ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,771 รายการ
"คัทธนกุมารชาดก" หลังจากคัทธนะ ทูลลาเจ้าเมืองศรีษะเกษ และพระมารดาแล้ว จึงได้ออกเดินทางเพื่อตามหาพระบิดาตามความประสงค์ คัทธนะได้สวมใส่เครื่องทรงกษัตริย์ คอนถุงย่ามและคนโฑวิเศษกับดาบสรีกัญไชยไว้บนไหล่เมื่อเดินทางเข้าสู่เมืองอินทปัตถนคร ระหว่างทางคัทธนะได้พบกับ "นายไผ่ร้อยกอ" ซึ่งเป็นผู้มีพละพลังมหาศาล และกำลังลากไม้ไผ่อยู่ คัทธนะจึงได้ใช้เท้าเหยียบลงบนปลายกอไม้ไผ่ไว้ ด้วยพละกำลังที่มากกว่าจึงทำให้นายไผ่ร้อยกอไม่สามารถลากไม้ไผ่ต่อไปได้ นายไผ่ร้อยกอจึงเกิดความโมโหหมายเข้าทำร้ายคัทธนะ แล้วเกิดการต่อสู้กันระหว่างทั้งสอง ท้ายที่สุดคัทธนะจับนายไผ่ร้อยกอกระแทกแล้วกดลงให้จมดินนายไผ่ร้อยกอร้องขอชีวิต และขอเป็นพระสหายร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยทั้งสองเดินทางต่อมาได้พบกับ "นายเกวียนร้อยเล่ม" ผู้มีพละพลังมหาศาลอีกคน ซึ่งกำลังลากเกวียนอยู่ คัทธนะจึงใช้เท้าเหยียบที่ท้ายเกวียน และด้วยพละกำลังที่มีมากกว่าทำให้เชือกขาด ทำให้นายเกวียนร้อยเล่มล้มหน้าขมำลงกับกับพื้น นายเกวียนร้อยเล่มจึงเกิดความโมโห และหมายเข้าทำร้ายคัทธนะ ทั้งสองเกิดการต่อสู้กัน ท้ายที่สุดคัทธนะก็จับกระแทกกดลงจมพื้นดิน นายเกวียนร้อยเล่มร้องขอชีวิต และขอเป็นพระสหายร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยอีกคนทั้งสามออกเดินทางต่อไป ผ่านเมืองอินทปัตถนครซึ่งเป็นนครใหญ่ บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง มีผู้คนมากมาย มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวตะวันตกและชาวจีน...ทั้งสามผ่านเมืองอินทปัตถนครผ่านเข้าสู่ป่าหิมพานต์ และได้ผจญภัยต่อสู้กับจิ้งหรีดยักษ์ และนางยักษ์ คัทธนะได้ของวิเศษอีกสองอย่าง คือ ๑.ไม้เท้าต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น ๒.พิณสามสาย
(เรื่องราว "คัทธนกุมารชาดก" จิตรกรรมฝาผนังมุขด้านทิศเหนือ วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน)รับชมวีดีโอ : "สองพระสหาย"เครดิต : กลุ่มอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรม กองโบราณคดี กรมศิลปากร
เริ่มแล้ววันนี้ !!
กิจกรรมพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรมศิลปากร (Thailand Winter Festival) ท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยามค่ำคืน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 สะสมบัตรเข้าชมที่มีตราประทับกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5 สถานที่ (ตราประทับอยู่ด้านหลังบัตรเข้าชม) 1 สถานที่ สะสมได้ 1 ครั้งเท่านั้น นำมารับของที่ระลึก จำนวนจำกัดเพียง 100 ชุด ได้ที่อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) ชั้น 3 ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
(วันและเวลาราชการ) จนกว่าของที่ระลึกจะหมด
(รับตราประทับได้ที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ,อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร , อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา , อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย , งานแอ่วกุมกามยามแลง ณ โบราณสถานเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ (วันที่ 1 - 2 ธันวาคม 2566) , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา)
ใบหน้าบุคคล หรือเทวดา
แบบศิลปะ : ลพบุรี
ชนิด : ปูนปั้น
ขนาด : สูง 11 เซนติเมตร กว้าง 10 เซนติเมตร
ลักษณะ : พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม สวมเทริดแบบกะบังหน้า พระนลาฏกว้าง ลืมพระเนตร พระนาสิกโด่งเป็นสัน พระโอษฐ์แย้ม
สภาพ : ชำรุด พระกรรณซ้ายหักหายไป มีรอยแตกบริเวณร้างจากหางพระเนตรทั้งสองข้างพาดผ่านพระนาสิก
ประวัติ : พบจากการขุดแต่งโบราณสถานเนินทางพระ หมู่ 6 ตำบลบ้านสระ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ายจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม
สถานที่จัดแสดง : ห้องเมืองสุพรรณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/suphanburi/360/model/18/
ที่มา: hhttp://www.virtualmuseum.finearts.go.th/suphanburi
องค์ความรู้สุพรรณบุรี เรื่อง พระพุทธบาทหินทรายแดง วัดเขาดีสลัก
ผู้เรียบเรียง :
นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย บรรณารักษ์ชำนาญการ
หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ
ออบหลวง ออบหลวง คือช่องแคบขนาดใหญ่ มาจากคำว่าออบ หรือ อ๊อบ หมายถึง ข่องแคบ และคำว่า หลวง หมายถึง ขนาดใหญ่ โดยมีสายลำน้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน ไหลผ่านไปตามร่องน้ำเลาะแนวภูเขาและบรรจบแม่น้ำปิง บริเวณบ้านสบแจ่ม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่เป็นป่าเต็งรัง พรรณไม้สำคัญที่พบ ได้แก่ เหียง พลวง เต็ง รัง และมีป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา จากสภาพป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ มีเขาสูงชันสลับซับซ้อน ที่ราบและทุ่งหญ้ามีน้อย จึงมักพบสัตว์ป่า ได้แก่ อีเก้งธรรมดา หมูป่า ชะนี ชะมด กระต่ายป่า นกกางเขนบ้าน นกกางเขนดง และงูชนิดต่าง ๆ อีกทั้งในลำน้ำแม่แจ่มมีปลาหลายชนิด อาทิ ปลาพลวง ป่าจิ้งจอก (ปลาสร้อย) และปลาค้อ (ปลาแค้) ลักษณะทางกายภาพอันสวยงามของออบหลวง เกิดจากสายน้ำที่ไหลกัดเซาะแนวหินจนเป็นรูปร่างดูแปลกตา โดยเฉพาะช่องแคบที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 32 เมตร และส่วนที่แคบที่สุด ประมาณ 2 เมตร เป็นจุดที่ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาชม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง คือ บ่อน้ำพุร้อนเทพพนม และน้ำตกแม่เตี๊ยะ ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเรียบเรียง : นายวีระยุทธ ไตรสูงเนิน นักจดหมายเหตุชำนาญการภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่ - ชุด ภ หจช ชม สบ ๒ นายบุญเสริม สาตราภัย - ชุด ภ หจช ชม ชม สศก๗ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ #เอกสารโสตทัศนจดหมายเหตุ #อุทยานแห่งชาติออบหลวงอ้างอิง สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช. ๒๕๖๕. อุทยานแห่งชาติออบหลวง. (Online). https://nps.dnp.go.th/parksdetail.php?id=126&name=อุทยานแห่งชาติออบหลวง, ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : สร้างโรงเรียนที่แม่ใจ -- ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างโรงเรียนที่อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ซึ่งปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุชุดกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ 6 กระทรวงศึกษาธิการ และในเอกสารจดหมายเหตุชุดเดียวกันนี้ ยังปรากฏเรื่องราวการสร้างโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพะเยา นั่นคือโรงเรียนที่วัดศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ ดังนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน ร.ศ 130 (พ.ศ. 2454) ผู้ว่าราชการเมืองเชียงราย ได้มีใบบอกกราบทูลพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย (พระยศ-ตำแหน่งในขณะนั้น) ความว่า กรมการอำเภอแม่ใจ (ขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหรือจังหวัดเชียงราย) ได้จัดตั้งโรงเรียนสอนหนังสือไทยขึ้นที่วัดศรีถ้อย ตำบลแม่ใจเหนือ โดยเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีนักเรียนจำนวน 35 คน และได้อาราธนาพระอินทจักร์ เจ้าอธิการวัดศรีถ้อยมาเป็นครูผู้สอน ซึ่งในการจัดตั้งโรงเรียนแห่งใหม่นี้ ได้มีผู้มีจิตศรัทธานับตั้งแต่นายอำเภอ บรรดากำนันผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรนำสิ่งของมาบริจาคให้แก่โรงเรียนเป็นจำนวนมาก โดยสิ่งของที่นำมาบริจาคนั้นส่วนมากเป็นครุภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนการสอน ได้แก่ โต๊ะ เก้าอี้ และกระดานดำ โรงเรียนสอนหนังสือไทยที่วัดศรีถ้อยเปิดทำการสอนถึงเมื่อใดนั้นไม่เป็นที่ปรากฏ และเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งนี้ก็ค่อยๆ สูญหายไปจากประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับโรงเรียนสมาคมพิทยาทานที่ดอกคำใต้ จึงควรจะต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากเอกสารอื่นๆ ต่อไป เพื่อให้เห็นภาพของการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดพะเยาเมื่อร้อยกว่าปีก่อนอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นผู้เขียน: นายธัชพงศ์ พัตรสงวน (นักจดหมายเหตุปฏิบัติการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)เอกสารอ้างอิง: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารชุดกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ 6 กระทรวงศึกษาธิการ มร. 6 ศ/4 เรื่อง ผู้บริจาคทรัพย์สนับสนุนโรงเรียนวัดศรีถ้อย แม่ใจ เมืองเชียงราย [ 26 มิ.ย. 130 ].#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ
องค์ความรู้ เรื่อง การก้าวเดินของภาพยนตร์ไทยในสุพรรณบุรี
ผู้เรียบเรียง : นางภควรรณ คุณากรวงศ์ บรรณารักษ์ชำนาญการผู้ออกแบบ : นางสาววารุณี วิริยะชูศรี บรรณารักษ์
ชื่อเรื่อง ตำราม้าของเก่า และตำราม้าคำโคลงผู้แต่ง พล.ต.ต. พระยาคทาธรบดีสีหราชบาลเมือง (เทียบ อัศวรักษ์)ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ประเพณี ขนบธรรมเนียม คติชนวิทยาเลขหมู่ 398.369 ต427คสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจปีที่พิมพ์ 2512ลักษณะวัสดุ 216 หน้า หัวเรื่อง ม้าภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกตำราม้าของเก่า ว่าด้วยลักษณะม้าต่างๆ วิธีขับขี่ม้า และตำรายาม้า
วันที่ 28 มกราคม 2566 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับ สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) จัดโครงการนิทานผลิบาน : ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ การใช้นิทานสร้างกิจกรรม และสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็ก ครั้งที่ 7 โดย นางภควรรณ คุณากรวงศ์ บรรณารักษ์ชำนาญการ นางสาวกาญจนา ศรีเหรา, นางสาววารุณี วิริยะชูศรี บรรณารักษ์ นางสาวปิยวรรณ พลอยสุกใส เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา
วิทยากรโดย นางสาวอุษา ศรีนวล นักจัดการความรู้อาวุโส สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) โดยมีกิจกรรม workshop คิดกิจกรรมกับนิทาน ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลห้วยวังทอง ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุพรรณบุรี
วันที่ 14 มีนาคม 2567 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับสถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park จัดโครงการนิทานผลิบาน: ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ การใช้นิทานสร้างกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ สำหรับเด็กเล็ก ประจำปี 2567 ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดดอนสุทธาวาส และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสามจุ่น
องค์ความรู้ เรื่อง คำขวัญ "เมืองอู่ทอง"
ผู้เรียบเรียง : นางสาวกาญจนา ศรีเหรา บรรณารักษ์
อนุสรสิทธิกรรม (บัว ณ นคร), หลวง. ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราชกับพงศาวดารเมืองนครศรีธรรมราช. พิมพ์ครั้งที่ 6. พระนคร: โรงพิมพ์ศุภศิลป์, 2512. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางพยูง ณ นคร ณ เมรุวัดธาตุทอง พระโขนง วันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2512).กล่าวถึงตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช และพงศาวดารเมืองนครศรีธรรมราช ช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ และกล่าวถึงบุคคลที่มีเชื้อสายเมืองนครศรีธรรมราชได้ด้วย
วารสารเครือข่ายกรมศิลปากรเป็นวารสารรายไตรมาสออกทุก ๓ เดือน
สภาพธรรมที่เป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้ 37 ประการ หมายถึง การอบรมวิปัสสนาภาวนา เริ่มตั้งแต่ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8