ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ

         พระพุทธรูปไสยาสน์          ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔          กรมศิลปากรซื้อจากพิพิธภัณฑ์ของหม่อมเจ้าปิยะภักดีนาถ เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙          ปัจจุบันจัดแสดง ณ พระที่นั่งวสันตพิมาน (ชั้นบน) หมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          พระพุทธรูปไสยาสน์แกะสลักด้วยงา ลงสีตามเส้นขอบจีวร ส่วนฐานเป็นไม้แกะสลักลงรักปิดทองลงสีในผังยกเก็จ ประกอบด้วยฐานหน้ากระดานล่างจำหลักลายประจำยามลูกฟัก ฐานสิงห์ และฐานบัวหงายตามลำดับ พระพุทธรูปมีพุทธลักษณะสำคัญได้แก่ พระรัศมีเป็นเปลว อุษณีษะนูน ขมวดพระเกศาจำหลักเป็นลายตารางสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่ง พระเนตรปิด ปลายพระเนตรตวัดโค้งลง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เล็ก พระวรกายครองจีวรห่มเฉียง สังฆาฏิยาวจรดพระนาภี ประทับไสยาสน์เบื้องขวา (สีหไสยาสน์) พระหัตถ์ขวารองรับพระเศียรบนพระเขนยกลม (หมอน) ซ้อนกันสองชั้น พระหัตถ์ซ้ายวางแนบพระวรกายเบื้องซ้าย          พระพุทธรูปไสยาสน์ในสังคมไทยนิยมสร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงหนึ่งในอิริยาบถของพระพุทธเจ้า (ประกอบด้วย อิริยาบถ นั่ง นอน เดิน (ลีลา) และยืน) อีกทั้งสัมพันธ์กับพุทธประวัติ อาทิ ตอนโปรดอสุรินทราหู ตอนปรินิพพาน ขณะเดียวกันพุทธประวัติที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในอิริยาบถไสยาสน์นั้นพบว่ามีอีกหลายเหตุการณ์ เช่น ตอนทรงสุบินในคืนก่อนวันตรัสรู้ ตอนทรงพยากรณ์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ตอนโปรดสุภัททปริพาชกสาวกองค์สุดท้าย เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักปรากฏในงานจิตรกรรมไทยมากกว่าการสร้างเป็นประติมากรรม          พระพุทธไสยาสน์องค์นี้เป็นตัวอย่างของงาที่มีรอยแตกเรียกว่า “แตกลายงา” ซึ่งงาช้าง เป็นวัสดุที่หายาก เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันภัยหรือสิ่งชั่วร้ายได้ จึงนิยมนำมาแกะเป็นพระพุทธรูปเพื่อเป็น พุทธบูชา ในสังคมล้านนา เชื่อว่างาช้างที่กะเทาะหรือหักจากการชนช้างตัวอื่น เรียกว่า “งาสะเด็น” นั้นมีอานุภาพขับไล่วิญญาณร้ายหรือโรคร้ายได้     อ้างอิง กรมศิลปากร. ประณีตศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๓๖. กรมศิลปากร. มงคลพุทธคุณ เทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๖. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๖๕. สนั่น ธรรมธิ. โชค ลาง ของขลัง อารักษ์. เชียงใหม่ : สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๕๐.


-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : ลำไยพะเยา -- เคยสงสัยไหมว่า เกษตรกรจังหวัดพะเยาปลูกลำไยพันธุ์อะไรบ้าง ?. เมื่อปี พ.ศ. 2535 กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหนังสือราชการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยารายงานการคาดคะเนพื้นที่เพาะปลูกลำไยและจำนวนผลผลิตลำไย จึงทำให้ทราบชนิดพันธุ์ลำไยที่เกษตรกรในจังหวัดนำมาปลูกดังนี้. ลำไยพันธุ์ดอ คาดว่าจะปลูกได้ผลผลิต จำนวน 1,046,600 กิโลกรัม ลำไยพันธุ์สีชมพู คาดว่าจะปลูกได้ผลผลิต จำนวน 174,500 กิโลกรัม ลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียว คาดว่าจะปลูกได้ผลผลิต จำนวน 141,500 กิโลกรัม ลำไยพันธุ์อื่นๆ คาดว่าจะปลูกได้ผลผลิต 4,000 กิโลกรัม. จากข้อมูลข้างต้น แสดงว่าจังหวัดพะเยาในปี พ.ศ. 2535 ปลูกลำไยพันธุ์ดอมากที่สุด สันนิษฐานว่าสายพันธุ์ดอเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ สภาพดิน ความสะดวกของเกษตรกร และทำกำไรได้ดีที่สุด . นอกจากนั้น รายงานยังระบุสาเหตุที่คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้น เพราะมีแปลงปลูกใหม่กอปรกับได้รับการเอาใจใส่ดีด้วย. ความน่าสนใจของรายงานการคาดคะเนฉบับนี้ สะท้อนให้ทราบชนิดของสินค้าส่งออกของจังหวัด ซึ่งแก้ไขข้อสงสัยแกมหยอกว่า อาจจะเป็นปลาส้ม กุ้งเต้น หรือมะพร้าวเผาหรือไม่. อย่างไรก็ตาม รายงานปรากฏข้อมูลเพียงฉบับเดือนสิงหาคมเท่านั้น หากมีรายงานตลอดฤดูกาล จำนวนผลผลิตจริงที่ผลิตได้ และรายได้จากการค้าขายลำไยแล้ว จะสามารถชี้วัดการปลูกลำไยในปีถัดไป สายพันธุ์อื่นๆ ควรได้รับการเพาะปลูกเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน แล้วที่สำคัญลำไยจากจังหวัดพะเยาอาจมีแรงผลักดันให้ขึ้นชื่อในตลาดอาเซียนก็เป็นได้..ผู้เขียน: นายธานินทร์ ทิพยางค์ (นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา).เอกสารอ้างอิง: หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา. เอกสารสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา พย 1.13/18 เรื่องการรายงานข้อมูลการคาดคะเนพื้นที่ปลูกลำไยปี 2535 [ 28 ก.ค. 2535 ].#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ


           นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่านายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร รายงานเรื่องนายแมกซ์ ฮอลเลน ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ศิลปะ  เมโทรโปลิทัน (The Metropolitan Museum of Art หรือ The MET) ประเทศสหรัฐอเมริกา มอบหมายให้นายจอห์น กาย ภัณฑารักษ์แผนกเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้แทนเข้าพบอธิบดีกรมศิลปากร ส่งมอบหนังสือแจ้งขอส่งคืนโบราณวัตถุจำนวน 2 รายการให้แก่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา            การส่งคืนโบราณวัตถุในครั้งนี้ สืบเนื่องจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทัน ทำการตรวจสอบรายการโบราณวัตถุที่มีประวัติการได้มาเกี่ยวข้องกับนายดักลาส แลตช์ฟอร์ด นายหน้าค้าโบราณวัตถุ ผู้ซึ่งถูกสำนักงานอัยการเขตนิวยอร์กใต้แจ้งดำเนินคดีค้าโบราณวัตถุโดยผิดกฎหมายเมื่อปี พ.ศ. 2562 แล้วพบว่ามีโบราณวัตถุประติมากรรมสำริดจากประเทศไทย คือประติมากรรมพระศิวะสำริด ที่รู้จักในชื่อ Golden Boy และยังพบโบราณวัตถุที่มีที่มาเกี่ยวพันกับนางดอรีส วีเนอร์ ซึ่งถูกสำนักงานอัยการเขตนิวยอร์กแจ้งดำเนินคดีค้าโบราณวัตถุโดยผิดกฎหมายเช่นกัน เมื่อปี พ.ศ. 2564 เป็นโบราณวัตถุประติมากรรมสตรีจำนวน 1 รายการ คณะกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทันจึงมีมติถอดโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการออกจากบัญชีทะเบียนโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑ์ และประสานแจ้งวัตถุประสงค์การส่งคืนแก่ประเทศไทยตามข้อตกลงกับสำนักงานอัยการเขตนิวยอร์กใต้โดยจะประสานงานและทำพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการ ผ่านทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์กต่อไป            สำหรับโบราณวัตถุที่จะได้รับกลับคืนครั้งนี้ ประกอบด้วย ประติมากรรมพระศิวะ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นรูปพระศิวะสวมเครื่องทรงแบบบุคคลชั้นสูง ถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยม ซึ่งพบไม่มากนัก ประติมากรรมนี้สูงถึง 129 เซนติเมตร มีเทคนิคการสร้างแบบพิเศษคือ หล่อด้วยสำริดและกะไหล่ทอง ส่วนประติมากรรมสตรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เช่นกัน สูง 43 เซนติเมตร อยู่ในท่านั่งชันเข่าและยกมือไหว้เหนือศีรษะ แต่งกายแบบบุคคลชั้นสูง หล่อด้วยสำริดมีร่องรอยการประดับด้วยโลหะเงินและทอง             นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ยังได้กล่าวถึงการส่งคืนโบราณวัตถุแก่ประเทศไทยหลังจากตรวจสอบพบว่ามีที่มาจากผู้ครอบครองเดิมที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย ว่าเป็นการแสดงถึงจริยธรรมของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทัน ในการให้ความสำคัญกับการครอบครองโบราณวัตถุที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากรและพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทัน ในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุร่วมกันที่ผ่านมา ตนในนามของกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย จึงขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทัน ในการแจ้งส่งมอบโบราณวัตถุกลับคืนสู่ประเทศไทยในครั้งนี้ และจะได้กราบเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อรับทราบข่าวดีดังกล่าวต่อไป            ทั้งนี้ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ยังได้กล่าวถึงนโยบายการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยว่า เป็นภารกิจที่สำคัญ ที่ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโบราณวัตถุจากเมืองโบราณศรีเทพที่อยู่ในขั้นตอนการประสานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงาน ของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Homeland Security Investigations (HSI) กรุงเทพฯ โดยจะดำเนินการตามช่องทางทางการทูตอย่างถูกต้องและเป็นไปด้วยความร่วมมือด้วยมิตรภาพของสองประเทศ พระศิวะ  อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ 900-1,000 ปีมาแล้ว  สูง 129 ซม. หล่อด้วยสำริดกะไหล่ทอง รูปแบบคล้ายประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะหรือทวารบาล จากปราสาทสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย จังหวัดนครราชสีมา-------------------------------------------------------------- สตรีนั่งชันเข่าพนมมือ สันนิษฐานว่าเป็นสตรีชั้นสูงในราชสำนัก อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ 900-1,000 ปีมาแล้ว  สูง 43 ซม. หล่อด้วยสำริด ประติมากรรมทั้งสองชิ้นนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นแหล่งผลิตงานศิลปกรรมสำริดที่มีคุณภาพในช่วงเวลาดังกล่าว  




ชื่อเรื่อง                     มหานิบาตชาดก ภูริทัตตชาดก จันทกุมารชาดกผู้แต่ง                       พระธรรมสิริชัยประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   ศาสนาเลขหมู่                      294.3184 ช512มสถานที่พิมพ์               ธนบุรีสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์ประยูรวงศ์ปีที่พิมพ์                    2509ลักษณะวัสดุ               218 หน้า หัวเรื่อง                     ชาดกภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกรวบรวมเรื่องราวของ มหานิบาตชาดก ภูริทัตตชาดก จันทกุมารชาดก  


         หนังสือ : แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ           ผู้เขียน :  จเด็จ กำจรเดช          บางวันฝนตก บางวันแดดร้อน ในบางเช้าที่มีแสงแดดอ่อนๆ กาแฟคล้ายจะออกรสเป็นพิเศษ แดดเช้า กาแฟร้อนๆ สายลมอ่อนๆ ที่มาพร้อมห้วงคำนึงถึงใครบางคน และใครอีกหลายต่อหลายคนกับอีกหลายเรื่องราว ผีเสื้อบินว่อนหลากหลายพันธุ์ ทั้งสีสันก็หลายหลาก นึกอัศจรรย์ใจ เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกมันยังเป็นตัวหนอนน่าขยะแขยงจำนวนหนึ่ง          พ่อค้าขายนาฬิกาละเมิดลิขสิทธิ์ พูดภาษาอังกฤษตะกุกตะกัก นั่นเป็นส่วนหนึ่งในงานของเขา หลังพ่ายในเกมต่อรอง เขาหลบไปหลังแผงขายของ มุดเข้าทางรอยแยกของกำแพง แผงของเขากว้างหนึ่งเมตรครึ่ง ลึกสองเมตร ด้านหน้าติดถนนย่านท่องเที่ยว ด้านหลังติดกำแพงซึ่งกั้นพื้นที่รกร้างเอาไว้ ที่กำแพงมีช่องแตกที่พอลอดตัวได้ เขาค้นพบมันเนื่องจากการดิ้นรนหาที่ถ่ายเบา          ที่รกร้างประกอบด้วยต้นมะขามหนึ่งต้น กับวัชพืชและไม้เลื้อย กลายเป็นภาพแทนของป่าดิบที่ระนองบ้านเกิด เขาตะลึงกับป่าที่ถูกขังอยู่ในกำแพงท่ามกลางอ้อมกอดของเมือง ความสงบชั่วขณะที่หลุดพ้นจากความเร่งร้อนของการต่อรองราคา และความเอื่อยช้าในจังหวะการก้าวย่างของนักท่องเที่ยว พาเข้าสู่ภวังค์ สูดกลิ่นป่าดิบร้อนที่แน่นขนัดด้วยไม้สูง ขณะที่กลิ่นดอกกาแฟอลอวน ซึ่งหมายถึงผลผลิตกำลังรอการเก็บเกี่ยว ลูกและเมียเฝ้ารอคอยปุ๋ยและยาเพื่อเร่งดอกผล มีเขาอาสาเป็นนักรบออกล่าค่าใช้จ่ายส่วนนั้นในสมรภูมิริมหาดเฉวง   ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.23 บทสวดมนต์ต่างๆประเภทวัสดุ/มีเดีย       สมุดไทยขาวISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  ธรรมคดีลักษณะวัสดุ              163; หน้า : มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    บทสวดมนต์ต่างๆ                      ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดลาวทอง ต.สนามชัย  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 15 ส.ค.2538 


         แพะ (A Goat)          ศิลปิน : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี (Silpa Bhirasri)          ปีพุทธศักราช: ปี พ.ศ.2498 (1955)          เทคนิค: หล่อปลาสเตอร์ (Plaster)          ขนาด : สูง 14 เซนติเมตร (H.14 cm.)            แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri/360/model/s17ok/   ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri




“วันอานันทมหิดล” ตรงกับวันที่ 9 มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2468 ณ เมืองไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อพระชนมายุได้ 3 เดือน ได้ตามเสด็จพระบรมราชชนกไปต่างประเทศ จนกระทั่งพระชนมายุได้ 3 พรรษา จึงได้เสด็จ นิวัติกลับประเทศไทย ต่อมาปี พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จทิวงคต พระองค์จึงได้เสด็จกลับยุโรปเพื่อศึกษาต่อในชั้นประถม ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ สละราชสมบัติ พระองค์จึงเสด็จขึ้นครองราชย์ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2477 เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี ในขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา จึงต้องมีคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หลังจากมีพระชนมายุได้ 21 พรรษา ทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว ทรงมีพระราชกรณียกิจในฐานะประมุขของประเทศมากมาย จนกระทั่งถึงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เวลาเช้ามีเสียงปืนดังขึ้น มหาดเล็กห้องบรรทมวิ่งเข้าไปดู และเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลอยู่บนพระที่บรรทมเสด็จสวรรคตแล้ว รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงความเห็นว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 รวมพระชนมายุได้ 21 พรรษา และทรงครองอยู่ในราชสมบัติได้ 12 ปี



ชื่อเรื่อง : ระเบียบราชการกองหมายและระเบียบราชการกองบังคับคดีล้มละลาย หัวเรื่อง : ราชการ -- กฎและการปฏิบัติ    ล้มละลาย -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ คำค้น : การบังคับคดี           กฎหมายแพ่งและพาณิชย์           การล้มละลาย รายละเอียด : - ผู้แต่ง : กระทรวงยุติธรรม แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ : บริษัท ส. ศิลปคอโพเรชั่น จำกัด (แผนกการพิมพ์) ปีที่พิมพ์ : 2515 วันที่เผยแพร่ : 30 มกราคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ :  - รูปแบบ : PDF ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : ระเบียบราชการกองหมายและระเบียบราชการกองบังคับคดีล้มละลาย มีเนื้อหาประกอบด้วย 10 หมวด ได้แก่ หมายบังคับคดี การยึดทรัพย์ การยึดทรัพย์นายประกัน การยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย การรักษาทรัพย์ การขายทรัพย์ การงดหรือถอนการบังคับคดี วิธีรับและจ่ายเงิน การส่งคำคู่ความเอกสารหรือสำนวนความ และหมวดเบ็ดเตล็ด เลขทะเบียน : น. 29 บ. 114 เลขหมู่ : 346.078              ย349ร


ชื่อผู้แต่ง              จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, ๒๓๙๖ - ๒๔๕๓. ชื่อหนังสือ            พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่๕ พระราชทานแด่พระเจ้าลูกยาเธอ.       ครั้งที่พิมพ์            พิมพ์ครั้งที่ ๓๐ สถานที่พิมพ์          พระนคร. สำนักพิมพ์            โรงพิมพ์บรรณาคม ปีที่พิมพ์               ๒๕๑๔ จำนวนหน้า            ๓๔ หน้า : ภาพประกอบ ISBN                    - เลขเรียกหนังสือ       ๘๙๕.๙๑๖    จ ๕๖๗ พถ เลขทะเบียนหนังสือ   ๐๒๑๓๖๑หมายเหตุ               พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายถนอม ทิพยเศวต ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม วันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช  ๒๕๑๔.                            พระบรมราโชวาทในรัชกาลที่๕ เล่มนี้แบ่งออกเป็น สองภาค ภาคแรกประกอบด้วยพระบรมราโชวาทพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณทิศ วยามมกุฎราชกุมารและพระบรมราโชวาทพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ภาคสองเป็นพระบรมราโชวาทพระเจ้าลูกยาเธอ ๔พระองค์ คือ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ, กรมหลวงราชบุรีดกเรกฟทธิ์, กรมหลวงปราจิณกิตติบดีและกรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช


ชื่อผู้แต่ง                 พัชรินทร์  ศุขประมูล ชื่อเรื่อง                  รูปและสัญลักษณ์แห่งพระศากยพุทธ ครั้งที่พิมพ์              พิมพ์ครั้งที่ ๑ สถานที่พิมพ์            กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์              บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ จำกัด ปีที่พิมพ์                 ๒๕๓๒ จำนวนหน้า             ๙๕ หน้า : ภาพประกอบ ISBN                     974-7939-80-1 เลขเรียกหนังสือ       294.3137   พ523ร เลขทะเบียนหนังสือ   036988 หมายเหตุ               กรมศิลปากรจัดพิมพ์ประกอบการจัดนิทรรศการการพิเศษสเนื่องในเทศกาลปุริมเข้าพรรษา ปี ๒๕๓๒ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ๑๙ กรกฎาคม - ๓๐ กันยายน ๒๕๓๒                            หนังสือรูปและสัญลักษณ์แห่งพระศาสกยพุทธ จัดทำประกอบนิทรรศการพิเศษ เพื่อให้ได้รับความรู้เรื่องมูลเหตุการสร้าง คติความเชื่อ ความหมายและวิวัฒนาการของรูป และสัญลักษณ์ แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ดอกบัว ธรรมจักร รอยพระพุทธบาท สถูป พระพุทธรูป พระพิมพ์ ฯลฯ ในอินเดียถึงดินแดนไทยทำให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการสร้างว่าเพื่อเป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงพระพุทธองค์และพระธรรมคำสอนเท่านั้น


ชื่อผู้แต่ง         สันติวัน ชื่อเรื่อง           พรสวรรค์ พิมพ์ครั้งที่       - สถานที่พิมพ์     พระนคร สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์จำลองศิลป ปีที่พิมพ์          ๒๕๐๕ จำนวนหน้า      ๗๙  หน้า รายละเอียด                    พระครูสังฆรักษ์ ประจบ  วัดสัมพันธวงศ์  ขออนุญาตจัดพิมพ์หนังสือเรื่อง พรสวรรค์  เพื่อแจกในงานฌาปนกิจศพ  นางปริก  หุยะนันท์  และ นายไสว ทัยศิริ  ณ  เมรุวัดธาตุทอง  อันหนังสือเรื่อง “พรสวรรค์” เป็นนิยายอิงธรรมะ เขียนขึ้นเพื่อให้ผู้เยาว์วัยอ่าน  ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้อ่านพบความสนุก  กรุยทางให้ได้รับผลคือ “ธรรม” เพื่อให้มีสติระวังตัวไม่ให้ตกไปในหลุมหายนะ ความมุ่งหมายก็เพื่อให้เข้าถึงกตัญญูกตเวทิตาธรรม 


black ribbon.