ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ
องค์ความรู้ สรรพสาระ อยุธยา... เนื่องในวันอนุรักษ์ มรดกไทย พุทธศักราช ๒๕๖๔ เรื่อง “แนวทางการรักษาโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” เรียบเรียงโดย นายวีระศักดิ์ แสนสะอาด นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน: กจ.บ.7/1-7:1ก-7ก ชื่อเรื่อง: พระสงฺคิณี พระสมนฺตมหาปฏฐาน เผด็จ ข้อมูลลักษณะ: อักษรขอม ภาษาบาลี-ไทย เส้นจาร ฉบับล่องชาด ประวัติ : ได้มาจากวัดห้วยสะพาน ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2533 จำนวน 1คัมภีร์ 14 ผูก จำนวนหน้า: 46 หน้า
ชื่อเรื่อง ประชุมกาพย์เห่เรือผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ วรรณคดีเลขหมู่ 895.9111082 ฉ253ปชสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ รุ่งเรืองธรรมปีที่พิมพ์ 2503ลักษณะวัสดุ 140 หน้า หัวเรื่อง กวีนิพนธ์ไทย – รวมเรื่องภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกอธิบายตำนานแห่เรือ บทเห่เรือ กาพย์เห่เรือ
ชื่อเรื่อง ปาติโมกข์แปล (สัปปาฏิโมกข์)
สพ.บ. 366/1ขประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 48 หน้า กว้าง 6 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา เทศน์มหาชาติ คาถาพัน ชาดก
บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
ในวาระที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “โนรา” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษย์ชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช จึงได้จัดแสดงกระเบื้องมุงหลังคาชิ้นพิเศษที่มีรอยประทับรูปบุคคลทำท่าคล้ายรำโนรา พร้อมด้วยกระเบื้องมุงหลังคาที่มีรอยประทับลายอื่นๆ และกระเบื้องเชิงชาย จากขุดค้นทางโบราณคดี ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งดำเนินการโดยสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลจากการขุดค้นทางโบราณคดี และสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของโบราณสถานในท้องถิ่น ก่อให้เกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์และหวงแหนมรดกทางศิลปวัฒนธรรม โดยจัดแสดงโบราณวัตถุ กระเบื้องมุงหลังคาและกระเบื้องเชิงชาย จำนวน ๑๓ รายการ ผู้สนใจสามารถเข้าชมการจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นสำคัญนี้ได้ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ เปิดทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช (ตรงข้ามวัดสวนหลวง) ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โทร. ๐ ๗๕๓๔ ๑๐๗๕
เลขทะเบียน : นพ.บ.186/3ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 42 หน้า ; 4.5 x 55 ซ.ม. : ทองทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 107 (123-132) ผูก 3 (2565)หัวเรื่อง : มหาวิภงฺคปาลิ, ปาจิตฺติปาลิ(บาฬีปาจิตตี)--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขอเลื่อนการแสดงละครเสภา เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนพระไวยแตกทัพ รอบพิเศษ จากวันเสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และวันอาทิตย์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เป็นวันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๕ และวันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ โรงละครแห่งชาติ
#เครื่องมือเครื่องใช้ในภาคเหนือแซะแซะ คือ เครื่องช้อนปลาบริเวณท้องนาหรือหนองน้ำตื้น ๆ ส่วนใหญ่ใช้ช้อนปลาเล็กและแมลงบางประเภท ลักษณะเป็นปากกรอบทรงสามเหลี่ยม กว้าง เอียงหงายทะแยงขึ้น ๔๕ องศา มีด้ามจับยาวประมาณ ๓๐ - ๖๕ เซนติเมตร ส่วนท้ายยกสูงยึดติดกับด้ามจับ มีหลายขนาด ขอบหลังของแซะรูปร่าง คล้ายตัวยูสานลายขัดแตะ ตัวแซะสานด้วยลายสองตา เพื่อให้น้ำไหลผ่านสะดวกแต่กันกุ้ง ปลา หรือแมลงตัวเล็กได้ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชียงใหม่ ชุดภาพส่วนบุคคลของนายบุญเสริม สาตราภัยอ้างอิง : เทพพิทักษ์ บุญทา. ม.ป.ป. คู่มือเครื่องมือประมงพื้นบ้านภาคเหนือภายใต้โครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม. คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่.
รับบริจาคหนังสือทุกประเภท จากนั้นจะมีการคัดแยกประเภทหมวดหมู่หนังสือ เพื่อให้บริการ และบริจาคต่อไปยังห้องสมุดตามโรงเรียน เรือนจำ และวัด
ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 41 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 66 (ต่อ) - 67 ) จดหมายเหตุรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี เล่าเรื่องไปชวา ครั้งที่ 3ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2512สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา จำนวนหน้า : 320 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 41 ภาคที่ 66 (ต่อ) กล่าวถึง จดหมายรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี เมื่อพระล่วงลาผนวช และสร้างเมืองสวรรคโลกที่เมืองสัชนาลัยเก่า จากนั้นจึงกลับมากรุงสุโขทัย และสวรรคคตที่แก่งหลวง ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 67 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไปเมืองชวาครั้งที่ 3 และจดหมายเหตุเกี่ยวกับเขมรและญวนในรัชกาลที่ 3
สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอเชิญร่วมสนุกในกิจกรรม
[Museum Shoot & Share
เนื่องในงาน ๑๑๑ ปีแห่งการสถาปนากรมศิลปากร
ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ มีนาคม ๒๕๖๕
ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
——————————————
เพียงถ่ายภาพของคุณขณะเที่ยวชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป หรือ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
(ที่ใดก็ได้)
ใต้โพสต์นี้ก็สามารถแลกรับของที่ระลึกสุดพิเศษได้ที่ซุ้มสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (จำนวนจำกัด!!!)
............…………………………………………
กติกา
โพสต์ภาพของท่านใต้โพสต์นี้
แชร์โพสต์กิจกรรมนี้ที่หน้า Facebook ของท่าน โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #Museumshootandshare และ #NationalMuseumsThailand
แสดงโพสต์ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับของที่ระลึกที่ซุ้มสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ระหว่าง ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น.
* สงวนสิทธิ์ ๑ ท่าน/บัญชีผู้ใช้งาน สามารถแลกของที่ระลึกได้ ๑ ชิ้น
กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรเปิดให้เที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยามค่ำคืน ในงาน “ใต้ร่มพระบารมี ๒๔๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” สัมผัสความงดงามของโบราณสถาน (วังหน้า) ที่ประทับของ พระมหาอุปราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชมการจัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงโบราณวัตถุ ๑๐ ชิ้นห้ามพลาดภายในพระที่นั่ง และอาคารจัดแสดงต่าง ๆ ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๔ เมษายน ๒๕๖๕ ตั้งแต่ ๑๖.๐๐ – ๒๐.๓๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกเพศทุกวัยและ ยังเป็นสถานที่ต้อนรับอาคันตุกะระดับชาติของประเทศไทย จึงเป็นแหล่งรวบรวมมรดกวัฒนธรรมของชาติไว้เป็นจำนวนมาก เป็นการยากที่จะบอกว่า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นไหนเป็นชิ้นเอกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เนื่องจากทุกชิ้นล้วนมีความสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุแนะนำ ๑๐ รายการ ที่เมื่อไปเยือนแล้วไม่ควรพลาดเข้าชม ประกอบด้วย ๑. พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธปฏิมาศิลปะสุโขทัย – ล้านนา หล่อด้วยสำริดกะไหล่ทอง อายุราว พุทธศตวรรษที่ ๒๑ จัดแสดง ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เนื่องจากพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปที่อำนวยความอุดมสมบูรณ์ จึงได้อัญเชิญออกไปให้ประชาชนสรงน้ำขอพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งภายหลังกรมศิลปากรได้ขอพระบรมราชานุญาตหล่อองค์จำลองสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ๒. พระคเณศ พระคเณศ ๔ กร จากจันทิสิงหส่าหรี เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ศิลปะชวา ตะวันออก อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๖ จัดแสดง ณ ห้องศรีวิชัย อาคารมหาสุรสิงหนาท ๓. พระปัทมปาณีโพธิสัตว์ พระปัทมปาณีโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ๒ กร ศิลปะ ศรีวิชัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๔ จัดแสดงห้อง ณ ห้องศรีวิชัย อาคารมหาสุรสิงหนาท ๔. ตะเกียงโรมัน ขุดพบที่ตำบลพงตึก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จัดแสดง ณ ห้อง เอเชีย อาคารมหาสุรสิงหนาท ๕. พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา หรือที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อศิลาขาว” ศิลปะทวารวดี พุทธ ศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๔ จัดแสดง ณ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ๖. พระหายโศก พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ประทับขัดสมาธิเพชร นาม “หายโศก” สะท้อนถึงธรรมเนียมการตั้งชื่อพระพุทธรูปล้านนาที่มักตั้งตามคติความเชื่อด้านพระพุทธคุณในเชิงขจัดปัดเป่า เคราะห์ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่อาจนำความทุกข์โศกมาสู่ผู้กราบไหว้บูชา จัดแสดง ณ ห้องล้านนา อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ๗. ศิลาจารึกหลักที่ ๑ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World) องค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ จัดแสดง ณ ห้องสุโขทัย อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ๘. พระอิศวร พระอิศวรสำริด สมัยสุโขทัย อายุประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๐จัดแสดง ณ ห้องสุโขทัย อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ๙. พระมหาพิชัยราชรถ เป็นราชรถที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๓๓๘ จัดแสดง ณ โรงราชรถ ๑๐. พระที่นั่งบุษบกเกริน หรือบุษบกราชบัลลังก์ จัดแสดง ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ทั้งนี้ ในงาน “ใต้ร่มพระบารมี ๒๔๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๔ เมษายน ๒๕๖๕ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้จัดกิจกรรมนำชมเป็นรอบสำหรับชาวไทย จำนวน ๓ รอบต่อวัน ได้แก่ รอบ ๑๘.๐๐ น. รอบ ๑๘.๓๐ น. และรอบ ๑๙.๐๐ น. ชาวต่างชาติ จำนวน ๑ รอบ ในเวลา ๑๗.๓๐ น. ลงทะเบียน ณ บริเวณศาลาลงสรง (ด้านหน้าทางเข้า) ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓๐ น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องแสดงผลการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 อย่างน้อย ๒ เข็ม หากไม่มีผลการรับวัคซีนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี ATK หรือ RT - PCR ไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๔๐๒ และ ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๓๓