ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,748 รายการ

ชื่อผู้แต่ง         ยอช เซเดส์ และสุภัทรดิศ ดิศกุล ชื่อเรื่อง          ตำนานพระพิมพ์และพุทธศิลปในประเทศไทย ครั้งที่พิมพ์      พิมพ์ครั้งที่ ๒๘ สถานที่พิมพ์    กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์      โรงพิมพ์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ปีที่พิมพ์          ๒๕๒๒ จำนวนหน้า      ๑๒๓ หน้า หมายเหตุ        พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดอินทาราม(ใต้) ตลาดพลู เขตธนบุรี วันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒                       หนังสือตำนานพระพิมพ์และพุทธศิลปะในประเทศไทย เล่มนี้ รวบรวมพระพิมพ์ต่างๆมาหลายปีทั้งเก่าและใหม่ ทำด้วยโลหะบ้าง ดินเผาบ้าง ดินดิบบ้าง ส่วนเรื่องพุทธศิลปะในประเทศไทย กล่าวถึงการแบ่งลักษณะพระพุทธรูปในประเทศไทย ออกเป็น ๙ แบบด้วยกัน คือแบบพระพุทธอินเดียรุ่นเก่า แบบทราวดี แบบศรีวิชัย แบบลพบุรี แบบเชียงแสน แบบสุโขทัย แบบอู่ทอง แบบศรีอยุธยา และแบบรัตนโกสินทร์




บทความจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านในจุลสารแป้นเกล็ดจุลสารเรื่องราวอาคารเก่า สาระความรู้ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการอนุรักษ์อาคารเก่าเมืองน่านฉบับที่ ๑๘ มิถุนายน - พฤศจิกายน ๒๕๖๔เรื่อง "หอคำนครน่าน : จากที่ประทับเจ้าผู้ครองนคร สู่ศาลากลางจังหวัด และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน"อ่านเนื้อหาและบทความอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/.../pfbid02FRn1H5BeaQx467JYS6qtJ...


เลขทะเบียน : นพ.บ.409/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 4 x 52 ซ.ม. : ชาดทึบ-รักทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 146  (58-70) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : ทสชาติ--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.539/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 42 หน้า ; 4 x 48 ซ.ม. : ล่องรัก-รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 180  (292-302) ผูก 2 (2566)หัวเรื่อง : ปฐมมูล--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง : ตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์ พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พิมพ์เป็นอนุสรรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายครื้นอาคม สิงหรัตน์ ณ เมรุวัดกลางวรวิหาร 16 เมษายน พุทธศักราช 2515ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ, กรมพระยา ปีที่พิมพ์ : 2515 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์มิตรไทย จำนวนหน้า : 86 หน้า สาระสังเขป : ตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์นี้ สมเด็จกรมพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงนิพนธ์ขึ้น โดยมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับต้นตำราเครื่องสังคีต เรื่องตำนานเครื่องมโหรี เรื่องตำนานมโหรีเครื่องสาย เรื่องตำนานเครื่องปี่พาทย์ เรื่องตำนานกลองแขก เรื่องตำนานปี่ซอและแคน เครื่องมโหรีปี่พาทย์ของไทย



ชื่อเรื่อง                               กจฺจายนมูล (ศัพท์นาม - การก)สพ.บ.                                 429/ข/3ประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลาน หมวดหมู่                            พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                      60 หน้า : กว้าง 4.2 ซม.  ยาว 55.2 ซม.หัวเรื่อง                              พุทธศาสนา                                            คัมภีร์สัททาวิเสส                                            ศัพท์การกบทคัดย่อ/บันทึก                เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ฉบับล่องชาด ไม่มีไม้ประกับ  ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


"เรือโบราณ ๑,๐๐๐ ปี" ในบรรดาเรือโบราณที่สำรวจพบโดยกรมศิลปากรนั้น มีอยู่หลายลำที่เมื่อพิเคราะห์ทั้งจากลักษณะทางกายภาพ หลักฐานที่พบร่วม หรือแม้กระทั้งการกำหนดอายุทางวิทยาศาสตร์ มีอายุมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี โดยในหลาย ๆ โพสต์ก่อนหน้าเราได้เคยนำเสนอแหล่งเรือที่พบใหม่ในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา ทั้งเรือโบราณพนมสุรินทร์ จ.สมุทรสาคร (๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว) เรือโบราณหาดปากคลองกล้วย จ.ระนอง(๒,๓๐๐ ปีมาแล้ว) เรือโบราณคลองท่อม จ.กระบี่ (๑,๘๐๐ ปีมาแล้ว) และเรือโบราณบ้านคลองยวน จ.สุราษฎร์ธานี (๑,๒๐๐) ปีมาแล้ว ในโพสต์นี้เราจะพาผู้ติดตามเข้าไปในคลังจดหมายเหตุของกองโบราณคดีใต้น้ำ เพื่อสำรวจดูข้อมูลเก่า ๆ ไปดูกันว่าที่ผ่านมาเคยมีการค้นพบเรือโบราณอายุกว่าพันปีบ้างหรือไม่ เชิญติดตามกันเลย...


ชื่อเรื่อง                         ธมฺมบทวณฺณนา ธมฺมบทฏฺฐกถา (ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา) อย.บ.                            327/5 หมวดหมู่                       พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                   54 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม. หัวเรื่อง                         พระธรรมเทศนา                                                                       บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา


ชื่อทางการ : หางนกยูงฝรั่ง         ไม้ต้น  เรือนยอดแผ่กว้างและกลมคล้ายร่ม ดอกสีแดง แสดหรือเหลือง ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ ๕ กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน ออกดอกประมาณเดือนเมษายนถึงมิถุนายนภาพ : หอจดหมายเหตุห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่อ้างอิง : คณะอนุกรรมการจัดทำหนังสือไม้ดอกและไม้ประดับเฉลิมพระเกียรติ ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ และ กองทัพบก. ๒๕๓๖. ไม้ดอกและไม้ประดับ. กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์.


         หนังสือ : มนตร์รักเสียงแคน          ผู้เขียน  : ดาริยา          "ขวัญระมิงค์" ทันตแพทย์สาวเหนือป้ายแดง ต้องไปทำงานใช้ทุนไกลสุดกู่ถึงขอนแก่น ราวกับเธอถูกโยนเข้าสู่อ้อมกอดของ "เสียงแคน" หนุ่มจอมเถื่อน ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เจ้าของ "ไร่เสียงแคน" เป็นเพราะรุ่นพ่อสนิทกันมาก เธอจึงต้องไปพักที่นั่นพร้อมลากพี่ชายไปอยู่ด้วยชั่วคราว หวังให้พี่ชายรักษาแผลใจจากการถูกคนรักหักหลังอย่างชอกช้ำ          การทำงานเป็นหมอฟันหนึ่งเดียวในโรงพยาบาลเล็ก ๆ ไกลบ้านเกิด ไม่น่าหนักใจเท่าการรับมือผู้ชายปากร้ายอย่างเสียงแคน นอกจากทำตัวเป็นอริกับเธอแล้ว เขายังหวงน้องสาวเข้าไส้ เห็นพี่ชายเธออยู่กับน้องสาวเขาทีไร เป็นได้โผล่มาทำตาขวางใส่ทุกที งานนี้ขวัญระมิงค์เลยขอทำตัวเป็นแม่สื่อ หวังช่วยให้พี่ชายได้เจอรักใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่า ที่สำคัญ เธออยากเห็นหน้าเจ้าของไร่จอมกวนอกแตกตายไปต่อหน้า! แต่ทำไมหนอ ทั้งที่หมั่นไส้แทบแย่ พอได้ใกล้ชิดบ่อยเข้า ขวัญระมิงค์กลับเริ่มรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ หรือเอื้องเหนืออย่างเธอจะหลงเสน่ห์เสียงแคนแดนอีสานเข้าแล้ว...            ห้องบริการ 1 หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ          เลขหมู่ :  895.913 ด429ม


วันออกพรรษา วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 วันที่ 29 ตุลาคม 2566 หลังจากเข้าพรรษาแล้ว พระสงฆ์จะต้องอยู่ประจำที่วัดตลอดระยะเวลา 3 เดือน จนถึงวันออกพรรษา ราวกลาง เดือน 11 พระสงฆ์จะต้องทำพิธีปวารณาออกพรรษา ปวารณา เป็นชื่อสังฆกรรม (กิจที่พระสงฆ์ตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปร่วมกันทำภายในสีมา) ที่พระสงฆ์ทำในวันสุดท้ายแห่งการจำพรรษา คือ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า “วันมหาปวารณา” โดยภิกษุทุกรูปจะกล่าวปวารณา คือ เปิดโอกาสให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ปกติพระสงฆ์จะสวดพระปาฏิโมกข์ในพระอุโบสถทุกกึ่งเดือน คือ วันพระ ขึ้น 15 ค่ำ แรม 14 หรือ แรม 15 ค่ำ แต่ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ไม่ต้องสวดพระปาฏิโมกข์ ให้ทำพิธีปวารณาออกพรรษาแทน วันออกพรรษาปี 2566 นี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566 วันออกพรรษา หรือ วันปวารณา หรือ วันมหาปวารณา ถือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากการจำพรรษา จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และยังเป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ในทุกระดับชั้นที่ได้จำพรรษาร่วมกันมาตลอด 3 เดือนสามารถว่ากล่าวตักเตือน ชี้ข้อบกพร่องของกันและกันได้ แต่ต้องเป็นไปด้วยความเมตตา ความปรารถนาดี และความเสมอภาค หลังจากการทำพิธีออกพรรษาแล้วพระภิกษุสงฆ์สามารถทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ตามปกติ และสามารถค้างแรมในสถานที่ต่างๆ ที่ไปแสดงเทศนาได้ โดยที่ไม่ผิดพระพุทธบัญญัติใดๆ กิจกรรมวันออกพรรษาของแต่ละภาคในประเทศไทยนั้นปฏิบัติไม่เหมือนกัน โดยเริ่มต้นด้วยวิธีการตักบาตรเทโว เพื่อสมมติจำลองถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จะทำวันออกพรรษา หรือออกพรรษาแล้ว 1 วันก็ได้ อาหารที่ใช้ ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหณะ นิยมใช้ ข้าวต้มมัด และข้าวต้มลูกโยน ชาวบ้านรอพระภิกษุ สามเณร เดินลงมาจากบันไดอุโบสถ หลังจากทำวัตรเช้า เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นก็สมมติว่าพระพุทธเจ้าเสด็จบันไดสวรรค์ โดยบางแห่งเปิดเพลง หรือบรรเลงดนตรี สมมติว่าเป็นเทวดาบรรเลง ชาวบ้านที่รออยู่ก็จะใส่บาตรด้วยอาหารหวาน อาหารคาว ข้าวต้มลูกโยน


กวีนิพนธ์เฉลิมเกียรติกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับชนะการประกวด จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525 เพื่อส่งเสริมวงการกวีนิพนธ์ของชาติและยกย่องเชิดชูกวีผู้ประพันธ์ และเป็นเครื่องประกาศเกียรติคุณของสถาบันอันเป็นรากฐานแห่งความมั่นคงของประเทศ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นสื่อสะท้อนภาพสังคมไทยและชีวิตคนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ที่ได้วิวัฒนาการสืบทอดมาโดยลำดับ อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของชนในชาติ ตลอดจนเสริมสร้างพลังความสามัคคีในการสร้างสรรค์ความเจริญยั่งยืนแก่ประเทศสืบไป


องค์ความรู้สุพรรณบุรี เรื่อง ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว สืบสานประเพณีไทยผู้เรียบเรียง : นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย บรรณารักษ์ชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ


black ribbon.