ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,777 รายการ

หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมการจัดกิจกรรม “๑๒๑ ปี ครูบาเจ้าศรีวิชัยกับเมืองเชียงใหม่” ภายใต้การดำเนินงานโครงการพัฒนาและส่งเสริมหอสมุดแห่งชาติเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต (ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค) ประจำปี ๒๕๖๖  ในวันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๖.๓๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการร่วมกิจกรรม รับจำนวน ๕๐ คน  (นั่งรถราง)  ** สิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรม พิจารณาตามลำดับการลงทะเบียน **


แนะนำโบราณวัตถุชิ้นสำคัญนิทรรศการ “เงินตราในประเทศไทย : วิวัฒน์เงินตราไทย จากสุโขทัยถึงรัตนโกสินทร์” เหรียญพระบรมรูป – ตราแผ่นดินเหรียญพระบรมรูป – ตราแผ่นดิน ชนิดราคา ๑ บาท ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๓.๑ เซนติเมตร สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๕ พระครูวาปีปทุมรักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ มอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๔๕ มีลักษณะเป็นเหรียญกลมแบน ขอบมีเฟือง ด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครึ่งพระองค์ ผินพระพักตร์เบื้องซ้าย ริมขอบเหรียญมีพระปรมาภิไธยว่า “สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ด้านหลังเป็นตราแผ่นดิน ซึ่งด้านบนเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ เปล่งรัศมีครอบพระแสงจักรและพระแสงตรี ซึ่งเป็นพระราชลัญจกรแห่งราชวงศ์จักรี ถัดลงมาเป็นรูปอาร์ม แบ่งออกเป็น ๓ ช่อง ช่องบนเป็นรูปช้างสามเศียร ช่องล่างซ้ายเป็นรูปช้างยืนหันหน้าไปทางซ้าย ช่องล่างขวาเป็นรูปกริชไขว้ มีคชสีห์และราชสีห์ถือฉัตรกระหนาบสองข้าง ใต้รูปอาร์มมีพระสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ เบื้องหลังเป็นเครื่องราชูปโภค มีฉลองพระองค์ครุยเป็นพื้นอย่างม่าน ธารพระกรและพระแส้อยู่ด้านซ้าย ฉลองพระบาทอยู่ริมฐานฉัตร ริมขอบซ้ายมีคำว่า “กรุงสยาม” ริมขอบขวามีคำว่า “รัชกาลที่ ๕” ริมขอบล่างมีข้อความบอกราคา “บาทหนึ่ง” บนเหรียญไม่ระบุศักราช ซึ่งเริ่มผลิตครั้งแรก ร.ศ. ๙๕ หรือ พ.ศ. ๒๔๑๙ นับเป็นครั้งแรกที่มีการอัญเชิญพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ประทับบนหน้าเหรียญ


          วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้แทนร่วมแสดงความยินดีกับ นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ครบรอบ ๓๕ ปี โอกาสนี้ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร มอบหมายให้นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้แทนกรมศิลปากร มอบหนังสือที่ระลึกร่วมแสดงความยินดี ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ


ชื่อเรื่อง: การสร้างพระพุทธรูป พระบูชา, พระประจำวันเกิด, และพระเครื่อง ผู้แต่ง: คณะกรมการแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข ปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๙๙สถานที่พิมพ์: พระนครสำนักพิมพ์: ประชาช่าง จำนวนหน้า: ๒๖ หน้า เนื้อหา: การสร้างพระพุทธรูป พระบูชา, พระประจำวันเกิด, และพระเครื่องของคณะกรรมการสร้างพระพุทธรูปของคณะ กรมการแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสพระพุทธศาสนายุกาลครบ ๒๕๐๐ ปี โดยคณะกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกอบพิธีสร้างพระพุทธรูปบูชา, พระประจำวันเกิด, และพระเครื่องหลายชนิด โดยจัดพิธีการสร้างอย่างถูกต้องครบถ้วนตามตำรา เพื่อเป็นที่ระลึกแห่งปีอันสำคัญของพระพุทธศาสนา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ พิธีกรรม รายละเอียดการดำเนินงานสร้าง ประเภทพระพุทธรูปที่จะสร้าง พิธีพุทธาภิเษกการฉลอง และการบริจาคโลหะเพื่อสร้างพระพุทธรูป พร้อมภาพประกอบหุ่นพระพุทธรูปบูชาซึ่งจะจำลองสร้างในครั้งนี้ด้วยเลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๑๔๐๘เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๒๙หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖


ใบเสมาที่พบที่บ้านกุดโง้ง ตำบลบุ่งคล้า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีทั้งใบเสมาที่สลักลวดลายที่ไม่ใช่ภาพเล่าเรื่อง เช่น ลวดลายรูปสถูป ใบเสมาที่สลักลวดลายเป็นภาพเล่าเรื่องในชาดกทางพุทธศาสนา และใบเสมาที่ไม่มีการสลักลวดลายใดๆ ใบเสมาที่สำคัญที่บ้านกุดโง้ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มของใบเสมาที่มีการสลักลวดลายประดับเป็นภาพพระพุทธเจ้า ได้แก่ ภาพพระพุทธเจ้าหรือพระศรีศากยมุนี ภาพพระศรีอริยเมตไตย และภาพเล่าเรื่องราวชาดกตอนต่างๆ ในพุทธศาสนา


         กลักแปดเหลี่ยม          สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕          จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประทานยืม          ปัจจุบันจัดแสดง ณ พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นล่าง) หมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          กลักทรงกระบอกแปดเหลี่ยมตกแต่งด้วยการประดับมุก ขนาดยาวรวมฝา ๒๑ เซนติเมตร ตัวกลักยาว ๑๘.๓ เซนติเมตร ปากกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร ส่วนฝาด้านบนประดับมุกลายก้านขดใบเทศ ตัวฝาตกแต่งลายเกลียวใบเทศ ตัวกลักตกแต่งเป็นแถบลายเกลียวใบเทศคั่นด้วยดอกไม้ บริเวณปากกลักเป็นแถบลายดอกไม้สี่กลีบ ส่วนปลายกลักเป็นแถบลายกรวยเชิง ดอกไม้สี่กลีบ และจุดไข่ปลา          “กลัก” ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ระบุว่า “สิ่งที่ทำเป็นรูปคล้ายกระบอกสำหรับบรรจุของเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือของขนาดเล็ก มีฝาสวมปาก เช่น กลักพริก กลักเกลือ, ซองยาสูบทำด้วยเมล็ดตาล มีฝาสวมปาก, สิ่งที่ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก มีลิ้นชักเข้าออกได้ สำหรับบรรจุไม้ขีดไฟ เรียกว่า กลักไม้ขีดไฟ กล่องไม้ขีดไฟ ก็เรียก”          ทั้งนี้เอกสารทะเบียนเดิมเรียกกลักประดับมุกชิ้นนี้ว่า “กลักสารตรา ๘ เหลี่ยม” เนื่องด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กจึงน่าเป็นกลักที่จะใส่กระดาษ ในอดีตการเขียนเอกสารราชการต่าง ๆ จะเขียนบนกระดาษเพลา (กระดาษสาชนิดบาง เขียนด้วยดินสอดำ) เมื่อจะส่งเอกสารจะม้วนใส่กระบอกเอกสารที่ทำจากไม้ไผ่ (หรือบางท้องที่เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียก “บั้งจุ้ม” เป็นต้น) ตัวอย่างที่กล่าวถึงการใช้กลักเป็นที่เก็บเอกสารนั้นปรากฏใน มหาชาติคำหลวง กัณฑ์จุลพน ในตอนที่ชูชกพบกับพรานเจตบุตรได้ลวงว่ากลักในย่ามที่ใส่ของแห้ง (พริก และงา) นั้นเป็นกลักพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงสญชัย ซึ่งตนกำลังไปหาพระเวสสันดร ดังความว่า          “...เจตบุตรเห็นก็ขู่ว่าจะยิงด้วยหน้าไม้ ชูชกไหวดีแก้ว่า เป็นทูตของพระเจ้ากรุงสญชัย เจตบุตรเชื่อ ผูกสุนัขเข้ากับโคนไม้ ต้อนรับชูชก ถามว่าอะไรอยู่ในย่าม ชูชกชี้ไปที่กลักพลิกกลักงาว่า นี่คือกลักพระราชสาส์น เจตบุตรเชิญชูชกขึ้นไปบนเรือน ให้กินเนื้อย่างจิ้มนํ้าผึ้ง แล้วก็พาออกไปชี้มรรคา เจตบุตรพรรณนาพรรณไม้ อันมีในป่าหิมพานต์แล้วบอกทางที่จะไปสู่เขาวงกต...”          นอกจากนี้ในพระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่อง นิทานโบราณคดี ตอน นิทานที่ ๑๓ เรื่องอนามัย ข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงการใช้กลักบรรจุยาฝรั่ง (ขณะนั้นคือยาควินิน (quinine) เป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย) แจกจ่ายไปตามหัวเมือง แต่จำเป็นต้องแปลงชื่อเพื่อไม่ให้ประชาชนตามหัวเมืองรังเกียจเนื่องด้วยเป็นยาฝรั่งไม่คุ้นเคยเหมือนยาพื้นเมืองดังความว่า          “...การที่กระทรวงมหาดไทยทำยาตามตำราฝรั่ง สำหรับจ่ายไปตามหัวเมือง จึงต้องคิดอุบายแก้ไขความรังเกียจด้วยให้เรียกชื่อยาที่ทำขึ้นใหม่ว่า “ยาโอสถศาลา” แต่ละขนานใส่กลักเล็ก ๆ กลักละ (ดูเหมือน) ๒๐ เม็ด พิมพ์หนังสือปิดข้างนอกกลักเอาแต่ชื่อโรคเรียก เช่นว่า “ยาแก้ไข้จับ, ยาแก้ลงท้อง, ยาแก้บิด” เป็นต้น ข้างในกลักมีกระดาษใบปลิวบอกวิธีที่จะใช้ยานั้น แล้วรวมกลักยาห่อเป็นชุด ๆ มีใบปลิวโฆษณาคุณของยาโอสถศาลาสอดไปด้วย ส่งไปให้หมอตำบลเป็นผู้จำหน่าย (ดูเหมือน) ราคากลักละ ๑๐ สตางค์ จำหน่ายได้เงินเท่าใด ให้ค่าขายแก่หมอตำบลเป็นส่วนลดร้อยละ ๑๐ แม้ใช้อุบายกันคนรังเกียจอย่างนั้นแล้ว กว่าจะได้ผลดังประสงค์ก็ยังนาน เพราะเป็นของแปลก แม้หมอตำบลเองก็รับไว้จำหน่ายด้วยเกรงใจโดยมาก ตัวเองยังชอบใช้ยาสมุนไพรอยู่ตามเคย ต่อบางคนจึงทดลองใช้ยาโอสถศาลา แต่ต่อมาก็ปรากฏคุณขึ้นโดยลำดับ เมื่อยาโอสถศาลาจำหน่ายได้แพร่หลายจนเห็นว่าจะทำจำหน่ายได้ยั่งยืนต่อไป กระทรวงมหาดไทยจึงได้ตั้งสถานโอสถศาลาที่โรงพยาบาลเทพศิรินทร์ แล้วรัฐบาลทำยาโอสถศาลาจำหน่ายเองสืบมา…”     อ้างอิง ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. นิทานโบราณคดี. พิมพ์ครั้งที่ ๑๕. กรุงเทพฯ: บรรณาคาร,๒๕๔๓. มหาชาติคำหลวงฉบับกรมศิลปากร. กรุงเทพฯ: มหามกุฏ, ๒๔๙๖. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖.


พาชม….โซนอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ณ งานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ปี 2566 งานลอยกระทงปีนี้ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยมีนิทรรศการ เรื่อง การเดินทางของสังคโลก The Journey of Sangkhalok ให้ทุกท่านมาเยี่ยมชม  และนอกเหนือจากนิทรรศการให้ความรู้แล้วนั้น ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้ร่วมสนุกกับทางอุทยานฯ ทั้งFreeกิจกรรม work shop เพ้นท์กระเป๋าผ้ารักษ์โลกFreeกิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัลตุ๊กตาสังคโลก หรือท่านใดอยากได้ของที่ระลึกเกร๋ๆ ไม่ซ้ำใคร ก็มีผลิตภัณฑ์ Handmade จำหน่าย หนังสือของกรมศิลปากรถุงผ้ารักษ์โลก (ลายนี้มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น)โปสการ์ดอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (ภาพมุมลับๆ ไม่ซ้ำใคร)ต่างหูสังคโลก (ลายไม่ซ้ำ ทำเหมือนเดิมไม่ได้)ผลิตภัณฑ์สังคโลก จากชุมชนชาวสุโขทัย


วันที่ ๑ ธันวาคมตรงกับ “วันดำรงราชานุภาพ” อันเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ แอดมินจึงขอเล่าเรื่องราวจากโบราณวัตถุศิลปวัตถุ คือ ชุดไม้กอล์ฟ (มือซ้าย) ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทานมา ณ วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๔๗๔ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๔๘ เรื่อง "แจ้งความราชบัณฑิตยสภาเรื่องมีผู้ให้ของแก่พิพิธภัณฑ์สถานสำหรับพระนคร" ______________________ กีฬากอล์ฟ เริ่มมาจากชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจการค้าในสยามสมัยรัชกาลที่ ๕ นำมาเล่นและได้รับความนิยมแพร่หลาย จนกลายเป็นกีฬาสำหรับการพักผ่อนของเชื้อพระวงศ์และขุนนางสยาม ช่วงแรกมีการจัดตั้งสโมสรบางกอกกอล์ฟ (The Bangkok Golf Club) เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชบรมราชานุญาตให้เปิดสนามกอล์ฟแห่งแรก บริเวณ “สนามหลวง” หรือทุ่งพระสุเมรุ สำหรับจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ยังมีการก่อตั้งสโมสรเชียงใหม่ “ยิมคานา” ของกลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจชาวอังกฤษที่เข้ามาทำสัมปทานป่าไม้อีกด้วย กระทั่ง พ.ศ. ๒๔๔๔ จึงได้มีการจัดตั้งสโมสร “รอแยลสปอร์ตคลับ” และเริ่มก่อสร้างราชกรีฑาสโมสรกรุงเทพ เป็นสถานที่พักผ่อนและจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับรับรองสมาชิกชนชั้นสูงสยามและชาวต่างชาติ โดยเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับใช้บริการพื้นที่สาธารณะ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ มีการขยายพื้นที่ของสนามกอล์ฟไปตั้งอยู่นอกเมืองสำหรับพักผ่อนตากอากาศคือ สนามกอล์ฟหัวหิน และเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดพร้อมกับทรงเล่นเป็นปฐมฤกษ์ ต่อมาพ.ศ ๒๔๖๘ เจ้าพระยารามราฆพ ผู้สำเร็จราชการมหาดเล็ก ได้เล็งเห็นว่าพื้นที่ของราชกรีฑาสโมสรและสนามกอล์ฟหัวหินไม่สะดวกต่อการเดินทาง จึงทูลขอพระบรมราชานุญาตสร้างสนามกอล์ฟบริเวณที่ตั้งกรมอัศวราช และมีนายเอ.โอ.โรบิน ชาวสก็อตแลนด์เป็นผู้ออกแบบ เรียกว่า “สนามกอล์ฟมหาดเล็ก” พร้อมทั้งจัดการแข่งขันตีกอล์ฟและขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงโปรดกีฬาชนิดนี้อย่างมาก ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๐ สนามกอล์ฟมหาดเล็กได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมสโมสรกอล์ฟดุสิต ในพระบรมราชูปถัมภ์” โดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นนายกสโมสร อีกทั้งยังทรงได้รับเชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสโมสรอีกหลายแห่ง หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศสมัย ดิศกุล ก็หัดกอล์ฟตามพระบิดา ทั้งทรงอธิบายในหนังสือสิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น ความว่า “... ส่วนความสัมพันธ์ทางส่วนพระองค์ ทูลกระหม่อมประชาธิปกฯกับเสด็จพ่อก็กลมเกลียวกันดี แม้เสด็จพ่อทรงแนะนำว่าเล่นกอล์ฟดี ก็ทรงเล่นจนติด...” และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีก็เล่นกอล์ฟด้วย แม้ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพก็ยังคงมีลายพระหัตถ์ (จดหมาย) ถึงสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เกี่ยวกับเรื่องราวกิจวัตรต่างๆ อยู่เสมอ “...แม้จนมีหอสมุดสำหรับหาหนังสืออ่านและมีที่ตีกอล์ฟด้วยสโมรสรที่เขาเชิญเปนสมาชิกกิตติมศักดิ์ ไม่ขาดแคลนอันใด ตัดไม่ได้แต่ความคิดถึงญาติและมิตรอย่างเดียวเท่านั้น” หากท่านมีโอกาสได้เข้าไปภายในห้องเกียรติสถิตของวังวรดิศ อาจเคยเห็นมีชุดไม้กอล์ฟอีกชุดหนึ่ง ซึ่งความน่าสนใจของเครื่องกีฬานั้น คือชุดไม้กอล์ฟสำหรับผู้ถนัดมือซ้าย อันเป็นสินค้าคุณภาพดีที่นำเข้าจากต่างประเทศ ______________________ ชุดไม้กอล์ฟ (มือซ้าย) นี้ เป็นเครื่องกีฬานำเข้าจากต่างประเทศ ครั้งแรกที่เข้ามาถึงกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ ๒๔๓๗ เล่นบริเวณท้องสนามหลวง มีชุดไม้กอล์ฟและแท่นวาง ประกอบด้วย หัวไม้หนึ่ง หัวไม้แฟร์เวย์ หัวไม้เหล็ก หัวไม้พัตเตอร์ และหัวไม้เวดจ์ รวมจำนวน ๘ ไม้ พร้อมลูกกอล์ฟ มีรายละเอียดดังนี้ หัวไม้หนึ่งประทับอักษร คำว่า “ARMY&NAVY C.S.L LONDON” เป็นสินค้าของบริษัทสัญชาติอังกฤษคือ The Army & Navy Store Co-Operative Society Limited เน้นส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้ ช่วงปี พ.ศ.๒๔๑๔-๒๔๗๗ ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทผู้ผลิตและเจ้าของกิจการ หัวไม้แฟร์เวย์ประทับอักษร คำว่า “G.FORRESTER” สินค้าของบริษัทสัญชาติสก๊อตแลนด์นามว่า Geoge Forrester & Son Golf Club and Ball Markers ที่มีร้านค้าปลีกในประเทศอังกฤษ มีการจดสิทธิบัตรสินค้าและเปิดสโมสรกอล์ฟระหว่างปี ๒๔๑๔-๒๔๖๙ ก่อนปิดกิจการภายหลังเกษียณอายุ หัวไม้พัตเตอร์ มีลักษณะหัวไม้แบนยาวทำจากโลหะ ก้านทำจากไม้ และกริพเป็นเชือกหนังแบน มีตราประทับอักษร P มาจากคำว่า “PUTTER” และสัญลักษณ์วงกลม พร้อมข้อความ A&NCS (Army & Navy Cooperative Stores) หัวไม้เหล็ก และหัวไม้เวดจ์ มีลักษณะเป็นหัวไม้แบนยาวมุมมน มีกริพทำจากเชือกหนังพันแกนไม้ ตราประทับค่อนข้างเลือนลางจากการใช้งาน . . อ้างอิง แจ้งความราชบัณฑิตยสภา เรื่องมีผู้ให้ของแก่พิพิธภัณฑ์สถานสำหรับพระนคร. (๑๖ สิงหาคม ๒๔๗๔). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๔๘ หน้า ๑๗๖๓. พูนพิศมัย ดิศกุล, มจ. สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น. กรุงเทพฯ : มติชน ๒๕๕๗. สบ ๒.๔๙/๔๙ เรื่องขอพระราชทานด้วยเงินในการแข่งขันตีกอล์ฟ ณ สนามมหาดเล็ก พ.ศ.๒๔๖๘ สบ ๒.๔๐/๖ กำหนดการประชุมกรรมการสโมสรกอล์ฟดุสิตในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ. ๒๔๗๑ ศิลปวัฒนธรรม. ส่องการพักผ่อนแบบชนชั้นสูงสยาม อิทธิพลจากฝรั่ง ดูยุคเริ่มยอมถ่ายรูป สู่ฮิตพักตากอากาศ. เข้าถึงเมื่อ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://www.silpa-mag.com/history/article_29754... ศิลปวัฒนธรรม. จริงหรือไม่? “สนามหลวง” เคยเป็น “สนามกอล์ฟ” ของฝรั่งและไฮโซไทย สมัย ร.5 เข้าถึงเมื่อ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://www.silpa-mag.com/old-photos-tell.../article_1265 หอสมุดวชิรญาณ. สาส์นสมเด็จ พุทธศักราช ๒๔๗๖. เข้าถึงเมื่อ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://shorturl.asia/ab03K Antique Golf Clubs from Scotland. Scottish Golf History เข้าถึงเมื่อ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://www.antiquegolfscotland.com/antiq.../history.php3... Christopher Clarke Antiques. ARMY&NAVY C.S.L เข้าถึงเมื่อ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ เข้าถึงได้จาก https://campaignfurniture.com/artists/army-navy-csl




ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.44 โกมนทิราชประเภทวัสดุ/มีเดีย       สมุดไทยขาวISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  วรรณคดีลักษณะวัสดุ              29; หน้า : ไม่มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    โกมนทิราช                      ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัตินายดิเรก ทัศนพันธ์ ต.ดอนตาล  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 6 ต.ค..2538


ยังคงอยู่ในบรรยากาศงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗ ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันว่า ในบันทึกชาวต่างชาติได้บันทึกถึงลักษณะนิสัยของชาวสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์เอาไว้อย่างไรบ้าง - สำหรับงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จะจัดขึ้นถึงวันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์นี้ สามารถมาร่วมถ่ายภาพ และกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้นะครับ


         โรมาโน วิเวียนี( Romano Viviani)          ศิลปิน : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี (Silpa Bhirasri)          ปีพุทธศักราช: ปี พ.ศ.2473 (1930)          เทคนิค: หล่อปลาสเตอร์ (Plaster)          ขนาด : สูง 27 เซนติเมตร (H.27 cm.)            แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri/360/model/s16ok/   ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri


            กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “พรหม ๕ หน้า” วิทยากร นายจรัญ พูลลาภ นักวิชาการละครและดนตรีชำนาญการพิเศษ สำนักการสังคีต ผู้ดำเนินรายการ นายรัฐศาสตร์ จั่นเจริญ นักวิชาการละครและดนตรีชำนาญการ สำนักการสังคีต พิธีกร นางกมลชนก พรภาสกร นักวิชาการโสตทัศนศึกษา กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร             รายการ “ไขความรู้จากครูกรมศิลป์” มีรูปแบบเนื้อหาของรายการเกี่ยวกับประวัติความเป็นไทย เกร็ดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญ ประเพณี วัฒนธรรม วีถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านการบอกเล่า ถ่ายทอดความรู้ แนวความคิด เนื้อหาวิชาการ จากประสบการณ์ของผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากร กำหนดถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ (facebook live) ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๑.๐๐ น. ตลอดปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ - กันยายน ๒๕๖๗


ชื่อเรื่อง                     วจฺจกุฏิทานานิสํสกถา (ฉลองวิด) สพ.บ.                       470/1 หมวดหมู่                   พุทธศาสนา ภาษา                       บาลี-ไทยอีสาน หัวเรื่อง                     พุทธศาสนา ประเภทวัสดุ/มีเดีย        คัมภีร์ใบลาน ลักษณะวัสดุ                22 หน้า : กว้าง 5.7 ซม. ยาว 58 ซม. บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง  จ.สุพรรณบุรี


            เนื่องด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาการจัดแสดงนิทรรศการถาวรห้องจัดแสดงที่ 2 จึงแจ้งขอปิดบริการเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่​ 19​ มิถุนายน -​ 30​ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ทั้งนี้ สามารถเข้าชมห้องจัดแสดงที่ 1 หริภุญไชย​รากฐานล้านนา​ ห้องจัดแสดงที่​ 3​ ศิลปกรรมเมืองลำพูน​ และห้องจัดแสดง​ศิลาจารึก​ ได้ตามปกติ ขออภัยในความไม่สะดวก​             พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ​ หริภุญไชย​ เปิดให้บริการวันพุธ-วันอาทิตย์​  เวลา​ 09.00 - 16.00 น. ปิดให้บริการวันจันทร์-วันอังคาร​ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทย​ 20​ ​บาท​ ชาวต่างชาติ​ 100​ บาท​ ยกเว้นค่าเช้าชมสำหรับนักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ​ นักบวช​  และสถานศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ สอบถามเพิ่มเติมได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0 5351 1186


black ribbon.