัด แล้วจึงเจาะรูร้อยด้วยเชือกและผูกไว้กับเชือกมัดคัมภีร์ใบลานทุกมัด เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บและค้นหา            ๔. เขียนเลขที่มัดและประทับตราของวัดลงบนผ้าฝ้ายสีขาวที่ใช้ห่อคัมภีร์ใบลานทุกมัด            ๕. ลงทะเบียนเอกสารโบราณเพิ่มเติมจำนวน ๖ รายการ ประกอบด้วยคัมภีร์ใบลานจำนวน ๔ รายการ และหนังสือสมุดไทยจำนวน ๒ รายการ รวมเป็นเอกสารโบราณทั้งหมด ๒,๔๗๖ รายการ ดังนี้                     ๕.๑ คัมภีร์ใบลาน อักษรขอมและอักษรธรรมอีสาน จำนวน ๒๑๒ มัด มี ๒๑๒ เลขที่ รวมทั้งหมด ๒,๔๗๔ รายการ                     ๕.๒ หนังสือสมุดไทยที่บันทึกด้วยอักษรธรรมล้านนา และอักษรขอมไทย ภาษาบาลี เป็นบท สวดมนต์ หมวดธรรมคดี จำนวน ๒ รายการ หนังสือสมุดไทยดำ อักษรธรรมล้านนา หนังสือสมุดไทยดำ อักษรขอม            ๖. จัดเก็บคัมภีร์ใบลานเรียงตามลำดับมัดเพื่อสะดวกต่อการค้นหา ---------------------------------------เรียบเรียงข้อมูล : นายสันติ วงศ์จรูญลักษณ์ นักภาษาโบราณชำนาญการ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ ---------------------------------------เอกสารอ้างอิง ๑. กรมการศาสนา. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๑๔. กรุงเทพฯ: กรมการศาสนา, ๒๕๓๘. ๒. กรมศิลปากร. ปกิณกศิลปวัฒนธรรม เล่ม ๑๘ จังหวัดยโสธร. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๕๕. ๓. กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทย. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดยโสธร. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๔๒.


ความเป็นมาของวันโอโซนโลก (World Ozone Day)           เนื่องจากในยุคสมัยที่ผ่านมา โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ใช้สารเคมีซีเอฟซี หรือคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC : Chlorofluorocarbon) เป็นจำนวนมาก พบมากในโรงงานอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น และอุตสาหกรรมผลิตโฟม ทำให้สารเคมี ซีเอฟซีระเหยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และไปทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน จนก๊าซโอโซนถูกทำลาย และลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสารเคมีซีเอฟซีเป็นสารที่สลายตัวเองได้ยาก จึงทำให้ตกค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศเป็นเวลานาน ร่วมกับก๊าซโอโซนถูกทำลายลงไปมาก จึงทำให้รังสียูวีอุลตราไวโอเลตเข้าสู่พื้นโลกมาขึ้น ซึ่งส่งผลให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งสัตว์และ มนุษย์เกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ด้วยเหตุนี้เองจึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 16 กันยายนของทุกปี เป็นวันโอโซโลก นับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา นานาประเทศได้ร่วมกันจัดทำอนุสัญญาการป้องกันชั้นบรรยากาศโอโซน ขึ้นในปี พ.ศ. 2528 เรียกว่า “อนุสัญญาเวียนนา และพิธีสารว่าด้วยการเลิกใช้สารทำลายชั้นโอโซน” และจัดให้ลงนามใน “พิธีสารมอนทรีออล” ขึ้นในวันที่ 16 กันยายน ปี พ.ศ. 2530          สำหรับประเทศไทยได้ร่วมลงนามในพิธีสารนี้ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2531 และให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2532 มีผลบังคับใช้ต่อประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2532 วัตถุประสงค์ของการกำหนดวันโอโซนโลก 1. เพื่อกระตุ้นให้ประเทศปฏิบัติต่ออนุสัญญา ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก2. เพื่อช่วยกันลดใช้สารซี เอฟ ซี และสารฮาลอน ซึ่งเป็นตัวทำลายบรรยากาศโอโซนในชั้นบรรยากาศ


  ***บรรณานุกรม***     ผดุงถิ่นยุคข่าวเศรษฐกิจ     ปีที่ 18     ฉบับที่ 718    วันที่ 5-15 ธันวาคม 2536


ชื่อเรื่อง : นิราศพระปฐม   ผู้แต่ง  : จขักรปาณี (ฤกษ์) เปรียญ   พิมพ์ครั้งที่ :  ๖   ปีที่พิมพ์ :  ๒๕๒๓   สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ   สำนักพิมพ์ : เจริญวิทย์การพิมพ์   หมายเหตุ : พิมพ์ถวายเป็นอนุสรณ์ในงานทำบุญอายุครบ ๘๓ ปี พระธรรมสิริชัย (ชิต  ชิตวิปุโล ) เจ้าอาวาทวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร               นิราศพระปฐม ให้ความรู้เกี่ยวกับชื่อตำบลและระยะการเดินทางไปจังหวัดนครปฐมในสมัยก่อน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าหลวงจักรปาณี แต่งนิราศ เรื่องนี้ตอนที่ศึกแล้วไม่นานนัก จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๗ ในงานกฐินพระราชทาน พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นราชศักดิ่สโมสรครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๖ และในการพิมพ์ครั้งนี้ถวายเป็นอนุสรณ์ในงานทำบุญอายุครบ ๘๓ ปีของท่านเจ้าคุณพระธรรมสิริชัย (ชิต  ชิตวิปุโล )เจ้าอาวาสวัดปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม


กระทรวงธรรมการ. สามัคคีเภทคำฉันท์. พระนคร: กระทรวงธรรมการ, 2475.กวีนิพนธ์สามัคคีเภทคำฉันท์ กระทรวงธรรมการ ได้มีคำสั่งเมื่อปี พ.ศ. 2474 ให้ใช้เป็นแบบเรียนใช้ในโรงเรียน เนื้อหารวบรวม เรื่องแผนที่ประเทศอินเดียครั้งพุทธกาล ชื่อเมืองแห่งแคว้นสำคัญในแผนที่ ประวัติย่อและอุปนิสัยของผู้ประพันธ์ (นายชิต  บุรทัต) เค้าความ ประวัติสังเขปพระเจ้าอชาตศัตรู พราหมณ์วัสสการ ประวัติย่อแห่งแคว้นมคธ ประวัติย่อแห่งลิจฉวี ความไพเราะของบทประพันธ์ สาธกความสำคัญในบทประพันธ์ สรุปข้อความสำคัญในบทประพันธ์ ข้อแนะนำ วีสอนอ่านและสอนศัพท์ อธิบายศัพท์ และคำถามคำตอบข้อสอบไล่ 895.9114 ช551ส


          เหรียญอาหรับ พบที่เมืองโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องบรรพชนคนอู่ทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง           ปัจจุบันมีหลักฐานการพบเหรียญอาหรับจากเมืองโบราณอู่ทอง จำนวนไม่น้อยกว่า ๙ เหรียญ สำหรับเหรียญอาหรับ จำนวน ๒ เหรียญ ซึ่งจัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เป็นเหรียญทองแดง ขนาดเล็ก ผ่านศูนย์กลาง ๑.๙ เซนติเมตร ทั้ง ๒ ด้านมีจารึกตัวอักษรอาหรับ ภาษาอาหรับตรงกลางเหรียญและริมขอบเหรียญ จารึกบางส่วนค่อนข้างลบเลือนทำให้เกิดข้อจำกัดของการอ่านและแปลความ จากการอ่านและแปลความของนักวิชาการทำให้ทราบว่า เนื้อหาบนเหรียญทั้ง ๒ ด้าน มีข้อความที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในศาสนาอิสลาม ดังนี้           ด้านที่ ๑ จารึกข้อความว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ ไม่มีภาคีใดเสมอพระองค์           ด้านที่ ๒ จารึกข้อความว่า มุฮัมมัดศาสนทูตของอัลลอฮ์ อัดล์(ยุติธรรม?)           เหรียญของชาวอาหรับ ผลิตขึ้นหลังการปฏิรูปเหรียญตรา โดยเปลี่ยนจากต้นแบบเหรียญโรมัน-เปอร์เซียที่มีรูปบุคคล เป็นเหรียญแบบที่มีแต่ตัวอักษรอาหรับ ระบุข้อความที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในศาสนาอิสลาม เช่น ข้อความจากคัมภีร์อัล-กุรอ่าน คำปฏิญาณ รวมถึงปีและสถานที่ผลิตเหรียญ เมื่อปี พ.ศ. ๑๒๓๙ ในสมัยคอลีฟะฮ์อับดุลมาลิค บิน มัรวาน (Caliph Abd al-Malik ibn Marwan) คอลีฟะฮ์หรือกาหลิบแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮ์ (Umayyad Dynasty, พ.ศ. ๑๒๐๔ – ๑๒๙๓) ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม เหรียญอาหรับที่ผลิตขึ้นในสมัยดังกล่าว ใช้วัสดุแตกต่างกัน ๓ ชนิด ได้แก่ เหรียญทอง ดีนาร์ (Dinar) เหรียญเงิน ดิรฮัม (Dirham) และเหรียญทองแดง ฟิลส์ (Fils)           เหรียญอาหรับที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง กำหนดอายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๔ หรือประมาณ ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว โดยสันนิษฐานว่าผลิตขึ้นในสมัยคอลีฟะฮ์อัล-มันซูร (Caliph al-Mansur) แห่งราชวงศ์อับบาสิยะห์ (Abbasid Dynasty, พ.ศ. ๑๒๙๓ – ๑๘๐๑) ทรงครองตำแหน่งในระหว่าง พ.ศ. ๑๒๙๗ – ๑๓๑๘ เป็นผู้ทรงริเริ่มก่อสร้างนครแบกแดด (ปัจจุบันกรุงแบกแดดเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐอิรัก) ซึ่งในเวลานั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าสำคัญที่มีการติดต่อค้าขายทางทะเลกับประเทศจีน และดินแดนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้          การค้นพบเหรียญอาหรับจากเมืองโบราณอู่ทอง ถือเป็นหลักฐานหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ มีการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คนจากดินแดนตะวันออกกลาง มาตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ หรือประมาณ ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเหรียญที่พบมีจำนวนไม่มากนัก จึงสันนิษฐานว่า เหรียญดังกล่าว อาจไม่ได้ใช้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนหรือค้าขาย แต่อาจเป็นของที่ระลึก หรือของที่นำติดตัวมากับพ่อค้าชาวตะวันออกกลาง ซึ่งเดินทางเข้ามาในพื้นที่บริเวณเมืองโบราณอู่ทองในช่วงเวลาดังกล่าว --------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง --------------------------------------------------เอกสารอ้างอิง โครงการศิลป์เสวนา ฝ่ายวิชาการ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (๖ กรกฎาคม ๒๕๖๑). สุนิติ จุฑามาศ. โบราณคดีอิสลาม การค้าทางทะเลสู่อิสลามานุวัตรในยุคโบราณทวารวดี-ศรีวิชัย สู่รัฐสุลต่านมลายูปาตานี. ศิลป์เสวนาเรื่อง “โบราณคดีอิสลาม จากรัฐทวารวดี ศรีวิชัย ถึงอยุธยา”. [Video file]. สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=8INszwEqcuA วิภาดา อ่อนวิมล. “เหรียญตราในประเทศไทยช่วงพุทธศตวรรษที่ ๙-๑๖”. วิทยานิพนธ์ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๖๑. สฤษดิ์พงศ์ ขุนทรง. ทวารวดี : ประตูสู่การค้าบนเส้นทางสายไหมทางทะเล. กรุงเทพฯ : ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๘.


black ribbon.