ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ

โรงเรียนใฝ่ดีวิทยา จ.นครนายก (เวลา 11.00 น.) จำนวน 90 คนวันศุกร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ น. คณะนักเรียนโรงเรียนใฝ่ดีวิทยา ต.ชุมพล อ.องครักษ์ จ.นครนายก จำนวน ๙๐ คน เข้าเยี่ยมชม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีว่าที่ร้อยตรีรุ่งเรือง ชื่นชม ตำแหน่ง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ เป็นวิทยากรนำชมเด็ก ๆ ในครั้งนี้



             กรมศิลปากร โดยศูนย์หนังสือกรมศิลปากร ร่วมจำหน่ายหนังสือในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ทั้งหนังสือออกใหม่ หนังสือเก่า และหนังสือหายาก ลดราคาสูงสุดถึง 20% ตั้งแต่วันที่ 10 – 20 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 - 7 ชั้น LG บูธ H18               นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้นำหนังสือเผยแพร่องค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ ทั้งจดหมายเหตุ วรรณคดี ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ที่หน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรจัดพิมพ์ใหม่และหนังสือยอดนิยม มาจำหน่ายในราคาลดพิเศษ 10 - 20% ภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรมของกรมศิลปากรได้ภายในงานเดียว โดยมีหนังสือที่น่าสนใจ อาทิ หนังสือเรือพระราชพิธี จัดพิมพ์โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หนังสือตามรอยฝรั่งเล่าความหลังเมืองพริบพรี จัดพิมพ์โดยสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ หนังสือศาลาไทยในต่างประเทศ จัดพิมพ์โดยสำนักสถาปัตยกรรม หนังสือช่างศิลป์ไทยเทิดไท้องค์ราชัน จัดพิมพ์โดยสำนักช่างสิบหมู่ หนังสือการเสด็จประพาสยุโรป ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดพิมพ์โดยสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังมีนิตยสารศิลปากร และสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น โปการ์ดภาพจดหมายเหตุ โปสการ์ดที่ระลึก มาจำหน่ายอีกด้วย              ขอเชิญผู้สนใจเยี่ยมชมและเลือกซื้อหนังสือได้ที่ร้านหนังสือกรมศิลปากร ภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 - 7 ชั้น LG บูธ H18 ระหว่างวันที่ 10 – 20 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 – 21.00 น. หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ https://bookshop.finearts.go.th สอบถามเพิ่มเติม Facebook ศูนย์หนังสือกรมศิลปากร หนังสือเทเวศร์ที่(ไม่)รู้จัก ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 256 บาท หนังสือวัวในวัฒนธรรมไทย ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 120 บาท หนังสือเวตาลปกรณัม ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 208 บาท หนังสือกามโรคในสังคมไทย ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 104 บาทหนังสือตามรอยฝรั่ง เล่าความหลังเมืองพริบพรี ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 240 บาทหนังสืออุภัยพจน์ คำกลอนพิศาลการันต์ ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 176 บาท


          มหามกุฎราชสันตติวงศ์ : สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ           ๒๑ มิถุนายน ๒๔๐๕ วันประสูติของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ            เพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บุคคลสำคัญของโลกในฐานะ “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย” พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี จึงได้รวบรวมและเรียบเรียงบทความเรื่อง บันทึกเรื่องราวเสด็จประพาสต้น : จดหมายนายทรงอานุภาพ ร.ศ. 123 ขึ้นมา           บันทึกเรื่องราวเสด็จประพาสต้น : จดหมายนายทรงอานุภาพ ร.ศ. 123           จดหมายนายทรงอานุภาพ พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นบันทึกเรื่องราวการเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2447 หรือ ร.ศ. 123 ซึ่งการประพาสเป็นพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรสภาพบ้านเมือง ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างใกล้ชิด ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม เศรษฐกิจ และประเทศชาติให้มีความก้าวหน้า ไม่ล้าหลัง ในช่วงเวลาที่ลัทธิจักรวรรดินิยมกำลังเผยแผ่ขยายอำนาจ ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงต้องพยายามดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อป้องกันการคุกคามของชาติมหาอำนาจ และยกระดับการดำเนินชีวิตของราษฎรให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยการเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ เป็นประจำโดยเฉพาะหัวเมืองภาคใต้และหัวเมืองประเทศราชทางใต้ เพื่อตรวจราชการ สร้างความสนิทสนมกับข้าราชการท้องถิ่น และสร้างความจงรักภักดีให้เกิดกับพระองค์             ตามหลักฐานและเอกสารเรียกการประพาสครั้งนี้ว่า “การเสด็จประพาสต้น”ซึ่งวัตถุประสงค์การเสด็จนอกจากเสด็จเพื่อทอดพระเนตรสภาพบ้านเมืองและราษฎร  ก็เสด็จเพื่อเป็นการพักผ่อนพระราชอิริยาบถของพระองค์เองอีกด้วย ซึ่งการเสด็จประพาสครั้งนี้มีความพิเศษ คือ พระองค์เสด็จประพาสตามหัวเมืองอย่างสามัญชน โดยไม่โปรดให้มีท้องตราแจ้งต่อหัวเมืองเพื่อให้หัวเมืองเตรียมการรับเสด็จอย่างเป็นทางการ แต่ทรงแต่งพระองค์อย่างสามัญชน ปะปนไปกับราษฎร มิให้ผู้ใดรู้จักและทราบล่วงหน้าและทรงประทับค้างแรมที่ใดก็แล้วแต่พระราชประสงค์             การเสด็จประพาสต้นนั้นมีประโยชน์แก่ราชการบ้านเมือง และการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎรได้อย่างมาก ซึ่งพระองค์ทรงโปรดการเสด็จประพาสในลักษณะนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการเสด็จประพาสในลักษณะนี้ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใกล้ชิด รับรู้ และเข้าใจสภาพสังคม ความทุกข์สุขในชีวิตประจำวันของราษฎรมากยิ่งกว่าการเสด็จประพาสแบบทางการแล้ว  ยังทรงสำราญพระราชอิริยาบถและมีพระพลานามัยดีขึ้นจากการเสด็จประพาสครั้งนี้ ตลอดจนได้เห็นการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในท้องถิ่นอย่างแท้จริงอีกด้วย            คำว่า “ประพาสต้น” นั้น สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายว่า มีที่มาจากชื่อเรือที่ทรงซื้อไว้ใช้ในกระบวนเสด็จประพาส เนื่องด้วยเส้นทางการเสด็จประพาสส่วนใหญ่เป็นการเสด็จประพาสทางแม่น้ำ ลำคลองเป็นหลัก โดยในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2447 โปรดเกล้าฯ ให้ซื้อเรือมาดประทุน 4 แจวลำหนึ่งเพื่อบรรทุกเครื่องครัว โดยมีพระยานิพัทธราชกิจ (อ้น นรพัลลภ) ซึ่งขณะนั้นเป็นหลวงศักดิ์นายเวร เป็นผู้คุมเครื่องครัวไปในเรือนั้น จึงทรงดำรัสเรียกเรือลำนั้นว่า “เรือตาอ้น” เมื่อเรียกเร็วๆ ก็จะออกเสียงเป็น “เรือต้น” อีกทั้งคำว่า “ต้น” ยังอนุโลมใช้เรียกเครื่องแต่งพระองค์อย่างลำลองในคราวเสด็จประพาสว่า “ทรงเครื่องต้น” อีกด้วย             โดยเส้นทางการเสด็จประพาสต้นครั้งนั้น เริ่มเดินทางจากสะพานน้ำหน้าพระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2447 ผ่านหัวเมืองต่าง ๆ ตามลำดับ เช่น เมืองนนทบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับจากบางปะอินโดยรถไฟ และถึงพระบรมมหาราชวังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2447 รวมใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 25 วัน           ความใน “จดหมายนายทรงอานุภาพ” ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระราชหัตถเลขาถึง “พ่อประดิษฐ์” ซึ่งเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงขณะเสด็จประพาสต้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบตามลำดับ มีทั้งหมด 8 ฉบับ สรุปความได้ดังต่อไปนี้           จดหมายฉบับที่ ๑ : เล่าถึงเหตุที่จะเสด็จประพาสต้น นอกจากจะเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การเสด็จประพาสครั้งนี้ก็เพื่อการพักผ่อนพระอิริยาบถและพักรักษาพระองค์           จดหมายฉบับที่ 2 : จุดเริ่มต้นการเสด็จประพาสต้น โดยเริ่มเล่าเรื่องจากการเสด็จจากบางปะอินล่องลงมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา เสด็จประทับวัดปรไมยิกาวาศ แล้วเสด็จประพาสสวนกระท้อนแถบแม่น้ำอ้อมเมืองนนทบุรี เวลาเย็นเสด็จประทับแรมที่หน้าวัดเขมา เช้าของอีกวันเสด็จจากวัดเขมาล่องลงมาเข้าคลองบางกอกใหญ่และคลองภาษีเจริญ ระหว่างทางขึ้นบกเดินเที่ยวเล่นที่บ้านกระทุ่นแบน ตกเย็นประทับแรมหน้าวัดหนองแขม หลังจากเสด็จจากวัดหนองแขมเข้าคลองดำเนินสะดวก หยุดกระบวนประทับแรมที่หน้าวัดโชติทายการาม พรางเสด็จเรือเล็กประพาสทุ่งที่น้ำท่วมเพื่อพบปะสมาคมกับราษฎรตามท้องที่           จดหมายฉบับที่ : ๓ เล่าเรื่องเสด็จหลังจากเสด็จจากวัดโชติทายการามไปเมืองราชบุรี ทรงรับสั่งให้เตรียมรถไฟพิเศษเพื่อเสด็จไปประพาสเมืองเพชรบุรี โดยประสงค์ว่าการประพาสเมืองเพชรบุรีครั้งนี้จะไม่มีใครทราบ เนื่องจากต้องการทอดพระเนตรบ้านเมืองในเวลาปกติ แต่ผิดคาดเมื่อมีข้าราชการบางคนทราบถึงการเสด็จครั้งนี้ หลังจากเสด็จจากเมืองเพชรบุรีก็เสด็จกลับประทับแรมที่เมืองราชบุรี ทอดพระเนตรแห่บวชนาคบุตรพระแสนท้องฟ้า            เนื้อหาในจดหมายฉบับนี้ได้มีการอธิบายถึงที่มาของคำว่า “ประพาสต้น” อีกด้วย การเสด็จประพาสต้นเป็นไปอย่างทุกทีที่พระองค์ทรงหยุดแวะตามที่ต่าง ๆ ระหว่างทางเพื่อเยี่ยมชมวิถีชีวิตของราษฎร ซึ่งพาหนะการเสด็จนั้นสลับสับเปลี่ยนอยู่บ้างตามวาระ จากเรือสู่รถไฟ จากรถไฟสู่เรือ โดยวัตถุประสงค์ยังคงเดิมที่ต้องการปกปิดตัวตน ซึ่งมีหลุดบ้างเนียนบ้างตามประสา           จดหมายฉบับที่ 4 : เนื้อหาภายในจดหมายยังคงเต็มไปด้วยความสนุกของการเสด็จประพาส เนื่องด้วยความไม่เป็นทางการของการเสด็จ ทำให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นชวนให้มีความสุข สนุกมากกว่าการเสด็จประพาสในลักษณะปกติ สำหรับเหตุการณ์ที่สำคัญในจดหมายฉบับนี้เกิดขึ้นจากคนที่ตามเสด็จต้องแบ่งหน้าที่ตามความถนัดเพื่อเตรียมการทำอาหาร ซึ่งการรวมตัวทำอาหารเลี้ยงกันพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเป็นอย่างมาก        สำหรับเส้นทางการเสด็จประพาสเริ่มจากเสด็จตลาดที่เมืองราชบุรี และแวะซื้อเสบียงอาหารที่ปากคลองวัดประดู่ ระหว่างทางเสด็จทอดพระเนตรละครชาตรีบ้านตาหมอสี เวลาเย็นก็หาจุดที่จะเสด็จแวะทำครัว เสด็จตามแม่น้ำลำคลอง จบวันก็เสด็จกลับมาประทับแรมเมืองสมุทรสงคราม และเสด็จทอดพระเนตรที่ว่าการเมืองสมุทรสงคราม           จดหมายฉบับที่ 5 : เล่าเรื่องการเสด็จประพาสไปยังเมืองเพชรบุรี โดยเริ่มเสด็จประทับเรือฉลอมไปทอดพระเนตรละมุที่ปากอ่าวแม่กลองเตรียมเสบียงอาหาร เมื่อถึงปากน้ำเมืองเพชรบุรี เสด็จเรือกลไฟไปประทับแรมที่จวนเจ้าพระยาสุรพันธ์ฯ ซึ่งการเสด็จประพาสต้นเมืองเพชรบุรีการที่จะหลีกเลี่ยงหรือพบปะราษฎรอย่างสามัญชนนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากชาวเพชรบุรีกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีความผูกพันกว่าที่ไหน ๆ หลังจากได้เสด็จจากบางทะลุทางทะเลมาเข้าบ้านแหลมแล้ว พระองค์เสด็จกลับมาประทับแรมเมืองเพชรบุรี ณ พระนครคีรี และเสด็จประพาสวัดต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรี จบด้วยการเสด็จไปประทับแรมที่บ้านแหลม           จดหมายฉบับที่ 6 : การเสด็จประพาสเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากเสด็จจากบ้านแหลมโดยทางทะเลถึงเมืองสมุทรสาคร จากเมืองสมุทรสาครก็เสด็จไปประทับแรมที่งิ้วราย หลังจากนั้นก็เสด็จโดยรถไฟพิเศษเพื่อเสด็จประพาส ณ พระปฐมเจดีย์ ล่องเรือเสด็จประพาสวัดพระประโทน  ออกจากพระประโทนเสด็จประทับเสวยเย็นที่บ้านพระยาเวียงไนย และเสด็จกลับมาประทับแรมที่งิ้วราย            จดหมายฉบับนี้ได้เล่าเรื่องการเสด็จประพาสหลาย ๆ แห่งโดยทางชลมารค ทั้งเสด็จประพาสคลองภาษี เสด็จประทับแรมบ้านสองพี่น้อง เสด็จประพาสคลองสองพี่น้อง เสด็จประทับแรมที่วัดบางบัวทอง จนถึงเมืองสุพรรณบุรี แล้วเสด็จทอดพระเนตรที่ว่าการเมือง วัดมหาธาตุ หลักเมือง วัดป่าเลไลย เวลาบ่ายเสด็จกลับมาประทับแรมที่บางปลาม้า จบด้วยการเสด็จจากบางปลาม้าเพื่อเสด็จประทับแรมที่บ้านผักไห่           จดหมายฉบับที่ ๗ : จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่เล่าเรื่องราวการเสด็จประพาสต้นครั้งนี้ โดยเริ่มเล่าเรื่องการเสด็จจากบ้านผักไห่ไปทางคลองบางโผงเผง โดยมีเหตุการณ์สำคัญ คือ เกิดความเข้าใจผิดในเส้นทางการเสด็จ เป็นเหตุให้เกิดความลำบากแก่การประพาสเป็นอย่างมาก หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย เสด็จคลองบางหลวงอ้ายเอียง แวะทำครัวที่บ้านนายช้างอำแดงพลับ เมื่อออกจากบ้านนายช้างอำแดงพลับเสด็จจนถึงบางปะอิน และเสด็จรถไฟพิเศษเพื่อกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบการเสด็จประพาสต้น           จดหมายฉบับที่ 8 : สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้พรรณนาถึงผลในการเสด็จประพาสต้น และยังได้กล่าวถึงการเสด็จประพาสหลังจากครั้งนี้อีกว่า จะไม่ได้สุขสำราญและเป็นกันเองเหมือนเมื่อครั้งที่เสด็จประพาสต้น (เมื่อปี พ.ศ. 2447 หรือ ร.ศ. 123) อีกแล้ว โดยอธิบายเหตุผลไว้ว่า ราษฎรรู้แล้วว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดการเสด็จอย่างสามัญชน และหลังจากนี้หากมีใครแปลกหน้าเป็นผู้ดีชาวบางกอก ก็คิดและเข้าใจว่านั่นคือพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่เรือพระที่นั่งหากเห็นว่ามีความแตกต่างจากปกติ ไม่ได้มาจากท้องถิ่นแถวนั้น ก็คิดไปก่อนว่านั่นคือพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงมองว่าการเสด็จประพาสต้น การประพาสอย่างสามัญชนคนธรรมดาจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว     เอกสารสำหรับการค้นคว้า       1. ณัฐวรรณ พุ่มดียิ่ง.“การศึกษาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาประเทศ จากพระราชหัตถเลขาในการเสด็จประพาสหัวเมือง (พ.ศ. 2415 – 2452)”,ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์,  ( บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2550)       2. กรมศิลปากร.  (2565).  จดหมายนายทรงอานุภาพ เล่าเรื่องประพาสต้น เมื่อ ร.ศ. 123.  กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์.       3. วัชรญาณ. “จดหมายนายทรงอานุภาพ เล่าเรื่องประพาสต้น”, [ออนไลน์], แหล่งที่มา : https://vajirayana.org/จดหมายนายทรงอานุภาพ-เล่าเรื่องประพาสต้น        4. หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร. จดหมายเหตุ เรื่องเสด็จประพาสต้นในรัชกาลที่ 5 ครั้งแรกและครั้งที่ 2.  กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร.




ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       66/1หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               78 หน้า : กว้าง 4.8 ซม. ยาว 53.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด  ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อผู้แต่ง         พระธรรมวงศ์เวที  (อ่ำ ธมฺมทตฺโต)   ชื่อเรื่อง           สูตรมนต์ทางศพ พิมพ์ครั้งที่       - สถานที่พิมพ์     ม.ป.ท สำนักพิมพ์       ม.ป.พ ปีที่พิมพ์          ๒๕๐๔ จำนวนหน้า      ๗๙  หน้า รายละเอียด                    สูตรมนต์ทางศพ  พิมพ์เป็นธรรมวิทยาทาน  ในการฌาปนกิจศพ  นางราชเสนีย์  ณ ฌาปนสถานกองทัพบก  วัดโสมนัสวิหาร  วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๐๔  เนื้อหาภายในประกอบด้วยประวัติของผู้วายชนม์วิธีอ่านตัวหนังสือในทางภาษาบาลีและให้รายละเอียดเกี่ยวกับบทสวดต่างๆ  


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       87/5หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               38 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 54.5 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก                    เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา 




ชื่อเรื่อง : บรรณานุกรมงานนิพนธ์ของศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธนและพระสารประเสริฐ หัวเรื่อง : ไทย -- บรรณานุกรม, อนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ), 2431-2512            สารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป, (2430-2488)            อนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) -- บรรณานุกรม            สารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป) -- บรรณานุกรม คำค้น : อนุมานราชธน           เสฐียรโกเศศ           พระสารประเสริฐ           นาคะประทีป รายละเอียด : กรมศิลปากรจัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในวันครบรอบ 4 ปี ของห้องสมุดอนุมานราชธน วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2515 ผู้แต่ง : กรมศิลปากร แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ปีที่พิมพ์ : 2515  วันที่เผยแพร่ : 1 พฤษภาคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ :  - รูปแบบ : PDF. ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสือกรมศิลปากร ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : กล่าวถึงประวัติสังเขปของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน หรือ เสฐียรโกเศศ และประวัติสังเขปของพระสารประเสริฐ หรือ นาคะประทีป ให้คำอธิบาย การใช้บรรณานุกรมของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน หรือ เสฐียรโกเศศ บรรณานุกรมงานนิพนธ์ภาษาไทย ของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน หรือ เสฐียรโกเศศ มีดัชนีค้นเรื่องในงานนิพนธ์ภาษาไทย บรรณานุกรมงานนิพนธ์ภาษาอังกฤษ ของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน หรือ เสฐียรโกเศศ ส่วนในภาคผนวก ประกอบด้วย บรรณานุกรม พระนิพนธ์ของพระสารประเสริฐ หรือนาคะประทีป และบรรณานุกรมเกี่ยวกับชีวประวัติของทั้งสองท่านด้วย เลขทะเบียน : น. 30 ร. 4342 จบ (ร) เลขหมู่ : 013.8             ศ528บ


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ.                       145/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               30 หน้า กว้าง 4.8 ซม. ยาว 57.5 ซม.หัวเรื่อง                     พระอภิธรรมปิฎก                              พระวิภังค์บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน  ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อเรื่อง : ลำดับราชินีกูลบางช้าง หัวเรื่อง : นามสกุล -- ณ บางช้าง            ประวัติสกุล -- ณ บางช้าง            สุริยานุวงศ์ประวัติ (เต็น บุนนาค), อำมาตย์เอก พระยา, 2418-2461            หนังสืออนุสรณ์งานศพ คำค้น : ราชินิกุลบางช้าง รายละเอียด : พิมพ์ในงานศพ อำมาตย์เอก พระยาสุริยานุวงศ์ประวัติ (เต็น บุนนาค) ปีมะแม พ.ศ. 2462  ผู้แต่ง : - แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ สำนักพิมพ์/ โรงพิมพ์ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ปีที่พิมพ์ : 2462 วันที่เผยแพร่ : 3 กรกฎาคม 2568 ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : - ลิขสิทธิ์ : ต้นฉบับจากหอพระสมุดวชิรญาณ รูปแบบ : PDF. ภาษา : ภาษาไทย ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ ตัวบ่งชี้ : - รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือที่ระลึกงานศพ อำมาตย์เอก พระยาสุริยานุวงศ์ประวัติ (เต็น บุนนาค) มีประวัติและภาพของผู้วายชนม์ภายในเล่ม เนื้อหาว่าด้วยเรื่องลำดับราชินิกุลบางช้าง   ซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเรียบเรียงขึ้นใหม่จากต้นฉบับของคุณหญิงเขียนหลานหญิงของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ โดยอธิบายถึงลำดับราชินิกุลบางช้าง ทั้งราชินิกุลสายตรงและสายสาขา ราชินิกุลฝ่ายพระชนก และราชินิกุลฝ่ายพระชนนี เลขทะเบียน : น. 34 บ. 6125 จบ. (ร) เลขหมู่ :    ห              929.7              ล334ส  


เลขทะเบียน : นพ.บ.619/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 30 หน้า  ; 5 x 57 ซ.ม. : ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 202 (57-67) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : จุนทสูกริกสูตร--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.694/2ขห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ                                                                                หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 44 หน้า ; 4 x 52.5 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 219 (209-226) ผูก 2ข (2568)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ             คัมภีร์ใบลาน             พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


black ribbon.