ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,748 รายการ
ปราสาทหมื่นศรีน้อย ต.หมื่นศรี อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
เป็นกลุ่มโบราณสถานก่อด้วยอิฐฉาบปูน มีเครื่องไม้ประกอบ แผนผังของโบราณสถานประกอบด้วย
1.เจดีย์ มีสภาพพังทลายเหลือแต่ซาก ยังไม่มีการขุดแต่ง
2.วิหาร หรืออุโบสถ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ห่างจากเจดีย์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 9 เมตร สภาพปัจจุบันเหลือเพียงส่วนฐานและผนังด้านตะวันตก ขนาดของฐานกว้าง 9 เมตร ยาว 13 เมตร สูง 1.09 เมตร มีประตู 2 ประตู คือ ประตูตะวันออก และประตูตะวันตก จากการขุดแต่ง พบชิ้นส่วนปูนปั้นประดับหลังคาคล้ายหางหงส์เพียง 1 ชิ้น เท่านั้นจากรูปทรงของฐานอาคาร กรอบและซุ้มโค้งประตู และลักษณะการเรียงอิฐ สันนิษฐานว่า คงจะมีอายุในสมัยอยุธยาตอนปลาย
.
.
.
...ศูนย์กลางการเรียนรู้และการท่องเที่ยว
มรดกศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้แบบบูรณาการ...
สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา 274 หมู่ 17 ถนนพิมาย-ชุมพวง
ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110
Tel : 044-471518 , 044-481024
E-Mail : fed_10@finrarts.go.th
Website : www.finearts.go.th/fad10
Facebook : สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา กรมศิลปากร
Youtube : สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา
วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการจัดการแสดงละครเรื่อง เลือดสุพรรณ รอบปฐมทัศน์ ณ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมมอบนโยบายให้กรมศิลปากรพัฒนาศักยภาพโรงละครแห่งชาติภูมิภาคเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม สนับสนุนการท่องเที่ยว ส่งเสริมนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาล
รมว. สุดาวรรณ กล่าวว่า กรมศิลปากร จัดการแสดงละครเรื่อง เลือดสุพรรณ เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของพลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ผู้ประพันธ์ มุ่งหมายให้ผู้ชมเกิดความสมัครสมานสามัคคี และเสียสละเพื่อประเทศชาติ โดยเลือกจัดการแสดงที่โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในบทละคร ผลจากการดำเนินการในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่ชื่นชมนาฏดุริยางคศิลป์ ไม่เพียงแต่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเท่านั้น ยังมีประชาชนจากจังหวัดอื่น ๆ ที่สนใจเดินทางมาชมการแสดงและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยกรมศิลปากรได้จัดเส้นทางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก มีรายได้เพิ่มขึ้น ตามนโยบายกระทรวงวัฒนธรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม และนโยบายรัฐบาลด้านการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว จึงได้มอบนโยบายด้านการบริหารจัดการโรงละครแห่งชาติในภูมิภาคทั้งสองแห่ง ได้แก่ โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก สุพรรณบุรี และโรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา ขอให้มีการวางแผนจัดการแสดงที่น่าสนใจและหลากหลายรูปแบบ ทั้งการแสดงโขน ละคร ดนตรีไทย และดนตรีสากล ให้เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในท้องถิ่น โดยบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ให้มีส่วนร่วมในการจัดการแสดงให้สอดคล้องกับเทศกาลต่าง ๆ ของจังหวัด และเปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกใช้สถานที่จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมศิลปากรจัดการแสดงละครสดุดีวีรสตรี “ท้าวสุรนารี” ในเดือนตุลาคม เนื่องในโอกาสครบรอบ 197 ปีแห่งการสถาปนาตำแหน่งท้าวสุรนารี โดยร่วมมือกับทางจังหวัดนครราชสีมาต่อไป คาดว่าจะเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของกรมศิลปากรในปีนี้
วันพฤหัสบดีที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ นางปริญญา สุขใหญ่ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธีพลีกรรมตักน้ำ ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สระโบราณ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๗ โดยมีนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธี
วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. ร่วมจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการ เรื่อง "มรดกกรมศิลป์ : Fine Arts Collection" ภายในงานเชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ ๙ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต พร้อมจัดแสดงทรัพยากรสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรมด้านภูมิปัญญาทางภาคเหนือของกรมศิลปากร
วิทยากรโดย
- นายชินณวุฒิ วิลยาลัย ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่
- นางสาวปุณณภา สุขสาคร ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
- นางเกษราภรณ์ กุณรักษ์ หัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่
ดำเนินรายการโดย นายวีระยุทธ ไตรสูงเนิน นักจดหมายเหตุชำนาญการ
วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๓๐ น. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ให้การต้อนรับคณะคุณครูและนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียน อบจ.เมืองภูเก็ต ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จำนวน ๔๘ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ปรับปรุงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ทั้งด้านข้อมูลการจัดนิทรรศการ เทคนิคและรูปแบบการนำเสนอเพื่อให้มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาศึกษาเรียนรู้มรดกทางศิลปวัฒนธรรมเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้ส่วนจัดแสดงนิทรรศการชั้นล่างแล้วเสร็จ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การจัดแสดงทับหลังจากปราสาทพิมายและประติมากรรมพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อบริการผู้เข้าชมตามแนวทางการจัดแสดงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อปี 2536 จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของเมืองพิมาย ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน กรมศิลปากรจึงได้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ซึ่งมีการศึกษาทางโบราณคดีและพบหลักฐานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาและสร้างสรรค์แหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ในฐานะแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญในระดับภูมิภาคอีสานตอนล่าง โดยดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565
นิทรรศการถาวรในอาคารจัดแสดงที่ 1 (ชั้นล่าง) ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ และเปิดให้เข้าชมแบบ soft opening ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ประกอบด้วย
“ก่อร่างสร้างปราสาท พิมาย” บอกเล่าเรื่องราวปราสาทพิมาย ตั้งแต่ที่มาของชื่อ "พิมาย" และการก่อสร้างปราสาทพิมาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ เครื่องมือ วิธีการ รวมถึงความเชื่อและพิธีกรรมในการก่อสร้าง “หลักฐานคนพิมาย” จัดแสดงหลักฐานที่บอกเล่าวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับและเครื่องแต่งกาย ภาชนะดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องไทยธรรม และพาหนะในการเดินทาง
“ศาสนาในเมืองพิมาย” เมืองพิมาย เป็นศูนย์กลางสําคัญของศาสนาพุทธลัทธิมหายาน นิกายวัชรยาน ที่สําคัญในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา (ประมาณ 900 ปีมาแล้ว) นอกจากปราสาทพิมาย ยังปรากฏวัตถุเนื่องในพุทธศาสนาที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เมืองพิมายยังพบการเคารพนับถือศาสนาฮินดูควบคู่กันไปด้วย
“เมืองพิมาย สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7” พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ผู้ทรงสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์มหิธรปุระ ในรัชสมัยของพระองค์ เมืองพิมายมีนามว่า วิมายปุระ เป็นเมืองสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งและเจริญรุ่งเรืองมากในขณะนั้น มีการสร้างประตูเมืองพิมายขึ้นทั้ง 4 ด้าน และโปรดให้สร้าง สถานพยาบาล (อาโรคยศาลา) ขึ้นที่เมืองพิมาย และสร้างที่พักคนเดินทาง (วหนิคฤหะ - บ้านมีไฟ) ตามถนนสายหลัก ที่ตัดจากเมืองพระนครหลวงมายังพิมายด้วย
“เมืองพิมาย หลังพุทธศตวรรษที่ 18” เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อิทธิพลทางการเมืองของอาณาจักรเขมรโบราณเริ่มเสื่อมลง เป็นผลให้อาณาจักรอยุธยาขยายอํานาจเข้าสู่บ้านเมืองในบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน ดังพบหลักฐานรูปเคารพสมัยอยุธยาที่ถูกนําเข้าไปประดิษฐานภายในปราสาทเขมรโบราณ เช่น ปราสาทพนมวัน ปราสาทพิมาย รวมถึงการพบโบราณสถานสมัยอยุธยาในเมืองพิมาย เช่น อุโบสถวัดเจ้าพิมาย และเมรุพรหมทัต
“ลวดลายจําหลัก : ศิลปะแห่งเมืองพิมาย” ห้องจัดแสดงไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงทับหลังจากปราสาทพิมายและประติมากรรมพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และประติมากรรมรูปสตรีที่สันนิษฐานว่าเป็นพระนางศรีชัยราชเทวี มเหสีองค์แรกของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สำหรับอาคารจัดแสดงชั้นบน ปิดให้บริการ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่เพื่อปรับปรุงนิทรรศการ โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย มีแผนการดำเนินงานปรับปรุงต่อไปในปีงบประมาณ 2568
ขอเชิญร่วมชมและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ตําบลในเมือง อําเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เฉพาะส่วนจัดแสดงชั้นล่างที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว และส่วนอาคารศิลาจำหลัก จัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นส่วนประกอบสถาปัตยกรรมหินทรายที่พบจากโบราณสถานในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม วันพุธ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 - 16.00 น.
วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สรุปผลการรับมอบและเก็บรักษาประติมากรรมพระศิวะ (Golden boy) และประติมากรรมสตรีพนมมือ ที่รับมอบจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน และแจ้งข่าวการรับมอบโบราณวัตถุจากสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา รวมถึงติดตามความก้าวหน้าในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศเพิ่มเติม
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 2/2567 ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยในที่ประชุมได้สรุปผลการรับมอบประติมากรรมพระศิวะ (Golden boy) และประติมากรรมสตรีพนมมือ จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน จากนั้นได้แจ้งความคืบหน้ากรณีสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก ได้ตรวจสอบชิ้นส่วนเสาติดผนังรูปพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ และพบว่ามีที่มาจากปราสาทประธานของปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ จึงได้แจ้งความประสงค์ผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก เพื่อส่งกลับคืนสู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศที่ได้มีมติให้ติดตามนับตั้งแต่ปี 2560 ทั้งในส่วนที่ได้รับกลับคืนสู่ประเทศไทยแล้ว ที่คณะอนุกรรมการด้านวิชาการเพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศมีมติให้ติดตามเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มโบราณวัตถุที่เก็บรักษาในสหรัฐอเมริกา เช่น ประติมากรรมสำริดกลุ่มประโคนชัย โบราณวัตถุจากเมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และพระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี จากเมืองโบราณซับจำปา จ.ลพบุรี เป็นต้น โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินงานจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี
รมว. สุดาวรรณ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของโบราณวัตถุที่ปัจจุบันจัดแสดงและเก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑ์ในประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมนี ประเทศเบลเยียม และประเทศออสเตรเลีย คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแนวทางที่คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายเพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศได้นำเสนอ และหารือร่วมกับคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี และสื่อมวลชน เพื่อติดตามโบราณวัตถุเหล่านั้นกลับคืนสู่ประเทศไทยต่อไป โดยการติดตามโบราณวัตถุจะเน้นการติดตามให้เป็นไปอย่างมีไมตรีและรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยดำเนินการผ่านช่องทางการทูต ทั้งนี้ ยังได้กำหนดให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เป็นรายไตรมาส และอัพเดทข้อมูลการติดตามโบราณวัตถุอย่างต่อเนื่อง