ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
วันที่ 8-9 กันยายน 2565 นางชลิตา อาภาทิพยานุกุล บรรณารักษ์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา นางสมใจ มุมทอง เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน และนางอุษา ลีลามโนธรรม เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน เข้าร่วมโครงการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท หลักสูตร “การเสริมสร้างวัฒนธรรม ค่านิยมสุจริต การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม การต่อต้านการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อนในหน่วยงานและชุมชน” ต่อสังคมในสถานการณ์ใหม่ New normal ณ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา และห้องประชุมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
บรรณานุกรมรายชื่อหนังสือใหม่ห้องหนังสือทั่วไป
ประจำเดือน กรกฎาคม 2565
หมวด 000 เบ็ดเตล็ด
เดชฤทธิ์ มณีธรรม. คัมภีร์การใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ PIC. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ด
ยูเคชั่น, 2559. ( 004.64 ด837ค )
หมวด 300 สังคมศาสตร์
ชัชวนันท์ สันธิเดช. ลงทุนอย่างไร VI ในตลาดไซด์เวยส์. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น,
2559. ( 332.6322 ช357ล )
อรุณ ภาณุพงศ์. การทูตและการระหว่างประเทศ. กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษาการ
ต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, 2564. ( 327.2 อ411ก )
800 วรรณคดี
กรรัมภา. กบฏรักแห่งหัวใจ. กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊คส์, 2558. ( 895.913 ก181ก )
กลิ่นเอื้อง. พิรุณพร่ำรัก. กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊คส์, 2557. ( 895.913 ก315พ )
เกศวริน. ปฏิบัติการดอลลาร์ท้ารัก. กรุงเทพฯ: กรีนมายด์, ม.ป.ป.
( 895.913 ก773ป )
ญาณนันท์. กับดักรักบ่วงมาร. นนทบุรี: ดอกหญ้า2000, 2555. ( 895.913 ญ212ก )
คีตา. โอบพสุธาด้วยรัก. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2557. ( 895.913 ค472อ )
ติญญา. หัวใจซ่อนกล. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 ต389ห )
ทักษิณา. อริรัก...เคียงจันทร์. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2557. ( 895.913 ท339อ )
ธุวดารา. เกี่ยวใจข้ามค่ายรัก. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 ธ739ก )
นานาสเป็ค. ปลายฝนต้นรัก. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 น468ป )
นาวาร้อยกวี. จนกว่ารักบันดาลใจ. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 น494จ )
ปักษา. ภารกิจทวงสิทธิ์หัวใจ. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 ป519ภ )
ปัณณรี. ซุปตาร์...วิวาห์กำมะลอ. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ, 2555. ( 895.913 ป525ซ )
ไปรยา. สลักรักกามเทพ. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ, 2558. ( 895.913 ป964ส )
ฝันหวาน. ปรารถนาอาญามาร. นนทบุรี: ดอกหญ้า2000, 2555.
( 895.913 ฝ151ป )
เพฑูรย์. ร้อนรักที่พักใจ. นนทบุรี: ดอกหญ้า2000, 2555. ( 895.913 ญ212ก )
เพลงใบไม้. เจ้าสาวแก้ขัด. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ, 2552. ( 895.913 พ919จ )
ไพลินภัทร. กลิ่นแก้วทวิกาล. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ, 2558. ( 895.913 พ994ก )
มารีอา. ล่าหัวใจสุดปลายฟ้า. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 ม479ล )
มีนามาลิน. บุหงาแต่งงาน. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2557. ( 895.913 ม598บ )
โมริสา. ดอกไม้ในมือมาร ตอน มารร้ายร่ายรัก. นนทบุรี: ดอกหญ้า, 2555.
( 895.913 ม946ด )
รักแรก. Cut ! รักนี้หัวใจไม่มีเทก. กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊คส์, 2555.
( 895.913 ร288ค )
ลาล่า. มารยาสิเนหา. นนทบุรี: ดอกหญ้า2000, 2555. ( 895.913 ล275ม )
สิตางคุ์. กลใจพรางรัก. กรุงเทพฯ: อินเลิฟ พับลิชชิ่ง คอร์เปอร์เรชั่น, 2557.
( 895.913 ส718ก )
อริสา ฮายาชิ. The garden of evil กุหลาบนิรันดร์. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555.
( 895.913 อ398ด )
อันนาบี. เกมรักพรหมลิขิต. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 อ543ก )
อัยย์เนญ่า. วิกฤตรักนักวางแผน. กรุงเทพฯ: อรุณ, 2555. ( 895.913 อ569ว )
***************************************************************************************
นิทรรศการและอีเวนท์ที่จัดขึ้นในไทย เพื่อให้ทุกท่านสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดซากะ (Saga) ตั้งแต่วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พบกับนิทรรศการจัดแสดงเซรามิกของไทยและญี่ปุ่น ในหัวข้อ ”เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” และยังมีอีเวนท์ที่เกี่ยวข้อง “งานประชาสัมพันธ์จังหวัดซากะ TRIP to SAGA”
ขอเชิญทุกท่านมาตามรอยประวัติศาสตร์เครื่องเคลือบอาริตะยากิ (Arita-yaki) ที่ผลิตในเมืองอาริตะจังหวัดซากะ ผ่านงานนิทรรศการ และสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยว อาหาร และหัตถกรรมดั้งเดิมของจังหวัดซากะ ผ่านอีเวนท์ประชาสัมพันธ์ของจังหวัดภายในงาน
ภาพรวมงานนิทรรศการ
นิทรรศการพิเศษของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เรื่อง ”เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก”
ระยะเวลาจัดงาน:ระหว่างวันพุธที่ 14 กันยายน – วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565
สถานที่จัดงาน: ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ภาพรวมงานอีเวนท์ที่เกี่ยวข้อง
“งานประชาสัมพันธ์จังหวัดซากะ TRIP to SAGA”
วันและเวลาจัดงาน:ระหว่างวันพุธที่ 14 กันยายน - วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 เวลา 10:00-16:00 น.
สถานที่จัดงาน:ณ ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (เข้าร่วมกิจกรรมฟรี!)
กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ
- การแสดงบนเวที การบรรเลงเครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่น “ซัตสึมะบิวะ” และ “ขลุ่ย”
จำนวนรอบแสดง: วันละ 2 รอบ (เริ่ม 11:00 น. และ 13:00 น.)
- เวิร์กชอปเกี่ยวกับเครื่องเคลือบอาริตะยากิ
1. กิจกรรมลงสีจาน
ใช้เวลาในการร่วมกิจกรรม: ประมาณ 120 นาที
จำนวนผู้ร่วมกิจกรรม:20 ท่านแรกต่อวัน
จำนวนรอบ:วันละ 1 รอบ(12:00-14:00 น.)
* เข้าร่วมกิจกรรมฟรี แต่ต้องแสดงบัตรเข้าชมนิทรรศการ
* จานที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงสีแล้วจะถูกนำไปอบให้สีอยู่ตัว และจัดส่งทางไปรษณีย์ประมาณ 1 สัปดาห์
2. การทำเครื่องประดับจากเศษกระเบื้อง
ใช้เวลาในการร่วมกิจกรรม:15 นาที
จำนวนผู้ร่วมกิจกรรม:60 ท่านแรกต่อวัน
* เข้าร่วมกิจกรรมฟรี แต่ต้องแสดงบัตรเข้าชมนิทรรศการ
- และยังมีจำหน่ายเครื่องเคลือบอาริตะยากิ พร้อมทั้งลองชิมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัดซากะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/.../2022/pdf/PR_trip_to_SAGA_2022.pdf
#佐賀県有田焼展覧会バンコク国立博物館
#SagaAritaThaiceramicexhibitionBangkokNationalmuseum
#นิทรรศการไทยญี่ปุ่นเซรมิกอาริตะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดและแถลงข่าวโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร กิจกรรมสำรวจ อนุรักษ์ ลงทะเบียน จัดเก็บเอกสารโบราณ และกิจกรรมกรมศิลป์ร่วมมือคณะสงฆ์ร่วมใจ อนุรักษ์ สืบสาน อ่านแปล ใบลาน ณ วัดเบญจมบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพฯ
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เอกสารโบราณเป็นองค์ความรู้ที่บรรพชนได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ประกอบด้วยเนื้อหาสาระที่หลากหลาย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ ตลอดจนสรรพวิทยาการด้านต่าง ๆ เช่น พงศาวดาร ตำราเวชศาสตร์ ตำราไสยศาสตร์ ตำราโหราศาสตร์ และวรรณคดี อีกทั้งเป็นเครื่องแสดงอัตลักษณ์ของชุมชนได้เป็นอย่างดี การดูแลรักษาเอกสารโบราณ นอกจากจะต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้อง เหมาะสมตามหลักวิชาการแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ วัดและองค์กรท้องถิ่น ตลอดจนประชาชน จำเป็นต้องเห็นคุณค่าของเอกสารโบราณ และมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา รวมเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
โครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร เป็นการดำเนินการต่อเนื่องมาจากการดำเนิน การโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดไก่เตี้ย ซึ่งเป็นวัดต้นแบบในการอนุรักษ์ที่เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างองค์กร กรมศิลปากรกับคณะสงฆ์ และประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเป็นรูปธรรม เกิดภาคีเครือข่ายจิตอาสาภาคประชาชน คณะสงฆ์ตระหนักรู้ และสอดรับนโยบายอนุรักษ์ สืบสาน มรดกภูมิปัญญาของบรรพชนจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งมีผลโดยตรงต่อการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เพราะเอกสารโบราณ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนที่เรียกว่าพระไตรปิฎก ดังนั้นองค์กรคณะสงฆ์จึงถือเป็นภาคีเครือข่ายอันดับแรกในการอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติอันสำคัญนี้
การเปิดโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร จึงเป็นก้าวต่อไปที่มั่นคงยิ่งขึ้นอันเกิดจากต้นแบบวัดไก่เตี้ยที่สามารถสร้างการรับรู้และเกิดภาคีเครือข่ายหลากหลายองค์กรดังที่กล่าวแล้ว และสิ่งที่คาดว่าจะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
๑. การทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงเอกสารโบราณได้อย่างง่ายและใช้เอกสารโบราณอย่างถูกวิธี อันเกิดจากการจัดระบบตามหลักวิชาการ และอาจให้บริการในแหล่งเอกสารโบราณได้โดยตรง เนื่องจากวัดเบญจมบพิตรมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระวิหารสมเด็จ ส.ผ.(เสาวภา ผ่องศรี) และมีศักยภาพในการเป็นคลังปัญญาของผู้คน อันเป็นการสนองพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานนามพระวิหารสมเด็จฯ ไว้แต่แรกว่า “หอพุทธสาสนสังคหะ”
๒. คาดว่า มีคัมภีร์ใบลานฉบับหลวงที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ชนชั้นสูงในราชสำนักที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งนิยมการสร้างคัมภีร์ถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ถือเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและปรารถนาพระนิพพานในอนาคตกาล ตามคติความเชื่อของผู้คนในยุคสมัย
๓. เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ชาติไทยจากเอกสารหลักฐานชั้นต้นได้อย่างตรงไปตรงมา และชัดเจนโดยลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะคัมภีร์ใบลานเป็นหลักฐานที่จารสืบต่อกันมา ถึงจะมีความคลาดเคลื่อนโดยกาลเวลา แต่เนื้อหามิได้เปลี่ยนแปลง เป็นที่คาดหวังว่าคัมภีร์ใบลานวัดเบญจมบพิตรจะเป็นคัมภีร์ที่ตกทอดมาอย่างสมบูรณ์ มีการชำรุดเสียหายเป็นส่วนน้อย เนื่องจากมีพระวิหารเป็นที่เก็บรักษาและได้รับการดูแลอยู่เนืองๆ
๔. จากการประเมินคาดว่ามีปริมาณคัมภีร์ใบลานอยู่ในพระวิหารสมเด็จ ส.ผ.(เสาวภา ผ่องศรี) ไม่ต่ำกว่า ๓๒๐ มัด มีตู้พระธรรมอยู่ ๒๙ ตู้ ส่วนที่ใส่คัมภีร์ใบลานไว้ในตู้พระธรรมมีประมาณ ๙ ตู้ ข้อมูลดังกล่าว อาจประเมินการดำเนินงานได้ว่า ปริมาณคัมภีร์ใบลานวัดเบญจมบพิตรมีมากกว่าคัมภีร์ฯ วัดไก่เตี้ย ถึง ๘ เท่า ถ้าเทียบการทำงานวัดไก่เตี้ยแล้วเสร็จ ใช้เวลา ๙ วัน ดังนั้นวัดเบญจมบพิตรจะใช้เวลาในการทำงาน คำนวณแบบคณิตศาสตร์ ต้องใช้เวลาถึง ๗๒ วัน จึงแล้วเสร็จ โดยมีกำลังพลในการทำงานเท่ากัน ทั้งนี้ยังไม่รวมอุปสรรคปัญหาหน้างาน และปัจจัยภายนอกอีกด้วย
๕. ท้ายที่สุดสร้างการรับรู้ให้ผู้คนอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ประชาชนให้ความสนใจ และมาใช้ประโยชน์จากการศึกษาค้นคว้า ต่อยอด องค์ความรู้ในเอกสารโบราณ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด คือต้องการดูต้องได้ดู ต้องการใช้ต้องได้ใช้ เพื่อความสุขใจของทุกๆ คน
การดำเนินโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร โดยกลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๕ กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย การแนะนำ สาธิตการอนุรักษ์ใบลานเบื้องต้น การอนุรักษ์ทำความสะอาดใบลาน อ่านปกใบลาน ตามหาชื่อเรื่อง ศึกษาฉบับใบลานสืบสานพวกพ้อง เปลี่ยนสายสนอง และการห่อผ้าคัมภีร์ใบลาน ซึ่งการดำเนินโครงการนอกจากจะสามารถสร้างการรับรู้และเกิดภาคีเครือข่ายหลากหลายองค์กรแล้ว ยังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากพระวิหารสมเด็จ ส.ผ. (เสาวภา ผ่องศรี) วัดเบญจมบพิตร เป็นคลังปัญญาที่เก็บคัมภีร์ใบลานและตู้พระธรรมจำนวนมาก โครงการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนเข้าถึงเอกสารโบราณได้ง่ายและใช้เอกสารโบราณอย่างถูกวิธี อันเกิดจากการจัดระบบตามหลักวิชาการ สร้างการรับรู้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ประชาชนให้ความสนใจ และมาใช้ประโยชน์จากการศึกษาค้นคว้าต่อยอดองค์ความรู้ในเอกสารโบราณได้เป็นอย่างดี
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” The Endless Epic of Japanese -Thai Ceramic Relationship in the World’s Trade and Culture โดยมีนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณอธิบดีกรมศิลปากร และ Dr. Ayako Yamamoto, Curator of the Kyushu Ceramic Museum ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเทศไทย โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น จัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมงานหัตถกรรมไทยจากวิถีพาณิชยวัฒนธรรมพื้นบ้านสู่ระดับประเทศและสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซรามิกหรือเครื่องปั้นดินเผา และฉลองวาระครบรอบ ๑๓๕ ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น โดยนำโบราณวัตถุเครื่องเคลือบเซรามิกจากพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู ประเทศญี่ปุ่น และเครื่องปั้นดินเผาของไทยจากหลากหลายแหล่ง มาจัดแสดงร่วมกัน ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๑๔ กันยายน ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เพื่อให้ชาวไทยได้รับความรู้ ความเข้าใจด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปะของญี่ปุ่นโดยเฉพาะช่วงสมัยเอโดะ และสมัยอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างญี่ปุ่นและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวถึงรายละเอียดของการจัดนิทรรศการพิเศษในครั้งนี้ว่า กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น ในการแลกเปลี่ยนกิจกรรมทางวัฒนธรรม และได้มีการเตรียมการจัดทำนิทรรศการร่วมกันกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดซากะ และพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู มาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๖๑ ปัจจุบันสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดซากะ และพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู ได้อนุญาตให้กรมศิลปากรนำโบราณวัตถุเครื่องเคลือบดินเผา (porcelain) สำคัญจากจุดกำเนิดที่เมืองอาริตะ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน ๘๒ รายการ ๙๗ ชิ้น มาจัดแสดงร่วมกับเครื่องปั้นดินเผาไทย จำนวน ๙๐ รายการ จากแหล่งโบราณคดี-ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทย และได้รับความร่วมมือนำโบราณวัตถุมาร่วมจัดแสดงจาก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการโรงเรียนถนอมบุตร และนายวราห์ โรจนวิภาต ซึ่งรังสรรค์พัฒนาสืบมาในประวัติศาสตร์จวบจนปัจจุบัน แบ่งเนื้อหาการจัดแสดงออกเป็น ๖ หัวเรื่อง คือ
๑. น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง: เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
๒. วิวัฒนาการเซรามิกแห่งสองสายใย (ญี่ปุ่น-ไทย) ในโลกพาณิชยวัฒนธรรม
๓. ภูมิปัญญาชาวแหลมทองและชาวอาทิตย์อุทัย ในดิน-น้ำ-ลม-ไฟ: “ปั้นดินทราย ฉาบไล้ด้วยน้ำ นำผึ่งลม โหมฟืนไฟในเตาเผา” บอกเล่าเรื่องราวภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่นและไทย
๔. สูงสุดแห่งภูมิปัญญา: ภาพฉายาในพาณิชยวัฒนธรรมโลก สะท้อนเรื่องราวการค้า ศิลปะและวัฒนธรรมผ่านเครื่องปั้นดินเผาญี่ปุ่นและไทยที่ไปไกลยังต่างแดน
๕. แรงบันดาลใจไม่หยุดยั้งคือพลังสร้างสรรค์ใหม่ โดยสืบทอดวัฒนธรรมและพัฒนากระบวนการผลิตสู่ความคิดใหม่
๖. สำรับคาวหวาน อาหารญี่ปุ่น – ไทย ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมอาหารควบคู่กับภาชนะ ที่มีบทบาทสำคัญมาแต่อดีต
โบราณวัตถุเครื่องปั้นดินเผาอาริตะชิ้นสำคัญจากพิพิธภัณฑสถานเซรามิกแห่งคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ที่นำมาจัดแสดง อาทิ เด็กชายจับปลาดุกด้วยน้ำเต้า ตกแต่งด้วยการเขียนสีบนเคลือบ พุทธศักราช ๒๒๑๓ – ๒๒๕๒ จานลายครามแบบคารากขนาดใหญ่เขียนลายนกฟินิกซ์และตราวีโอซี พุทธศักราช ๒๒๓๓ – ๒๒๖๒ ขวดทรงแปรงตีชาเขียนลายบนเคลือบ เป็นลายดอกโบตั๋น พุทธศักราช ๒๑๙๓ – ๒๒๐๓ สำหรับโบราณวัตถุของไทย ที่นำมาจัดแสดง อาทิ ชุดชามเบญจรงค์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ กระปุกสังคโลกสองหู พุทธศตวรรษที่ ๑๙ – ๒๑ จากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย กุณฑีสังคโลก พุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๑ ได้จากการขุดค้นที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้ร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. การบรรยายทางวิชาการ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” ณ โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) วันที่ ๑๔ – ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕ กิจกรรมจากจังหวัดซากะ ได้แก่ เวิร์คช็อป (Workshop) กิจกรรมลงสีเครื่องปั้นดินเผาอาริตะยากิ ทดลองลงสีบนจานอาริตะยากิ ผู้ร่วมกิจกรรม ๒๐ ท่านต่อวัน ซึ่งจานที่ลงสีแล้วจะนําไปเผาอบให้สีอยู่ตัวก่อนจะมอบให้ผู้ร่วมกิจกรรมต่อไป กิจกรรมทําเครื่องประดับจากเศษกระเบื้องที่เกิดจากกระบวนการเผาเครื่องปั้นดินเผาอาริตะยากิ ผู้ร่วมกิจกรรม ๖๐ ท่านต่อวัน โดยสามารถเข้าร่วมในแต่ละกิจกรรมท่านละ ๑ ครั้งเท่านั้น และยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดกันมาของญี่ปุ่น การจัดแสดงและจําหน่ายของดีจังหวัดซากะอีกด้วย
กิจกรรมเวิร์คช็อป (Workshop) จากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้แก่ การขึ้นรูปชิ้นงานจาน ๓
ครั้งๆ ละ ๔ รอบ ในวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๕ วันที่ ๙ และ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๕ และการเขียนสีใต้เคลือบ ๓ ครั้งๆ ละ ๔ รอบ ในวันที่ ๖ และ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ และ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ ผู้ร่วมกิจกรรมรอบละ ๓๐ ท่าน
นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ ๑๔ กันยายน ถึงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร วันพุธ – อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ปิดวันจันทร์ – อังคาร ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมศิลปากร finearts.go.th
โครงการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทให้แก่บุคลากรในสังกัด หลักสูตร “การเสริมสร้างวัฒนธรรม ค่านิยมสุจริต การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม การต่อต้านการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อนในหน่วยงานและชุมชน” ต่อสังคมในสถานการณ์ใหม่ New normal ในระหว่างวันที่ ๘ – ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา และห้องประชุมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จังหวัดนครราชสีมา