ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,827 รายการ


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทศนา (เทศนาสังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.2/1-4 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง : พระโอวาทสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา ปีที่พิมพ์ : 2494 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์ข่าวพาณิชย์ จำนวนหน้า : 36 หน้า สาระสังเขป : หนังสือแนะนำความประพฤติข้าราชการที่ให้จัดพิมพ์ขึ้นนี้ คือพระโอวาทสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยพระองค์แรกในสมัยราชาธิปไตย ได้ทรงเรียบเรียงไว้เป็นแบบสำหรับสอนนักเรียนมหาดเล็กที่จะออกไปรับราชการตามหัวเมือง พระโอวาทนี้เน้นย้ำเรื่องความซื่อตรงต่อหน้าที่ และแนวปฏิบัติที่ข้าราชการปกครองควรจะยึดถือเป็นทางดำรงตน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในส่วนบุคคลและหน้าที่ราชการ ทั้งในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา





องค์ความรู้ สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการอ่านผ่านออนไลน์ เรื่อง “ปราสาทเขาโล้น”                โดย...  หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี           ในเมืองไทยมีปราสาทหินที่เป็นโบราณสถานที่สำคัญมากมายหลายแห่ง ส่วนมากจะมีทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะได้รับอารยธรรมในการสร้างจากขอมโบราณ ในภาคตะวันออก ก็มีปราสาทหินอยู่หลายแห่ง ในที่นี้จะขอแนะนำ “ปราสาทเขาโล้น” ในอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นโบราณสถานขอมที่สำคัญแห่งหนึ่ง           ปราสาทเขาโล้น ตั้งอยู่ที่บ้านเจริญสุข ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว  ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2476  และลงประกาศกำหนดขอบเขต ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 106 ตอนที่ 112 วันที่ 16 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2532 หน้า 21 (ฉบับพิเศษ) เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่   3 งาน 25 ตารางวา           ตัวปราสาทเขาโล้น ก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้าไปบูรณะในปี พ.ศ. 2560 ดังภาพประกอบ มีลักษณะเป็นปราสาทอยู่บนยอดเขาโล้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสะแกกรอง ตัวปราสาทก่อด้วยอิฐฝนผิวเรียบ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 4.6 เมตร มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออก  ประตูอีก 3 ด้านเป็นประตูประดับ หรือประตูหลอก  ผนังองค์ปรางค์ยังอยู่ในสภาพมั่นคง แต่เหนือซุ้มประตูขึ้นไป อิฐก่ออยู่ในสภาพพร้อมที่จะเลื่อนหล่นลงมา           หน้าประตูทางเข้ามีร่องรอยฐานก่ออิฐคล้ายมีคูหาหรือมุขยื่นออกมา แต่ได้ถูกก่อสร่างทับด้วยพื้นคอนกรีตดัดแปลงเป็นศาลาโถง ทางทิศตะวันนออกมีทางขึ้นเขาลักษณะเป็นบันไดปูด้วยหินทรายขนาดใหญ่  พบบารายขนาดย่อมกว้างประมาณ 60*50 เมตร อยู่เชิงเขาโล้นด้านตะวันออก มีน้ำขังตลอดปี            การสำรวจของกรมศิลปากรก่อนเข้าไปบูรณะ ไม่พบทับหลังที่เป็นส่วนสำคัญของตัวปราสาท ข้อมูลที่กรมศิลปากรได้เขียนบันทึกไว้ประมาณ ปี 2502 ได้อธิบายทับหลังเป็นเหมือนรูปเทพเจ้าหรือพระอินทร์ ประทับอยู่เหนือหน้ากลาง เป็นมุขและมีลายดอกไม้ มีภาพถ่ายทับหลังปราสาทเขาโล้น ที่ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2510 ในหนังสือ “ศิลปะสมัยลพบุรี” โดยศาสตราจารย์ หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล ซึ่งภาพถ่ายนี้เป็นหลักฐานสำคัญในการทวงคืนทับหลังชิ้นนี้กลับสู่ประเทศไทย จนมีผู้พบภาพถ่ายทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียชอง-มูน ลี ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจึงมอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมติดตามทวงคืน            เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่สหรัฐอเมริกาได้ส่งคืนทับหลังปราสาทเขาโล้นพร้อมกับทับหลังปราสาทหนองหงส์ให้กับรัฐบาลไทย โดยคืนกลับสู่แผ่นดินไทยในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ซึ่งทางกรมศิลปากรจะได้นำไปเก็บรักษาและติดตั้งให้กับตัวปราสาท เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คู่ควรกับแผ่นดินไทยตลอดไป ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์  รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ    หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี      สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี    อ้างอิง :  พุทธชาติ หมายมั่น.  ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่มที่ 5 ปราจีนบุรี สระแก้ว.  กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2542.                                                     หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล. ศิลปะสมัยลพบุรี.  กรุงเทพฯ :  มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2510.



องค์ความรู้ : ศิลปวัฒนธรรมและโบราณสถานในจังหวัดชลบุรี เรื่อง ตึกมหาราช ตึกราชินี ตึกมหาราช ตึกราชินี ตั้งอยู่ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นตึกก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ทั้ง 2 หลัง ตั้งอยู่เคียงกัน ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโคโลเนียล ตามพงศาวดารระบุว่าสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์สมุหกลาโหม ได้ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นผู้ป่วย และเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (เจ้าคุณกรมท่า) ได้ก่อสร้างตึกอีกหลังหนึ่งขึ้น แต่มีขนาดเล็กกว่าของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีในระหว่างที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบริจาคราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อซ่อมแซมอาคารทั้ง 2 หลัง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติพระนครแล้ว จึงพระราชทานนามให้อาคารทั้ง 2 หลัง โดยโปรดเกล้าให้เรียกอาคารหลังใหญ่ว่า “ตึกมหาราช” และอาคารหลังเล็กเรียกว่า “ตึกราชินี” ที่มา : โบราณสถานสำคัญในเขตจังหวัดชลบุรี : เอกสารประกอบการอบรมทบทวนอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ) จังหวัดชลบุรี วันพุธที่ 23 มกราคม 2551 ณ วัดตาลล้อม ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี. (2551). ปราจีนบุรี : กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ภาพประกอบ : ตึกแดงพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ.ค้นหาเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/.../detail/itemid/756 ตึกขาว @อ่างศิลา ชลบุรี.(2561).ค้นหาเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2564, จากhttps://th.readme.me/p/20290 อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ(ตึกมหาราชาตึกราชินี).(2557).ค้นหาเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2564, จาก https://www.m-culture.go.th/chonburi/ewt_news.php?nid=401... #หอสมุดแห่งชาติชลบุรี #สำนักศิลปากรที่5ปราจีนบุรี #กรมศิลปากร #กระทรวงวัฒนธรรม #ตึกมหาราชตึกราชินี #ตึกราชินี #ตึกขาว #ตึกแดง #อ่างศิลา #ชลบุรี                    


องค์ความรู้มรดกศิลปวัฒนธรรม ตอนที่ ๑ "เขมร - ขแมร์ ที่แท้คำเดียวกันแค่ต่างยุค" โดย รองศาสตราจารย์ ดร. ศานติ ภักดีคำอาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย






     ศิลปะรัตนโกสินทร์  พ.ศ. ๒๕๐๐       ปูนปลาสเตอร์ ระบายสี      ย้ายจากหอประติมากรรมต้นแบบ เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒      ประติมากรรมต้นแบบพระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์  ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นประติมากรผู้ปั้นพระพุทธรูปต้นแบบองค์นี้ สำหรับจัดแสดงในนิทรรศการฉลองพระพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๐ ภายในงานมีการระดมทุนเพื่อจัดสร้างพุทธมณฑล อันเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนา ใน พ.ศ. ๒๕๑๐       ภายหลังเสร็จสิ้นงานจึงอัญเชิญพระพุทธรูปต้นแบบองค์นี้มาเก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยจัดแสดง ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ต่อมาในพ.ศ. ๒๕๑๐ ได้เคลื่อนย้ายประติมากรรมต้นแบบองค์นี้มาจัดแสดงในห้องรัตนโกสินทร์ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนถึงคราวรื้อฟื้นโครงการจัดสร้างพุทธมณฑล ในพ.ศ. ๒๕๒๑ จึงได้เคลื่อนย้ายมาถอดขยายแบบสำหรับหล่อเป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ และได้เก็บรักษาไว้ ณ หอประติมากรรมต้นแบบ กรมศิลปากร จนถึงพ.ศ. ๒๕๖๒      สำหรับแนวคิดการสร้างพระพุทธรูปต้นแบบนั้น ศาสตราจารย์ศิลป์ ได้แรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปอิริยาบถลีลา ศิลปะสุโขทัย ที่ได้รับการนิยามว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามตามอุดมคติ นำมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วยเทคนิคและสุนทรียศาสตร์แบบตะวันตก โดยพระพุทธรูปต้นแบบองค์นี้นับเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านรูปลักษณ์ของพระพุทธปฏิมาแบบไทยประเพณีกับงานศิลปกรรมร่วมสมัย ปัจจุบัน ประติมากรรมต้นแบบพระศรีศากยะทศพลญาณ จัดแสดง ณ ห้องกรุงรัตนโกสินทร์ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


ชื่อเรื่อง                                นิทานสี่เสา (นิทานสี่เสา) สพ.บ.                                  269/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           74 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                 นิทานคติธรรม บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ  ได้รับบริจาคมาจากวัดบ้านหมี่ ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


black ribbon.