ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
ชื่อผู้แต่ง อิทธิเทพสรรค์ กฤดากร , หม่อมเจ้า
ชื่อเรื่อง เรื่องเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ไทยเขษม
ปีที่พิมพ์ ๒๔๙๙
จำนวนหน้า ๑๐๖ หน้า
หมายเหตุ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระยาวิศุกรรมศิลปประสิทธิ์ (น้อย ศิลป์)
หนังสือเรื่องเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมนี้ หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร ผู้ทรงความรู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษในวิชาสถาปัตยกรรม และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศิลปากรสถาน ได้ทรงนิพนธ์ประทานแด่หนังสือพิมพ์ต่างๆ ในระหว่าปี พ.ศ. ๒๔๗๖ และ ๒๔๗๗
ชื่อเรื่อง : พระยากัลยาณไมตรี แปลจาก GLAD ADVENTURE ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2514 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : ก้าวหน้าการพิมพ์ จำนวนหน้า : 518 หน้าสาระสังเขป : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ องค์พระผู้ทรงกอบกู้เอกราชในทางศาลและเศรษฐกิจของประเทศสยามได้สำเร็จสมบูรณ์ ด้วยบุญญาอภินิหารของพระองค์บันดาลให้มีพระยากัลยาณไมตรี(FRANCIS B. SAYRE) เข้ามารับราชการสนองพระมาหกรุณาธิคุณในสมัยนั้น และได้รับโอกาสออกไปปฏิบัติพระราชภาระกิจอันยากยิ่งในการเจรจากับมหาประเทศตะวันตก จนกระทั่งมหาประเทศเหล่านั้นได้ยอมสละสิทธิอันไม่เป็นธรรมซึ่งตนมีอยู่เหนือเมืองไทยเสียโดยสิ้นเชิง ดร.ฟรานซิส บี. แซร์ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยากัลยาณไมตรี และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งเป็นบำเหน็จความชอบ ก่อนจะกราบถวายบังคมลากลับไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้บ้านเมืองของตนเอง
วันเสาร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จัดกิจกรรมบรรยายทางวิชาการในหัวข้อ การค้าของเมืองถลาง ตีความจากจดหมายสมัยกรุงธนบุรี - รัตนโกสินทร์ตอนต้น การค้าระหว่างเมืองถลาง - ปีนัง โดยนายกานต์ รับสมบัติ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง และ "ภารา" มาตราชั่งน้ำหนัก โดยนายธัชวิทย์ ทวีสุข ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง
ผู้สนใจสามารถติดตามรับฟังการบรรยายได้ทาง Facebook Live : Thalang National Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไป
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 28/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า : กว้าง 4.9 ซม. ยาว 54.7 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ปี ๒๔๗๔ “สตางค์” เปลี่ยนอักษรย่อจาก ส.ต. เป็น สต.
.
เอกสารจดหมายเหตุชุดมณฑลจันทบุรี ระบุว่า พ.ศ.๒๔๗๔ กรมพลำภัง กระทรวงมหาดไทย (ปัจจุบันคือกรมการปกครอง) แจ้งเรื่องการเขียนย่อคำว่า “สตางค์” ด้วยในการประชุมเสนาบดี กรมราชเลขาธิการ ที่ประชุมได้มีมติเรื่องเขียนย่อคำ “สตางค์” ว่าควรใช้ “สต.” (ไม่ใช้ “ส.ต.”) ส่วนอักษรฝรั่งใช้ “st.” (ไม่ใช่ “stg.”) จึงแจ้งมณฑลจันทบุรีมาให้ทราบ เพื่อใช้เป็นระเบียบเดียวกัน
.
วิวัฒนาการเงินตรา “สตางค์” ในสมัยรัชกาลที่ ๕ - รัชกาลที่ ๗
สมัยรัชกาลที่ ๕
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่สำคัญ พระองค์มีพระราชดำริว่า มาตราของไทยที่ใช้อยู่ในขณะนั้น คือ ชั่ง ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง เป็นระบบที่ยากต่อการคำนวณ และการจัดทำบัญชี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงใหม่ โดยใช้หน่วยเป็นบาท และสตางค์ คือ ๑๐๐ สตางค์ เป็น ๑ บาท ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๔๑ อันเป็นมาตราเงินตราไทยมาจนถึงปัจจุบัน
.
จากหนังสือเรื่อง ตำนานเงินตรา (พ.ศ.๒๔๗๔) ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ ระบุถึง “สตางค์” ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ไว้ว่า “...ถึงปีจอ พ.ศ.๒๔๔๑ รัฐบาลคิดเห็นกันว่า ลักษณการทำบัญชีเงินแต่เดิมนั้นมีช่องบอกว่า ชั่ง บาท อัฐ เมื่อพ้นชั่งขึ้นไปจึงนับเป็นเรือนร้อยเรือนพัน บัญชีมักไขว้กันไม่สะดวก จึงคิดทำเหรียญทองขาวขึ้นใช้เรียกว่า สตางค์ (ส่วนของร้อย) คือ ๑๐๐ สตางค์เป็น ๑ บาท เพื่อง่ายแก่การบัญชี มีช่องแต่เพียงบาทกับสตางค์เท่านั้น เงินจะมากน้อยเท่าใดก็ต่อตัวเลขขึ้นไปเป็นสิบเป็นร้อย ไม่ต้องหักต้องทอน เป็นการง่ายรวดเร็วกว่าของเดิม สตางค์ที่สร้างขึ้นคราวนี้สร้างด้วยทองขาวเป็น ๔ ขนาด ด้านหนึ่งมีรูปช้าง ๓ เศียร มีอักษรว่า "สยามราชอาณาจักร" เหมือนกันทั้ง ๔ ขนาด ๆ ที่ ๑ ด้านหนึ่งมีตัวอักษรว่า ยี่สิบสตางค์ และมีเลข ๒๐ ตัวใหญ่อยู่ตรงกลาง เป็นราคา ๒๐ สตางค์ ใช้ ๕ อันเป็น ๑ บาท ขนาดที่ ๒ มีตัวอักษรว่า สิบสตางค์ มีเลข ๑๐ ตัวใหญ่อยู่กลาง ราคา ๑๐ สตางค์ ใช้ ๑๐ อันเป็นหนึ่งบาท ขนาดที่ ๓ มีตัวอักษรว่า ห้าสตางค์ มีเลข ๕ ตัวใหญ่อยู่กลาง ราคา ๕ สตางค์ ใช้ ๒๐ อันเป็น ๑ บาท ขนาดที่ ๔ มีตัวอักษรว่า สองสตางค์กึ่ง มีเลข ๒ ๑/๒ ตัวใหญ่อยู่กลาง ราคา ๒ สตางค์กึ่ง ใช้ ๔๐ อันเป็น ๑ บาท…”
.
สมัยรัชกาลที่ ๖
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการผลิตเหรียญกษาปณ์ออกใช้แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเหรียญกษาปณ์ที่มีราคาไม่สูงนัก คือ ๑ บาท, ๕๐ สตางค์, ๒๕ สตางค์, ๑๐ สตางค์, ๕ สตางค์, และ ๑ สตางค์ โดยในช่วงต้นรัชกาลยังคงใช้เหรียญที่ผลิตในรัชกาลที่ ๕ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๕๖ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ผลิตเหรียญเงินหนึ่งบาทประจำรัชกาล เป็นเหรียญตราพระบรมรูป-ไอราพต
.
สมัยรัชกาลที่ ๗
ในรัชกาลนี้มีการผลิตเหรียญหมุนเวียนออกใช้ไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เหรียญประจำรัชกาลที่นำออกใช้เป็นเหรียญชนิดราคา ๕๐ และ ๒๕ สตางค์ ตราพระบรมรูป-ช้างทรงเครื่อง
.
ในปัจจุบันพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้อธิบายคำว่า “สตางค์” คือเหรียญกระษาปณ์ปลีกย่อย ๑๐๐ สตางค์ เป็น ๑ บาท ใช้อักษรย่อว่า สต. นอกจากนี้คำบางคำยังนำมาใช้ในความหมายอื่น เช่น สตางค์ใช้ในความหมายโดยปริยาย หมายถึงเงินที่ใช้สอย เช่น วันนี้ไม่มีสตางค์ติดตัวมาเลย, เขาเป็นคนมีสตางค์
**คำว่า “กษาปณ์” และ “กระษาปณ์” สามารถเขียนได้ทั้งคู่ โดยพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๐ ได้ลงท้ายบทนิยามคำว่า “กระษาปณ์” ไว้ว่า “กษาปณ์ ก็ใช้”
.
ผู้สนใจสามารถค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี และระบบสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุ https://archives.nat.go.th
ผู้เรียบเรียง
นางสาวสุจิณา พานิชกุล นักจดหมายเหตุปฏิบัติการ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี
------------------------------
อ้างอิง :
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี. เอกสารกระทรวงมหาดไทย ชุดมณฑลจันทบุรี (๑๓)มท ๒.๒.๑/๕๙ เรื่องกรมพลำพังแจ้งระเบียบการเขียนย่อคำว่า “สตางค์” เป็น “สต.” มาให้ทราบเพื่อใช้เป็นระเบียบเดียวกัน (๗ พ.ค. - ๑๐ ส.ค. ๒๔๗๔).
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา, ๒๔๐๕-๒๔๘๖ (๒๔๗๔). ตำนานเงินตรา. โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร.
ไขปัญหาภาษาไทย จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน. เข้าถึงได้จาก https://www.orst.go.th/.../DATA0000/00000152.FLP/html/8/... สืบค้นเมื่อ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๕.
เงินตรา กองกษาปณ์. เข้าถึงได้จาก http://www.royalthaimint.net/.../mint_web/ewt_news.php... สืบค้นเมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕.
มาตราเงิน สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. เข้าถึงได้จาก http://legacy.orst.go.th/?knowledges=มาตราเงิน-๓-พฤศจิกายน-๒๕ สืบค้นเมื่อ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๕.
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 136/7 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 172/4กเอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อผู้แต่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้.
ชื่อเรื่อง ใต้...หรอย มีลุย : บอกเล่าเรื่องราว ความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของภาคใต้
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ปีที่พิมพ์ ๒๕๔๗
จำนวนหน้า ๒๐๕ หน้า
รายละเอียด
ใต้...หรอย มีลุย : บอกเล่าเรื่องราว ความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของภาคใต้ จัดพิมพ์ขึ้นเป็นที่ระลึก เนื่องในโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ครบรอบ ๔๐ ปี เนื้อหาหนังสือนอกจากจะมี สารจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สารจากรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สารจากผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ สารจากผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคใต้ ยังมีแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งคาบสมุทรมลายู ความเชื่อ ประเพณี การแสดงต่างๆ รวมทั้งอาหาร และ อาชีพของชาวใต้ รูปเล่ม และภาพประกอบสวยงาม
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 56/1ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 92 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 58 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 10/2ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 38 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
เปิดเบื้องหลังการอนุรักษ์ ภาพร่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ (รัชกาลที่ 6) เมื่อ พ.ศ. 2454 วาดโดย กาลิเลโอ คินี (Galileo Chini) ซึ่งทำการอนุรักษ์และจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
การอนุรักษ์ภาพร่างจิตรกรรมฯ ของ กาลิเลโอ คินี เปิดให้เข้าชม ทุกวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 15.00 น. (นักอนุรักษ์เข้าทำงานระหว่างวันพุธ – ศุกร์ โปรดโทรศัพท์สอบถามล่วงหน้า เนื่องจากนักอนุรักษ์อาจไม่ได้เข้าทำงานทุกวัน)
หากคณะหรือกลุ่มใดต้องการวิทยากรนำชม สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 0 2281 2224 (ในวันทำการ วันพุธ – อาทิตย์ เวลา 9.00 - 16.00 น.)