ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,712 รายการ
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 144/7 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 177/3คเอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง เปิดบ้านศิลปิน นครินทร์ ชาทอง“ท้องแท้ของแผ่นดิน”ศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2550
ชื่อผู้แต่ง ถวัลย์ มาศจรัส
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
ปีที่พิมพ์ 2556
จำนวนหน้า 104 หน้า
รายละเอียด
กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้กหนดเปิดบ้าน นายนครินทร์ ชาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน - หนังตะลุง) นับเป็นหลังที่ 15 ในโครงการเปิดบ้านศิลปินแห่งชาติแห่งนี้ ได้ใช้เป็นสถานที่อนุรักษ์และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหนังตะลุงอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมของศิลปินพื้นบ้าน ครู นักเรียน นักศึกษา ซึ่งที่แห่งนี้จะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจของชาวจังหวัดสงขลาต่อไป
เลขทะเบียน : นพ.บ.382/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 44 หน้า ; 5 x 59 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 143 (26-39) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : มาลัยถาม--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.523/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 5 x 52 ซ.ม. : ล่องชาด-ลานดิบ-ชาดทึบ-รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 175 (260-266)) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : กจฺจายนมูล--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง ธมฺมปทวณฺณนา ธมฺมปทฏฺธกถา ขุทฺทกนิกายฏฺธกกา (ธมฺมฺปทขั้นปลาย)อย.บ. 241/13หมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 58 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 58.5 ซม.หัวเรื่อง พระธรรมเทศนา
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา
กรมศิลปากร โดยกองโบราณคดี จัดการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง “โบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภูมิภาคลพบุรี” วิทยากรโดย Dr Fiorella Rispoli และ Dr Roberto Ciarla นักโบราณคดีผู้ดำเนินโครงการ Lop Buri Regional Archaeological Porject จากสถาบัน ISMEO – International Association of Mediterranean and Oriental Studies ประเทศอิตาลี ให้แก่นักโบราณคดีสังกัดกรมศิลปากรและผู้สนใจ
การบรรยายประกอบด้วย ๒ หัวข้อ ได้แก่ การบรรยาย หัวข้อ “The Site that Vanished: Stratigraphy, Artefacts and AMS Dating from Tha Kae” โดย Dr Fiorella Rispoli และการบรรยาย หัวข้อ “Perforated Cylinders/Furnace Chimneys/Furnace Collars: Controversial Earthenware Artefacts from Copper Smelting and Mortuary Contexts at Khok Din and Noen Din Prehistoric Sites in the Lopburi Province. Another Case of Technological Similarity in Prehistoric Metallurgy Between Southeast Asia and China?” โดย Dr Roberto Ciarla
ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมฟังการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง “โบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภูมิภาคลพบุรี” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โปรแกรมซูม (Meeting ID: 9734913996 Passcode: 987654) ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 15.00 – 17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยและพัฒนางานโบราณคดี กองโบราณคดี โทร. 0 2164 2523
---------------------------------------------
+หัวข้อการบรรยายและบทคัดย่อ+
Title: The Site that Vanished: Stratigraphy, Artefacts and AMS Dating from Tha Kae.Author: Dr Fiorella Rispoli
Abstract:
Tha Kae doesn't need a long introduction: it was among the largest, pre- and proto-historic moated-sites in central Thailand. In early aerial photos of the 40s and 50s it is possible to appreciate its original shape and size before the construction of the Chainat-Pasak irrigation canal that irreversibly damaged the western side of the site. Its “hidden wealth”, the caliche terrace on which the site developed over ca. three millennia, was also its downfall: its original structure was tragically destroyed by intensive quarrying for the extraction of carbonate soil for local construction, beginning in the 50s. At Tha Kae the bulldozers cut through the deposit creating long “sections” where Neolithic and Iron Age grave-cuts stood out. In following years, the site was also the subject of intensive looting. When we arrived 1987, not much remained of the site, but some intact "islands" could still yield archaeological data for the reconstruction of this large site's chronological/cultural sequence. It was not an easy task, but we accepted the challenge. In 2020-2021, due to travel restrictions, we were permitted to use part of our field funds granted to our project for AMS dating. Part of the samples (mainly charcoal), from reliable contexts, provided AMS dates that can only be considered as termini post quem due to their built-in age. However, even so these dates support what is proposed herein in this critical review of Tha Kae's stratigraphy and cultural sequence. Other dates, in particular those from bivalve shells and shell beads from graves, returned the most reliable dates, in agreement with the 14C of many other sites in Thailand.
The results of this latest (as far as we are concerned, definitive) analysis of the chronological-cultural sequence of Tha Kae is presented, including previous and new radiometric dating results.
Title: Perforated Cylinders/Furnace Chimneys/Furnace Collars: Controversial Earthenware Artefacts from Copper Smelting and Mortuary Contexts at Khok Din and Noen Din Prehistoric Sites in the Lopburi Province. Another Case of Technological Similarity in Prehistoric Metallurgy Between Southeast Asia and China?
Author: Dr Roberto Ciarla
Abstract:
The Thai-Italian “Lopburi Regional Archaeological Project” excavated different types of technical ceramics at the prehistoric sites of Khok Din (KD) and Noen Din (ND) (late 1st millennium BCE-early 1st millennium CE) near the copper bearing Khao Sai On (KSO) inselberg (Ban Nikhom 3 sub-district, Changwat Lopburi). A particular type of technical ceramic -called in different times and publications ‘perforated cylinder’, ‘furnace chimney’, ‘furnace collar’- is examined describing its contexts of discovery and peculiar techno-typological characteristics. At KD and ND we assume these artefacts were introduced in the metallurgical tool-kit between 200 BCE-200 CE. At both sites, the fragments of FC are associated with crucible fragments, gangue, bits of copper ores and slag. The uncontaminated stratigraphic evidence provides an additional piece of information to the hypothesis that crucibles and ‘FCs’ can be directly associated with the reduction of copper ores. Typological and functional comparisons are examined at the regional level with homologous materials the Thai-American Thailand Archaeometallurgy Project (TAP) excavated at mortuary and copper smelting sites (mid-to-late 1st millennium BCE-early 1st millennium CE) in the Khao Wong Prachan Valley (KWPV) (central Thailand), and, at the inter-regional level, with similar artefacts found at copper smelting sites (13th-11th centuries BCE) nearby Niuheliang in Liaoning Province (Northeast China). Should we look North again for a technological innovation (in Thailand so far only documented in the KSO and KWPV sites) introduced in central Thailand by local metallurgists a millennium later than the Liaoning evidence? Whether or not is a matter of future research, wishing for new discoveries in Thailand from some of our younger Thai colleagues.
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “121 ปี ครูบาเจ้าศรีวิชัยกับเมืองเชียงใหม่” ภายใต้การดำเนินงานโครงการพัฒนาและส่งเสริมหอสมุดแห่งชาติเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต (ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค) ประจำปี 2566 ในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2566 เวลา 08.00 - 16.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการร่วมกิจกรรม รับจำนวน 50 คน (นั่งรถราง)
ผู้สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม (*สิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรม พิจารณาตามลำดับการลงทะเบียน)
เนื่องในเทศกาลคเณศจตุรถีและวันพิพิธภัณฑ์ไทย 2566 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ได้จัดทำของที่ระลึกเป็น Magnet จำนวน 2 Collections ได้แก่ "Our Phimai national museum" รวมภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย 4 versions จากอดีต ถึงปัจจุบัน "Our Collection" ภาพโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของพิพิธภัณฑ์ จำหน่ายชิ้นละ 20 บาท ค่าจัดส่งตามจริง เปิดจำหน่ายเฉพาะในช่วงวันพิพิธภัณฑ์ไทย เดือนกันยายนนี้เท่านั้น ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่เพจ Phimai National Museum:พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ทั้งนี้ หากสนใจอยากเลือกชมด้วยตัวเอง สามารถไปซื้อได้ที่ "งานมหาคณปติบูชา" ระหว่างวันที่ 16 -19 กันยายน 2566 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (รายได้นำเข้าสวัสดิการเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย)
ชื่อเรื่อง ท้องถิ่นเมืองโบราณอู่ทอง รายวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้แต่ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN -หมวดหมู่ ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์เลขหมู่ 959.373 ส691ทสถานที่พิมพ์ สุพรรณบุรีสำนักพิมพ์ ม.ป.พ.ปีที่พิมพ์ 2551ลักษณะวัสดุ 92 หน้า : ภาพประกอบ ; 29 ซม.หัวเรื่อง สุพรรณบุรี – ประวัติศาสตร์ แบบเรียน อู่ทอง(สุพรรณบุรี) -- ประวัติศาสตร์ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก จัดทำโครงการ “พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเมืองโบราณอู่ทอง” มีเป้าหมายจัดทำหลักสูตรระดับท้องถิ่น กำหนดเป็นระยะๆ ตามแนวการพัฒนาหลักสูตร กำหนดกรอบแนวการพัฒนา จัดทำลักษณะหน่วยการเรียนรู้สอดแทรกไว้ในรายวิชา ประวัติศาสตร์ ในระดับชันประถมศึกษาปีที่ 1 - 6
พัดเปรียญฆราวาส ซึ่งตามประวัติระบุเอาไว้ว่าได้รับจากพระเจริญโภคสมบูรณ์ กรมพระคลังข้างที่ ส่งมอบให้กรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๔
มีลักษณะเป็นพัดหน้านาง พื้นพัดทำจากผ้าตาดสีแดง ตรงกลางปักลายด้วยดิ้นทองเป็นกลีบบัว ประดับดิ้นเลื่อมขลิบทองเป็นแนวรัศมีและกระหนกแซม ขอบพัดปักเป็นเส้นคั่นและกระหนกด้ามทำจากไม้คาดกลางทาบตับพัด ตรงกลางทำเป็นปุ่มนูนสองด้าน ยอดพัดเป็นงากลึงรูปหัวเม็ด มีงาแกะสลักลายกระหนกตรงคอพัดรองรับขอบพัดด้านล่าง ปลายเป็นสันงานช้างกลึง นับเป็นพัดพิเศษและมีขนาดเล็กกว่าพัดยศทั่วไป
สันนิษฐานว่าเป็นพัดเปรียญ ๕ ประโยค สำหรับฆราวาส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ครั้งทรงแปลหนังสือนิบาตชาดกถวาย เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗
พัดเปรียญ เป็นพัดที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานแก่พระภิกษุ สามเณร สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่การแบ่งสีพัดตามลำดับชั้นนั้นเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้แก่ สีเขียว หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๓ ประโยค สีน้ำเงิน หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๔ ประโยค สีแดง หมายถึง พัดเปรียญธรรม ๕ ประโยค และสีเหลือง หมายถึง พัดเปรียญธรรมตั้ง ๖ ประโยคขึ้นไป
นอกจากนี้พัดเปรียญยังพระราชทานแก่ฆราวาสผู้มีความชำนาญในภาษาบาลีสันสกฤตถึงขั้นเปรียญธรรม ทั้งนี้การพระราชทานพัดเปรียญแก่ฆราวาส มีปรากฏด้วยกันถึง ๒ ครั้ง คือ
ครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพัดเปรียญ ๕ ประโยคให้แก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์ ผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงเป็นบัณฑิตทางอรรถคดีธรรมจารีตในพระพุทธศาสนาจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพัดเปรียญเป็นเกียรติยศให้แก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ผู้ซึ่งเถรสมาคมยกย่องว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในภาษาบาลีเทียบเท่าเปรียญธรรม ๕ ประโยค
พัดเปรียญสำหรับฆราวาสที่มีขนาดเล็กพิเศษนี้ จึงนับเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่หาชมได้ยากยิ่ง
แหล่งที่มา
๑. ณัฏฐภัทร จันทวิช. ตาลปัตร พัดยศ และสมณศักดิ์. เข้าถึงเมื่อ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖, เข้าถึงได้จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/other_sub.php?file=encyclopedia/book32.html
๒. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. ตาลปัตร. เข้าถึงเมื่อ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://dictionary.orst.go.th/
๓. พระมหานิรุตตุ์ ฐิตสํวโร. คู่มือสมณศักดิ์ พัดยศ ฉบับสมบูรณ์ (ปรับปรุงแก้ไข พ.ศ. ๒๕๕๒ เพิ่มเติมพัดใหม่ ๕ ตำแหน่ง) (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ธงธรรม,๒๕๕๒), ๑๙๐-๑๙๓.
๔. ชินดนัย ไม้เกตุ และหฤษฎ์ แสงไพโรจน์. พระประวัติพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์และประวัติชุมชนวังกรมพระสมมตอมรพันธุ์. เข้าถึงเมื่อ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖, เข้าถึงได้จาก https://urbanally.org/article/History-of-living-old-building