ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,777 รายการ

มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนี) ชบ.บ 182/5 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)




เลขทะเบียน : นพ.บ.422/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4 x 55.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 150  (90-95) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.563/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 52 หน้า ; 4.5 x 57 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 183  (329-336) ผูก 2 (2566)หัวเรื่อง : ทศชาติ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


องค์ความรู้ : สำนักการสังคีต ละครนิทานพื้นบ้าน เรื่องนางสร้อยดอกหมาก “นิทานพื้นบ้าน” เป็นวรรณกรรมมุขปาฐะที่คนในชุมชนหรือสังคมหนึ่ง ๆ เล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน มีทั้งเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และเป็นนิทานเรื่องเล่าทั่วไปที่มุ่งเน้นความสนุกสนาน บางเรื่องเป็นนิทานประจำท้องถิ่น ที่บอกเล่าสืบต่อกันมาเพื่อเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของพื้นที่ ทำให้เกิดเรื่องราว ตำนาน ความเชื่อ อันจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าให้คนในชุมชนเกิดการตระหนักและศรัทธา จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานด้วยรูปแบบต่าง ๆ ดังที่ นายเสรีหวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ได้นำนิทานพื้นบ้านที่กล่าวถึงเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าสายน้ำผึ้งและนางสร้อยดอกหมาก และจบลงด้วยโศกนาฏกรรมอันมีความเชื่อมโยงกับการสร้าง “วัดพนัญเชิง” จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจัดทำเป็นบทละครนิทานพื้นบ้านและกำกับการแสดง โดยเลือกผู้แสดงที่ผู้ชมนิยมชมชอบ อาทิ นายปกรณ์ พรพิสุทธิ์ รับบทเจ้าสายน้ำผึ้ง นางสาววันทนีย์ ม่วงบุญ รับบทนางสร้อยดอกหมาก และรองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ รับบทบ้วนเซ็กลี้แสดงครั้งแรก ณ โรงละคร เอ.ยู.เอ เมื่อวันที่ ๑๗ - ๑๘ และ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ ในนามคณะเราคือคนไทย และจัดแสดงครั้งที่ ๒ เนื่องในงานดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ ต่อมากรมศิลปากรได้นำละครนิทานพื้นบ้าน เรื่องนางสร้อยดอกหมากกลับมาจัดแสดงเป็นครั้งที่ ๓ เนื่องในโครงการจัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจรของสำนักการสังคีต เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๖ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ณ บริเวณริมท่าน้ำภายในพื้นที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร และครั้งที่ ๔ จัดแสดงเนื่องในงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๖ ณ เวทีกลางแจ้ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นำแสดงโดยศิลปินรุ่นใหม่ที่ได้รับการถ่ายทอดบทบาทตัวละครเอกจากผู้แสดงเดิม อาทิ นายพิพัฒน์ รจนากร ได้รับการถ่ายทอดบทเจ้าสายน้ำผึ้งจากนายปกรณ์ พรพิสุทธิ์ นางสาวกนกกาญจน์ ฤกษ์มาก ได้รับการถ่ายทอดบทนางสร้อยดอกหมากจากนางสาววันทนีย์ ม่วงบุญ โดยนายปกรณ์ พรพิสุทธิ์ เป็นผู้กำกับการแสดง และนายสุรพงศ์ โรหิตาจล ควบคุมการบรรเลงดนตรีและขับร้อง รูปแบบการแสดง รูปแบบการแสดงละครนิทานพื้นบ้านเรื่องนางสร้อยดอกหมากเป็นลักษณะละครที่มีการผสานท่ารำกับการแสดงกิริยาท่าทางตามธรรมชาติประกอบบทบาทไปตามเนื้อเรื่องดำเนินเรื่องด้วยการเจรจา การขับร้องสำหรับการแสดงในปัจจุบัน นางสาววันทนีย์ ม่วงบุญ ผู้ชำนาญการศิลปะการแสดง สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้นำบทเจรจาของเดิมบางส่วนมาปรับฉันทลักษณ์เป็นกลอนบทละคร (กลอนแปด)และผู้เชี่ยวชาญด้านดุริยางค์ไทย สำนักการสังคีต บรรจุทำนองเพลงใหม่ นอกจากนี้ยังได้นำระบำจีนชุด “ระบำสาวชมดอกท้อ” ซึ่งเป็นระบำชุดเอกเทศที่เคยจัดแสดงในรายการดนตรีไทยไร้รสหรือ มาแสดงในฉากอุทยานเมืองจีน เพื่อเพิ่มอรรถรสให้ละครเกิดความน่าชมมากยิ่งขึ้นการแสดงใช้วงปี่พาทย์บรรเลงประกอบการแสดง โดยเพิ่มอุปกรณ์ประกอบจังหวะ ได้แก่ กลองจีน ต๊อก แต๋ว ซอเอ้อหู เพื่อบรรเลงสำเนียงทำนองจีน ผู้แสดงแต่งกายตามท้องเรื่องและตามลักษณะเชื้อชาติไทย - จีนโดยคำนึงถึงฐานะของตัวละครมีการเปลี่ยนฉากตามท้องเรื่อง เนื้อเรื่องการแสดง เรื่องราวกล่าวถึงพระเจ้าน่ำฮอง เจ้ากรุงจีน มีพระธิดาบุญธรรมที่คนนำมาทิ้งไว้ในกาบหมาก แล้วตั้งชื่อให้ว่า “สร้อยดอกหมาก”ครั้นเจริญวัยขึ้นนางได้รักกับบ้วนเซ็กลี้ แต่ถูกพระเจ้าน่ำฮองกีดกัน เนื่องด้วยอาฆาตแค้นพ่อของบ้วนเซ็กลี้ที่มาแย่งชิงหญิงคนรัก จนทำให้พระองค์ไม่ยอมอภิเษกกับหญิงอื่น ซึ่งความลับนี้มีแต่แม่นมเช็งที่ทราบเรื่องว่าแท้จริงแล้วนางสร้อยดอกหมากไม่ได้เป็นพระธิดาของพระเจ้าน่ำฮอง แต่ในที่สุดนางสร้อยดอกหมากก็รู้ความลับนี้ ส่วนพระเจ้าน่ำฮองคิดถึงอนาคตของนางสร้อยดอกหมากจึงไปหาไต้ซืออากุงให้ทำนายดวงชะตาของพระธิดา และได้ทราบว่านางนั้นจะได้คู่ครองเป็นเจ้ากรุงไทย นามว่า “เจ้าสายน้ำผึ้ง”ดังนั้น พระองค์จึงมีราชสาส์นเชิญเจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จมาที่จีน และยกนางสร้อยดอกหมากพระธิดาให้เป็นชายา หลังจากการอภิเษกนางสร้อยดอกหมากแล้ว เจ้าสายน้ำผึ้งจึงลากลับเมืองไทยและให้นางสร้อยดอกหมากตามกลับไปภายหลัง โดยสัญญาว่าจะมารอรับนางด้วยพระองค์เอง ครั้นเรือของนางมาเทียบท่าที่บางกะจะ (บริเวณหน้าวัดพนัญเชิงในปัจจุบัน) เจ้าสายน้ำผึ้งไม่ได้เสด็จมารับดังที่ให้สัญญาไว้ แต่ส่งขบวนเกียรติยศมารับแทน จึงเป็นเหตุให้นางสร้อยดอกหมากน้อยพระทัย ด้วยคิดว่าตนเองมิได้เป็นลูกกษัตริย์ ไม่มีเกียรติพอที่เจ้าสายน้ำผึ้งจะเสด็จมารับ จึงไม่ยอมขึ้นจากเรือ ทั้งฝากความกับทหารคนสนิทไปว่า “ถ้าเจ้าสายน้ำผึ้งไม่มารับด้วยตัวเอง เป็นตายอย่างไรก็ไม่ไป” ทหารคนสนิทจึงนำความดังกล่าวกราบทูลเจ้าสายน้ำผึ้ง แต่เจ้าสายน้ำผึ้งคิดจะหยอกเย้านางเล่นจึงให้ทหารกลับไปแจ้งว่า “ถ้าไม่มาจะอยู่แต่ที่นั่นก็ตามใจ” ด้วยคำพูดนี้เพิ่มความน้อยใจ และเสียใจให้กับนางสร้อยดอกหมากยิ่งนักในที่สุดนางจึงกลั้นใจตาย ครั้นเจ้าสายน้ำผึ้งทราบเรื่องจึงให้อัญเชิญพระศพของพระนางขึ้นมาจากเรือพร้อมทั้งให้สร้างพระอารามเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง โดยตั้งชื่อว่า “วัดพระนางเชิง” อันหมายถึง “พระนางผู้มีแง่งอน”สืบแต่นั้นมา บทความโดย ธัญนัฏกร กล่ำแดง นักวิชาการละครและดนตรีปฏิบัติการ สำนักการสังคีต รายการอ้างอิง วันทนีย์ ม่วงบุญ. ผู้ชำนาญการศิลปะการแสดง สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. สัมภาษณ์. ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖. สุรพงศ์ โรหิตาจล. ดุริยางคศิลปินอาวุโส สำนักการสังคีต กรมศิลปากร. สัมภาษณ์. ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖. ภาพถ่าย กลุ่มวิจัยและพัฒนาการสังคีต สำนักการสังคีต กรมศิลปากร


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมบทวณฺณนา ธมฺมบทฏฺฐกถา (ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา) อย.บ.                            243/11 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                  58 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 54 ซม. หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับชาดทึบ ไม้ประกับธรรมดา


เอกสารชุดสำนักงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่เรื่องการใช้กลอุบายหลอกหลวงประชาชน         ในปัจจุบันปัญหาการหลอกลวงประชาชนโดยวิธีการต่าง ๆ ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ทั้งการชักชวนผ่านการลงทุนโดยได้รับผลกำไรทวีคูณ การสร้างเครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนเพื่อหลอกลวงให้เสียทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ         อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปครั้งอดีตเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ ถึง ๒๕๐๑ มีเหตุการณ์การหลอกลวงประชาชนรูปแบบหนึ่ง คือ การชักชวนให้ฝากเงิน ดังปรากฏในเอกสารจดหมายเหตุ ชุดสำนักงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การใช้กลอุบายหลอกหลวงประชาชน          สาระสำคัญของเอกสารเรื่องนี้ ได้กล่าวถึงการออกประกาศของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการปราบปรามการหลอกลวงประชาชนผ่านรูปแบบการรับฝากเงิน หรือเล่นเงินต่อเงิน โดยเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดเลย โดยชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาฝาก ซึ่งจะได้ผลตอบแทน ๘๐ บาท ต่อเงินฝาก ๑๐๐ บาท ทุก ๆ ๓ วัน ๕ วัน และ ๘ วัน กระทรวงมหาดไทยจึงได้ออกประกาศให้ประชาชนทราบถึงวิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพ เพื่อเตือนให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถป้องกันและระมัดระวังตัว อีกทั้งแจ้งเบาะแสพฤติการณ์ของกลุ่มคนเหล่านี้ให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อป้องกันและปราบปรามได้ทันท่วงที#มิจฉาชีพ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์เรียบเรียงนายวีระยุทธ  ไตรสูงเนิน  นักจดหมายเหตุชำนาญการอ้างอิงเอกสารชุดสำนักงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง การใช้กลอุบายหลอกหลวงประชาชน (รหัสเอกสาร หจช ชม ชม ๑.๑.๑/๑๑)


           กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมศิลปากร สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ขอเชิญร่วมงานท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืน ณ เวียงกุมกาม “แอ่วกุมกามยามแลง” “Lanna Ancient Night@Kum Kam Town” กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย             - เยี่ยมชมโบราณสถานสำคัญ อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาสมัยพญามังราย อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี และไหว้พระธาตุขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์            - ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม โขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ทูษณ์-ขร-ตรีเศียร - ยกรบ โดย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร            - เที่ยว ชิม ช็อป “กาดกุมกาม@Night” อาหารและสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง            - กิจกรรมวาดภาพสีน้ำ โดย ชมรมสล่าแต้มงาม เชียงใหม่ และสาธิตการทำโคมล้านนา            วันศุกร์ที่ 1 และ วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00-21.00 น.  ณ ลานกิจกรรม วัดอีก้าง - วัดหนานช้าง เวียงกุมกาม ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ https://g.co/kgs/zLVkt3  สอบถามเพิ่มเติมที่: สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่  Tel  0 5322 2262 --------------------------------------------- Ministry of Culture, The Fine Arts Department, The 7th Office of the Fine Arts Department, Chiangmai represent “Lanna Ancient Night @Kum Kam Town” Activities: - Visit the 700 years old of historical settlement and archaeological site, the old capital of Chiang Mai that was built by King Mengrai. - Enjoy traditional and cultural performances “Khon” the Masked Dance Drama in Thailand - Taste and shopping at night market of “Kad Kum Kam@Night” - Watercolor painting and demonstration of Lanna lantern making Friday 1 and Saturday 2, December 2023 Time 16.00-21.00 hrs. at Wat E-Kang and Wat Nan Chang, Kum Kam Town, Tha Wang Tan, Saraphi, Chiang Mai Thailand https://g.co/kgs/zLVkt3 More information please contact 053-222-262



         จุกดินเผารูปคชลักษมี          แบบศิลปะ : ทวารวดี          ชนิด :  ดินเผา          ขนาด : กว้าง 8 เซนติเมตร สูง 8 เซนติเมตร          อายุสมัย : ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 - 14 (หรือราว 1,200 - 1,400 ปีมาแล้ว)          ลักษณะ : จุกภาชนะดินเผา ด้านล่างทำเป็นลายกลีบบัว ด้านบนตรงกลางทำเป็นรูปเทวีประทับนั่ง พระหัตถ์ทั้งสองข้างถือก้านดอกบัวตูมระดับพระอุระ ด้านข้างสันนิษฐานว่าเป็นรูปช้างชูงวงถือหม้อน้ำเพื่อรดน้ำอภิเษกให้กับเทวีที่อยู่ตรงกลางภาพลักษณะนี้เรียกกันว่า “คชลักษมี” หรือ “อภิเษกศรี” ซึ่งหมายถึงการรดน้ำอภิเษกแก่พระนางลักษมีศักติของพระวิษณุ อันเป็นการแสดงถึงความมี โชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ตลอดจนเป็นแหล่ง กำเนิดของชีวิตทั้งปวง เป็นความเชื่อของศาสนาฮินดู          ประวัติ : พบบริเวณเมืองอู่ทอง          สถานที่จัดแสดง : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี   แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/uthong/360/model/10/   ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/uthong


ขอเชิญลงทะเบียนเข้าร่วมการเสวนาทางวิชาการ “ทศวรรษแห่งการค้นพบใหม่” ระหว่างวันที่ 3 – 8 เมษายน 2567 ณ ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันพุธที่ 3 เมษายน 2567 1. 10 สุดยอดโบราณวัตถุหายากที่สูญหายไปจากความทรงจำ เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/mpqBO . 2. คติการวางศิลาฤกษ์ปราสาทหินวัฒนธรรมเขมรโบราณ เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/coFL0 . 3. ผ่าโลกใต้พิภพเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ : หลักฐานโบราณคดีเส้นทางรถไฟฟ้า เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/JVZ07 . วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567 4. ทศวรรษแห่งการค้นพบเรือโบราณพนมสุรินทร์ : เรือโบราณที่เก่าที่สุดในประเทศไทย เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/dxEIX . 5.การค้นพบภาพเขียนสี และแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์ครั้งแรกในภาคกลางของประเทศไทย ถ้ำเลียงผา เขาผาแรด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/alrNO . 6. แหล่งโบราณคดีโนนหนองหอ จังหวัดมุกดาหาร แหล่งผลิตกลองมโหระทึกสำคัญในประเทศไทย เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/jkFHT .วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 7. แผนผังสุสานโปรเตสแตนท์ เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/nKS46 . 8. ข้อมูลใหม่จากวรรณกรรมอำพราง เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/ABN47 . 9. หีบพระสมุดคลังความรู้มหัศจรรย์จากอดีต เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gksD4 . วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 10. สุดยอดการค้นพบใหม่ด้านโลหะวิทยาในแหล่งโบราณคดีภาคเหนือของประเทศไทย เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gFHPX . 11. ข้อมูลใหม่ด้านโบราณคดีของเมืองโบราณยะรัง เมืองโบราณสำคัญที่ปลายด้ามขวาน เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/bvwOZ . 12. ภาพ STENCIL ลวดลายที่พบใหม่ ณ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศวร เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/DEIO1 . วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 13. 70 แหล่งศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ค้นพบใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/empKS . 14. ถ้ำหมอเขียว การค้นพบใหม่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภาคใต้ของประเทศไทย เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/qGHU9 . 15. การค้นพบหลักฐานใหม่สมัยทวารวดีในรอบทศวรรษ เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/fgksJ . วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2567 16. การค้นพบแหล่งโบราณคดีสีบัวทอง แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ในจังหวัดอ่างทอง เวลา 10.00-12.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/zAHV0 . 17. โลงไม้กับวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พิษณุโลก เวลา 13.30-15.30 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/gjlY0 . 18. เปิดโลกใบใหม่เที่ยวพิพิธภัณฑ์ไทยง่ายเพียงปลายนิ้ว เวลา 16.00-18.00 น. เชิญลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://shorturl.at/hxzV0 ***สำหรับหัวข้อที่มียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเต็มจำนวนแล้ว ท่านสามารถลงทะเบียนหน้างานได้ ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ที่นั่งและของว่าง สำหรับผู้ลงทะเบียนในระบบก่อน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ***


         กระปุกเคลือบสีขาวลายคราม          ขนาด : ปากกว้าง 3.8 เซนติเมตร สูง 8 เซนติเมตร          ลักษณะ : กระปุกเคลือบสีขาวลายคราม ทรงกลม มีรูปหัวไก่ มีลายเป็นรูปกิ่งดอกไม้ ภายในบรรจุกระดูก ชำรุด ปากแตก ตรงคอไก่มีรอยร้าว          สภาพ : น้ำยาเคลือบเสื่อมสภาพ          สถานที่จัดแสดง : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี จังหวัดราชบุรี         แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/ratchaburi/360/model/31/   ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/ratchaburi


ปราสาทห้วยแคน ตำบลห้วยแคน อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา เป็นโบราณสถานขนาดเล็กก่อด้วยศิลาแลงจำนวน 1 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีประตูทางเข้าด้านหน้าเพียงประตูเดียวผนังอาคารด้านทิศใต้เจาะช่องหน้าต่าง ส่วนผนังด้านทิศเหนือก่อทึบ โบราณสถานแห่งนี้เป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน เรียกอีกอย่างว่าธรรมศาลา 1 ในจำนวน 121 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งราชอาณาจักรเขมรโบราณโปรดสร้างขึ้น ตามเส้นทางสำคัญทั่วราชอาณาจักรของพระองค์  


ถ้ำวัวแดง      ถ้ำวัวแดง ตำบลเฉลียง อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ลักษณะถ้ำเป็นเพิงผาหินทรายสีแดง ภายในถ้ำมีภาพสลักนูนต่ำเป็นรูปพระอิศวร และนางปารพตี (อุมา) ประทับบนหลังโคนนทิ มีเทพบริวาร 2 องค์ ถือทวยพัดโบก ซึ่งจำหลักแบบลายหางนกยุง ฤาษียืนประนมมือ 3 ตน ประกอบท้ายขบวน เบื้องหน้าโคนนทิ สลักเป็นฤาษีนั่ง 1 ตน และเทวดา 1 องค์ ถวายความเคารพ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-18                                                                                    



black ribbon.