ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
เลขทะเบียน : นพ.บ.53/8ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 51.3 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 34 (344-352) ผูก 8หัวเรื่อง : จตุกฺกนิบาต --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
วันศุกร์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๒.๐๐ - ๑๓.๐๐ น. ชุดตรวจศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองบัญชาการกองทัพไทย (ศปม.บก.ทท.) ได้เข้าตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลาย การบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกัน ระงับยับยั้งโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพิ่มเติมและเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดต่อไป
ชื่อเรื่อง : รามเกียรติ์ เล่ม 8
ชื่อผู้แต่ง : พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก, พระบาทสมเด็จพระ
ปีที่พิมพ์ : 2507
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา
จำนวนหน้า : 388 หน้า
สาระสังเขป : พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระราชนิพนธ์เป็นกลอนบทละคร ดำเนินเรื่องโดยการเล่าเรื่องติดต่อกันตั้งแต่ต้นจนจบ พระราชนิพนธ์บทละครรามเกียรติ์ เล่ม 8 เริ่มจากตอน หนุมานออกรบแต่ผู้เดียว หนุมานและองคตถวายกล่องดวงใจ พระรามแผลงศรต้องทศกัณฐ์ นางสีดาขอลุยไฟเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ งานพระเมรุทศกัณฐ์ พระรามยกทัพข้ามแม่น้ำสะโตง นางมณโฑประสูติไพนาสุริยวงศ์ จนถึงตอนไพนาสุริยวงศ์คิดจะไปหาท้าวจักรวรรดิ
ว่าด้วย ตำรายาเกร็ด อักษรขอม – ไทย ภาษาบาลี – ไทย เช่น แก้คางแข็ง, แก้สะอึก, แก้สเลด, แก้แสบทั้งตัว, แก้อีดำอีแดง, แก้มัว ฯลฯ
อันตรคาถาในพระธรรมปทัฏฐกถา. พระนคร : โรงพิมพ์พานิชศุภผล, 2469. อันตรคาถาในพระธรรมปทัฏฐกถา นี้ เป็นหนังสือคู่กับหนังสือธรรมสมบัติ หมวด 12 ของพระธรรมปาโมกข์ แจ่ม มีเนื้อหาของคาถาสำหรับเรื่องที่พระศาสดาทรงปรารภ
ชื่อเรื่อง : ประชุมเพลงยาว ภาคที่ 3 เพลงยาวคุณสุวรรณ ว่าด้วยพระอาการประชวร กรมหมื่นอับศรสุดาเทพ
หัวเรื่อง : เพลงยาว -- รวมเรื่อง
คำค้น : -
รายละเอียด : พิมพ์แจกในการกฐินพระราชทานมหาอำมาตย์โท พระยาราชนกูล ณ วัดพนัญเชิง ปีวอก พ.ศ. 2463
ผู้แต่ง : สุวรรณ, คุณ, 2352-2418.
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ โรงพิมพ์/ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
ปีที่พิมพ์ : 2463
วันที่เผยแพร่ : 27 มิถุนายน 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF.
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือเล่มนี้เป็นประชุมเพลงยาว ภาคที่ 3 เป็นเพลงยาวจดหมายเหตุของคุณสุวรรณ ข้าหลวงในตำหนักกรมหมื่นอับศรสุดาเทพ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 3 ผู้แต่งได้ถ่ายทอดเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับการประชวรของพระองค์ซึ่งยืดเยื้อนานกว่า 6 เดือน ตั้งแต่เดือน 4 ปีเถาะ เบญจศก พ.ศ. 2386 โดยเขียนในสำนวนของหญิงชาววัง
เลขทะเบียน : น. 34 บ. 6381 จบ (ร)
เลขหมู่ : ห
895.9112
ป247
ชื่อเรื่อง : เวียงท่ากาน 1
ผู้แต่ง : กองโบราณคดี กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2534
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : สมาพันธ์
เอกสารจดหมายเหตุ กับการสำรวจทางโบราณคดีใต้น้ำ
: กรณี"เรือล่มที่เกาะมัน"
เอกสารจดหมายเหตุ เป็นเอกสารสำคัญระดับปฐมภูมิ ที่น่าเชื่อถือได้จนสามารถใช้เป็นหลักฐานในฐานะ"พยาน"ได้เป็นอย่างดี
ใน พ.ศ.2546 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี ได้รับมอบเอกสารสำคัญ พร้อมกับกรมศิลปากรได้ขอใช้อาคารโบราณสถาน"ศาลารัฐบาลมณฑลจันทบุรี"จากจังหวัดจันทบุรี ให้เป็นสำนักงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี
เอกสารสำคัญดังกล่าวจำนวนกว่าล้านหน้าได้รับการประเมินตามมาตรฐานงานจดหมายเหตุแล้วมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์สมควรได้รับการคัดเลือกเป็น"เอกสารจดหมายเหตุ" อายุของเอกสารชุดนี้เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ.2449 ถึง พ.ศ.2522
ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่องกัน ดังนั้นเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์จึงได้รับการบันทึกไว้ ยกตัวอย่างเอกสารเรื่อง"เรือล่มที่เกาะมัน" เป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับแหล่งขุดค้นใต้น้ำของกองโบราณคดีใต้น้ำ ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า เพราะเกี่ยวข้องกับเรือเมล์ที่จมอยู่บริเวณหน้าเกาะมันนอก*จังหวัดระยอง
จากเอกสารจดหมายเหตุระบุว่า ใน พ.ศ.2464
มีเรือกลไฟของบริษัทฝรั่งเศสชื่อ "แฟรนซิสกาเนียร์" หรือมีชื่อเรียกของลูกเรือว่า"เรือสิงห์โตเฮง /ชิงตงเฮง/โมโฮ"ซึ่งเป็นเรือเมล์บรรทุกคนและสินค้า ขึ้นล่องทางชายทะเลตะวันออก ระหว่างกรุงเทพฯถึงเกาะกง(เมืองปัจจันตคีรีเขตต์)เขตแดนของฝรั่งเศส
ระหว่างขากลับถึงบริเวณเกาะมัน จังหวัดระยอง เกิดพายุและคลื่นใหญ่ในทะเล ผู้ประสบภัย(พ่อครัวทำอาหารบนเรือ)เล่าว่า...เรือเมล์เที่ยวนี้เพียบมากกว่าทุกเที่ยว ...มีสินค้าเยอะมาก...บรรทุกอ้อยถึง4,000 ลำ...เรือเมล์แล่นพ้นจากเขาแหลมสิงห์ก็ถูกคลื่นและพายุบ้าง...เรือก็ตะแคงซ้ายมือบ้างแล้ว แต่ยังแล่นได้ต่อ...
...ห่างไกลจากเขาแหลมสิงห์มาก ที่ตรงนั้นจะเรียกว่าอะไรนั้นไม่รู้จักให้เกิดพายุจัดคลื่นใหญ่ เรือได้ตะแคง...
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้นายอำเภอแหลมสิงห์ สอบสวนเหตุการณ์ที่เรืออับปาง มีรายงานว่า...เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2464 เรือแฟรนซิสกาเนียร์ ได้ออกจากปากน้ำจันทบุรี เวลาประมาณเที่ยงคืน ครั้นเวลา 2 ก.ท.(ตี 2 :ผู้เขียน)เรือจมเพราะเหตุบรรทุกสินค้าเพียบ เมื่อเรือเดินไปถึงหน้าเกาะมันได้ถูกคลื่นแลลมจัด น้ำเข้าตอนท้ายไม่สามารถจะสูบเอาน้ำออกให้หมดได้ เรือจึงอับปางลงในเวลาประมาณ 40 นาที ไม่ได้โดนโสโครกอย่างใด...
ซึ่งตรงกับคำให้การของพยานหลายคนที่รอดตายได้ให้ปากคำกับตำรวจที่ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้
จากเหตุการณ์เรือล่มในครั้งนี้ มีผู้โดยสารมากับเรือประมาณ 55 คน พบผู้ที่พ้นภัยแห่งเรืออับปาง 20 คน...
...เมื่อเวลาผ่านไปเป็นร้อยปี กระแสข่าวลือเรื่องเรือลำนี้จากปากของชาวบ้านระแวกนั้นกลายเป็น"เรือผีสิง"และขอให้กองโบราณคดีใต้น้ำไปช่วยตรวจสอบ
จึงเป็นที่มาของการสืบเสาะหาข้อเท็จจริงจากเอกสารจดหมายเหตุของนักโบราณคดีใต้น้ำ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการกู้คืนของเรือดังกล่าวเพื่อการอนุรักษ์ต่อไป
ส่วนข้อสันนิษฐานถึงขนาดของเรือ ไม่มีระบุในเอกสาร และไม่มีรูปภาพ แต่เรือลำนี้เฉพาะกัปตันและคนงานที่อยู่เรือมีถึง 33 คน
*******************
*เกาะมัน มี 3 เกาะ ได้แก่ เกาะมันนอก เกาะมันใน และเกาะมันกลาง
ผู้เขียน
สุมลฑริกาญจณ์ มายะรังษี
นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี
เอกสารอ้างอิง
-หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี.(13)มท2.3.1/145 เอกสารกระทรวงมหาดไทยชุดมณฑลจันทบุรี.เรื่องเรือล่มที่เกาะมัน จังหวัดระยอง(พ.ศ2464)
-หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี.(13)มท2.3.1/146
เอกสารกระทรวงมหาดไทยชุดมณฑลจันทบุรี.เรื่องเรือเมล์แฟรนซีศกาเบียร์ของบริษัทฝรั่งเศสล่มที่น่าเกาะมัน เขตร์จังหวัดระยอง(พ.ศ2464)
ผู้แต่ง : ลิลิตตำรานพรัตน์
ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 4
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2512
หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางรักษ์ราชหิรัญ (ชิญ หังสสูต)
หนังสือตำรานพรัตน์นี้ เป็นตำราแก้ว 9 ประการ ประกอบด้วย เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย แสดงกำเนิดและลักษณะของนพรัตน์ ลักษณะบางประการอันให้คุณและโทษแก่เจ้าของตามคติซึ่งเชื่อกันมาแต่โบราณ และกล่าวกันถึงค่าของรันตเหล่านี้ด้วย
เหรียญกษาปณ์โรมัน “จักรพรรดิวิคโตรินุส” พบที่เมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องบรรพชนคนอู่ทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เหรียญทองแดงขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒ เซนติเมตร ด้านหน้าเป็นรูปจักรพรรดิซีซาร์ มาร์คุส พิอาโวนิอุส วิกโตรินุส (Emperor Caesar Marcus Piavonius Victorinus) เห็นพระพักตร์ด้านขวาของพระองค์ ทรงมงกุฎ และเสื้อเกราะ มีตัวอักษรภาษาละตินล้อมรอบอยู่ริมขอบเหรียญว่า “IMP C VICTORINVS P F AVG ย่อมาจาก Imperator Caesar Victorinus Pius Felix Augustus แปลว่า จักรพรรดิซีซาร์ วิคโตรินุส ศรัทธา ความสุข ด้านหลังเป็นรูปเทพีซาลัส (Salus) เทพีแห่งสุขภาพและความสุขของยุคโรมัน ทรงสวมชุดแบบโรมันที่เรียกว่า ชุดสโทลา (Stola) และคลุมผ้า ที่เรียกว่า ปัลลา (Palla) ผินพระพักตร์ไปทางซ้าย ทรงป้อนอาหารงูของเทพแอสคูราปิอุส (Aesculapius) ผู้เป็นพระบิดาและเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์และการรักษาโรค ทรงจับงูด้วยพระหัตถ์ขวา และถือชามใส่อาหารด้วยพระหัตถ์ซ้าย มีตัวอักษรภาษาละติน ล้อมรอบรูปเทพีซาลัส โดยรอบเหรียญว่า SALVS AVG ซึ่งนักวิชาการต่างประเทศตีความว่าเป็นคำย่อมาจาก Salus Augusti แปลว่า “Health of the Emperor” จักรพรรดิวิคโตรินุส ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิกัลลิค (The Gallic Empire or The Gallic Roman Empire) ซึ่งแยกตัวออกมาจากจักรวรรดิโรมันในระหว่างปี พ.ศ. ๘๐๓ – ๘๑๗ ทรงครองราชย์ในระหว่างปี พ.ศ. ๘๑๒ – ๘๑๔ สันนิษฐานว่าเหรียญนี้ผลิตขึ้นที่โรงกษาปณ์ในเมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน ราว พ.ศ. ๘๑๒ – ๘๑๓ (ประมาณ ๑,๗๕๐ ปีมาแล้ว) ทั้งนี้เหรียญกษาปณ์โรมันรูปจักรพรรดิวิคโตรินุสนี้ ไม่ได้พบจากการขุดค้นทางโบราณคดี โดยผู้มอบให้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง แจ้งว่า พบจากเมืองโบราณอู่ทอง ทำให้นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่า เหรียญดังกล่าวอาจเป็นของที่นำเข้ามาในสมัยหลัง โดยพ่อค้าชาวยุโรป สมัยอยุธยา แต่หากเหรียญที่พบถูกนำเข้ามาตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีการผลิตขึ้นใช้ คือ ระหว่างปี พ.ศ. ๘๑๒ – ๘๑๓ ก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญ ที่แสดงว่าพื้นที่บริเวณเมืองโบราณอู่ทอง มีการติดต่อค้าขายกับดินแดนที่อยู่ไกลออกไปทางตะวันตก โดยเฉพาะกับจักรวรรดิโรมัน ศูนย์กลางสำคัญของโลกยุคโบราณ โดยตรงหรือผ่านพ่อค้าชาวต่างชาติอื่น ๆ เช่นอินเดีย และเปอร์เชีย มาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ ๙ หรือกว่า ๑,๗๐๐ ปีมาแล้ว .............................................................................ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง............................................................................เอกสารอ้างอิงคริสเตียน ลองเดส. “เหรียญโรมันพบที่เมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี”. ศิลปากร ปีที่ ๓๖ เล่ม ๑, ๒๕๒๕ อ้างถึงใน อรุณศักดิ์ กิ่งมณี และคณะ. โบราณคดีเมืองอู่ทอง. นนทบุรี : สหมิตรพริ้นติ้ง, ๒๕๔๕. อมรา ศรีสุชาติ. (๒๕๖๐). “ปฐมบทแห่งการศึกษาค้นคว้าเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมบนเส้นทางการค้าทางทะเล”. ใน เอกสารประกอบการเสวนาทางวิชาการ “สุวรรณภูมิ : การเชื่อมโยงการค้าโลก”. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี. Nick Wells. Victorinus [Online], 1 September 2020. Available from www.academia. edu/2091876/Victorinus Seth William Stevenson, Frederic W. Madden, C. Roach Smith. A dictionary of Roman coins, Republican and Imperial [Online], 1 September 2020. Available from archive. org/details/dictionaryofroma00stev/mode/2up How to identify roman coins [Online], 1 September 2020. Available from www.all-your-coins. com/en/blog/antique/romaines/comment-identifier-les-monnaies-romaines
เรียบเรียงโดย นางสาวอุไร คำมีภา นักภาษาโบราณปฏิบัติการ