ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
เรื่องพนัสนิคม. พระนคร: กรมศิลปากร, 2483. เรื่องพนัสนิคมที่พิมพ์ในเล่มนี้มี 2 ตอน คือตอนต้นชื่อว่าเรื่องพนัสนิคมเป็นข้อความที่รวบรวมมาสำหรับตรวจชำระเรียงเข้าชุดอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย ส่วนตอนที่ 2 เป็นทำเนียบนามข้าราชการเมืองพนัสนิคมสมัย ท้าวทุม ทุมมานนท์
ส่งเสริมการอ่านผ่าน Facebook กับหอสมุดแห่งชาติชลบุรี
เรื่อง อ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที
ไนโต, โยชิฮิโตะ. อ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที แปลโดย อาคิรา รัตนาภิรัต.
พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: อมรินทร์ฮาวทู อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิช
ชิ่ง, 2562
ห้องหนังสือทั่วไป 1 เลขเรียกหนังสือ 138 น977อ
มนุษย์คือสัตว์สังคมจำเป็นต้องพบปะ พูดคุย ทำความรู้จักกับบุคคล การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เริ่มตั้งแต่วัยเรียนที่ต้องทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้น วัยทำงานต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งในแต่ละคนนั้นย่อมมีบุคลิก นิสัย และตัวตนที่ต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีเทคนิควิธีในการรับมือและสร้างความสัมพันธ์ผ่านการอ่านบุคลิกและท่าทาง เพราะการแสดงออกทางพฤติกรรมเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งของมนุษย์
อ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที เล่มนี้ผู้เขียนพาเราไปพบกับเทคนิคการอ่านใจคนผ่านบุคลิกภาพที่บุคคลนั้นๆ แสดงออกมา เพราะ 90% ของความรู้สึกในจิตใจจะแสดงออกทางบุคลิกภาพ นิสัย และท่าทางโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว หากเราสังเกตและจับจุดได้ถูกต้องก็จะสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม การยิ้มและหัวเราะสามารถวัดระดับความจริงใจได้ หากสังเกตให้ดีคุณจะเห็นรอยยิ้มที่จริงใจและเสแสร้งในชั่วพริบตา โดยการสังเกตที่แก้มของคู่สนทนา หากกล้ามเนื้อแก้มยกขึ้นขณะยิ้มหรือหัวเราะนั่นหมายถึงการมีส่วนร่วมและรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวที่ได้รับฟังเป็นรอยยิ้มจากใจ และในทางตรงกันข้ามแม้ปากและดวงตาจะยิ้มแต่กล้ามเนื้อแก้มไม่ยกตัวขึ้น ให้เดาได้เลยว่าคู่สนทนาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการสนทนาครั้งนี้ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นบุคลิกและตัวตน คนที่สวมเสื้อผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อยมักจะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ค่อยวิตกกังวล และคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าสีดำหรือมีของใช้ส่วนตัวจำพวกกระเป๋า นาฬิกา เป็นสีดำ มักมีนิสัยแข็งกร้าว เด็ดเดี่ยว จึงเป็นเหตุผลให้บางประเทศออกกฎหมายให้ผู้พิพากษาต้องมีเครื่องแบบเป็นสีดำเพื่อแสดงถึงความน่าเกรงขาม ทั้งนี้ เทคนิคการอ่านใจคนยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทำให้เกิดความช่างสังเกตต่อคู่สนทนาและบรรยากาศโดยรอบ ซึ่งจะส่งผลต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมได้อย่างถูกกาลเทศะ ผู้สนใจสามารถหาอ่านได้ที่หอสมุดแห่งชาติชลบุรี (วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.)
กระเบื้องเชิงชาย ลายดอกบัว เมืองกำแพงเพชร ...กระเบื้องเชิงชายหรือที่เรียกว่ากระเบื้องหน้าอุด คือกระเบื้องมุงหลังคาแถวล่างสุดของหลังคาแต่ละตับทำหน้าที่อุดช่องว่างที่ชายคาเพื่อกันฝน และสัตว์เข้าไปตามแนวกระเบื้อง ส่วนใหญ่ทำเป็นทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว หรือสามเหลี่ยมด้านเท่าพร้อมลวดลายต่างๆ เช่น ลายเทพนม ลายดอกบัว ประดับที่ชายคาสถาปัตยกรรมประเภทอาคารที่มีฐานานุศักดิ์อันสื่อถึงการแสดงฐานะของผู้ใช้อาคาร โดยสามารถแบ่งประเภทตามการใช้ประโยชน์เป็น ๒ ประเภท คือ ประเภทศาสนสถานเนื่องในศาสนาพุทธ เช่น อุโบสถ วิหาร และประเภทที่อยู่อาศัยซึ่งพบหลักฐานจากการขุดแต่งสิ่งก่อสร้างอันเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แก่ พระมหาปราสาท พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ...ในคัมภีร์พระไตรปิฎก ดอกบัว ใช้สื่อถึงแผ่นดินซึ่งเป็นที่เกิดของ ปทุม (ภาษาบาลี หมายถึง ต้นไม้ต้นแรก) และใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการอุบัติตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตัวอย่างความเกี่ยวข้องในทางพุทธศาสนา ดอกบัว ได้ถูกยกมาเทียบเคียงถึงความสามารถในการเข้าใจหลักคำสอนและธรรมะของบุคคลที่แตกต่างกัน รวมถึงการนำรูปดอกบัวมาทำเป็นภาพประกอบกับรูปเคารพของพระพุทธเจ้า เช่น ฐานที่ประทับของพระพุทธรูป เป็นส่วนประกอบของทิพยบุคคล และเป็นลวดลายประดับ อันสื่อถึงการกำเนิดอันบริสุทธิ์ (โลกแห่งธรรม) ความอุดมสมบูรณ์ และแสงสว่าง...จากการศึกษากระเบื้องเชิงชายสมัยอยุธยาประเภทลายดอกบัว ของ นายประทีป เพ็งตะโก สันนิษฐานว่า...ลวดลายประดับรูปดอกบัวปรากฏตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นตลอดจนถึงอยุธยาตอนปลาย ลักษณะสำคัญคือรูปดอกบัวที่มีก้านมารองรับมีลักษณะธรรมชาติซึ่งพบในช่วงเวลาสั้นๆ และในระยะเวลาเดียวกันนั้นก็ทำเป็นรูปดอกบัวบานที่ไม่มีก้านมารองรับอันเป็นลักษณะที่นิยมในเวลาต่อมา วิวัฒนาการของกลีบบัวแรกเริ่มมีลักษณะเรียวยาวใกล้เคียงธรรมชาติ จากนั้นคลี่คลายเป็นกลีบดอกมีขอบหยัก คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากลายประเภทพันธุ์พฤกษาช่วงสมัยอยุธยาตอนกลาง (ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ – ๒๒) ในเวลาต่อมากลีบบัวปรับเปลี่ยนเป็นลายกระหนก (ราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๒) จนถึงระยะสุดท้ายที่มีลายใบไม้สามแฉกเข้ามาแทนที่เค้าโครงเดิม ...การกำหนดอายุโดยวิธีการเปรียบเทียบ (Relative Dating) พบว่าลวดลายในกระเบื้องเชิงชายที่พบจากการขุดแต่งวัดพระแก้ว และวัดช้างรอบ เมืองกำแพงเพชรนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับกระเบื้องเชิงชายที่พบในโบราณสถานของเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยอ้างอิงภาพเปรียบเทียบลายกระเบื้องเชิงชายจากการศึกษาของ นายประทีป เพ็งตะโก ดังนี้...กระเบื้องเชิงชายลายดอกบัวที่พบจากเมืองกำแพงเพชร จำนวน ๒ รูปแบบ ได้แก่๑. กระเบื้องเชิงชายลายดอกบัว (ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ – พุทธศตวรรษที่ ๒๒) ลักษณะทรงสามเหลี่ยมมีหยักที่ขอบนอก ทำเส้นนูนล้อกับทรงกระเบื้องล้อมรอบลายดอกบัวจำนวนสองเส้น ไม่ทำก้านดอก กลีบดอกคลี่คลายไม่เป็นธรรมชาติ กลีบบัวเรียวยาว ขอบกลีบเริ่มทำเป็นหยัก อาจทำเพียงบางกลีบ หรือหลายกลีบ นอกจากนี้ยังพบลักษณะคล้ายใบไม้ ๓ แฉก หรือทรงพุ่มแหลมด้านบนของดอกบัว อันเริ่มแปรเปลี่ยนจนคล้ายกับดอกบัวดอกเล็กซ้อนอยู่ข้างบน จากการขุดแต่งวัดช้างรอบพบกระเบื้องเชิงชายลายดอกบัวลักษณะคล้ายกับที่พบจากการขุดแต่งบริเวณวัดสุวรรณาวาส วัดไชยวัฒนาราม วัดขุนแสน วัดพระยาแมน และตำหนักสวนกระต่าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา๒. กระเบื้องเชิงชายลายดอกบัว (ราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๒) ลักษณะทรงสามเหลี่ยมมีหยักที่ขอบนอก มีการทำเส้นล้อกับทรงกระเบื้องล้อมรอบลายดอกบัวจำนวนสองเส้น มีร่องรอยเม็ดปุ่มอยู่บนสันนูนระหว่างเส้นกรอบดังกล่าว ลักษณะโครงสร้างลายคล้ายมีดอกขนาดเล็กซ้อนอยู่ข้างบน กลีบบัวมีทั้งทำหยักที่ขอบคล้ายใบไม้ และมีพัฒนาการรูปแบบประดิษฐ์เป็นลายกนกทั้งหมด จากการขุดแต่งวัดพระแก้ว และวัดช้างรอบพบกระเบื้องเชิงชายลายดอกบัวลักษณะนี้คล้ายกับที่พบจากการขุดแต่งวัดสุวรรณาวาส วัดพลับพลาชัย และบริเวณตำหนักวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา...จากการกำหนดอายุลวดลายในกระเบื้องเชิงชายที่พบจากการขุดแต่งวัดพระแก้ว และวัดช้างรอบ เมืองกำแพงเพชร เปรียบเทียบกับผลการศึกษาลักษณะลวดลายจากหลักฐานที่พบในวัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สอดคล้องไปในทางเดียวกันว่าหลักฐานที่พบมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑ – ๒๒________________________________________ เอกสารอ้างอิงคณะกรรมการดำเนินงานจัดทำศัพทานุกรมด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์. ศัพทานุกรมโบราณคดี. กรุงเทพฯ : บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด, ๒๕๕๐.ประทีป เพ็งตะโก. กระเบื้องเชิงชายสมัยอยุธยา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๐. ประทีป เพ็งตะโก. ประทีปวิทรรศน์ : รวมเรื่องโบราณคดีอยุธยา. กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ๒๕๖๔.วิบูลย์ ลี้สุวรรณ. พจนานุกรมศัพท์ศิลปกรรมไทย. นนทบุรี : เมืองโบราณ, ๒๕๕๙.
วันนี้ในอดีต... 27 กันยายน 2520 พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ยืนโรง ณ โรงช้างต้น วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ประวัติของคุณพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ มิพลนวมนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาสบรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิ์ประสิทธิ์ร้ตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้าฯ
เป็นพระยาช้างเผือกประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เป็นช้างสำคัญในตระกูลพรหมพงศ์ จำพวกอัฏฐทิศ ชื่อ กมุท สีกายดังดอกกมุท หรือบัวสายแดง ได้รับพระราชทานนามเต็มว่า
"พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวมนาถบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกมลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพมงคลลักษณคเชนทรชาติ สยามราษฎรสวัสดิ์ประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า ฯ"
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เติบโตขึ้นโดยการดูแลขององค์การสวนสัตว์ ที่สวนสัตว์ดุสิต และมีอาการดุร้ายมากขึ้นจนควาญช้างควบคุมไม่ได้ จึงต้องจับยืนมัดขาทั้งสี่ไว้กับเสา เป็นที่เกรงกลัวของบุคคลทั่วไป
พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณพระราชวัง คุณพระก็เปลี่ยนไปทันที จากความดุร้ายก็กลายเป็นความสงบเสงี่ยม เดินอย่างเรียบร้อยไปสู่โรงช้างต้น และเข้าอยู่อย่างสงบเรื่อยมา
ปัจจุบัน พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ย้ายไปยืนโรง ณ โรงช้างต้น วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ขอขอบคุณข้อมูล : wikipedia และThe Crystal Ekamai-Ramindra
#พระเศวตอดุลยเดชพาหน
#โรงข้างต้น
#สวนจิตรลดา
#กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กรมศิลปากร
#สำนักศิลปากรที่5ปราจีนบุรี
#กรมศิลปากร
#กระทรวงวัฒนธรรม
ระฆังสำริดมีจารึก
ศิลปะอยุธยา พุทธศักราช ๒๑๘๑
ปัจจุบันเก็บรักษาที่หอสวดมนต์ วัดโพธิ์คลาน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ระฆังทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางปากระฆัง ๔๔.๕ ซม. สูง ๘๘ ซม. มีห่วงกลมสำหรับแขวนประดับลายช่อกระหนก ๔ ด้าน ตัวระฆังมีปุ่มกลม ปากระฆังผายออก มีเส้นคาดตามแนวนอน บริเวณขอบล่างมีจารึกระบุประวัติและศักราชการสร้าง จารเป็นอักษรไทยอยุธยา ภาษาไทย จำนวน จำนวน ๒ บรรทัด อ่านโดยนายประสาร บุญประคอง ดังนี้
คำจารึก “๑. พรญารามแลออกหมีนเทพผูชาง่นนั ช้วย หล่อใว้ในพระส่าศ่หนาแลทาย่กทงัปวง (เพือ) จ่ขอธรัรมพระศรีอานแล
๒. .......ทงัปวงคุมใด ๑๕๐ ชงั สมิอ........ (นอดบน?) สกัราช่ใด้แล้ว ๒๑๘๑ ปีกบัแปดเดิอนสีวนัเถิงวันเสารเดิอนญีอแรมสีคําจุลสกัราชใส ถ...................”
คำอ่าน “๑. พระยารามและออกหมื่นเทพผู้ช่างนั้นช่วย หล่อไว้ในพระศาสนา แลทายกทั้งปวง (เพื่อ) จะขอทันพระศรีอารย์แล ฯ
๒. .......ทั้งปวงคุมได้ ๑๕๐ ชั่ง เสมอ........(นอดบน?) ศักราชได้แล้ว ๒๑๘๑ ปี กับ๘ เดือน ๔ วัน ถึงวันเสาร์เดือนยี่แรม ๔ คํ่า จุลศักราชใส่ ถ้ (วน)...................”
เนื้อความจารึกบนระฆังวัดโพธิ์คลานสามารถให้ข้อมูลได้ว่า ระฆังใบนี้สร้างโดยขุนนางและพุทธศาสนิกชนในปีพุทธศักราช ๒๑๘๑ ตรงกับสมัยอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และมีคำอธิษฐานที่แสดงเจตนาว่าขอให้ทันพระศรีอาริย์ ระฆังใบนี้จึงสะท้อนคติความเชื่อเรื่องพระศรีอาริย์ในสมัยอยุธยาตอนปลายได้
อีกทั้งบนระฆังมีการระบุศักราชการสร้างที่ชัดเจน จึงเป็นตัวอย่างรูปแบบระฆังสำริดที่สร้างขึ้นสมัยอยุธยาที่แสดงให้เห็นถึงเทคนิคงานช่างในการหล่อระฆังอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบระฆังซึ่งมีจารึกระบุศักราชชัดเจนว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีอีกสองแห่ง อันได้แก่ วัดป่าพฤกษ์ และวัดพระรูป สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในการสร้างระฆังเพื่อถวายในพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับการสร้างพระพุทธรูป และยังสะท้อนให้เห็นว่าเมืองสุพรรณบุรียังคงเป็นเมืองที่ค่อนข้างสำคัญในสมัยอยุธยาตอนปลาย
เอกสารอ้างอิง
ประสาร บุญประคอง, “คำอ่านจารึกบนขอบระฆัง ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังวัดสุพรรณบุรี,” ศิลปากร ๑๑, ๒ (กรกฎาคม ๒๕๑๐) : ๘๔-๘๕.
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 39/6ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 40 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 59 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
กฎหมายระว่างประเทศที่สำคัญฉบับหนึ่ง นั่นคือ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (International Convention for the Safety of Life at Sea) หรือที่ชาวเรือรู้จักกันในชื่อย่อว่า SOLAS กัน เป็นอนุสัญญาที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือที่รัฐเจ้าของธง (flag state) เป็นภาคีอนุสัญญาฯ จะต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ “ลูกเรือ” ย้ำอีกครั้ง “ลูกเรือ”
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลาประมาณ 00.05 น. กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ กัปตันเอ็ดเวิร์ด สมิธ นายเรือบนเรือ อาร์เอ็มเอส ไททานิค เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนั้น ได้ออกคำสั่งให้นายประจำเรือและลูกเรือทุกคนเตรียมอพยพผู้โดยสารลงเรือช่วยชีวิต หลังจากที่ประสบเหตุชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งที่ลอยตามกระแสน้ำออกจากแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกจากอุณภูมิที่อุ่นขึ้นในเดือนเมษายน ส่งผลให้เกิดการรั่วที่ลำเรือ มีน้ำทะเลไหลท่วมห้อวระวางกั้นน้ำ 6 ระวาง เรือไททานิคได้รับการออกแบบมามีห้องระวางกั้นน้ำซึ่งสามารถปิดประตูกั้นน้ำไม่ให้ไหลถึงกันได้ในแต่ละระวางได้ แต่อย่างไรเสียเรือลำนี้สามารถรับน้ำท่วมห้องระวางได้เพียง 4 ห้องพร้อมกันที่หัวเรือเท่านั้น หากเกินกว่านั้น หัวเรือที่ค่อยจมลงจากน้ำหนักของน้ำจะทำให้น้ำล้นจากห้องระวางหนึ่งสู่อีกห้องระวางหนึ่งได้ คล้ายกับการที่เราเทน้ำใส่ถาดน้ำแข็งในตู้เย็น ดังนั้นน้ำที่ท่วมถึง 6 ห้องระวางจึงยืนยันว่า ไททานิค ต้องอับปาง!
จากความมั่นใจในการออกแบบประกอบกับกฎระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยของเรือเดินทะเลที่ยังไม่เข้มงวด เรือช่วยชีวิตมีจำนวนไม่เพียงพอต่อลูกเรือและผู้โดยสาร การจัดการอพยพคนลงเรือช่วยชีวิตที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้เรือช่วยชีวิตบางลำมีผู้โดยสารไม่เต็ม ผู้โดยสารชั้นสามที่ดีรับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม และเหตุปัจจัยอื่น ๆ ส่งผลให้เหตุอับปางของเรือไททานิคนั้น เกิดความสูญเสียอย่างมาก มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำทะเลและหนาวตายถึง 1,500 ชีวิต โดยมีผู้รอดชีวิตเพียง 710 ชีวิต ไม่ถึงครึ่งของคนที่มากับเรือ
จากเหตุการณ์การอับปางของเรือไททานิค ได้นำมาสู่การร่างสัญญาระหว่างประเทศ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นกฎหมายที่ชาติสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามในเรื่องของความปลอดภัยและขั้นตอนวิธีปฏิบัติต่าง ๆ เมื่อเรือประสบภัยในทะเล SOLAS นับว่าเป็นสัญญาระหว่างประเทศฉบับแรกที่มุ่งให้ความสำคัญการความปลอดภัยของเรือพาณิชย์ บังคับใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2457 และมีการแก้ไขปรับปรุงเรื่อยมา ปัจจุบันคือ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล พ.ศ. 2517 (1974) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization) หรือ IMO มีประเทศร่วมเป็นภาคีสมาชิกเกือบทุกประเทศเว้นแต่เพียงประเทศที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อทางทะเล (landlocked states)
ภายในอนุสัญญาฯ ได้กำหนดให้เรือและรัฐเจ้าของธง ต้องกำหนดมาตรการให้สอกคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอยของ SOLAS เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานโครงสร้าง อุปกรณ์ความปลอดภัยภายในเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต อุปกรณ์ดับไฟ เสื้อชูชีพ เรือและแพชูชีพ อุปกรณ์ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องมีเพียงพอต่อการช่วยเหลือลูกเรือและผู้โดยสารทุกคน รวมไปถึงการฝึกอบรมชาวเรือให้มีความรู้ความสามารถในการดำรงชีพในทะเลหากเกิดกรณีเรืออับปางด้วย
นอกจากนั้น SOLAS ยังกำหนดให้รัฐเจ้าของธงต้องจัดให้มีหน่วยงานกำกับดูแลรวมทั้งออกใบอนุญาตให้เรือและบริษัทเจ้าของเรือต้องจัดให้เรือมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยตามข้อกำหนดของ SOLAS ซึ่งมนกรณีของประเทศไทยมี กรมเจ้าท่า เป็นหน่วยงานกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม SOLAS เป็นอนุสัญญาภายใต้การกำกับดูแลของ IMO ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลเพียงเรือพาณิชย์และเรือพลเรือนเท่านั้น ไม่ได้บังคับแก่เรือของกองทัพเรือหรือเรือทางทหาร ซึ่งอาจปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของกองทัพเหล่านั้นเอง
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 134/6
เอกสารโบราณ
(คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 170/6 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 5/7ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 34 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา พระอภิธรรมบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 50/1ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 22 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 8/6ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 48 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 58.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา