ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ


กรมศิลปากร. ประวัติวัดท่าโพธิ์วรวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2536.               กล่าวถึงประวัติวัดท่าโพธิ์วรวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพระอารามหลวงที่มีประวัติการสร้างมาตั้งสมัยอยุธยาและมีโบราณวัตถุสถานอยู่พอสมควร และได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนครศรีธรรมราช เช่น การสอบค้นชื่อบ้าน-เมืองเก่า สถานที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี แหล่งท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรม และวรรณกรรมที่เกี่ยวกับเมืองนครศรีธรรมราช ในตอนท้ายได้รวบรวมงานด้านศิลปวัฒนธรรมที่กรมศิลปากรรับผิดชอบ และรายชื่อพระอารามหลวงที่กรมศิลปากรนำผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดไว้ด้วย


          กรมศิลปากรจัดเสวนาประกอบนิทรรศการ “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” วันศุกร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น.  โดยมีนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมฟังการเสวนาประกอบนิทรรศการ “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” นิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร           สำหรับการเสวนาประกอบนิทรรศการในวันนี้ ประกอบด้วย ช่วงเช้า เสวนาเรื่อง “งานศิลปกรรมในสาส์นสมเด็จ” โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สันติ เล็กสุขุม ราชบัณฑิต และนายดิษพงศ์ เนตรล้อมวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัย สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดำเนินรายการโดย นายยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช่วงบ่าย เสวนาเรื่อง “ภาษาและวรรณกรรมในสาส์นสมเด็จ” โดย นางสาวพิมพ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจริญ นักอักษรศาสตร์ทรงคุณวุฒิ (ภาษา เอกสารและหนังสือ)​ กรมศิลปากร และรองศาสตราจารย์ ดร.ศานติ ภักดีคำ ภาคีสมาชิก สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสภา ดำเนินรายการโดย นายศรัญ กลิ่นสุคนธ์ ภัณฑารักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ           “สาส์นสมเด็จ” คือ หนังสือที่รวบรวมจดหมายส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๗ - ๒๔๘๖ เนื้อหาในจดหมายสะท้อนเรื่องราวที่ทั้งสองพระองค์ทรงสนพระทัยและเกร็ดความรู้ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี พิพิธภัณฑสถาน วรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีและนาฏศิลป์ กรมศิลปากรได้ประมวลและถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงผลงานของทั้งสองพระองค์ที่ปรากฏในหนังสือ “สาสน์สมเด็จ” มานำเสนอในนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ เรื่อง “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” เปิดให้เข้าชมระหว่าง วันที่ ๑๙ สิงหาคม จนถึงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. (ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


ผู้แต่ง : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 1  สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2504 หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายร้อยตำรวจเอก ขุนผลาญไพรินทร์ (เลื่อน นวลักษณ์)             รวบรวมเรื่องลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ การอำนวยพร เรื่องโจรแปลกประหลาด พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และประเพณีทำบุญของกรมศิลปากร




ชื่อเรื่อง                     วิจารณ์เรื่องตำนานเสภา และระเบียบการเล่นตำนานเสภา ผู้แต่ง                       นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าฯ กรมพระยา, 2406-2490.ผู้แต่งเพิ่ม                   ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา, 2405-2486.กรมศิลปากรประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   วรรณคดีของผู้ประพันธ์เลขหมู่                      809.12 น254วสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์พระจันทร์ปีที่พิมพ์                    2511ลักษณะวัสดุ               94 หน้า หัวเรื่อง                     เสภา - - ประวัติและวิจารณ์          ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   เนื้อหาภายในประกอบด้วยระเบียบการเล่นตำนานเสภา -- ตอนที่ 1 เล่านิทาน สมัยเมื่อปีขาล จุลศักราช 1000 (พ.ศ. 2181) ในรัชกาลพระเจ้าปราสาททอง -- ตอนที่ 2 เล่านิทานทรงเครื่อง  



เลขทะเบียน : นพ.บ.120/5ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  22 หน้า ; 4.5 x 55.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 68 (220-224) ผูก 5 (2564)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อผู้แต่ง           เกษม  บุญศรี. ชื่อเรื่อง            ประเพณีทอดกฐิน  ครั้งที่พิมพ์        พิมพ์ครั้งที่ ๑ สถานที่พิมพ์      พระนคร สำนักพิมพ์       โรงพิมพ์ศิริศิลป ปีที่พิมพ์            ๒๔๙๖              จำนวนหน้า       ๒๙ หน้า  หมายเหตุ -                คำว่า กฐิน เป็นคำไทยที่เอามาจากภาษาภาลี แปลว่า ไม้สะดึง ไม้สะดึงคือไม้แบบตัดจีวร เป็นชื่อของผ้าเรียกว่าผ้ากฐินคือผ้าทำด้วยไม้สะดึง


เลขทะเบียน : นพ.บ.129/10ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  50 หน้า ; 4.8 x 50 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 75 (275-287) ผูก 10 (2564)หัวเรื่อง : ธฺมมปทวณฺณนา ธฺมฺมปทฎฺฐกถา ขุทฺกนิกายฎฺฐกถา (ธมฺมบท)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ตำรายาและคาถาอาคม ชบ.ส. ๑๒ เจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มอบให้หอสมุด ๑๙ ก.ค. ๒๕๓๕ เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.19/1-1 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)



การฝังศพแบบปฐมภูมิ(Primary Burial) ที่แหล่งโบราณคดีโนนหนองจาน -----แหล่งโบราณคดีโนนหนองจาน ตั้งอยู่ที่บ้านมันปลา หมู่ที่ ๑๓ ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ได้รับการขุดค้นทางโบราณคดีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ พบหลักฐานการฝังศพแบบปฐมภูมิ (Primary Burial)ในท่านอนหงายเหยียดยาว และการฝังศพบแบบทุติยภูมิ (Secondary Burial) หรือการฝังศพในภาชนะดินเผา(Jar Burial) รวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๘ โครง การฝังศพแบบปฐมภูมิ(Primary Burial) คือการฝังศพแบบดั้งเดิม การฝังจะนำศพวางนอนในหลุม อาจจะวางศพนอนตะแคงงอเข่า หรือ นอนหงายเหยียดยาว การฝังศพลักษณะนี้จะพบกระดูกเรียงกันอย่างถูกต้องตามหลักกายวิภาค และพบเกือบทุกส่วนของร่างกาย ขอยกตัวอย่าง การวิเคราะห์โครงกระดูกที่พบ ๒ โครง ดังนี้ +โครงกระดูก A+ -----การวิเคราะห์โครงกระดูกจากลักษณะทางกายภาพ พบว่า อายุเมื่อตายประมาณ ๑๕ – ๒๐ ปี วิเคราะห์จากขนาดของกระดูกแต่ละชิ้นที่มีขนาดใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ แต่ยังพบว่าหัวกระดูกแต่ละชิ้นยังไม่เชื่อมต่อกันจึงยังไม่สามารถระบุเพศได้ วัดความยาวของโครงกระดูกได้ ๑๔๙ เซนติเมตร หันศีรษะไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สภาพของโครงกระดูกอยู่ในท่านอนหงาย กระดูกแต่ละชิ้นวางอยู่ในส่วนที่ถูกต้องตามกหลักกายวิภาค ส่วนกะโหลกศีรษะเสียหายจากการขุดค้น แขนท่อนบนวางแนบไปกับลำตัว แขนท่อนล่างด้านซ้ายวางเหนือกระดูกเชิงกราน ด้านขวาแนบกับลำตัว ท่อนขาและเท้าทั้งสองข้างวางตรงและค่อนข้างชิดกัน ปลายเท้าฝังลงลึกกว่าท่อนขาเล็กน้อยเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย -----หลักฐานที่พบร่วม ได้แก่ กำไลสำริดที่แขนซ้ายท่อนบนมีเครื่องจักสานติดอยู่ ขวานเหล็กมีรอยประทับเปลือกข้าว ลูกปัดหินคาร์เนเลียนทรงกลมบริเวณคอฝั่งซ้าย กำไลทรงกระบอกที่แขนท่อนล่างสองข้าง และเครื่องรางสำริดมีลักษณะคล้ายหวีแต่ซี่ห่างกว่าสองชิ้นที่ระหว่างขาท่อนบน +โครงกระดูก B+ -----การวิเคราะห์โครงกระดูกจากลักษณะทางกายภาพ พบว่า เป็นเพศหญิง วิเคราะห์ได้จากลักษณะของกระดูกเชิงกรานและลักษณะที่ปรากฏบนกระโหลกศีรษะ อายุเมื่อตายประมาณ ๓๐ – ๓๕ ปี วิเคราะห์จากขนาดของโครงกระดูก เช่น หัวกระดูกไหปราร้าเชื่อมต่อแล้ว วัดความยาวของโครงกระดูก ๑๔๙ เซนติเมตร หันศีรษะไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สภาพของโครงกระดูกอยู่ในท่านอนหงาย กระดูกแต่ละชิ้นวางอยู่ในส่วนที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาค ส่วนศีรษะฝังยกสูงกว่าส่วนลำตัวเล็กน้อย แขนท่อนบน วางแนบกับลำตัว แขนท่อนล่างขวาวางพาดขึ้นมาวางมือทับกระดูกเชิงกราน แขนท่อนล่างซ้ายวางพาดหน้าท้องมาทับแขนขวา แต่กระดูกส่วนข้อมือสูญหายไปจากการขุดค้น ส่วนเชิงกรานฝังลึกกว่าส่วนอื่นเล็กน้อย ท่อนขาวางตัวตรงค่อนข้างชิดกัน เท้าทั้งสองข้างวางติดกัน ที่กระดูกข้อเท้า(Talus) พบรอยกดทับ (Squatting Facet) ซึ่งเกิดจากการนั่งยองเป็นประจำ -----หลักฐานที่พบร่วม ได้แก่ กำไลสำริดทรงแบน และลูกปัดสีเหลืองปนส้มไส้ในเป็นสีแดงกระจายอยู่ที่ส่วนอก และชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ ท่อนยาว(Long Bone) วางทับหน้าแข้งซ้าย +ลักษณะอื่น ๆ ที่ปรากฏบนโครงกระดูก+ -----การถอนฟันบน ๒ คู่หน้า ได้แก่ ฟันหน้าซี่ที่ ๒ และ ฟันเขี้ยวพบในโครงกระดูกผู้ใหญ่ ที่ยังคงปรากฏหลักฐานให้เห็น ซึ่งสามารถอนุมานได้ว่า เป็นลักษณะทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ -----Rocker Jaw ขากรรไกรล่างมีความโค้งมน ซึ่งเป็นลักษณะของผู้คนแถบหมู่เกาะ(โพลินิเชี่ยน) +ลักษณะแบบแผนพิธีกรรมการฝังศพแบบปฐมภูมิของแหล่งโบราณคดีโนนหนองจาน + -----จากการวิเคราะห์พบว่า การฝังศพที่แหล่งโบราณคดีโนนหนองจานมีทิศทางการหันศีรษะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีการห่อศพและจัดท่าทางของศพ คือ การนำเอามือทั้งสองข้างวางไว้เหนือลำตัว แล้วมัดและห่อศพเนื่องลักษณะของกระดูกท่อนแขนที่วางแนบไปกับลำตัวและกระดูกส่วนต่าง ๆ วางตัวอย่างเป็นระเบียบและค่อนข้างชิดกัน วัสดุที่ใช้ในการห่อศพนั้นคงเป็นเครื่องจักสานเนื่องจากพบร่องรอยประทับบนกำไลสำริด อุทิศเครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องประดับให้กับผู้ตาย ที่พบทั้งลักษณะการอุทิศให้และการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และพบการโรยเมล็ดข้าวไว้ด้วย -----จากการศึกษาเปรียบเทียบในเบื้องต้นแหล่งโบราณคดีโนนหนองจาน เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายที่ปรากฏร่องรอยของวัฒนธรรมดองซอน การพบหลักฐานทางโบราณคดีที่เป็นเครื่องประดับสำริด และสิ่งของอื่น แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแหล่งโบราณคดีโนนหนองหอ และแหล่งโบราณคดีที่อยู่ห่างใกลออกไป คือ แหล่งโบราณคดีบ้านก้านเหลือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และแหล่งโบราณคดีบ้านดอนแสนพัน ตำบลเจียด อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี +++เรียบเรียงโดย นายพงษ์พิศิษฏ์ กรมขันธ์ นักโบราณคดีปฏิบัติการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี +++  


black ribbon.