ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
Wiang Nong Lom Culture Heritage Public Relations Media Project
Mae Chan District and Chiang Saen District, Chiang Rai Province
วันประถมศึกษาแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน
เป็นวันที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อการศึกษาของไทย ที่ได้ทรงวางรากฐานให้กับการศึกษาของชาติ เนื่องจากทั้งสองพระองค์ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนการประถมศึกษา และพระราชทานตราพระราช บัญญัติด้านการประถมศึกษาเอาไว้ ทำให้เกิดเสรีภาพทางการศึกษา และเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทย จวบจนกระทั่งทุกวันนี้
การประถมศึกษาของไทยอาศัย บ้าน วัด วัง เป็นสถานศึกษามาตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย จนถึงสมัยรัตน โกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงริเริ่มวางรากฐานการประถมศึกษา ของไทยขึ้น โดยจัดตั้งโรงเรียนหลวงแห่งแรกขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2414 และตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรที่วัดมหรรณพาราม ในปี พ.ศ. 2427 และขยายการศึกษาไปตามหัวเมืองต่างๆ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขึ้นเสวยราชสมบัติ พระองค์ได้ทรงรับภารกิจเกี่ยวกับการจัดการศึกษา สืบเนื่องจากพระราชบิดา ทรงยกฐานะโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงสร้างในปี พ.ศ.2453 ขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงให้จัดสร้างโรงเรียนเพาะช่างขึ้นในปี พ.ศ.2456 ทรงจัดตั้งโรงเรียนเบญจมราชาลัยเพื่อฝึกหัดครูในปี พ.ศ.2456 ทรงตั้งโรงเรียนพาณิชยการ เมื่อปีพ.ศ.2465
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตราพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ขึ้นเพื่อบังคับให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อให้เด็กทุกคนรู้หนังสือ จึงทรงตราพระราฃบัญญัติประถมศึกษาออกบังคับเป็นเขต ๆ ไป เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2464 เพื่อกำหนดให้เด็กที่มีอายุ 7-14 ปีบริบูรณ์ เข้าเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียน โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน นับเป็นการเริ่มต้นการศึกษาภาคบังคับในระดับประถมศึกษา โดยพระราชบัญญัติประถมศึกษานี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2464
ด้วยเหตุนี้กระทรวงศึกษาจึงได้กำหนดให้วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันประถมศึกษาแห่งชาติ และได้จัดงานวันประถมศึกษาแห่งชาติเป็นประจำมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2491-2508 ต่อมาโรงเรียนประถมศึกษาได้ถูกโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่นั้นมางานวันประถมศึกษาแห่งชาติจึงเปลี่ยนชื่อเป็น วันศึกษาประชาบาล
ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2523 ได้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาขึ้น จึงได้โอนโรงเรียนประชาบาลกลับมาสังกัดคณะกรรมการการศึกษา การจัดงานวันศึกษาประชาบาลจึงสิ้นสุดลง และกลับมาจัดวันประถมศึกษาแห่งชาติขึ้นใหม่ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 วันประถมศึกษาแห่งชาติจึงเปลี่ยนจากวันที่ 1 ตุลาคม มาเป็นวันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่พระองค์เป็นผู้วางรากฐานและสนับสนุนการประถมศึกษาอย่างดี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ๒๕๖๗ ในวันเสาร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๒.๐๐ น มีกิจกรรมร่วมสนุกแจกของรางวัลมากมาย และชมนิทรรศการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์แล้วรับของรางวัล
เนื่องในโอกาสที่เมืองโบราณศรีเทพได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ขอนำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับโบราณวัตถุจากเมืองศรีเทพที่เก็รักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ เรื่อง "์ศิวลึงค์จากปรางค์สองพี่น้อง เมืองโบราณศรีเทพ" ซึ่งจัดแสดงประกอบนิทรรศการตามรอยศรีเทพ เมืองมรดกโลก
...เรายังมีโบราณวัตถุจากเมืองศรีเทพอีกหลายชิ้น โปรดติดตามต่อไป...
องค์ความรู้ เรื่อง กุหลาบ...สัญลักษณ์แห่งความรัก
เรียบเรียง นางสาวกาญจนา ศรีเหรา บรรณารักษ์
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุทำให้เราทราบว่า การสร้างโครงข่ายเส้นทางคมนาคมในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างทางรถไฟนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการก่อสร้างที่ต้องบุกเบิกขนอุปกรณ์ก่อสร้างเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีเส้นทางคมนาคมประเภทอื่นที่เหมาะสมนอกจากทางน้ำ ดังตัวอย่างการก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือที่บริเวณเมืองพิจิตร ที่ปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุชุด กรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ 5 กระทรวงโยธาธิการ ดังนี้
เมื่อเดือนตุลาคม ร.ศ. 122 (พ.ศ. 2446) พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงษ์ เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ (พระยศและตำแหน่งในขณะนั้น – สะกดตามต้นฉบับ) ทรงมีลายพระหัตถ์กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ความว่า ทรงได้รับรายงานจากเจ้ากรมรถไฟว่า การก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือซึ่งต้องขนส่งเครื่องเหล็กก่อสร้างไปทางเรือนั้นไม่สะดวก เนื่องจากติดแก่งสะพานหิน 2 แห่ง บริเวณใต้เมืองพิจิตรลงมา เจ้ากรมรถไฟเสนอให้ระเบิดศิลาใต้น้ำเป็นช่องเล็กๆ พอให้เรือสามารถแล่นผ่านไปได้ ประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งกรมขุนนริศรานุวัดติวงษ์ทรงเห็นว่าการระเบิดศิลานี้จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะการก่อสร้างทางรถไฟเท่านั้น หากจะเป็นประโยชน์ต่อการสัญจรของประชาชนด้วย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น กรมรถไฟจะออกแต่ค่าแรง ส่วนค่าสิ่งของจะขอให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติโอนเงินเหลือจ่ายในกระทรวงโยธาธิการไปจ่าย เนื่องจากการบำรุงรักษาแม่น้ำลำคลองเป็นหน้าที่ของกระทรวงโยธาธิการที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบกลับว่า ทรงทราบเรื่องแล้ว และทรงเห็นว่าเป็นการดีควรจะระเบิด
หากพูดถึงการระเบิดหินในสมัยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน อาจมีข้อสงสัยว่าจะระเบิดกันอย่างไร ใช้ระเบิดประเภทไหน แม้ว่าในเอกสารเรื่องนี้จะไม่ได้กล่าวถึงการดำเนินการระเบิดหินหลังจากที่มีพระราชหัตถเลขาแล้ว แต่ในเอกสารเรื่องเดียวกันนี้ได้ปรากฏหลักฐานการขออนุญาตสั่งเครื่องระเบิดของกรมรถไฟเพื่อใช้ในการสร้างรถไฟสายเหนือเมื่อเดือนสิงหาคม ร.ศ. 122 (ก่อนมีลายพระหัตถ์เรื่องขอระเบิดศิลาราว 2 เดือน) เครื่องระเบิดนี้ประกอบด้วย แก๊บดีโตเนเตอร์ (Blasting cap / Detonator) 25 หีบ หีบละ 10,000 ดอก ดินนาไมต์ (Dynamite) 200 หีบ หีบละ 50 ปอนด์ และฝักแค 50 ถัง ถังละ 250 ขด ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า การขออนุญาตสั่งเครื่องระเบิดจำนวนมากเช่นนี้ นอกเหนือจากการระเบิดหินเพื่อประโยชน์ในการวางรางรถไฟแล้ว เครื่องระเบิดส่วนหนึ่งอาจจะนำมาใช้ระเบิดหินในแม่น้ำด้วย
-------------------------------------------
ผู้เขียน: นายธัชพงศ์ พัตรสงวน (นักจดหมายเหตุปฏิบัติการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)
-------------------------------------------
เอกสารอ้างอิง:
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารชุดกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ 5 กระทรวงโยธาธิการ ร.5 ยธ. 5.9/17 เรื่อง ระเบิดแก่งสพานหินใต้เมืองพิจิตรเพื่อการรถไฟสายเหนือ [ 5 ส.ค. – 31 ต.ค. 122 ].
-------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล: เฟสบุ๊ก หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ฯ พะเยา https://www.facebook.com/PhayaoNationalArchiveshttps://www.facebook.com/PhayaoNationalArchives/posts/pfbid02Tm14Y8xMd8Nzfdb9ewQ5A4AmMAGpWUbcyPMBX8TFnbjfod4vVnLmtWdvUTKa8wNVl
ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ (The Standing Shiva) หรือ Golden Boy และประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) เดินทางถึงประเทศไทยแล้วในเวลา 7.00 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสภาพกล่อง ซึ่งอยู่ในกระบวนการทางศุลกากร โดยมี น.ส.นิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ร่วมตรวจสอบ
สำนักช่างสิบหมู่ ขอเชิญรับฟังการบรรยายพิเศษ เรื่อง "นรสิงหาวตาร" เนื่องในงานนิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “สิปปกรวรราชสามิภักดิ์” วิทยากรโดย อาจารย์สมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างประณีตศิลป์ ครูช่างผู้สร้างสรรค์ผลงานเฉลิมพระเกียรติอย่างมากมาย และนางประภาพร ตราชูชาติ นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่างศิลปกรรม (วิจัยและพัฒนาศิลปกรรม) ผู้ดำเนินรายการ พบกับการพูดคุยในเรื่องราวเกี่ยวกับ "นรสิงหาวตาร" คืออะไร? ตำนานอวตาร รูปแบบทางด้านศิลปกรรม และเทคนิคงานหล่อแบบโบราณ ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น. ณ สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา จังหวัดนครปฐม
งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “สิปปกรวรราชสามิภักดิ์” จัดระหว่างวันที่ 9 - 11 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา จังหวัดนครปฐม ภายในงานพบกับการจัดแสดงผลงานศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ การสาธิตงานศิลปกรรม การเสวนาทางวิชาการ การทำกิจกรรม Workshop และ Art Market ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจอง ไม่ต้องสำรองที่นั่ง ติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทางเฟซบุ๊กเพจ “สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร” หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2482 1362
เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรีรหัสเอกสาร ภ หจภ (๓) กษ ๑.๑/๘