ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ
วันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. นางสาวสุคนธ์ทิพย์ จันทะลุน บรรณารักษ์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ และบุคลากร ร่วมจัดซุ้มกิจกรรม สร้างลวดลายบนผืนผ้าด้วยวัสดุธรรมชาติ ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่
ภาพบรรยากาศ น้องๆ หนูๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม "ชมพิพิธภัณฑ์ วันเด็กแห่งชาติ" ประจำปี ๒๕๖๖ เสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง
โดยมีกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนภายในพิพิธภัณฑ์ พร้อมลุ้นจับของขวัญชิ้นพิเศษ
ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ กรมศิลปากรมีนโยบายปรับปรุงและพัฒนา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา โดยการจัดสร้างอาคารหลังใหม่ สำหรับจัดแสดงโบราณวัตถุประเภทเครื่องทองอยุธยาที่ค้นพบในแหล่งโบราณคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้อยู่ในรูปแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย และได้มาตรฐานตามหลักพิพิธภัณฑสถานสากล เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของพิพิธภัณฑ์ในฐานะแหล่งเรียนรู้ทางมรดกศิลปวัฒนธรรมแก่สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา รวมทั้งเป็นการสร้างภาพจำและความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตของไทย
อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในขณะนั้น ลักษณะเป็นอาคารไทยประยุกต์ ๒ ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ ๓,๒๗๕ ตารางเมตร แบ่งเนื้อหาการจัดแสดง ออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ ๑ จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องสูง เครื่องราชูปโภคและเครื่องถนิมพิมพาภรณ์
ส่วนที่ ๒ จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องพุทธบูชา เครื่องอุทิศ และพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงกรุจำลองวัดราชบูรณะ
ส่วนที่ ๓ จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่พบในโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ พระปรางค์วัดพระราม พระปรางค์วัดมหาธาตุ เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และเจดีย์ศรีสุริโยทัย
จำนวนโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายในอาคารเครื่องทอง มีจำนวนทั้งสิ้น ๒,๒๔๔ รายการ มีโบราณวัตถุชิ้นเด่น อาทิ
พระแสงขรรค์ชัยศรี
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
เหล็ก หินเขี้ยวหนุมาน และทองคำประดับแก้วสี
พบในกรุประธานชั้นที่ ๒ พระปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระสุวรรณภิงคาร
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
ทองคำบุขึ้นรูป ตกแต่งด้วยการสลักดุนลาย
พบในกรุประธานชั้นที่ ๒ พระปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระคชาธารจำลอง
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
ทองคำประดับอัญมณีและแก้วสี
พบในกรุประธานชั้นที่ ๒ พระปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จุลมงกุฎ
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
ทองคำประดับแก้วสี
พบในกรุประธานชั้นที่ ๒ พระปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระสุวรรณมาลา
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
เส้นลวดทองคำถักขึ้นรูปและตกแต่งลาย
พบในกรุประธานชั้นที่ ๒ พระปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ศิลปะอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
ทองคำประดับอัญมณี
พบในกรุประธาน พระปรางค์ประธานวัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรจุอยู่ภายในสถูปชั้นที่ ๕
ตลับรูปสิงโต
ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๐
ทองคำประดับอัญมณี
พบในกรุเล็กใต้พื้นพระปรางค์ประธานวัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณใต้ฐานเจดีย์หรือฐานมณฑป
บัดนี้ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป เปิดทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐น. – ๑๖.๐๐ น. (ปิดวันจันทร์) อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๑๕๐ บาท ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ามาใช้บริการจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเครื่องทองอยุธยามากยิ่งขึ้น ตลอดจนเกิดความภาคภูมิใจและความตระหนักในการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของประเทศชาติต่อไป
วันศุกร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการอุทยานธรณีโคราช ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน ณ ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น ๒ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
กรมศิลปากร และ อพวช. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางด้านวิชาการโบราณคดีและการจัดการพิพิธภัณฑ์
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านงานโบราณคดีและการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ณ ห้องประชุมกรมศิลปากร เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรมศิลปากร และ อพวช. ได้ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์และการดูแลรักษาวัตถุพิพิธภัณฑ์ จากทรัพยากรและความสามารถของทั้งสององค์กร ร่วมไปกับการพัฒนาและสนับสนุนบุคลากรของทั้งสองฝ่ายในด้านการศึกษาวิจัย ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ และการดำเนินงานศึกษาวิจัยทั้งในด้านภูมิปัญญา ศิลปะศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการส่งเสริมพัฒนากิจการพิพิธภัณฑ์และโบราณคดี อันเป็นภารกิจตามกฎหมายของทั้งสององค์กร
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า “อพวช. มีภารกิจในการส่งเสริมสังคมไทยให้เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมปลูกฝังและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เยาวชน และประชาชนในสังคมให้มีทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยการจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ผ่านแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้สนุกกับการค้นพบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ การลงนามความร่วมมือระหว่าง อพวช. และ กรมศิลปากร ในครั้งนี้ หวังสร้างมาตรฐานและพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นการให้บริการแก่เยาวชนและประชาชนในการมาใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้ง ร่วมดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการพิพิธภัณฑ์ อาทิ การเก็บรักษาและจัดทำคลังวัตถุพิพิภัณฑ์ อันนำไปสู่ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ อธิบดีกรมศิลปากร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมศิลปากรมีความพร้อมที่จะดำเนินงานร่วมกับ อพวช. เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่กรมศิลปากรได้ลงนามร่วมกัน ซึ่งนอกเหนือจากกิจกรรมความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากร และการศึกษาดูงานระหว่างองค์กร กรมศิลปากรมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เฉพาะด้านในการบริหารจัดการทรัพยากรมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เช่น ฐานข้อมูลที่ได้จากการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และฐานข้อมูลที่ได้จากการอนุรักษ์แหล่งโบราณคดีทั่วประเทศในความดูแลของกรมศิลปากร รวมถึงโครงการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ของประเทศไทย อันเป็นรากฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ในอนาคต และเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจด้านพิพิธภัณฑ์และโบราณคดีของทั้งกรมศิลปากรและ อพวช. เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชนชนผู้ใช้บริการต่อไป”
ฝึกอบรมหลักสูตร The Education and Training Program for Overseas Librarians
ณ หอสมุดแห่งชาติเกาหลี และมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
ด้วยทุน 2022 Education and Training Program for Overseas Librarians และงบประมาณของกรมศิลปากร (ทุนประเภท ๒)
ตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ มีกำหนด ๓ เดือน ๕ วัน
- เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ในการบริหารจัดการและพัฒนาห้องสมุด
- เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมระหว่างสาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อสร้างเครือข่ายบุคลากรห้องสมุดกับหอสมุดแห่งชาติเกาหลี และประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
วันศุกร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการอุทยานธรณีโคราช ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน ณ ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น ๒ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
กรมศิลปากรมีกำหนดจัดการสัมมนา "วิจัย วิจักขณ์" การนำเสนอผลงานวิชาการของกรมศิลปากร ประจำปี ๒๕๖๕ ระหว่างวันที่ ๓๐ - ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ ณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการศึกษาวิจัยพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานอนุรักษ์ สืบทอด และเผยแพร่ความรู้ด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติสู่สาธารณชน ตลอดจนให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้จากการสัมมนาไปปรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาแนวความคิด การปฏิบัติงาน การพัฒนาเครือข่ายกาดำเนินงานตามบทบาทให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิพล
กรมศิลปากรจึงขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมฟังการสัมมนา วิจัย วิจักขณ์ ของกรมศิลปากร ประจำปี ๒๕๖๕ ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการสัมมนาฯ โดยสแกน QR - Code ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันพุธที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๖ หรือจนกว่าจะครบจำนวน ๓๐๐ ที่นั่ง------
The Fine Arts Department is scheduled to hold a Research Seminar on the presentation of academic works of the Fine Arts Department for the year 2022 between 30 - 31 January 2023 at the National Library of Thailand. The objective is to present the results of research studies to develop methods for preserving, inheriting and disseminating knowledge of the national cultural heritage to the public. as well as allowing project participants to apply knowledge from the seminar to use as a guideline for concept development. performance Developing a role-based operational network for efficiency and effectiveness.
The Fine Arts Department would like to invite you to attend the 2022 Research Seminar of the Fine Arts Department. You can register for the seminar by scanning the QR - Code from now until Wednesday, January 25, 2023 or until the number of 300 is reached seat.