ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

วันเสาร์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ ๔ กลุ่มที่ ๒ (จำนวน ๖ ห้อง) โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๒๔๐ คน คุณครู ๑๕ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยแบ่งการบรรยายนำชมออกเป็น ๖ กลุ่มย่อย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ โดยมีเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ทุกคน ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ.  คำแปลมนุษยธรรม 4 ประการ.  พระนคร: โรงพิมพ์เชียงเฮง, 2478.


วันพุธที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ รายวิชาสุรินทร์ศึกษา สาขาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จำนวน ๓๐ คน อาจารย์ ๑ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนางสาวอาภาภรณ์ เปล่งปลั่งศรี นักวิชาการวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จำนวน ๔๘ คน อาจารย์ ๓ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ช่วงเช้าเวลา ๐๙.๐๐ น. และเข้าเยี่ยมชมโบราณสถานปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ช่วงบ่ายเวาลา ๑๓.๐๐ น. โดยปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ อย่างเคร่งครัด โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาที่ ๔ โรงเรียนบ้านโนนเจริญ ตำบลทับทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๘๗ คน คุณครู ๑๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยแบ่งการบรรยายนำชมออกเป็น ๒ กลุ่มย่อย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ โดยมีนางถนอม หลวงกลาง และนางสาวอภิญญา สุขใหญ่ พนักงานประจำห้อง ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


          วันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖  เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการพิเศษ “๑๐๐ ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรียศิลปแห่งนวสมัย” (100 Years of Silpa to Siam : Aesthetics of modern Art) ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ           เนื่องในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี (Corrado Feroci) เดินทางมารับราชการที่ประเทศไทยในฐานะประติมากรของกรมศิลปากร กระทรวงวัง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ – ๒๕๖๖ (ค.ศ. 1923 – 2023) และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมที่ศาสตราจารย์ศิลป์ใช้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ปิดปรับปรุงชั่วคราว กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จึงได้จัดนิทรรศการพิเศษ “๑๐๐ ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรียศิลปแห่งนวสมัย” ขึ้น เพื่อเผยแพร่ประวัติและผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ ทั้งในฐานะ     ประติมากรของกรมศิลปากร และครูผู้วางรากฐานการศึกษาทางด้านศิลปะตามหลักวิชาการแบบตะวันตก (Western Academic Art) โดยจำลองบรรยากาศห้องทำงานเดิมของศาสตราจารย์ศิลป์ จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ส่วนตัว ภาพร่าง และงานประติมากรรมอันทรงคุณค่าของศาสตราจารย์ศิลป์ รวมทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ของกลุ่มลูกศิษย์รุ่นบุกเบิก ศิลปินชั้นเยี่ยม และศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเคยจัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ โดยใช้พื้นที่อาคารนิทรรศการ ๔ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จัดนิทรรศการ แบ่งออกเป็น ๔ ห้อง ดังนี้           ห้องที่ ๑ จำลองบรรยากาศห้องทำงานเดิมของศาสตราจารย์ศิลป์ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ จัดแสดงประติมากรรมปลาสเตอร์และสำริด อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ส่วนตัว ภาพถ่าย และภาพลายเส้นแผนการสอนของศาสตราจารย์ศิลป์ โดยนำเสนอประวัติของศาสตราจารย์ศิลป์และลำดับเหตุการณ์ชีวิตและผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ผ่านเส้นเวลา (Timeline) เทียบเคียงเหตุการณ์สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของไทยและโลก (ส่วนที่ ๑)            ห้องที่ ๒ เป็นส่วนต่อขยายจากห้องที่ ๑ จัดแสดงผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ เช่น ประติมากรรม ปลาสเตอร์และสำริด  แบบร่างภาพจิตรกรรมภายในพระพุทธรัตนสถาน พระบรมมหาราชวัง งานออกแบบประติมากรรมนูนต่ำบนเหรียญ ภาพถ่ายศาสตราจารย์ศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุจัดแสดงภายในห้อง และลำดับเหตุการณ์ชีวิตและผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ผ่านเส้นเวลา (Timeline) เทียบเคียงเหตุการณ์สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของไทยและโลก (ส่วนที่ ๒)           ห้องที่ ๓ จัดแสดงผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่เป็นศิลปินไทยรุ่นบุกเบิก ศิลปินชั้นเยี่ยม และศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเคยจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์ สะท้อนให้เห็นถึงถึงความพยายามในการขับเคลื่อนวงการศิลปะสมัยใหม่ของไทยในยุคเริ่มต้น ผ่านผลงานที่ศาสตราจารย์ศิลป์ได้ซื้อไว้เพื่อสนับสนุนให้ลูกศิษย์มีกำลังใจและกำลังทรัพย์ในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป โดยผลงานบางส่วนได้รับรางวัลจากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติในยุคแรก ๆ             ห้องที่ ๔ เป็นส่วนต่อขยายจากห้องที่ ๓ จัดแสดงผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่เป็นศิลปินไทยรุ่นบุกเบิก ศิลปินชั้นเยี่ยมและศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเคยจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรี อนุสรณ์            ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการพิเศษ “๑๐๐ ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรียศิลปแห่งนวสมัย” ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๖ ณ อาคารนิทรรศการ ๔ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. (ปิดวันจันทร์ – วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย   ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท 


การดำเนินงานโครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์โบราณสถานปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๗ มกราคม ๒๕๖๖ - หาหินที่เหลือจากการบูรณะและหินที่เหลือจากการทดลองประกอบมาแต่งเพื่อนำมาใช้งานทดแทนหินที่สูญหาย - ต่อหินเดิมที่เสียหายเพื่อนำกลับมาใช้งาน - เคลื่อนย้ายและติดตั้งชิ้นส่วนที่ทดลองประกอบได้ - เสริมหินใหม่ทดแทนในส่วนที่สูญหายเพื่อรับหินที่ทดลองประกอบได้ - ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา และนายพรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ลงพื้นที่ให้คำแนะนำ และสำรวจพื้นที่เพื่อออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตโบราณสถานปราสาทพนมวัน


โครงการพัฒนาและส่งเสริมหอสมุดแห่งชาติเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ประจำปี 2566 กิจกรรม “เหนือกาลเวลา ทรงคุณค่า ภาษาและวรรณกรรมท้องถิ่น”วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 ณ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา



การประชุมสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๖ วันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ ห้องประชุมชั้น ๑ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา - นางชูศรี เปรมสระน้อย ตำแหน่งภัณฑารักษ์ชำนาญการ สังกัดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ขอลาออกจากจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ยินดีต้อนรับข้าราชการย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ - นายชลธิศ ทิพฤาตรี ตำแหน่งนายช่างสำรวจชำนาญงาน สังกัดกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา - นางอัยยารตี ไขแสง ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน สังกัดฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา





ภาพยนตร์สารคดีสร้างโดยสองนักสร้างภาพยนตร์ คือ มีเรียน ซี. คูเปอร์ (Merian C. Cooper) และเออร์เนส บี โชคแส็ค (Ernest B Chocksaek) มีผลงานภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรก คือเรื่อง Grass สร้างในปีพ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชนเผ่าบัคเทียรี (Bakhtiari) กับประเพณีการเดินทางสำรวจฝ่าเส้นทางอันตรายใกล้เขตช่องเขา Zardeh Kuh เทือกเขาซากรอส (Zagros) อยู่ในภาคตะวันตกของแคว้นเปอร์เซีย (Persia) ประเทศอิหร่าน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ มีผลงาน เรื่องช้าง (Chang: A Drama of the Wilderness) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกที่ได้ถ่ายทำในประเทศสยาม (ในขณะนั้น) โดยเริ่มถ่ายทำในสยาม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ และได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และนายเซียวซองอ๊วน สีบุญเรือน (เจ้าของบริษัท พยนต์พัฒนากร ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น บริษัท ภาพยนตร์พัฒนากร จำกัด และมีโรงภาพยนตร์พัฒนากรเป็นของตัวเอง) ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผลิตโดย บริษัท พาราเมาท์ พิกเจอส์ จำกัด ใช้เวลาถ่ายทำเกือบสองปี ใช้เงินงบประมาณ ๙๕,๐๐๐ เหรียญ หรือประมาณสองแสนบาทไทย (ในขณะนั้น) เป็นภาพยนตร์เงียบขาว-ดำ ความยาวประมาณ ๖๕ นาที ถ่ายทำในพื้นที่ป่าภาคเหนือตอนบนของประเทศสยามเป็นส่วนใหญ่ โดยเล่าถึงเรื่องราวของชีวิตครอบครัวของนายครู ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อยู่ป่าในสยามที่ต้องการบุกเบิกผืนป่าเพื่อทำนา และต้องอยู่ร่วมกับสัตว์ป่า ส่วนลูกสัตว์ป่าบางตัวก็นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงและไว้ใช้งาน เช่น ลิ่นหรือนิ่ม, หมี, เสือโคร่ง, ตัวเงินตัวทอง, เสือดาว, ช้าง, แพะ, ควาย และชะนี เป็นต้น… ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่โรงภาพยนตร์ในนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าเมื่อออกฉายก็ได้รับความสนใจและสามารถสร้างชื่อเสียงของประเทศสยามให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนได้รับรางวัลออสการ์ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ค.ศ. ๑๙๒๗ ในสาขาการสร้างที่พิเศษและมีศิลปะยอดเยี่ยม (Unique and Artistic Production) และออกฉายครั้งแรกในประเทศสยาม เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ จึงเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในดินแดนสยามและเป็นเรื่องแรก อาจไม่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจเหมือนภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน แต่หากพิจารณาจริงๆ แล้วในตอนนั้น ยังมีป่า สัตว์ป่า ผู้คนอาศัยอยู่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงเรื่องราว วิถีชีวิต หรือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งในสมัยนั้นการทำร้ายสัตว์ป่า เพียงเพื่อการดำรงชีวิตและเพื่อความอยู่รอดของคนที่อยู่อาศัยอยู่ในผืนป่า และในอดีตนั้นยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าไว้อย่างนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๓๓ (พ.ศ. ๒๔๗๖) สองผู้กำกับดังกล่าวร่วมงานกันสร้างภาพยนตร์เรื่อง คิงคอง (King Kong) ถือว่าเป็นภาพยนตร์คลาสสิคและเป็นยุคฟิล์ม ๘ ม.ม. โดยเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ ทีมนักสร้างภาพยนตร์คณะหนึ่งเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ ยังเกาะหัวกะโหลกอันห่างไกลแสนลี้ลับแห่งหนึ่ง และมีการเล่าขานถึงตำนานว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของเจ้าลิงยักษ์ขนาดใหญ่ จนได้พบเจอเจ้าลิงยักษ์แล้วต้องการจับตัวมันกลับมาแสดงโชว์ที่นครนิวยอร์ก แต่เจ้าลิงยักษ์ดันตกหลุมรักดาราสาวผมทองที่แสดงเป็นตัวเอกในภาพยนตร์ของเรื่องจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก... เรียบเรียงและรวบรวมโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ แหล่งอ้างอิง : ณ.คอน ลับแล.  Chang: A Drama of the Wilderness (1927).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖,          จาก https://raremeat.blog/chang-a-drama-of-the-wilderness-1927/, ๒๕๖๐. ณ.คอน ลับแล.  Grass (1925).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://raremeat.blog/grass-1925/, ๒๕๖๓. สมาคมผู้พิทักษ์ป่า Thai Ranger Association.  ช้าง (Chang: A Drama of the Wilderness) เป็นภาพยนตร์สารคดี เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย.  [ออนไลน์].         สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://www.facebook.com/thairanger/videos/ช้าง-chang-a-drama-of-the-wilderness-        เป็นภาพยนตร์สารคดี-เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำ/320621345666703/, ๒๕๖๓. หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน).  ช้าง (CHANG).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก        https://www.facebook.com/ThaiFilmArchivePage/photos/ช้าง-changความยาว-65-นาที-ขาวดำเงียบปีที่สร้าง-2470ปี-2468-มีเรียน-ซี-คูเปอร์-แล/2481124521937733/, ๒๕๖๒. The Internet Movie Database.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://www.imdb.com/.


ภาพยนตร์สารคดีสร้างโดยสองนักสร้างภาพยนตร์ คือ มีเรียน ซี. คูเปอร์ (Merian C. Cooper) และเออร์เนส บี โชคแส็ค (Ernest B Chocksaek) มีผลงานภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรก คือเรื่อง Grass สร้างในปีพ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชนเผ่าบัคเทียรี (Bakhtiari) กับประเพณีการเดินทางสำรวจฝ่าเส้นทางอันตรายใกล้เขตช่องเขา Zardeh Kuh เทือกเขาซากรอส (Zagros) อยู่ในภาคตะวันตกของแคว้นเปอร์เซีย (Persia) ประเทศอิหร่าน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ มีผลงาน เรื่องช้าง (Chang: A Drama of the Wilderness) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกที่ได้ถ่ายทำในประเทศสยาม (ในขณะนั้น) โดยเริ่มถ่ายทำในสยาม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ และได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และนายเซียวซองอ๊วน สีบุญเรือน (เจ้าของบริษัท พยนต์พัฒนากร ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น บริษัท ภาพยนตร์พัฒนากร จำกัด และมีโรงภาพยนตร์พัฒนากรเป็นของตัวเอง) ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผลิตโดย บริษัท พาราเมาท์ พิกเจอส์ จำกัด ใช้เวลาถ่ายทำเกือบสองปี ใช้เงินงบประมาณ ๙๕,๐๐๐ เหรียญ หรือประมาณสองแสนบาทไทย (ในขณะนั้น) เป็นภาพยนตร์เงียบขาว-ดำ ความยาวประมาณ ๖๕ นาที ถ่ายทำในพื้นที่ป่าภาคเหนือตอนบนของประเทศสยามเป็นส่วนใหญ่ โดยเล่าถึงเรื่องราวของชีวิตครอบครัวของนายครู ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อยู่ป่าในสยามที่ต้องการบุกเบิกผืนป่าเพื่อทำนา และต้องอยู่ร่วมกับสัตว์ป่า ส่วนลูกสัตว์ป่าบางตัวก็นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงและไว้ใช้งาน เช่น ลิ่นหรือนิ่ม, หมี, เสือโคร่ง, ตัวเงินตัวทอง, เสือดาว, ช้าง, แพะ, ควาย และชะนี เป็นต้น… ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่โรงภาพยนตร์ในนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าเมื่อออกฉายก็ได้รับความสนใจและสามารถสร้างชื่อเสียงของประเทศสยามให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนได้รับรางวัลออสการ์ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ค.ศ. ๑๙๒๗ ในสาขาการสร้างที่พิเศษและมีศิลปะยอดเยี่ยม (Unique and Artistic Production) และออกฉายครั้งแรกในประเทศสยาม เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ จึงเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในดินแดนสยามและเป็นเรื่องแรก อาจไม่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจเหมือนภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน แต่หากพิจารณาจริงๆ แล้วในตอนนั้น ยังมีป่า สัตว์ป่า ผู้คนอาศัยอยู่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงเรื่องราว วิถีชีวิต หรือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งในสมัยนั้นการทำร้ายสัตว์ป่า เพียงเพื่อการดำรงชีวิตและเพื่อความอยู่รอดของคนที่อยู่อาศัยอยู่ในผืนป่า และในอดีตนั้นยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าไว้อย่างนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๓๓ (พ.ศ. ๒๔๗๖) สองผู้กำกับดังกล่าวร่วมงานกันสร้างภาพยนตร์เรื่อง คิงคอง (King Kong) ถือว่าเป็นภาพยนตร์คลาสสิคและเป็นยุคฟิล์ม ๘ ม.ม. โดยเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ ทีมนักสร้างภาพยนตร์คณะหนึ่งเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ ยังเกาะหัวกะโหลกอันห่างไกลแสนลี้ลับแห่งหนึ่ง และมีการเล่าขานถึงตำนานว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของเจ้าลิงยักษ์ขนาดใหญ่ จนได้พบเจอเจ้าลิงยักษ์แล้วต้องการจับตัวมันกลับมาแสดงโชว์ที่นครนิวยอร์ก แต่เจ้าลิงยักษ์ดันตกหลุมรักดาราสาวผมทองที่แสดงเป็นตัวเอกในภาพยนตร์ของเรื่องจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก... เรียบเรียงและรวบรวมโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ แหล่งอ้างอิง : ณ.คอน ลับแล.  Chang: A Drama of the Wilderness (1927).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖,          จาก https://raremeat.blog/chang-a-drama-of-the-wilderness-1927/, ๒๕๖๐. ณ.คอน ลับแล.  Grass (1925).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://raremeat.blog/grass-1925/, ๒๕๖๓. สมาคมผู้พิทักษ์ป่า Thai Ranger Association.  ช้าง (Chang: A Drama of the Wilderness) เป็นภาพยนตร์สารคดี เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย.  [ออนไลน์].         สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://www.facebook.com/thairanger/videos/ช้าง-chang-a-drama-of-the-wilderness-        เป็นภาพยนตร์สารคดี-เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำ/320621345666703/, ๒๕๖๓. หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน).  ช้าง (CHANG).  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก        https://www.facebook.com/ThaiFilmArchivePage/photos/ช้าง-changความยาว-65-นาที-ขาวดำเงียบปีที่สร้าง-2470ปี-2468-มีเรียน-ซี-คูเปอร์-แล/2481124521937733/, ๒๕๖๒. The Internet Movie Database.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖, จาก https://www.imdb.com/.


black ribbon.