ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
เว็ปไซต์หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช : www.finearts.go.th/narama9
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้จัดตั้งขึ้นในคราวโอกาสมหามงคลที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ โดยกระทรวงศึกษาธิการที่มีภารกิจหลักในด้านการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนการกำกับดูแลการดำเนินงานของกรมศิลปากรในขณะนั้น ได้มีแนวคิดที่จะรวบรวมเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ มาจัดเก็บและอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและสนองนโยบายของรัฐบาล จึงมอบหมายให้กรมศิลปากร จัดทำโครงการหอจดหมายเหตุแห่งชาติ(กาญจนาภิเษก) จังหวัดปทุมธานี ขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๒๕๓๖ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดข เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
วันที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๖ กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน เตรียมการจัดตั้ง ให้มีหน้าที่รับผิคชอบกำหนดรายละเอียดโครงการ จัดหาสถานที่ก่อสร้าง ออกแบบอาคาร จัดทำงบประมาณ ประชาสัมพันธ์ และเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
คณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลการดำเนินงานโครงการ รวมทั้งแบบร่างอาคารจากกรมศิลปากรเสนอในที่ประชุม คณะกรรมการเตรียมงานเฉิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๕๐ ปีของกระทรวงศึกษาธิการ
วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ มีมติเห็นชอบโครงการ และแบบร่างที่กรมศิลปากรได้จัดทำขึ้น กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ทำหนังสือถึงราชเลขาธิการเพื่อขอรับพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ราชเลขาธิการได้มีหนังสือ ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ขอความร่วมมือให้พิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้อง อาทิ เส้นทางคมนาคม ไฟฟ้า น้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนนำความขึ้นกราบบังคมทูล และได้ให้คำแนะนำว่าโครงการนี่เป็นโครงการสำคัญ ควรให้เป็นงานของชาติ ซึ่งจะทำให้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ควรให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เข้าเฝ้ารับพระราชกระแสในขั้นต้นก่อน
วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๗ กระทรวงศึกษาธิการ ได้นำโครงการเสนอเข้าสู่วาระการประชุมของคณะรัฐมนตรี และมีมติอนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ นายสมคิด จาติกวณิชย์ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานราชการต่างๆ และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ รวม ๒๗ คน มีหน้าที่ดำเนินการจัดทำแผนและโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๕๐ ปี พิจารณางบประมาณและจัดตั้งกองทุนอำนวยการให้การดำเนินงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานบรมราชานุญาตใช้ชื่ออาคารว่า หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และขอพระราชทานอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์
วันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๐ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่ออาคารว่า หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และสามารถเปิดให้บริการในเบื้องต้นแกผู้ใช้บริการได้เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๒
พุทธศักราช ๒๕๔๘ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เห็นว่าควรให้การดำเนินงานโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แล้วเสร็จตามแผนแม่บท พร้อมให้บริการแก่ประชาชนอย่างสมบูรณ์ จึงได้นำโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อของบประมาณดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งโครงการ และร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษาคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณในส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการทั้งหมด ทำให้โครงการแล้วเสร็จทั้งหมด เมื่อพุทธศักราช ๒๕๕๒
วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดอาคารหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
วันที่ 16 สิงหาคม 2558 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ได้ต้อนรับคณะครู นักเรียน จากโรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี ที่ได้มาเยี่ยมชม และการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศิลปะวัตถุ โบราณวัตถุ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ โดยมีคุณสมชาย ฤทธิ์ลา และคุณกชกร สิทธิดง เป็นวิทยากรให้ความรู้
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 นายสุพจน์ พรหมมาโนชน์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานเปิดพิธีในโครงการอบรมจัดตั้งอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลมรดกทางศิลปวัฒนธรรม ณ โรงแรมดิอิมเพลส น่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โดยมีนายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง "มรดกทางศิลปวัฒนธรรม : คุณค่า ความสำคัญและการ อนุรักษ์"
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ จัดอบรมโครงการเผยแพร่ความรู้แก่บุคลากรทางการศึกษา วันที่ ๗ – ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๓ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๑ และเขต ๓ ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรม ๒๕ โรงเรียน จำนวน ๔๓ คน
วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
- บรรยายเรื่อง มรดกศิลปวัฒนธรรมในเขตรับผิดชอบของสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา โดยนายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
- บรรยายเรื่อง ความสำคัญของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุกับการศึกษาของเยาวชน โดยนายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย
- บรรยายเรื่อง ประวัติศาสตร์จังหวัดสุรินทร์ โดยอาจารย์กฤษฎา พิณศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
- เสวนาเรื่อง คุณค่าของมรดกศิลปวัฒนธรรมกับงานการศึกษา
วิทยากร
- วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์
- รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๑
- หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์
ผู้ดำเนินการเสวนา
- นางปริญญา สุขใหญ่ ภัณฑารักษ์ชำนาญการ
วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เดินทางศึกษาดูงาน
- กลุ่มปราสาทตาเมือนธม
- ปราสาทบ้านพลวง
โครงการหอสมุดแห่งชาติสู่สถานศึกษาและชุมชน ครั้งที่ ๑
ณ โรงเรียนวิเชียรมาตุ ๒ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓
การแห่เทียนเข้าพรรษา
การแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาช้านาน ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือของทางราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ตลอดจนพ่อค้า คหบดี ประชาชน มีการตกแต่งประดับประดาเทียนเข้าพรรษาด้วยขี้ผึ้งล้วนๆ บ้าง ด้วยเครื่องประดับอื่นๆ บ้าง แล้วนำขึ้นตั้งบนล้อเลื่อนหรือรถยนต์ ประกอบด้วยเครื่องสูง มีพัดโบกจามร ฉัตร และภาพเทพบุตร เทพธิดาในสวรรค์ชั้นฟ้าเหาะลงมาเพื่อประคับประคองเทียนเข้าพรรษา มีคติธรรมต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวชาดก หรือเป็นคำสอนด้วยภาพ ด้วยข้อความ และคำโฆษณาอันประทับใจผู้ได้พบเห็นและได้ฟังแทบทั้งสิ้น
ก่อนวันงานที่วัดจะมีการละเล่น มหรสพหลายประเภท ฉลองเทียนเข้าพรรษา อาทิ ภาพยนตร์ ลิเก ลำตัด เพลงโคราช ฯลฯ ๑ คืน รุ่งขึ้นวัดต่างๆ ที่จัดเทียนเข้าพรรษาเข้าขบวนแห่ ต่างก็จะนำเทียนมารวมยังจุดศูนย์กลาง คือ หน้าศาลากลางจังหวัด เมื่อพร้อมกันแล้วก็จะ ตั้งริ้วขบวนและแห่ไปตามถนนสำคัญหลายสาย ในตัวเมืองมารวมกันยังที่เดิม เพื่อรับการพิจารณาของคณะกรรมการจัดตั้งขึ้น ว่าเทียนเข้าพรรษาของวัดใดจะงดงามมีคติธรรมดี มีการตกแต่งเป็นเยี่ยมให้รับรางวัลที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ตามลำดับ เทียนเข้าพรรษาที่เข้าขบวนแห่รองๆ ไป ก็มีรางวัลพิเศษให้ มีเงิน ข้าวสาร น้ำปลา น้ำมันก๊าส ตู้ยาตำราหลวง ใบชา ธูปเทียน ไม้ขีดไฟ และเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ เป็นต้น เสร็จแล้ว ก็จะแยกขบวนกลับวัดของตน ทางราชการจะได้เชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน เป็นผู้ถวายเทียนเข้าพรรษาตามวัดต่างๆ ต่อไป
พิธีแห่เทียนเข้าพรรษาจัดเป็นประเพณีใหญ่และขึ้นหน้าขึ้นตาของจังหวัดนี้ ในวันนั้นพุทธศาสนิกชนชาวนครราชสีมาทั้งเด็ก หนุ่มสาว และผู้ใหญ่ จำนวนหลายหมื่นคนจากทุกทิศทุกทาง แต่งกายโอ่อ่ามาชมขบวนแห่ ประเพณีการแห่แหนที่ว่านี้ เป็นการส่งเสริมศีลธรรมและวัฒนธรรมไปในตัวด้วย
อนึ่งแต่กาลก่อน ทางราชการได้จัดอย่างมโหฬาร มีนำช้าง ม้า ของขบวน ทั้งจัดให้มีการล่อช้าง ล่อม้า ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดด้วย ดังนั้นในบางปีบริเวณสนามจังหวัดจะคับแคบไป ทางราชการจึงจัดให้มีการฉลองเทียนเข้าพรรษาประจำปี ณ สนามหนองบัวหน้ากองบัญชาการทหารบกนครราชสีมาก็เคยทำ
จากหนังสือ จังหวัดนครราชสีมา (จัดพิมพ์ปี พ.ศ.๒๕๐๓)
รายงานการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐอิตาลี
๑. ชื่อโครงการ การประชุมสมัยสามัญของศูนย์ระหว่างชาติว่าด้วยการศึกษา อนุรักษ์ และการบูรณปฏิสังขรณ์มรดกทางวัฒนธรรม (General Assembly of International Centre for the Study of the Preservation and Restoration of Cultural Property : ICCROM) ครั้งที่ ๒๘
๒. วัตถุประสงค์
เพื่อประชุมสมัยสามัญประจำปีตามระเบียบวาระการประชุมที่กำหนด และเลือกตั้งสมาชิกสภา ICCROM
๓. กำหนดเวลา ระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
๔. สถานที่ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี
๔. หน่วยผู้จัด ศูนย์ระหว่างชาติว่าด้วยการศึกษา อนุรักษ์ และการบูรณปฏิสังขรณ์มรดกทางวัฒนธรรม(ICCROM)
๖. กิจกรรม ประชุมสมัยสามัญประจำปีตามระเบียบวาระการประชุมที่กำหนด
๗. ผู้เข้าร่วม
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสมาชิก จำนวน ๘๙ ประเทศ ได้แก่
๑. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย
๒. สาธารณรัฐแองโกลา
๓. สาธารณรัฐอาร์เจนตินา
๔. สาธารณรัฐอาร์เมเนีย
๕. ประเทศออสเตรเลีย
๖. สาธารณรัฐออสเตรีย
๗. สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน
๘. ราชอาณาจักรบาห์เรน
๙. สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ
๑๐ ราชอาณาจักรเบลเยียม
๑๑. ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
๑๒. สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
๑๓. ประเทศบรูไนดารุสซาลาม
๑๔. สาธารณรัฐบัลแกเรีย
๑๕. สาธารณรัฐแคเมอรูน
๑๖. ประเทศแคนาดา
๑๗. สาธารณรัฐชาด
๑๘. สาธารณรัฐชิลี
๑๙. สาธารณรัฐประชาชนจีน
๒๐. สาธารณรัฐโคลอมเบีย
๒๑. สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (ไอวอรี่โคสต์)
๒๒. สาธารณรัฐโครเอเชีย
๒๓. สาธารณรัฐไซปรัส
๒๔. สาธารณรัฐเช็ก
๒๕. ราชอาณาจักรเดนมาร์ก
๒๖. สาธารณรัฐโดมินิกัน
๒๗. สาธารณรัฐเอกวาดอร์
๒๘. สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์
๒๙. สาธารณรัฐเอสโตเนีย
๓๐. สาธารณรัฐฟินแลนด์
๓๑. สาธารณรัฐฝรั่งเศส
๓๒. สหพันธรัฐรัสเซีย
๓๓. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
๓๔. สาธารณรัฐกานา
๓๕. สาธารณรัฐเฮลเลนิก (กรีซ)
๓๖. สาธารณรัฐกัวเตมาลา
๓๗. สาธารณรัฐเฮติ
๓๘. สาธารณรัฐอินเดีย
๓๙. สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
๔๐. สาธารณรัฐอิรัก
๔๑. ประเทศไอร์แลนด์
๔๒. รัฐอิสราเอล
๔๓. สาธารณรัฐอิตาลี
๔๔. ประเทศญี่ปุ่น
๔๕. ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน
๔๖. สาธารณรัฐเคนยา
๔๗. สาธารณรัฐลัตเวีย
๔๘. สาธารณรัฐเลบานอน
๔๙. ราชอาณาจักรเลโซโท
๕๐. สาธารณรัฐลิทัวเนีย
๕๑. ราชรัฐลักเซมเบิร์ก
๕๒. สาธารณรัฐมัลดีฟส์
๕๓. สาธารณรัฐมอลตา
๕๔. สหรัฐเม็กซิโก
๕๕. ราชรัฐโมนาโก
๕๖. ราชอาณาจักรโมร็อกโก
๕๗. สาธารณรัฐโมซัมบิก
๕๘. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่าร์
๕๙. ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
๖๐. ราชอาณาจักรนอร์เวย์
๖๑. รัฐสุลต่านโอมาน
๖๒. สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
๖๓. สาธารณรัฐปารากวัย
๖๔. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
๖๕. สาธารณรัฐโปแลนด์
๖๖. สาธารณรัฐโปรตุเกส
๖๗. รัฐกาตาร์
๖๘. สาธารณรัฐเกาหลี
๖๙. สาธารณรัฐรวันดา
๗๐. ประเทศซาอุดีอาระเบีย
๗๑. สาธารณรัฐสโลวัก
๗๒. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
๗๓. ราชอาณาจักรสเปน
๗๔. สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
๗๕. สาธารณรัฐซูดาน
๗๖. ราชอาณาจักรสวีเดน
๗๗. สมาพันธรัฐสวิส (สวิตเซอร์แลนด์)
๗๘. ประเทศไทย
๗๙. สาธารณรัฐมาซิโดเนีย
๘๐. สาธารณรัฐตูนิเซีย
๘๑. สาธารณรัฐตุรกี
๘๒. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
๘๓. สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ
๘๔. สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย
๘๕. สหรัฐอเมริกา
๘๖. สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา
๘๗. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
๘๘. สาธารณรัฐเยเมน
๘๙. สาธารณรัฐซิมบับเว
ประเทศผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้เป็นสมาชิก
๑. นครรัฐวาติกัน
๒. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
๓. ประเทศยูเครน
องค์กรเครือข่าย
๑. Academia Istropolitana Nova (AIN0VA)
๒. American University in Rome
๓. Associazione Herculaneum
๔. Centro Universitario Europeo per i Beni Culturali
๕. Commissione Nazionale Italiana Per L’UNESCO
๖. Consiglio Nazionzle delle Ricerche, Institute for the Conservation and Enhancement of Cultural Heritage
๗. Council of Europe
๘. Cultural Heritage protection Cooperation Office Asia/Pacific Cultural Center for UNESCO – Accu Nara Office
๙. Deutsches Archäologisches Institut – Abt. Rom
๑๐. European Confederation of Conservator-restorers’ Organizations - ECCO
๑๑. Herity Italy and Herity International
๑๒. International Committee for the Conservation of Mosaics (ICCM)
๑๓. Icomos Italia
๑๔. Icomos Serbia
๑๕. Italian Geographical Society
๑๖. Kunsthistorisches Institut der Universität Bonn
๑๗. La Sapienza University
๑๘. Musei Vaticani
๑๙. OECD
๒๐. Organization of World Heritage Cities
๒๑. Romualdo Del Bianco Foundation – Life Beyond Tourism
๒๒. Trust for African Rock Art (TARA)
๒๓. UNESCO
๒๔. UNESCO Regional Office for Science and Culture in Europe
๒๕. University of Montreal
๒๖. University of Nova Gorica, Economic and Techniques for the Conservation of the Architectural and Environmental Heritage
๒๗. World Association for the Protection of Tangible and Intangible Cultural Heritage in Times of Armed Conflict (Watch)
๘. สรุปสาระของกิจกรรม
การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยวาระการประชุม ๒๘ วาระ ดังนี้
ระเบียบวาระที่ ๑ การเปิดประชุมอย่างเป็นทางการ
ระเบียบวาระที่ ๒ การรับรองผู้สังเกตการณ์ (Acceptance of the Observers)
ระเบียบวาระที่ ๓ การต้อนรับประเทศสมาชิกใหม่ (Welcome to New Member States)
ระเบียบวาระที่ ๔ การเลือกตั้งประธานและรองประธาน สำหรับการประชุมสมัยสามัญของ ICCROM ครั้งที่ ๒๘ (Election of the President and three Vice- Presidents for the XXVIII Session of the General Assembly)
ระเบียบวาระที่ ๕ การเลือกตั้งคณะกรรมการในการประชุม (Election of the Committees)
ระเบียบวาระที่ ๖ การรับรองระเบียบวาระการประชุมชั่วคราว
(Adoption of the Provisional Agenda)
ระเบียบวาระที่ ๗ การมอบรางวัล ICCROM Award
ระเบียบวาระที่ ๘ ถ้อยแถลงและการแสดงความเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมและผู้สังเกตการณ์ใน ประเด็นทั่วไป (Statements and interventions of Delegates and Observers on general issues)
ระเบียบวาระที่ ๙ รายงานของคณะกรรมการตรวจตราสารแต่งตั้ง
(Report of the Credentials Committee)
ระเบียบวาระที่ ๑๐ รายงาน เรื่อง การค้างชำระค่าบำรุงของประเทศสมาชิก
(Report of ICCROM Member States in Arrears with Contributions)
ระเบียบวาระที่ ๑๑ รับรองรายงานการประชุมสมัยสามัญ ICCROM ครั้งที่ ๒๗ (Adoption of the Minutes of the XXVII Session of the General Assembly)
ระเบียบวาระที่ ๑๒ รายงานจากสภา ICCROM (Report of the ICCROM Council)
ระเบียบวาระที่ ๑๓ รายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภา ICCROM
(Report of the Committee on Candidatures for the Council)
ระเบียบวาระที่ ๑๔ การนำเสนอผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ICCROM
(Presentation of Candidates for Council)
ระเบียบวาระที่ ๑๕ รายงานสถานการณ์ปัจจุบันด้านที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของ ICCROM
(Report on current situation of ICCROM’s new premises)
ระเบียบวาระที่ ๑๖ การไว้อาลัย (In Memoriam)
ระเบียบวาระที่ ๑๗ รายงานโครงการดำเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖
(Report on Implementation of the Programme 2012-2013)
ระเบียบวาระที่ ๑๘ ต่อเนื่องจากระเบียบวาระที่ ๑๗ และรับรองรายงานการดำเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖ (Item 17 continued and Adoption of the Report on Implementation of the Programme 2012-2013)
ระเบียบวาระที่ ๑๙ และ ๒๐ พิจารณาโครงการและงบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ (Provisional Programme and Budget 2014-2015 and Approval by the General Assembly)
ระเบียบวาระที่ ๒๑ พิจารณาร่างการแก้ไขกฎ ICCROM
(Proposed Amendments to the ICCROM Statutes)
ระเบียบวาระที่ ๒๒ การเลือกตั้งสมาชิกใหม่ของสภา ICCROM
(Election: New Members of Council)
ระเบียบวาระที่ ๒๓ และ ๒๔ ถ้อยแถลงและการแสดงความเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมและผู้สังเกตการณ์ (Statements of Delegates and Observers)
ระเบียบวาระที่ ๒๕ ผลการเลือกตั้งสมาชิกใหม่ของสภา ICCROM
(Results of the Election: New Members of Council)
ระเบียบวาระที่ ๒๖ การเลือกตั้งผู้แทน ICCROM เป็นคณะทำงานด้านเงินสงเคราะห์ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (Election of ICCROM representatives to the United Nations Joint Staff Pension Fund)
ระเบียบวาระที่ ๒๗ เรื่องอื่น ๆ (Other Business)
ระเบียบวาระที่ ๒๘ การรับรองรายงานการพิจารณาตามวาระต่าง ๆ ของการประชุมสมัยสามัญ ICCROM ครั้งที่ ๒๘ (Adoption of the Report Setting Forth the Decisions of the XXVIII Session of the General Assembly)
นอกจากการประชุมตามวาระการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้รับเชิญเข้าร่วมฟังการบรรยายพิเศษ เรื่อง ICCROM-ATHAR Regional Centre for the Protection of Cultural Heritage in the Arab States ณ Egyptian Academy in Rome ในวันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๓๐ น. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่าง Egyptian Academy และ ICCROM การบรรยายพิเศษดังกล่าวเป็นการแนะนำให้รู้จักศูนย์ ICCROM-ATHAR Regional Centre for the Protection of Cultural Heritage in the Arab States ที่ได้ดำเนินการก่อตั้งขึ้นที่รัฐชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงกิจกรรมของศูนย์แห่งนี้ที่ได้ดำเนินการแล้ว ซึ่งนำเสนอโดย Dr. Zaki Aslan
๙. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
การประชุมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้รู้จัก ICCROM ดีขึ้น ได้รับทราบองค์ประกอบของศูนย์ ICCROM กิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของ ICCROM ตลอดจนแนวคิดในการดูแลรักษาและอนุรักษ์โบราณสถาน และประเด็นสำคัญที่วงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมกำลังให้ความสำคัญ เช่น การบริหารความเสี่ยงที่มีต่อโบราณสถานอันเกิดจากภัยธรรมชาติและภัยสงคราม การป้องกันและการรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหนืออย่างรวดเร็วภายหลังจากการเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ยังเห็นความตั้งใจของ ICCROM ที่พยายามอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมทั้งประเภทที่จับต้องได้ (Tangible Heritage) และประเภทที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Heritage) โดยให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย ภายใต้แนวคิดวัฒนธรรมของชุมชนและเพื่อชุมชน ดังนั้น จึงควรจัดส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้เรียนรู้การทำงานของ ICCROM และมีประสบการณ์ในการประชุมระดับนานาชาติ
(นายสถาพร เที่ยงธรรม)
นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ
.................................................
(นายศิริชัย หวังเจริญตระกูล)
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์
ผู้จัดทำรายงานการเดินทาง
***บรรณานุกรม***
กรมศิลปากร
พระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดอนเจดีย์แจกเป็นการอนุสรณ์ เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพพลอากาศโทพระยาเฉลิมอากาศ (สุณี สุวรรณประทีป) ณ วัดพระศรีมหาธาตุ วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พุทธศักราช2499
พระนคร
โรงพิมพ์บัญชรการพิมพ์
2499
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง ธรรมเทศนา กลอน กวีนิพนธ์ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 26 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยหัวเรื่อง นิพพานประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 72 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 58 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากพระครูวิมลสังวร วัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี
เลขทะเบียน : นพ.บ.36/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 56 หน้า ; 4.5 x 54 ซ.ม. : รักทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 20 (205-216) ผูก 11หัวเรื่อง : สมนฺตปาสาทิกา--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม