ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ จัดโครงการ "เที่ยวพิพิธภัณฑ์วันเสาร์และวันอาทิตย์" เพื่อส่งเสริมให้สถาบันครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรมและสร้างความสัมพันธ์อันดี มีกิจกรรมให้สมาชิกในครอบครัวร่วมสนุกประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ "ร้อยลูกปัดและระบายสีภาพ" นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดสุรินทร์ให้ศึกษาหาความรู้ ซึ่งเป็นการปลูกฝังสิ่งที่ดีงามของจังหวัดสุรินทร์แก่เยาวชนรู้รักถิ่นกำเนิดของตนเอง
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการ ไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “เพลงสาธุการ” วิทยากรโดย นายพนมบุตร จันทรโชติ รองอธิบดีกรมศิลปากร และ นายบุญเตือน ศรีวรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอักษรศาสตร์ (ภาษาและวรรณกรรม) ดำเนินรายการโดย นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๒.๓๐ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
วันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ๑ ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดระยอง โดยวันนี้เยี่ยมชมการพัฒนาศักยภาพแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พร้อมตรวจพื้นที่โบราณสถาน (โบสถ์เก่า) ณ วัดลุ่มมหาชัยชุมพล โดยมีนายสตวัน ฮ่มซ้าย รองอธิบดีกรมศิลปากร นางสาววัชราวดี วิเชียรศรี ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี ให้การต้อนรับ รายงานการพัฒนาพื้นที่โบราณสถานและแผนการพัฒนาโบราณสถานในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ๑ โบราณสถานวัดลุ่มมหาชัยชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีพระอุโบสถ (หลังเก่า) ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็ก ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้ลดชั้น ๒ ชั้น มุงกระเบื้องดินเผาสีซ้อนกันชั้นละ ๒ ตับ เครื่องลำยอง ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ไม้แกะสลัก หน้าบันปูนปั้นทาสีอิทธิพลศิลปะจีน ด้าน หน้าเป็นรูปมังกรตกแต่งด้วยลายพรรณพฤกษา ด้านหลังเป็นรูปหงส์ตกแต่งด้วยลายพรรณพฤกษา และภาพสัตว์ขนาดเล็ก ผนังพระอุโบสถก่ออิฐถือปูนมีบัวลูกแก้วรองรับ ผนังด้านหน้ามีช่องประตูตรงกึ่งกลาง ๑ ประตู ด้านหลังก่อทึบ ด้านข้างมีช่องหน้าต่างด้านละ ๕ บาน ซุ้มหน้าต่างแบบซุ้มหน้านางตกแต่งด้วยลายใบเทศตรงกึ่งกลางเป็นรูปครุฑยุดนาค บานประตูและหน้าต่างเป็นไม้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัยศิลปะรัตนโกสินทร์ กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะฯ ล่าสุดเมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๖๐
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา ดำเนินงานโครงการเครือข่ายรักการอ่าน รักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรม ปี 2563
ณ โรงเรียนบ้านจอหอ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2563มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับมรดกศิลปวัฒนธรรมให้กับนักเรียนในโรงเรียนใกล้เคียงโบราณสถาน โดยปีงบประมาณ 2563 ให้ความรู้เกี่ยวกับ ปราสาทพนมวัน มีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการ และหนังสือประกอบนิทรรศการ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ทั้งนี้ มีความมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เห็นคุณค่าความสำคัญของปราสาทพนมวัน เกิดความรัก หวงแหน มีความภาคภูมิใจ และเกิดจิตสำนึก ที่จะร่วมกันอนุรักษ์สืบต่อไป
รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตระหนักในคุณค่าความสำคัญของโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ จึงมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๑๔๓/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุ ของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยได้มอบหมายให้ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการติดตามโบราณวัตถุของไทยกลับคืนสู่ประเทศอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ติดต่อประสานงานอย่างเป็นทางการ ผ่านกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือติดตามโบราณวัตถุถึงสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations) สหรัฐอเมริกา และส่งข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการสำรวจของกรมศิลปากร ตัวอย่างเอกสารอนุญาตในการส่งออกโบราณวัตถุ เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าโบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและได้ถูกลักลอบนำออกไปโดย วิธีการที่ผิดกฎหมาย นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ได้รับแจ้งข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานในปัจจุบันซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดี โบราณวัตถุชุดแรกที่ดำเนินการติดตาม ได้แก่ ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว และ ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา และทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ยอมรับว่าทับหลังทั้ง ๒ รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายไทย ปัจจุบันได้นำทับหลัง ๒ ชิ้นดังกล่าวออกจากห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาจัดเก็บในห้องคลัง เพื่อรอขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในกระบวนการส่งคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง คาดการณ์ว่ากระบวนการทางกฎหมายจะแล้วเสร็จราวเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ กรมศิลปากรจึงได้รายงานความคืบหน้านี้ถึง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรม เพื่อรายงานถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อทราบแล้ว ทั้งนี้ หากกรมศิลปากรได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเรื่องการส่งคืนโบราณวัตถุอย่างเป็นทางการแล้ว จะเร่งนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อรายงานถึงนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการต่อไป ภาพถ่ายโบราณวัตถุที่ถูกอายัดไว้ในห้องคลังของพิพิธภัณฑ์เอเชี่ยน อาร์ต มิวเซียม ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์------------------------------------------------
โบราณวัตถุจัดแสดง นิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ เรื่อง ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ ระหว่างวันที่ ๑๙ สิงหาคม - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ---------------------------------------๑. พระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ปั้นหุ่นต้นแบบรูปนี้เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๖ และเก็บรักษาไว้ที่ ตำหนักปลายเนิน ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๔๙ กรมศิลปากรได้ขออนุญาตหล่อพระรูปจากหุ่นต้นแบบนั้น และนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ในอดีตคนไทยไม่นิยมสร้างรูปเหมือนบุคคลที่ยังมีชีวิตเพราะจะทำให้อายุสั้น แต่สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ทรงเป็นพระราชวงศ์องค์แรกที่ยอมรับแนวคิดแบบตะวันตก และยินดีให้ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ปั้นหุ่นพระองค์เป็นต้นแบบ นับเป็นจุดเปลี่ยนแนวคิดในการสร้างงานประติมากรรมรูปเหมือนบุคคลจริงของสังคมไทย ทำให้เกิดการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบรมรูป พระรูปอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา ๒. โต๊ะทรงพระอักษร โต๊ะสำหรับทรงพระอักษรของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมเครื่องเขียนและของใช้ส่วนพระองค์ และที่สำคัญบนโต๊ะยังมีร่างจดหมายฉบับสุดท้ายที่ทรงถึงสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และปฏิทินที่ระบุหน้าสุดท้ายที่ทรงใช้คือวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๘๖ ก่อนจะสิ้นพระชนม์ ๓. ลับแลอิเหนา ลับแล คือเครื่องกั้นใช้สำหรับบังสายตา กั้นห้อง แบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ลับแลบานนี้มีความ พิเศษสองประการคือ การตกแต่งด้วยการเขียนลายกำมะลอ ซึ่งนอกจากจะปิดทองคำเปลวแล้ว ยังมีการผสมสีฝุ่นกับน้ำรัก ระบายให้มีสีสันบนพื้นผิวด้วย สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงสันนิษฐานว่าวิธีการเขียนลายแบบนี้ได้มาจากช่างจีนที่อยู่ในประเทศไทย และช่างไทยได้นำมาดัดแปลงเขียนลงบนตู้พระธรรม หีบพระธรรมต่าง ๆ ความพิเศษอีกประการหนึ่งคือ เรื่องราวที่นำมาเขียนเป็นเรื่องอิเหนา มิใช่เรื่องรามเกียรติ์ ชาดกหรือพุทธประวัติตามที่ได้เห็นในงานจิตรกรรมทั่วไป๔. สมุดภาพตำรารำ รัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ จัดทำ“ตำราภาพรำ” โดยรวบรวมท่าฟ้อนรำที่สืบมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ๓๖ ท่า ให้จิตรกรเขียนภาพลงบน สมุดไทยขาว นับเป็นตำราท่ารำเก่าแก่ที่ใช้เป็นต้นแบบของการแสดงนาฏศิลป์ของไทย ในสมัยรัชกาลพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรียบเรียงข้อมูลหนังสือ “ตำราฟ้อนรำ” ขึ้นใหม่ให้มีความสมบูรณ์ โดยใช้สมุดภาพตำรารำ รัชกาลที่ ๑ เป็นต้นแบบ ๕. โครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณคดีบ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี มีอายุราว ๓,๕๐๐ – ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว โครงกระดูกมนุษย์ที่พบจากแหล่งโบราณคดีนี้ นอกจากจะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าในบริเวณจังหวัดกาญจนบุรีมีมนุษย์อยู่อาศัยมาเมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกให้เห็นภาวะพยาธิวิทยาหรือโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้ โดยสังเกตจากสภาพฟันผุ สึกกร่อน ที่อาจเกิดจากการกินของเปรี้ยวหรือการฝนขัดฟัน และกะโหลกศีรษะที่หนาผิดปกติซึ่งแสดงถึงภาวะโรคโลหิตจาง เป็นต้น ๖. ศิลาจารึกวัดพระงาม การค้นพบศิลาจารึกเสมือนการได้ย้อนกลับไปในโลกอดีตในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างชัดเจน การ ขุดพบศิลาจารึกจากเนินสถูปวัดพระงาม จังหวัดนครปฐม เมื่อพุทธศักราช ๒๕๖๒ ก็เช่นเดียวกัน จารึกหลักนี้ จารด้วยอักษรตัวอักษรแบบปัลลวะ ภาษาสันสกฤต ที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างงดงาม เนื้อความกล่าวถึงการสรรเสริญ พระราชา เมืองทวารวดี และการอุทิศสิ่งของถวายเทพเจ้า ในการศึกษาโบราณคดีและประวัติศาสตร์อาจกล่าวได้ว่าจารึกหลักนี้เป็นอีกหลักฐานสำคัญที่สนับสนุนแนวคิดเรื่องการมีอยู่ของ “ทวารวดี” เมืองในยุคสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ในดินแดนไทย เมื่อกว่า ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว ๗. พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและโพธิญาณตามคติพุทธศาสนามหายาน พระองค์จะโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นสังสารวัฏก่อนแล้วจึงจะเสด็จสู่นิพพานเป็นองค์สุดท้าย สมเด็จฯ กรม พระยา ดำรงราชานุภาพ ทรงพบรูปพระโพธิสัตว์องค์นี้ขณะเสด็จตรวจราชการทางภาคใต้บริเวณวัดพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีในปัจจุบัน แม้ว่าประติมากรรมชิ้นนี้จะชำรุดแต่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดชิ้นหนึ่งในสยามประเทศ ๘. ตุ่มสุโขทัย เป็นชื่อที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงใช้เรียกตุ่มขนาดใหญ่ ไม่มีน้ำเคลือบ ซึ่งขุด พบจากเตาบ้านเกาะน้อย จังหวัดสุโขทัย ปัจจุบันพบว่าตุ่มขนาดใหญ่แบบเดียวกับกันนี้มีแหล่งผลิตอยู่ที่เตา แม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี ด้วย แตกต่างกันตรงที่ตุ่มแบบหลังจะเคลือบสีน้ำตาล สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชา นุภาพ ทรงระบุไว้ในจดหมายเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๔๗๘ ว่าในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสำหรับพระนคร มี “ตุ่มสุโขทัย” อยู่หลายใบ ๙. ตู้พระธรรมลายรดน้ำบานกระจก รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ กระแสวัฒนธรรมตะวันตก แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ตู้กระจกแบบใหม่และการเข้ามาของสมุดฝรั่งมีมากขึ้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรง ราชานุภาพ จึงทรงรวมรวมตู้พระธรรมโบราณจากวัดต่าง ๆ มาเก็บไว้ในหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนครและทรงดัดแปลง ฝาหลังตู้ซึ่งไม่มีลวดลายประดับเป็นบานกระจก สำหรับใส่หนังสือเพื่อไม่ให้ลายทองด้านหน้า ลบเลือนจากการเปิดปิดตู้ ๑๐. ต้นฉบับภาพร่างพัดบรมราชาภิเษก ๒๔๖๘ ภาพเขียนสีน้ำบนกระดาษเป็นต้นแบบสำหรับปักพัดรองที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พุทธศักราช ๒๔๖๘ ฝีพระหัตถ์การออกแบบของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ดังจะเห็นได้จากตราประจำพระองค์ “น ในดวงใจ”ที่ทรงซ่อนไว้ในชิ้นงาน คำว่า “เดชน์” ในพระบรมนามาภิไธย “ประชาธิปกศักดิเดชน์” แปลว่า “ลูกศร” รูปพระแสงศร ๓ องค์ หมายถึง ราชศาสตราวุธของพระราม ได้แก่ พระแสงพรหมมาสตร์ พระแสงศรประลัยวาด และพระแสงอัคนีวาต
กรมศิลปากรจัดเสวนาประกอบนิทรรศการ “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ" จัดนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ เรื่อง “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” ระหว่างวันที่ ๑๙ สิงหาคม - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จึงได้จัดกิจกรรมประกอบนิทรรศการฯ เพื่อสร้างการรับรู้เรื่องราวเพิ่มเติมจากนิทรรศการฯ ส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน และเสริมสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยมีการจัดเสวนาประกอบนิทรรศการฯ ในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ และวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๓ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน จำนวน ๕ ครั้ง ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๗ กันยายน ๒๕๖๓
“สาส์นสมเด็จ” คือ หนังสือที่รวบรวมจดหมายส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๗ - ๒๔๘๖ เนื้อหาในจดหมายสะท้อนเรื่องราวที่ทั้งสองพระองค์ทรง สนพระทัยและเกร็ดความรู้ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี พิพิธภัณฑสถาน วรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีและนาฏศิลป์ กรมศิลปากรได้ประมวลและถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงผลงานของทั้งสองพระองค์ที่ปรากฏในหนังสือ “สาสน์สมเด็จ” มานำเสนอในนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ เรื่อง “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ ๑๙ สิงหาคม จนถึงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.(ปิดวันจันทร์ - อังคาร และวันหยุด นักขัตฤกษ์) ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น ๒ กระทรวงวัฒนธรรม นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมแสดงความยินดีในงาน “วันศาสนูปถัมภ์” พุทธศักราช ๒๕๖๓ โดยมี นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม อดีตผู้บริหารกรมการศาสนา และเครือข่ายด้านศาสนา เข้าร่วมงานด้วย
วันอังคารที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๗.๒๔ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ แล้วทรงพระดำเนินไปยังพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ทรงเปิดนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๓ เรื่อง “ศิลปวิทยาการจากสาส์นสมเด็จ” และพระราชทานเข็มเกียรติคุณวันอนุรักษ์มรดกไทยแก่ผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นและผู้สนับสนุนการดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยมี ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร เฝ้าฯ รับเสด็จ