ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,784 รายการ



การดำเนินงานสำรวจเก็บรายละเอียดสภาพปัจจุบันและผังบริเวณโดยรอบ เพื่อการออกแบบบูรณะโบราณสถานปราสาทมีชัย ตำบลกระเทียม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์


          กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “ปักหมุดเที่ยวแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่บ้านเชียง” วิทยากร นางสาวกนกวลี สุริยะธรรม ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น.            ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร


           สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ขอเชิญร่วมรับชมรับฟังการถ่ายทอด Facebook Live การเสวนาทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์และจารีตประเพณี ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง "ผี : นานาสาระความเชื่อในวัฒนธรรมไทย" มีหัวข้อการเสวนาและการบรรยายที่น่าสนใจมากมาย โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายท่าน ระหว่างวันที่ ๓๐ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ติดตามรับชมได้ผ่านทาง  Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม 


 งาน “Amazing Thailand, Amazing New Chapter: Thai Night Reception” จัดขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการเจรจาธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจีนโดยตรง อันจะส่งผลให้เกิดการซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยแก่กลุ่มผู้ซื้อและสื่อมวลชนในพื้นที่ นอกจากนี้ในทุกเมืองยังมีการจัด Thailand Product Update Presentation นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพใหม่ ๆ ของประเทศไทย เพื่อสร้างกระแสการรับรู้โดยตรงไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่จะตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบคุณภาพ ควบคู่ไปกับการจัดบรรยาย Market Briefing ให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและแนวทางการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่นั้น ๆ แก่ภาคเอกชนไทย


 งาน “A Million Thanks : Amazing Thailand Night Reception” เป็นงานเลี้ยงเพื่อขอบคุณการสนับสนุนที่ดีจากพันธมิตรชาวอินเดียและชาวไทย และเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย เกิน 1 ล้านคน ตั้งแต่ประเทศไทยได้เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2565 ตลอดจนเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศด้วยกลยุทธ์หลัก ได้แก่ การยกระดับอุปทานและมาตรฐานที่ยั่งยืน และการสร้างความตระหนักรู้ในผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นให้คำนึงถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าบ้านที่มีอัธยาศัยไมตรีต่อผู้มาเยือนทุกคน ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ Soft Power of Thailand แคมเปญ “Visit Thailand Year 2023: Amazing New Chapters” โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงและยั่งยืนในประเทศไทย เพื่อนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมายแก่นักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) มุ่งสู่เป้าหมายการตลาดกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดอินเดียทะลุ 1.4 ล้านคน และสนับสนุนเป้าหมายตลาดต่างประเทศแตะ 25 ล้านคน ภายในปี 2566




          สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงสร้างพระวิหารสมเด็จซึ่งเดิมเรียกว่าหอพุทธสาสนสังคหะ โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อให้เป็นหอพระธรรมประจำวัด (วัดอยู่ในเขตพระราชฐานลานพระราชวังดุสิต พื้นที่ชายธงสามเหลี่ยมแหลมยาวติดทุ่งนามีต้นไทรต่อเนื่องกับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน แต่เดิมจึงชื่อวัดแหลม หรือวัดไทรทอง) มีหนังสือใบลานเป็นมรดกตกทอดจนถึงปัจจุบันถึง ๓ สมัย ที่สำคัญจัดสรรนำมาแสดง ดังนี้พานที่ ๑ สมัยอยุธยา  เลขที่ ๒๒ เรื่องวิมติวิโนทนี วินยฎีกา อธิบายสิกขาบทของภิกษุว่าด้วยการล่วงอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส และปาจิตตีย์ ฉบับล่องชาด ๑๒ ผูก สร้างโดยอุบาสกขุนยอดโยธา เมื่อ พ.ศ. ๒๑๘๖ สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาทอง อายุ ๓๘๐ ปี  เลขที่ ๗๐ เรื่องมิลินทปัญหาบาลี พระเจ้ามิลินท์ถามปัญหาเชิงพุทธปรัชญากับพระนาคเสน ฉบับทองทึบ ๑๕ ผูก สร้างโดยมหาคงอิน เมื่อ พ.ศ.๒๒๙๑ สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ อายุ ๒๗๕ ปี    พานที่ ๒ สมัยธนบุรี เลขที่ ๓๓๘ เรื่องสารสังคหะ อธิบายพระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาโดยสังเขป ครอบคลุมสาระธรรมทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฉบับทองทึบ ๖ ผูก สามเณรบัวสร้าง เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๐ สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี อายุ ๒๔๖ ปี  เลขที่ ๓๒๓ เรื่องสารสังคหะ อธิบายพระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาโดยสังเขป ครอบคลุมสาระธรรมทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฉบับทองทึบ ๑๓ ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี อายุ ๒๔๕ ปี   พานที่ ๓ สมัยรัตนโกสินทร์ ร.๑ - ร.๒  เลขที่ ๒๗๑ เรื่องธรรมบทอรรถกถา แสดงธรรมโดยการเล่าเรื่องปรารภเหตุการณ์ต่างๆ ฉบับทองทึบ ๖ ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๘ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อายุ ๒๓๘ ปี  เลขที่ ๑๗-๑๘ เรื่องขุททกสิกขา วินิจฉัยสิกขาบทเล็กน้อยนอกพระไตรปิฎก ฉบับล่องชาด ๖ ผูก สร้างโดยเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ เมื่อ พ.ศ.๒๓๓๑ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อายุ ๒๓๕ ปี  เลขที่ ๙๓ เรื่องทศชาติชาดก ชาดกพระเจ้า ๑๐ ชาติ ฉบับทองทึบ ๑๔ ผูก ไม่ปรากฏผู้สร้าง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๐ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อายุ ๒๐๖ ปี   พานที่ ๔ สมัยรัตนโกสินทร์ ร.๓ - ร.๕  เลขที่ ๑๒๘ เรื่องปปัญจสูทนี คัมภีร์อรรถกถาอธิบายความในพระสูตร เช่น ธรรมที่ควรต้องละเพื่อไขความเนิ่นช้าแห่งจิต ฉบับล่องชาด ๑๑ ผูก สร้างโดยจันทโชติคุณูปการของคุณยายค้อมมารดาพระศรี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๖  สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว อายุ ๑๙๐ ปี เลขที่ ๓๒๔ เรื่องสารสังคหะ อธิบายพระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาโดยสังเขป ครอบคลุมสาระธรรมทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฉบับทองทึบ ๑๒ ผูก สร้างโดยพระองค์เจ้าบันเทิง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๗ สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อายุ ๑๕๙ ปี  เลขที่ ๓๔๓ เรื่องสารสังคหะ อธิบายพระไตรปิฎก อรรถกถาและฎีกาโดยสังเขป ครอบคลุมสาระธรรมทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฉบับทองทึบ ๑๕ ผูก สร้างโดยขุนเทพอาญาเอี่ยม-แม่นิ่ม เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อายุ ๑๓๕ ปี  พานที่ ๕ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (สร้าง) สำรวจพบ ๑๖ รายการ(เลขที่) จำนวน ๒๘๘ ผูก ซึ่งนับว่าพระองค์มีศรัทธาสร้างคัมภีร์ถวายไว้ในพระพุทธศาสนาจำนวนมากถึงประมาณ ๕ % ของคัมภีร์ทั้งหมดที่ลงทะเบียนในพระวิหารสมเด็จ ทั้งนี้พระองค์บันทึกไว้เป็นการเฉพาะว่า “สร้างไว้ในพระพุทธศาสนา สำหรับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อุทิศส่วนพระกุศลถวายฉลองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ดังตัวอย่างคัมภีร์ต่อไปนี้ เลขที่ ๕๒๔ เรื่องเวสสันดรชาดกกถา เรื่องราวในพระชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ที่ทรงบำเพ็ญทานบารมีอย่างยิ่งยวด สละได้ทุกอย่างแม้แต่บุตรและภรรยา ฉบับทองทึบ ๑๖ ผูก สร้างโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๑ สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว อายุ ๑๐๕ ปี    พานที่ ๖ เจ้าจอมมารดาเปี่ยม (สร้าง) สำรวจพบ ๒๖ รายการ(เลขที่) จำนวน ๒๓๓ ผูก ซึ่งนับว่าสร้างไว้หลากหลายเรื่องมาก ถ้านำจำนวนผูกมาเปรียบเทียบได้ประมาณ ๔ % ของคัมภีร์ทั้งหมดที่ลงทะเบียนในพระวิหารสมเด็จ มีข้อสังเกตส่วนใหญ่ท่านไม่ได้บันทึกปีที่สร้างไว้ จึงไม่ทราบว่าท่านสร้างไว้เมื่อใด เป็นแต่เพียงประมาณว่าท่านมีชีวิตระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๑-๒๔๔๗ ในสมัยรัชกาลที่ ๓-๕ คัมภีร์ที่สร้างจึงมีอายุไม่เกิน ๑๘๕ ปี ดังเช่นคัมภีีร์ต่อไปนี้ เลขที่ ๑๓๔ เรื่องทีฆนิกายมหาวรรค เนื้อความพระสูตรที่มีความยาวมากๆ เช่น มหาปรินิพพานสูตร มหาสติปัฏฐานสูตร เป็นต้น ฉบับทองทึบ ๑๒ ผูก สร้างโดยเจ้าจอมมารดาเปี่ยม(สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา) ไม่ปรากฏปีที่สร้าง------------------------------------------------ที่มาของข้อมูล : เอกสารในพิธีแถลงข่าวส่งมอบผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร (ตามโครงการความร่วมมือระหว่างวัดเบญจมบพิตร กับกรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร) ในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖


         วันจันทร์ที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานเปิดงานเสวนาวิชาการ "ราชประดิษฐฯ พิสิฐศิลป์"  โดยแบ่งการเสวนาออกเป็น ๒ เรื่อง เรื่องแรกคือ ความเป็นมาของโครงการบูรณะซ่อมแซมและอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทย วิทยากรโดย พระวชิรธรรมเมธี (อารยพงศ์ อารยธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม , นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร , นายอำพล สัมมาวุฒธิ อดีตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศิลปกรรม (วิจัยและพัฒนาศิลปกรรม) กรมศิลปากร , Ms.Yoko FUTAKAMI Head, Research Information Section National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo           ช่วงที่สอง เรื่อง กระบวนการทำงานซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทย วิทยากรโดย Mr.Yoshihiko YAMASHITA อดีตนักวิจัย สถาบันวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (National Research Institute for Cultural Properties, Tokyo) , นายธนาวัฒน์ ตราชูชาติ นายช่างศิลปกรรมอาวุโส หัวหน้ากลุ่มช่างหุ่น ปั้นลายและช่างมุก กลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร , นายสรรินทร์ จรัลนภา นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร โดยมี นายยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินรายการ ทั้งนี้มีผู้บริหาร ข้าราชการ กรมศิลปากร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมรับฟังการเสวนา ณ ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม






black ribbon.