ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี
ที่ตั้ง
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณมาแต่อดีต ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของเมืองโบราณสุพรรณบุรี ในท้องที่ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
สาระสำคัญ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นวัดที่สำคัญตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ด้านทิศตะวันตก บริเวณศูนย์กลางเมืองโบราณสุพรรณบุรี ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด ภายในวัดประกอบไปด้วยโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ พระปรางค์ ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานของวัดศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม จำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์ อุโบสถ วิหารน้อย และซากเจดีย์รายจำนวน 2 องค์ บริเวณด้านทิศตะวันตกของพระปรางค์ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปหินทรายอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ภายในวิหารด้านหน้าพระปรางค์
ลักษณะทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมของพระปรางค์
พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุสุพรรณบุรี ก่อด้วยอิฐสอดิน ผิวด้านนอกฉาบปูนส่วนฐานทำเป็นชุดฐานบัวลูกฟัก สี่เหลี่ยมย่อมุมซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 4 ชั้น รองรับองค์เรือนธาตุ ลักษณะมุมมีมุมประธานซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่กลาง มุมย่อยซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่กลาง มุมย่อยซึ่งมีขนาดเล็กกว่าขนาบทั้งสองข้าง
องค์เรือนธาตุสอบโค้งเข้าหาส่วนบน ย่อมุมรับกับส่วนฐาน มีมุมซุ้มจระนำทั้ง 4 ด้าน เฉพาะด้านทิศตะวันออกทำเป็นคูหา ประดิษฐานพระปรางค์จำลอง ผนังห้องคูหาทั้ง 3 ด้านฉาบปูนเรียบ เพดานบุด้วยแผ่นไม้กระดาน และมีบันไดขึ้นสู่คูหาเพียงด้านเดียว หน้าบันเรือนธาตุทำเป็นซุ้มลดซ้อนกัน 2 ชั้น ประดับลวดลายปูนปั้นเป็นรูปมกรและนาค บริเวณชั้นบัวรัดเกล้าปรากฏรูปเทพพนมระหว่างมกรและนาค บริเวณชั้นบัวรัดเกล้าปรากฏลวดลายปูนปั้นเป็นรูปอุบะและกลีบบัว อันเป็นแบบประเพณีนิยมสมัยอยุธยาตอนต้นสามารถเปรียบเทียบได้กับชั้นบัวรัดเกล้าที่พระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เหนือขึ้นไปเป็นชั้นเชิงบาตรครุฑแบก ยักษ์แบก แต่ปัจจุบันปรากฏเพียงปูนปั้นรูปยักษ์บริเวณมุมย่อยเท่านั้น นอกจากนี้บริเวณหน้ากระดานของวิมานชั้นแรกยังปรากฏลวดลายปูนปั้นเป็นรูปหงส์ รูปใบไม้ ในกระจกอีกด้วย
ส่วนยอดพระปรางค์ประกอบด้วยชั้นวิมานจำลองซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 7 ชั้น สอบโค้งเข้าหาปลาย บริเวณมุมและด้านประดับด้วยกลีบขนุนและซุ้มบันแถลง ยอดพระปรางค์ประดังด้วยนภศูล
เมื่อ พ.ศ. 2456 ในคราวขุดกรุพระปรางค์วัดนี้ได้พบจารึกลานทองหลายลานด้วยกัน ที่สำคัญคือ จารึกที่กล่าวถึงกษัตริย์สองพระองค์ที่ทรงสร้างและทรงซ่อมพระปรางค์องค์ดังกล่าวไว้ด้วย (จารึกหลักที่ 47) ) ซึ่งอายุของจารึกลานทองแผ่นนี้ นักภาษาโบราณหลายท่าน ( ก่องแก้ว วีรประจักษ์, เทิม มีเต็ม , อุไรศรี วรศะริน ) ให้ความเห็นว่า อักษรในจารึกลานทองแผ่นนี้เป็นรูปอักษรในราวพุทธศตวรรษที่ 24 สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่เมื่อพิจารณาตามข้อความในจารึกและพระนามพระมหากษัตริย์แล้วจะเห็นว่าเป็นพระนามกษัตริย์ในสมัยอยุธยา ขัดกันกับรูปอักษรมาก ในขณะที่พิจารณาทางรูปแบบศิลปกรรมศิลปกรรมขององค์ปรางค์ก็เป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยา จึงมีทางเป็นไปได้ว่า จารึกลานทอง หลักที่ 47 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนี้เป็นจารึกที่สร้างขึ้นใหม่ โดยใช้อักษรข้อความลอกเลียนแบบจารึกของเดิมซึ่งชำรุด
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒-๒๕๔๓ ฝ่ายวิชาการ สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๒ สุพรรณบุรี ได้ดำเนินงานขุดค้นบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พบว่าบริเวณดังกล่าวนี้ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์ในอดีตมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๗
เมื่อโสมส่อง: Muea Som Song(I Never Dream)
เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๘
เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๘ ทรงพระราชนิพนธ์ในพุทธศักราช ๒๔๙๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษได้พระราชทานให้นำไปบรรเลงในงานรื่นเริงประจำปี ของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๙๗ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทยถวาย
Royal composition Number 18
The eighteenth royal musical composition was written in 1954, with English lyrics by His Royal Highness Prince Chakrabhand Pensiri. It was granted to be peroformed at the annual fair of the American University Alumni Association under the Royal Patronage at Saranrom Club on Saturday, 23 January 1954. His Majesty later requested Thanpuying Somroj Swasdikul Na Ayudhya to compose the Thai lyrics for the tune.
25 พฤศจิกายน 2558 เวลา 07.30 น. กิจกรรม "จิบกาแฟ แชร์ความคิด" จังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 34 โดยกระทรวงมหาดไทย โดยนายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร หัวน้าส่วนราชการจังหวัดกำแพงเพชรร่วมกิจกรรม ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๘ สำนักศิลปากรที่ ๘ เชียงใหม่ ร่วมกับ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๘ ณ โรงเรียนโครงการหลวงแกน้อย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ชมภาพกิจกรรมทั้งหมดได้ที่ --->
วัสดุ ดินเผา
อายุสมัย สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สังคมเกษตรกรรม (ประมาณ 2,500–1,800 ปีมาแล้ว)
สถานที่พบ พบที่แหล่งโบราณคดีบ้านสำโรง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด
ภาชนะดินเผาทรงชาม ปากกว้าง ขอบปากเป็นแผ่นแบน ลำตัวสอบ ก้นลึกและมน เจาะรูที่ก้นจำนวน 7 รู ด้านนอกตกแต่งผิวด้วยลายเชือกทาบ ด้านในเรียบไม่มีลวดลาย
โครงการสำรวจเอกสารโบราณ
วันอังคารที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔
ณ วัดเขาปินะ ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
วันศุกร์ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ ๔ - ๖ โรงเรียนบ้านสร้างเรือ อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ นักเรียนจำนวน ๒๖ คน คุณครูจำนวน ๒ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก ได้จัดโครงการกิจกรรมงานวันเด็ก เมื่อวันที่ 11และวันที่ 13 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา
โรงเรียน ทีปังกรวิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) เข้ามาร่วมทำกิจกรรม ปั้นดินและสานหมวกจากทางมะพร้าวเพื่อจุดประสงค์ให้เด็กนักเรียนได้มีส่วนร่วมในแหล่งเรียนรู้จากการทำกิจกรรมดังกล่าว พร้อมกับเยี่ยมชมนิทรรศการ 3 เรื่อง ได้แก่ ประเพณีโล้ชิงช้า ประเพณีคล้องช้างกับคนเลี้ยงช้างและ ประเพณีเทศก์มหาชาติ โดยมีผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก กล่าวเปิดงานกิจกรรมในครั้ง
และในวันที่ 13 มกราคม เข้าร่วมงานวันเด็กโดยใช้สถานที่ กรมทรัพยากรธรณีวิทยา จัดงานกิจกรรมสานฝันวันเด็ก กิจกรรมที่เข้าร่วมได้แก่ ปากระป๋องแจกรางวัลพร้อมอาหารเครื่องดื่ม