ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ

อวิชฺชามาติกา (อวิชฺชามาติกา) ชบ.บ 111/1ฉ เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 158/5เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อผู้แต่ง         กระทรวงศึกษาธิการ  กรมสามัญศึกษา      ชื่อเรื่อง           ที่ระลึกในงานพระกฐินพระราชทาน ครั้งที่พิมพ์       - สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์       ห้างหุ้นส่วนจำกัดจงเจริญการพิมพ์ ปีที่พิมพ์          2522   จำนวนหน้า      110 หน้า         หมายเหตุ        ที่ระลึกในงานพระกฐินพระราชทาน  กรมสามัญศึกษา รายละเอียด                  หนังที่ระลึกในงานพระกฐินพระราชทาน  กรมสามัญศึกษา ณ วัดใหญ่อินทาราม จ.ชลบุรี เนื้อหาสาระประกอบด้วยเรื่องประวัติวัดใหญ่อินทาราม คำปราศรัยของ รมต ว่าการกระทรวงศึกษาธิการจำนวน ๓ ครั้ง


แนะนำหนังสือน่าอ่าน จักราพิชญ์ อัตโน. ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์. นนทบุรี: วารา พับลิชชิ่ง, 2563. 1011 หน้า. ภาประกอบ. 800 บาท. ให้ความรู้ในเรื่องการพยากรณ์ปีนักษัตร ลักษณะทั่วไปของคนทั้ง 7 วัน ลักษณะคู่ครอง วันมิตร วันศัตรู ตำราทำนายบุตรในครรภ์ เรื่องกงล้อแห่งโชคชะตา ตำรามหาฤกษ์ ตำราปลูกต้นไม้ ตำราทำนายลักาณะตามคัมภีร์ไตรเพท ศาสตร์ของการตั้งชื่อ นิติลางสังหรณ์ การทำนายฝัน เรื่องเวทมนต์ คาถาและมหาอาคม 133.52 จ 231 ต (ห้องทั่วไป 1)


ชื่อผู้แต่ง         อบ ไชยวสุ. ชื่อเรื่อง           สะกดให้ถูกตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ครั้งที่พิมพ์       พิมพ์ครั้งที่ ๖สถานที่พิมพ์     กรุงเทพฯสำนักพิมพ์       สำนักงาน หอสมุดกลาง๐๙ ปีที่พิมพ์          ๒๕๒๒ จำนวนหน้า      ๖๗๙ หน้ารายละเอียด สะกดให้ถูกตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน มีเนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย คำศัพท์เฉพาะที่สะกดยาก ชวนให้ไขว้เขวผิดได้ง่าย พร้อมทั้งให้ความหมายตามแบบพจนานุกรม มีคำที่มักสะกดผิด ซึ่งประมวลจากบัญชีที่สถาบันการศึกษาต่างๆรวบรวมขึ้นไว้ คำพ้องรูป พ้องเสียง พ้องความ และที่มีความหมายคล้ายกัน และการใช้วรรณยุกต์ตรีทับศัพท์คำต่างประเทศ


เลขทะเบียน : นพ.บ.426/3กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 64 หน้า ; 5 x 57 ซ.ม. : ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 153  (109-119) ผูก 3ก (2566)หัวเรื่อง : พระธัมสังคิณี--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.567/1ก                               ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 186  (347-356) ผูก 1ก (2566)หัวเรื่อง : แทนน้ำนมแม่--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


“เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 14 พฤษภาคม 2566” ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. มีการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย คำว่า "ประชาธิปไตย" แปลว่า "ประชาชนเป็นใหญ่" คือการที่ประชาชนมีอำนาจอธิปไตย หรือมีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ แต่ประชาชนทั้ง 65 ล้านคนจะเข้าไปปกครองบริหารประเทศทั้งหมดด้วยตนเองย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงต้องมอบอำนาจอธิปไตยให้แก่ตัวแทนที่ตนเลือกเพื่อให้ไปทำหน้าที่แทน ดังนั้นวันเลือกตั้ง ก็คือวันที่ประชาชนไปมอบอำนาจอธิปไตย หรือไปมอบหมายหน้าที่ให้แก่ผู้แทนที่ตนเลือกนั่นเอง ถ้าผู้แทนที่ประชาชนเลือกเข้าไปสามารถทำหน้าที่แทนประชาชนได้อย่างดี มีประสิทธิภาพสมกับที่ประชาชนไว้วางใจ ประชาชนก็จะอยู่ดีมีสุข ประเทศชาติและท้องถิ่นเจริญพัฒนา ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้รับการเยียวยาแก้ไข แต่ถ้าประชาชนเลือกผู้แทนที่ไม่ดี ไม่มีความรู้ความสามารถขาดคุณธรรม ได้รับเลือกตั้งด้วยการทุจริต ใช้เงินซื้อเสียง หลบเลี่ยงกฎหมาย เมื่อได้เข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชน ก็ต้องถอนทุนคืนด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นเงินงบประมาณที่จะไปพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนก็รั่วไหล ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก็ไม่ได้รับการแก้ไขเพราะตัวแทนที่เลือกเข้าไปไม่มีความคิดรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และทรยศต่อประชาชนที่ไว้วางใจมอบอำนาจอธิปไตยให้ตนเข้าไปทำหน้าที่แทน การเลือกตั้งจึงมีความสำคัญที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องไปทำหน้าที่เลือกตัวแทน โดยพินิจพิจารณาเลือกอย่างละเอียดรอบคอบพิถีพิถัน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบหนึ่งสำหรับเลือกบุคคลที่ชื่นชอบ ที่จะไปเป็นผู้แทนในสภา อีกบัตรหนึ่งเลือกพรรคการเมืองที่ชอบ ก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มาทำความเข้าใจเพื่อป้องกันความสับสน ในการลงคะแนนเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ใบที่ 1 : บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (สีม่วง) มีหมายเลขผู้สมัคร และ ช่องสำหรับกากบาท โดยไม่มีชื่อผู้สมัครและโลโก้พรรค ใบที่ 2 : บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (สีเขียว) มีสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายของพรรคการเมือง และ มีชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00-17.00 น. ขอเชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าคูหา กาบัตรเลือกตั้ง เลือกคนที่รัก และ เลือกพรรคที่ชอบ ข้อมูลประกอบ : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง


รัตนะ ยาวะประภาษ.  เปิดตาโลก.  พระนคร: ประมวลการพิมพ์, ๒๕๑๑.           เปิดตาโลก เป็นผลงานการเขียนของรัตนะ ยาวะประภาษ โดยบอกเล่าเรื่องราวชีวิตในอดีตของผู้เขียนเอง ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดความอ่าน บุคลิก รสนิยม และอุดมคติของผู้เขียน


          อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร กำหนดจัดกิจกรรมบรรยายทางวิชาการแก่บุคลากรทางการศึกษา หัวข้อเรื่อง “แหล่งตัดศิลาแลงเมืองกำแพงเพชร” ในวันที่ ๓, ๔, ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖ เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีเมืองกำแพงเพชร ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ ณ โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร            กำแพงเพชร เป็นชื่อเมืองโบราณในเขตจังหวัดกำแพงเพชร บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิงในปัจจุบัน ที่พบร่องรอยหลักฐานด้านโบราณคดีที่แสดงถึงพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน มีชุมชนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำปิง มีการรับส่งอิทธิพลจากสังคมภายนอกสู่พื้นที่เมืองกำแพงเพชรและพัฒนาขึ้นกลายเป็นบ้านเมืองที่มีขนาดใหญ่ ทั้งในวัฒนธรรมสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ ๑๙ - ๒๐) ที่เมืองกำแพงเพชรมีฐานะเป็นหัวเมืองของกรุงสุโขทัยและในช่วงวัฒนธรรมอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ ๒๐ ในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ปัจจุบันเมืองกำแพงเพชรยังคงปรากฏหลักฐานทางด้านโบราณคดี ทั้งโบราณสถานและโบราณวัตถุจำนวนมากที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ของแผ่นดินเมืองกำแพงเพชร ตลอดจนเป็นสิ่งเตือนใจให้คนในปัจจุบันได้ระลึกถึงความรู้ทางเทคนิควิทยาและงานฝีมือศิลปกรรมในรูปแบบของสกุลช่างเมืองกำแพงเพชรได้อย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน           ด้วยความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญ รวมทั้งการธำรงรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมเมือง กำแพงเพชรให้คงอยู่ยั่งยืนเป็นหลักฐานแสดงอารยธรรมของประเทศไทยสืบไป กรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการ อนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ ซึ่งได้กำหนดขอบเขตโบราณสถานตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๘๕ ตอนที่ ๔๑ วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๑ และดำเนินการจัดตั้งเป็นโครงการอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรในพื้นที่ ๒ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโบราณสถานนอกเขตกำแพงเมืองด้านทิศเหนือหรือเขตอรัญญิก พื้นที่ ๑,๖๑๑ ไร่ มีโบราณสถาน จำนวน ๓๐ แห่ง และกลุ่มโบราณสถานภายในเขตกำแพงเมืองพื้นที่ ๕๐๓ ไร่ มีโบราณสถาน จำนวน ๓๖ แห่ง โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔           ความสำคัญของเมืองโบราณกำแพงเพชรในฐานะที่เป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ของชนชาติไทย เป็นหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมและความโดดเด่นอันชาญฉลาดของมนุษย์ในอดีตที่ยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบันองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) จึงได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกภายใต้ชื่อ "เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร" (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ ๑๕ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนิเซีย            ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฐานะแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีและศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของจังหวัดกำแพงเพชร มีนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ เฉลี่ยประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ คนต่อปี โดยมีอัตราส่วนเป็นชาวไทย ๙๕ % และชาวต่างชาติ ๕ % รวมทั้งมี แนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคตเนื่องจากได้รับประชาสัมพันธ์และการสนับสนุนการท่องเที่ยวจากกลุ่มจังหวัดหน่วยงานราชการและภาคเอกชนในจังหวัดกำแพงเพชร            อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากร ซึ่งมีภารกิจหน้าที่สำคัญ ในการศึกษา ค้นคว้าและทำนุบำรุงรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ อีกทั้งการสืบทอดและเผยแพร่องค์ ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและบทบาทของประชาชนที่จะร่วมกันในการอนุรักษ์และพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย            อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จึงได้จัดการบรรยายทางวิชาการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ แก่บุคลากรทางการศึกษาในท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินงานที่สอดรับกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ แนวการจัดการศึกษามาตรา ๒๕ ที่ว่า “รัฐต้องส่งเสริมการดำเนินงานและการจัดตั้ง แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบ ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวน พฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์กีฬาและนันทนาการแหล่งข้อมูลและแหล่งการเรียนรู้ อย่างพอเพียงและมีประสิทธิภาพ” เพื่อเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณคดีอีกทั้งยังเป็น ปลูกฝังให้บุคลากรทางการศึกษาได้ตระหนักในคุณค่า เห็นความสำคัญและร่วมกันอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบไป


วันนี้เรามาทำความรู้จัก "คำไวพจน์" ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงกันค่ะผลงานของ น.ส.วิภาพร พันธุนันท์ สาขาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


  "คัทธนกุมารชาดก" หลังจากคัทธนะ ทูลลาเจ้าเมืองศรีษะเกษ และพระมารดาแล้ว จึงได้ออกเดินทางเพื่อตามหาพระบิดาตามความประสงค์ คัทธนะได้สวมใส่เครื่องทรงกษัตริย์ คอนถุงย่ามและคนโฑวิเศษกับดาบสรีกัญไชยไว้บนไหล่เมื่อเดินทางเข้าสู่เมืองอินทปัตถนคร ระหว่างทางคัทธนะได้พบกับ "นายไผ่ร้อยกอ" ซึ่งเป็นผู้มีพละพลังมหาศาล และกำลังลากไม้ไผ่อยู่ คัทธนะจึงได้ใช้เท้าเหยียบลงบนปลายกอไม้ไผ่ไว้ ด้วยพละกำลังที่มากกว่าจึงทำให้นายไผ่ร้อยกอไม่สามารถลากไม้ไผ่ต่อไปได้ นายไผ่ร้อยกอจึงเกิดความโมโหหมายเข้าทำร้ายคัทธนะ แล้วเกิดการต่อสู้กันระหว่างทั้งสอง ท้ายที่สุดคัทธนะจับนายไผ่ร้อยกอกระแทกแล้วกดลงให้จมดินนายไผ่ร้อยกอร้องขอชีวิต และขอเป็นพระสหายร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยทั้งสองเดินทางต่อมาได้พบกับ "นายเกวียนร้อยเล่ม" ผู้มีพละพลังมหาศาลอีกคน ซึ่งกำลังลากเกวียนอยู่ คัทธนะจึงใช้เท้าเหยียบที่ท้ายเกวียน และด้วยพละกำลังที่มีมากกว่าทำให้เชือกขาด ทำให้นายเกวียนร้อยเล่มล้มหน้าขมำลงกับกับพื้น นายเกวียนร้อยเล่มจึงเกิดความโมโห และหมายเข้าทำร้ายคัทธนะ ทั้งสองเกิดการต่อสู้กัน ท้ายที่สุดคัทธนะก็จับกระแทกกดลงจมพื้นดิน นายเกวียนร้อยเล่มร้องขอชีวิต และขอเป็นพระสหายร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยอีกคนทั้งสามออกเดินทางต่อไป ผ่านเมืองอินทปัตถนครซึ่งเป็นนครใหญ่ บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง มีผู้คนมากมาย มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวตะวันตกและชาวจีน...ทั้งสามผ่านเมืองอินทปัตถนครผ่านเข้าสู่ป่าหิมพานต์ และได้ผจญภัยต่อสู้กับจิ้งหรีดยักษ์ และนางยักษ์ คัทธนะได้ของวิเศษอีกสองอย่าง คือ ๑.ไม้เท้าต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น ๒.พิณสามสาย  (เรื่องราว "คัทธนกุมารชาดก" จิตรกรรมฝาผนังมุขด้านทิศเหนือ วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน)รับชมวีดีโอ : "สองพระสหาย"เครดิต : กลุ่มอนุรักษ์จิตรกรรมและประติมากรรม กองโบราณคดี กรมศิลปากร


เริ่มแล้ววันนี้ !! กิจกรรมพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรมศิลปากร (Thailand Winter Festival) ท่องเที่ยวแหล่งโบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติยามค่ำคืน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 สะสมบัตรเข้าชมที่มีตราประทับกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5 สถานที่ (ตราประทับอยู่ด้านหลังบัตรเข้าชม) 1 สถานที่ สะสมได้ 1 ครั้งเท่านั้น นำมารับของที่ระลึก จำนวนจำกัดเพียง 100 ชุด ได้ที่อาคารกรมศิลปากร (เทเวศร์) ชั้น 3 ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป (วันและเวลาราชการ) จนกว่าของที่ระลึกจะหมด   (รับตราประทับได้ที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ,อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร , อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา , อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย , งานแอ่วกุมกามยามแลง ณ โบราณสถานเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ (วันที่ 1 - 2 ธันวาคม 2566) , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา)


          ใบหน้าบุคคล หรือเทวดา           แบบศิลปะ : ลพบุรี           ชนิด :  ปูนปั้น           ขนาด : สูง 11 เซนติเมตร กว้าง 10 เซนติเมตร           ลักษณะ : พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม สวมเทริดแบบกะบังหน้า พระนลาฏกว้าง ลืมพระเนตร พระนาสิกโด่งเป็นสัน พระโอษฐ์แย้ม           สภาพ : ชำรุด พระกรรณซ้ายหักหายไป มีรอยแตกบริเวณร้างจากหางพระเนตรทั้งสองข้างพาดผ่านพระนาสิก           ประวัติ : พบจากการขุดแต่งโบราณสถานเนินทางพระ หมู่ 6 ตำบลบ้านสระ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ายจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม           สถานที่จัดแสดง : ห้องเมืองสุพรรณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี     แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/suphanburi/360/model/18/   ที่มา: hhttp://www.virtualmuseum.finearts.go.th/suphanburi


องค์ความรู้สุพรรณบุรี เรื่อง พระพุทธบาทหินทรายแดง วัดเขาดีสลัก ผู้เรียบเรียง : นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ


black ribbon.