ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ

          นายจรวย พงษ์ชีพ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “ดำน้ำหยด” เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2476เป็นเกษตรกรสวนผลไม้ชาวอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เป็นบุคคลต้นแบบผู้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่เพื่อพัฒนาการทำสวนผลไม้ ผลงานชิ้นแรกที่ทำให้นายจรวยเป็นที่รู้จัก คือ การแก้ปัญหาเงาะขี้ครอก หรือเงาะที่ไม่ติดผล โดยค้นพบว่าน้ำยาเร่งดอกสับปะรดเพื่อให้สับปะรดออกผลตามฤดูกาลนั้น สามารถนำมาใช้กับเงาะเพื่อแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นผู้ริเริ่มการผสมข้ามพันธุ์ผลไม้หลายชนิด เช่น เงาะไทยกับเงาะอินโดนีเซีย ทุเรียนพันธุ์ทองย้อยกับทุเรียนพันธุ์กระดุมทอง ซึ่งทำให้ได้ทุเรียนที่มีรสหวาน เมล็ดลีบ และทนต่อโรค             ผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้นายจรวยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในระดับชาติและนานาชาติ คือ การพัฒนาชลประทานระบบน้ำหยดเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นวิธีการให้น้ำแบบประหยัดและให้ผลตอบแทนสูงสุด เนื่องจากสามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ตามความต้องการ และช่วยประหยัดเวลาในการให้น้ำ โดยนายจรวย  เกิดการจุดประกายความคิดมาจากความบังเอิญที่พบว่าบริเวณต้นเงาะที่ให้ผลผลิตมากเป็นพิเศษนั้นมีท่อน้ำวางผ่านและมีรูรั่ว จึงได้เริ่มต้นคิดค้นและพัฒนาระบบการให้น้ำแบบน้ำหยดมาอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับของเกษตรกรชาวสวนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยชื่อ “ดำน้ำหยด” ที่เป็นที่รู้จักนั้น “ดำ” มาจากชื่อเล่นของนายจรวย และในช่วงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นจึงได้ขนานนามว่า “ดำน้ำหยด” จนเรียนกันติดปากถึงทุกวันนี้            ระบบน้ำหยดที่นายจรวยได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นนั้นจำเป็นต้องใช้ร่วมกับระบบไฟฟ้า โดยพื้นที่นั้นจะต้องมีแหล่งน้ำสำหรับใช้กับระบบสปริงเกอร์ มีการวางและต่อระบบน้ำ การประกอบระบบพ่นน้ำ และติดตั้งมอเตอร์ปั๊มน้ำ หากแหล่งน้ำอยู่ไกลก็อาจใช้เครื่องสูบน้ำแทน ภายหลังมีการพัฒนาระบบหัวฉีดหรือหัวจ่ายน้ำแบบต่างๆ เพื่อการประยุกต์ใช้กับพืชและระบบน้ำแต่ละชนิดให้เหมาะสม ทั้งนี้การให้น้ำโดยระบบน้ำหยดเพื่อให้พืชได้ผลผลิตที่ดี จำเป็นต้องมีการคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน เช่น ปริมาณน้ำที่พืชแต่ละชนิดต้องการ ระบบการสูบจ่ายน้ำ ประเภทและคุณภาพของดิน ตลอดจนสภาพภูมิอากาศร่วมด้วย           นายจรวย พงษ์ชีพ ได้รับการยกย่องจากมูลนิธิธารน้ำใจให้เป็นคนไทยตัวอย่างด้านการเกษตร ประจำปี พ.ศ. 2522 และได้รับการประสาทปริญญาเทคโนโลยีการเกษตร มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พืชศาสตร์) จากสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2529   แหล่งข้อมูลอ้างอิง ข้อควรรู้สักนิดก่อนติดสปริงเกอร์. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2566, จาก: https://www.baanlaesuan.com/45192/maintenance/sprinkler วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดจันทบุรี. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ, 2544. ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก.  ดำน้ำหยด ผู้พิชิตน้ำแห่งเมืองขลุง.  ระยอง: ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก, ม.ป.ป.    เรียบเรียง: นางสาวปริศนา ตุ้มชัยพร บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี



          หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี ขอเชิญชวนร่วมกิจกรรม "Chocolate Fondue ช็อกโกแลต ฟองดูว์" ในโครงการKidsเรียนรู้@หอสมุดแห่งชาติฯ กาญจนบุรี ในวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ ห้องเด็กและเยาวชน หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก กาญจนบุรี ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 3451 3925 - 6


องค์ความรู้ : สำนักการสังคีต เรื่อง โขนพบโนรา มรดกวัฒนธรรมบนวิถีสืบสานและสร้างสรรค์ โขนพบโนรา มรดกวัฒนธรรมบนวิถีสืบสานและสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจรของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร โดยมีเป้าหมายในการเดินทางไปจัดการแสดงยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค โดยการเดินทางสัญจรไปจัดการแสดงที่ภาคใต้เมื่อปี ๒๕๖๖ ได้เพิ่มความแปลกใหม่และท้าทาย ด้วยการนำ “โขน” และ “โนรา” สองศิลปะการแสดงที่มีรากวัฒนธรรมหยั่งลึก ซึ่งได้รับการประกาศรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอย่างเป็นทางการ จากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) มาจัดแสดงบนเวทีเดียวกัน ภายใต้การนำเสนอวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ชุดรามมกุฎอยุธยา กำกับการแสดงโดยปกรณ์ พรพิสุทธิ์ นาฏศิลปิน (ด้านอำนวยการแสดง) “โขน” กำเนิดมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ กระบี่กระบอง และหนังใหญ่ เป็นนาฏกรรมเก่าแก่ที่มีแบบแผนสืบมาแต่โบราณ ผ่านการพัฒนาแก้ไขปรับปรุงให้ประณีตงดงามขึ้นตามลำดับ ผู้แสดงเป็นตัวยักษ์และลิงสวมหัวโขนปิดหน้า ผู้แสดงตัวพระ – นาง ซึ่งสมมติเป็นเทพบุตร เทพธิดา และมนุษย์ ชาย หญิง สวมศิราภรณ์ประดับศีรษะ แสดงท่าเต้นและรำไปตามบทพากย์ - เจรจา บทร้อง และเพลงหน้าพาทย์ โดยมีวงปี่พาทย์บรรเลงประกอบการแสดง เว้นแต่ตัวแสดงที่เป็นตัวตลกจะเป็นผู้เจรจาเอง “โนรา” ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ที่มีลีลาการร่ายรำที่งดงาม แข็งแรง กระฉับกระเฉง ประกอบการขับกลอนด้วยท่วงทำนองที่ไพเราะ มีลูกคู่และดนตรีร้องรับด้วยจังหวะที่คึกคักฉับไวอันเป็นเอกลักษณ์ มีรากมาจากพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เพื่อบูชาวิญญาณบรรพชนและมีความผูกพันกับวิถีชีวิตคนใต้มาอย่างช้านาน โขนพบโนรา นับเป็นมิติใหม่แห่งการแสดงที่ผสานร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เชื่อมร้อยมรดกวัฒนธรรมให้เป็นหนึ่งเดียว โดยความร่วมมือระหว่างสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติประจำปี ๒๕๖๔ สาขาศิลปะการแสดง (โนรา) มารับบทเป็นพระอินทร์แปลง และร่วมออกแบบบทร้อง เพลงดนตรี สร้างสรรค์ผสมผสานท่ารำโนราให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องที่เป็นแกนหลัก แสดงร่วมกันระหว่างนาฏศิลปินจากสำนักการสังคีต และผู้แสดงโนราจากมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา กระบวนการจัดทำบทการแสดงโขนพบโนรา เรื่องรามเกียรติ์ ชุดรามมกุฎอยุธยา เริ่มจากการจัดทำบทโขนขึ้นเป็นหลัก โดยจรัญ พูลลาภ นักวิชาการละครและดนตรีชำนาญการพิเศษ สำนักการสังคีต เป็นผู้ปรับปรุงบทการแสดงในตอนศึกอินทรชิตแผลงศรพรหมาสตร์จากบทเดิมของกรมศิลปากร ซึ่งนำมาจากบทคอนเสิร์ตพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า ฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ด้วยเป็นตอนที่มีความเหมาะสมที่จะนำไปร้อยเรียงเป็นบทการแสดงโขนร่วมกับโนรา โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์เรียบเรียงบทชมช้างเอราวัณและระบำหน้าช้างในส่วนของโนรา โดยปรับทำนองและคำร้องเพลงกลอนโนราตั้งแต่ช่วงอินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ - อินทรชิตแผลงศรพรหมาสตร์ให้เป็นทางโนราได้อย่างลงตัว สวยงาม สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของทั้งสองศิลปะได้เป็นอย่างดี โขนพบโนรา เรื่องรามเกียรติ์ ชุดรามมกุฎอยุธยา จัดแสดงครั้งแรกวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง เนื้อเรื่องกล่าวถึง ทศกัณฐ์มีบัญชาให้กาลสูรไปแจ้งแก่อินทรชิตให้ทำพิธีชุบศรพรหมาสตร์ อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ และสั่งให้ไพร่พลแปลงกายเป็นเทวดา นางฟ้า นาค ฤษี และขบวนเกียรติยศ การุณราชแปลงเป็นช้างเอราวัณ เคลื่อนขบวนจับระบำรำฟ้อนไปในอากาศทำกลลวงให้ฝ่ายกองทัพพระลักษมณ์หลงกล เมื่อสบโอกาส อินทรชิตจึงแผลงศรพรหมาสตร์ถูกพระลักษมณ์และพลวานรสลบไป ต่อมาพิเภกได้บอกสรรพยาในการแก้ไขพิษศรพรหมาสตร์แก่พระราม จนพระลักษมณ์และพลวานรฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง จากนั้นยกกองทัพออกทำศึกกับทศกัณฐ์จนได้รับชัยชนะ เมื่อเสร็จศึกจึงรับนางสีดาพร้อมยกขบวนกองทัพคืนกลับไปปกครอง กรุงศรีอยุธยา เหล่าบรรดาเทพบุตร นางฟ้า ต่างร่วมกันจับระบำรำฟ้อนถวายพระพรชัยด้วยความยินดี รูปแบบการแสดง การแสดงโขนดำเนินเรื่องด้วยการขับร้อง การพากย์ - เจรจา และบรรเลงเพลงหน้าพาทย์ ตามรูปแบบของการแสดงโขน โนราดำเนินเรื่องตามเนื้อเรื่องหลักของการแสดงโขน โดยผู้แสดงโนราเป็นผู้ขับกลอนเองและดนตรีร้องรับ ทั้งนี้ได้มีการผสมผสานกับเพลงบรรเลงด้วยวงปี่พาทย์เครื่องคู่ในการรำโนรา ใช้เวลาทำการแสดงประมาณ ๒ ชั่วโมง ๒๐ นาที การแต่งกาย ผู้แสดงโขนแต่งกายยืนเครื่องตามจารีต ผู้แสดงโนราสวมเครื่องแต่งกายโนราที่ร้อยเรียงขึ้นด้วยลูกปัดสีสันต่าง ๆ สวมปีกหาง ศีรษะสวมเทริดทรงสูง และออกแบบพัฒนาชุดพระอินทร์แปลงขึ้นใหม่อย่างโนรา โดยใช้โทนสีเขียวและเหลืองทอง ตามความหมายและเอกลักษณ์ของตัวละคร รวมทั้งการใช้ ศร อาวุธประจำตัวของตัวละครตามจารีตของการแสดงอย่างครบถ้วน ดนตรีและเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง ใช้วงปี่พาทย์เครื่องคู่ประกอบการแสดงโขน และใช้วงปี่พาทย์ชาตรี (วงโนรา) บรรเลงประกอบการแสดงโนรา กำกับดนตรีโดย พงค์พันธ์ เพชรทอง ดุริยางคศิลปินอาวุโส สำนักการสังคีต ปรับวิธีการบรรเลงเพลงลิงลาน และเพลงกราวรำพม่าให้เป็นสำเนียงพื้นบ้านภาคใต้ เพื่อให้สอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างหน้าทับของวงปี่พาทย์และวงโนรา ในบทบาทของผู้แสดงโนรา รายการอ้างอิง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม. โนรา ศิลปะการร้อง รำ ที่ผูกพันกับชีวิต. กรุงเทพ ฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, ๒๕๖๓. จรัญ พูลลาภ. นักวิชาการละครและดนตรีชำนาญการพิเศษ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. สัมภาษณ์. ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗. พงค์พันธ์ เพชรทอง. ดุริยางคศิลปินอาวุโส สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. สัมภาษณ์. ๒๔ มกราคม ๒๕๖๗. ภาพถ่าย กลุ่มวิจัยและพัฒนาการสังคีต สำนักการสังคีต กรมศิลปากร บทความโดย ธัญนัฏกร กล่ำแดง นักวิชาการละครและดนตรีปฏิบัติการ สำนักการสังคีต


         โรมาโน วิเวียนี (Romano Viviani)          ศิลปิน : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี (Silpa Bhirasri)          ปีพุทธศักราช: ปี พ.ศ.2473 (1930)          เทคนิค: หล่อปลาสเตอร์ (Plaster)          ขนาด : สูง 27 เซนติเมตร (H.27 cm.)            แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri/360/model/s03ok/   ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri


วันพฤหัสบดีที่  18  เมษายน  2567  เวลา 16.00 น. นายวิเชต ลิ้มภักดี เข้าร่วมการแถลงข่าว งาน“ศิวะราตรี ปูชนียาลัย ปราสาทเปือยน้อย” ประจำปี 2567 และการแสดงโขน ประกอบแสง สี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด พาลีสอนน้อง โครงการจัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจร ประจำปี 2567 นำแสดงโดย ศิลปินสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ณ ห้องแสดงสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น



ชื่อเรื่อง                     ทานานิสํสกถา (ฉลองต้นเครื่องทาน) สพ.บ.                       466/1 หมวดหมู่                   พุทธศาสนา ภาษา                       บาลี-ไทยอีสาน หัวเรื่อง                     ชาดก                               เทศน์มหาชาติ ประเภทวัสดุ/มีเดีย        คัมภีร์ใบลาน ลักษณะวัสดุ                20 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม. บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง  จ.สุพรรณบุรี







ชื่อเรื่อง : พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช 2518   หัวเรื่อง : ข้าราชการพลเรือน -- ไทย -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ คำค้น : ข้าราชการพลเรือนสามัญ รายละเอียด : - ผู้แต่ง : - แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ : สัตยการพิมพ์ ปีที่พิมพ์ : 2518 วันที่เผยแพร่ : 30 มกราคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ :  - รูปแบบ : PDF ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช 2518 เนื้อหาว่าด้วยลักษณะ 1-8 โดยเน้นในเรื่องของข้าราชการพลเรือนสามัญ ประกอบด้วย 7 หมวดที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการประเภทอื่น ได้แก่ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ข้าราชการพลเรือนรัฐพาณิชย์ ข้าราชการครู ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการต่างประเทศพิเศษ เลขทะเบียน : บ. 184286 เลขหมู่ : 342.593068              ก114พ


ชื่อผู้แต่ง               มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. ชื่อหนังสือ             ลิลิตพายัพ ครั้งที่พิมพ์             พิมพ์ครั้งที่ ๓ สถานที่พิมพ์           พระนคร สำนักพิมพ์             โรงพิมพ์ประเสริฐการพิมพ์. ปีที่พิมพ์                ๒๕๑๑ จำนวนหน้า            ๑๓๑ หน้า : ภาพประกอบ ISBN                    - เลขเรียกหนังสือ       ๘๙๕.๙๑๑๕    ม ๑๑๓ ล เลขทะเบียนหนังสือ   ๐๐๓๑๖๓หมายเหตุ               พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางอุรัย เผื่อนปฐม (ณ เชียงใหม่) ณ เมรุวัดไตรมิตรวิทยาราม วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๑                            หนังสือลิลิตพายัพนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ในการสร้างทางรถไฟสายเหนือสำเร็จตลอดถึงนครสวรรค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เปิดทางรถไฟที่สถานีบ้านพาชี โปรดเกล้าให้พระบรมโอรสาธิราชเสด็จไปประพาสหัวเมืองมลฑลพายัพ จึงเป็นกาสที่ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องนี้


ชื่อผู้แต่ง         พุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระ. ชื่อเรื่อง           บทละครนอกเรื่องคาวีและสังข์ศิลป์ชัย พิมพ์ครั้งที่       พิมพ์ครั้งที่ ๗ สถานที่พิมพ์     พระนคร สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี ปีที่พิมพ์          ๒๕๐๘ จำนวนหน้า      ๒๒๕  หน้า รายละเอียด              บทละครนอกเรื่องคาวีและสังข์ศิลป์ชัย  เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ  นางจำปา  วัฒนศิริโรจน์ ณ  เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม   ในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน  ๒๕๐๘  ซึ่งเนื้อหาเป็นนิทานโบราณที่มีอยู่ในหนังสือปัญญาสชาดก เรียกว่า “พหลคาวีชาดก” ของเดิมแต่งภาษามคธ ซึ่งมีความเป็นเอกในเรื่องกระบวนกลอนและกระบวนความ ส่วนบทละครเรื่องสังข์ศิลป์ชัยนั้น เป็นเรื่องโบราณ มีละครเล่นกันมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น แต่เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ขึ้นถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย


black ribbon.